เพิ่งรู้ว่าสมัยนี้มี Youtube ของแต่ละพรรคการเมืองเองด้วย น่าสนใจมากครับ

การแสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับความจริง (เพราะความจริงมาเปิดเผยที่หลัง) จะถือว่าผิดมั้ยเนี่ย

ย่อหน้าที่สองตอนท้ายขาดอะไรไปหรือเปล่าครับ

เดี๋ยวนี้ต้องพิจารณาให้ดี ๆ ก่อนจะเชื่ออะไรในอินเตอร์เน็ต (แต่ก่อนก็ด้วย) ถ้าไม่รู้ความจริงก็อย่างเพิ่งไปแชร์อะไรมั่วซั่วเดี๋ยวจะตกเป็นเครื่องมือของผู้หวังผลทางการเมืองได้ งานเข้าซวยสองต่อ ถ้าไม่มั่นใจว่ารู้จริงหรือเป็นความจริงก็อย่าไปไลค์ไปแชร์เด็ดขาด

ผมว่า รัฐบาลน่าจะมีการประกาศข่าวว่าทำไรไปบ้างวันๆนึงนะครับ
แล้วสรุปทุกศุกร์ เลย
ทุกศุกร์ต้นเดือนก็ได้ ประกาศข่าวไปเลย
สื่อกระแสกลักก็ควรประโคมข่าว
ผมเห็นว่าประชาชนอยากรู้ข่าวจากรัฐมากกว่า
แต่ไม่รู้จะไปหาข่าวที่ไหน ไม่ใช่พอโดนโจมตีก็ออกมาแก้ข่าว
การทำอย่างนี้ มันไม่ตรงจุด

ประเทศไทยน่าจะเสียหายจากน้ำมันรั่วมากกว่าภาพลักษณ์อะไรแบบนี้เลย

จำผิดข่าว ><

ข้อความจะ ...จริง หรือ เท็จ

ต้องดูด "ตรรกะ" ทั้งข้อความ สรุปเองไม่ได้ครับ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวชี้แจงว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตมีแผนที่จะอพยพคนไทย จากกรุงไคโร หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงระดับ 4 แต่ทั้งนี้ ถ้ามีนักเรียนไทยคนไหน ที่ต้องการจะเดินทางกลับมาประเทศไทย จำนวน 1-2 คน คงจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ทางสถานทูตจะให้ความช่วยเหลือเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินให้ และสำหรับนักเรียนไทย ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ไม่สามารถเบิกได้นั้น รัฐบาลได้เตรียมสำรองเงินเพื่อช่วยเหลือในการอพยพไว้แล้ว [u]แต่หากอพยพในขณะนี้จะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง[/u]

http://hilight.kapook.com/view/89896

อย่าจับแพะก็พอ

งานหนักจริงๆนะครับนี้ งานแต่ละงานของท่ายชวยพัฒนาประเทศเราให้ก้าวไกล(หึ)

ในประเด็นแชหรือโพส เรื่องโกหก ทำให้คนอื่นเสียหาย ผมเห็นด้วยนะว่ามีความผิด ส่วนเรื่องตัวกฏหมายครอบจักรวารเกินไปมั้ย และบทลงโทษควรเป็นยังไง ต้องคุยกันอีกยาว ตอนนี้ผมยังไม่เห็นว่ารัฐทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ ไม่งั้นเรื่องตามเวปคงยาวกว่านี้แน่ ตามข่าวผมมองว่าแค่ขู่เฉย ๆ ซึ่งก็สมควรทำ

ในเรื่องการแชร์ ข่าวที่มาจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถระบุต้นตอข่าวได้ ก็ไม่สมควรกดแชร์อยู่แล้วครับ ดังนั้นใครที่จะแชร์ต้องรับผิดชอบในการกระทำที่ได้มีส่วนร่วมในการขยายข่าวอยู่แล้วครับ

ขอนอกเรื่องนิดนึง ตรงข่าว partners มีของแอปเปิ้ลกับเว็บไซต์แมคเยอะไปป่าว กินที่เกือบหมดหน้าเลย อยากดูข่าวอย่างอื่นมั้ง

ถ้าว่าข่าวมันเคยจริงในอดีต
แล้วกลายเป็นเท็จในปัจจุบันหละ

เพราะกลัวผลเสียจากข่าวก่อนหน้า เลยต้องพลิก ทำให้ข่าวนั้นกลับตรงกันข้าม
จะตีความแบบไหน

ถ้าใช้ให้มันดีๆ ผมชอบนะกฎหมายนี้

เพราะ facebook ทุกวันนี้ แชร์กันอย่างเมามันเลยไม่สนใจว่าผิดถูก ที่เห็นแล้วไม่ค่อยชอบเลย

คือเกลียดกันแล้วเอารูปคนที่เกลียดขึ้นเฟซบุค แล้วไปทำสิ่งไม่ดี ก่อดราม่า หรือใส่ร้ายกัน ยกตัวอย่าง
(( เนยรักโลก ซึ่ง เจ้าตัวบอกไม่รู้เรื่องเลย ))

ซึ่งบางเคสสังคมก็ตัดสินความผิดไปเรียบร้อยแล้ว

ตกลงรัฐบาลนี้คือประเทศไทยเหรอครับ ภาพลักษณ์พวกคุณคือประเทศไทยเหรอ แล้วตอนนายกคยิ่งลักษณ์พูด overcom ฮิลลารี คลินตันนี่ เขาจะมองว่าคนไทยภาษาอังกฤษแย่หมดเลยเหรอ จะฟ้องก็ฟ้องไปแต่อย่ามาหลงว่าตัวเองคือประเทศไทย คนไทยเป็นอย่างไรฝรั่งเขาก็ทราบครับ

ผมกลัวจะเป็นแบบถ้าไม่เป็นข่าวก็เลยไม่ทำ เหมือนที่เราเห็นกันบ่อยๆได้ใน pantip

ผมว่าข่าวช่องทางหลักก็บอกชัดเจนนะว่ากำลังดำเนินการช่วยเหลือนำคนไทยในอียิปต์กลับมา ออกตั้งหลายช่อง แถมบน Facebook page ของสมาคมนักเรียนไทยในอียิปต์ก็มีรายชื่อคนไทยที่พร้อมที่จะเดินทางกลับประเทศชุดแรกอยู่ด้วย

ปัญหาผมว่าไม่ใช่เรื่องช่วยหรือไม่ช่วยหรอก ปัญหาอยู่ที่ว่าทำไมต้องรอป่านนี้ค่อยคิดจะช่วย มันน่าจะวางแผนตั้งแต่เขาเริ่มจราจลกันแล้ว พอถึงระดับก็ปฏิบัติการได้เลย ไม่ใช่ว่าพอถึงระดับแล้วค่อยมาวางแผน มาขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าประเทศนั้นประเทศนี้เพื่อไปรับคนไทยกลับประเทศ

ส่วนเรื่องจะฟ้องร้องนี่ดูจะเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กมากเกินไป สิ่งที่คนอื่นแชร์ไม่ใช่ว่าจะไม่จริงเสียทีเดียว ณ เวลาที่เรื่องเหล่านี้ถูกแชร์ทางรัฐบาลก็ยังไม่ได้ช่วยนำคนไทยในอียิปต์กลับมาจริง ๆ เพียงแต่ว่า ณ เวลานี้มีแผนปฏิบัติการแล้ว สิ่งที่เคยแชร์ที่เคยเป็นจริงมาก่อนวันนี้ก็กลับกลายเป็นเท็จ ซึ่งเป็นการเป็นเท็จที่ดีเพราะคนไทยจะได้กลับบ้าน ถือว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลช่วยคนไทย แต่การไปเอาเรื่องเอาราวกับเรื่องเล็ก (ในความคิดส่วนตัวของผม) มันทำให้ดูแย่ในอีกด้าน แทนที่จะคิดว่าจะเอาเรื่องคนนั้นคนนี้ไม่ให้เรื่องแบบนี้ถูกแชร์ออกไป ควรจะปรับทัศนคติใหม่ดูข้อบกพร่องของตัวเองว่าทางรัฐบาลทำการช่วยเหลือช้าเกินไปจนคนทั่วไปเริ่มสร้างกระแสนี้ขึ้นมาได้ ถ้ารัฐบาลทำงานเร็วฉับไวไม่แทงกั๊กว่าค่าตั๋วเดินทางแพง เรื่องการแชร์สิ่งที่เป็นความจริงครึ่งหนึ่งแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

สุดท้ายนี้ขอบอกว่าไม่เห็นด้วยเลยจริง ๆ กับการบังคับใช้กฎหมายนี้กับผู้กระทำผิด มันช่างดูเด็กน้อยเสียเหลือเกิน

อิจ่ามันเอาข่าวนี้ไป ก่อดราม่า - -

แล้ว กรณีที่พรรค โพสต์นโยบายหาเสียง BTS 20 บาทตลอดสาย นี่ถือว่าเป็นการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเปล่าอะครับ?

กฎหมายนี้มันมีไว้ปรามบางพวกที่ชอบแชร์ไม่ลืมหูลืมตาครับ
อย่าลืมว่าสังคมไทยปัจจุบัน จริงเท็จไม่สนใจ ถ้าเป็นสิ่งที่ตรงกับรสนิยมทางการเมืองของตนเองแชร์แหลก
ยกตัวอย่างกรณี ข้าวเน่าของพิธีกรคนค้นฅน นั่นแหละ
เคยพูดในข่าวก่อนว่ากฎหมายนี้ ลอก มาจาก กฎหมายความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในต่างประเทศ
จะว่าเผด็จการก็ไม่ใช่ครับ มันลอกมาจากกฎหมายของต่างประเทศแทบทั้งดุ้นเลยครับ และมักจะมีคนไทยที่ไม่รู้จักที่มาของกฎหมายมาโวยวาย แต่ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าประเทศอื่นเขาก็จับแต่ไม่ออกข่าวครับ ไม่ใช่แค่เมืองไทย
พรบ.คอมของไทย มันมีปัญหาแค่ตัวนิยามความหมายในบางเรื่องครับส่วนเนื้อหาแทบจะไม่ต่างจากกฎหมายในประเทศอื่นเลย

แต่อยากให้ผู้อ่านแยกแยะระหว่างการแสดงความคิดเห็น กับ การแชร์ข่าวลือครับ มันแตกต่างกันมากๆ

ปัญหาคือ

1. รัฐบาลไม่ช่วยคนไทย? หรือช่วยช้าไป

2. มีการโพสต์โจมตีรัฐบาลว่าไม่ช่วยคนไป (หรือเปล่า?)

สำหรับผมก็ติดตามข่าวอยู่ แต่ก็คิดว่าทำไมช่วยช้า พอมาพบโพสต์นี้ถึงได้รู้ว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่คิด

แต่.... ถ้าจะบอกว่าใครผิด (อาจจะ) ผมว่ามันอยู่ที่การประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล (กระทรวงการต่างประเทศ) ที่ไม่รวดเร็วพอ และเนื้่อหาไม่ครอบคลุมตามที่คนไทยทั่วไป (ในยุคปัจจุบัน) ควรรู้, ทำงานแบบราชการ และตามธรรมเนียมของกระทรวงการต่างประเทศ

ซึ่งควรจะตั้ง กองอำนวยการ..., คณะทำงาน...., (อะไรก็ได้ แบบที่รับมือม๊อบก็ได้) มาเป็นคนคอยปฏิบัติการ,ชี้แจงและตอบคำถามคนที่อยากรู้ ไม่ใช่ต้องให้เขาไปหาคำตอบเอง

อย่างเช่น.

" วันนี้ (16 สิงหาคม 2556) นายประเสริฐ ยามัน นักเรียนไทยในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โทรศัพท์สายตรงเข้ามาขอความช่วยเหลือยังสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เรื่องการเดินทางกลับประเทศไทย หลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงไคโร"
http://hilight.kapook.com/view/89896

อ่านแล้วอี้งเลย (ถ้าเป็นความจริง) นักเรียนโทรหา ไทยพีบีเอส แทนที่จะโทรหาสถานทูตในอียิปต์ (หรือว่าโทรแล้วไม่ได้ผล)

งั้นต้องลองคิดดูว่าถ้าอยู่ในเหตุการณ์ จะเป็นอย่างไรบ้าง ขอให้ลองดูรูปรอขึ้นเครื่องบินของหนัง War Wold Z
http://postto.me/show.php?id=f0c2dbcde0dfd7fcb4fcc292f0942931

เดินทางไปสนามบินไม่ได้, ไม่มีเครื่องบินให้กลับ (เพราะเขาไม่เอาเครื่องมาลงจอด) ต่อให้มีเงินเป็น "หมื่นล้าน" ก็ไม่มีความหมาย

จะกลับอย่างไร ถ้าไม่เอาเครื่องบินจากประเทศไทยไปรับ

และเพิ่งจะทราบวันนี้ว่า การที่จะให้เครื่องบิน บินไปรับคนไทยได้นั้น จะต้อง clear น่านฟ้าประเทศต่างๆ เพื่อให้สามารถบินผ่านไปได้ และต้องไปใช้สนามบินประเทศอื่น (ก็คงต้องขอใช้อีก) กระทรวงการต่างประเทศ และ ทอ. เป็นคนดำเนินการ และยังต้องเช่าเครื่องบินของอียิปต์อีก เพื่อขนไปประเทศเพื่อนบ้าน

ลองคิดดู ว่าต้องใช้เวลากี่วันในการทำแบบนี้ทั้งหมด (กว่าจะร่างหนังสือ, กว่าจะอนุมัติ, กว่าจะส่งเรื่อง, กว่าจะรอที่ต่างๆ อนุมัติ, กว่าจะรอตอบกลับ, กว่าจะ.............................................................................)

มันไม่ใช่ในประเทศไทย ที่นายกฯ ออกคำสั่ง ก็บินไปรับได้

?? แต่ทำไมไม่ชี้แจงให้ทราบหละครับ ว่าทำอะไรอยู่ ?? ต้องรอให้มีคนโพสต์โจมตีก่อน แล้วค่อยไปฟ้องเขา เพื่อมาชี้แจงสิ่งทีทำไปหรือ ??

ส่วนพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เรื่องนี้ ผมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโพสต์ จะแชร์ ในสิ่งที่ตนเชื่อ (ไม่ว่ามันจะถูกหรือหรือผิด ก็ตาม)

แต่ผมก็ไม่เห็นด้วย กับการโพสต์ การแชร์ โดยไม่หาความรู้ก่อน (ไม่คิด)

ส่วนเรื่องนาฬิกา (มันมาได้ไง) ดูตามโครงสร้างการปกครอง "ประเทศไทย" ก็เป็นเรื่องที่รัฐสภาฯ ต้องชี้แจง (แต่เงียบ)

ผมว่ามันก็มีกลไกของมันอยู่แล้วนะ

เช่น แรกๆ คนอาจจะแชร์ อาจจะเชื่ออะไร โดยไม่ไตร่ตรอง จนมีสักวันที่รู้ว่าตัวเองหลงเชื่อไปเอง ก็จะมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาในระดับนึง

จดหมายลูกโซ่ >> Forward Mail >> โซเชียล แชร์กระหน่ำ

กฎหมายหมิ่นประมาทก็มีอยู่แล้ว แต่ถ้าจะถึงขนาด แชร์ กดไลค์ แล้วมีส่วนผิดไปด้วยเนี่ย อำนาจล้นมือเกินไปครับ มันจะกลายเป็นอาวุธไว้จัดการฝ่ายตรงข้ามซะมากกว่ามั้ง?

สร้างกฎหมายมาเพื่อให้คนไม่กล้าออกความคิดเห็น ไม่กล้าแสดงความเห็น ไม่กล้าเห็นด้วย ไม่กล้าบอกต่อ ผมว่ามันเผด็จการไปนะ

เห็นด้วยกับการเอาผิดพวกโพสต์จงใจทำให้แตกแยกมากกว่านะ

ส่วนจะถูกจริงหรือผิดจริง การบังคับใช้ พรบ.คอม ผมว่ามัยผิดวัตถุประสงค์ตอนเขียนเต็มๆ เลยนะ

มีความเห็นใน facebook ที่น่าสนใจนะครับ

"ลองมองในมุมมองคนที่อยู่อียิปต์ในตอนนี้ ไม่ใช่มุมมองของแดง เหลือง หรือสลิ่ม เค้าอ่านเจอข่าวเต้าว่ารัฐบาลไม่ช่วย เค้าจะรู้สึกยังไง"

ผมเห็นจึงเห็นด้วยว่าควรเอาผิดพวกเต้าข่าวครับ

ผมว่าคนที่ด่ากดแชร์ข่าวลือ มันไม่ตามข่าวจริงๆตะหาก

ขั้นตอนของกต. มีระเบียบชัดเจน ว่ารุนแรงถึงขั้นไหน ถึงจะให้อพยพโดยความช่วยเหลือจากรัฐ

แล้วการอพยพปกติ ก็ไม่ได้อพยพฟรีอยู่แล้ว อาจจะแค่จัดหาให้(เพราะตอนวุ่นวายคงหาเที่ยวบินลำบาก) หรือให้ผ่อนค่าตั๋วทีหลังได้ ไม่งั้นพวกที่อยากเนียนกลับประเทศช่วงนั้นพอดี ก็กลับประเทศฟรีๆสบายสิครับ ไปก็ไปเอง ไม่ได้ไปในนามของรัฐสักหน่อย ไปเทียบกับเอกชนไม่ได้ เพราะบ.เอกชนส่งคุณไปทำงาน เกิดปัญหาก็ต้องรับผิดชอบรีบนำตัวกลับ ส่วนรัฐเขาส่งคุณไปเที่ยวไปทำงานหรือ? (ข้าราชการของรัฐ เขาก็มีแนวปฎิบัติอีกแบบอยู่แล้ว)

ยกเว้นรุนแรงขั้นสูงสุด เกิดสงคราม หรือเกิดภัยที่ผลกระทบต่อคนไทยโดยตรง อันนี้ถึงจะมีความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากรัฐอย่างเร่งด่วน ในอดีตมีแค่เคสเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาเท่านั้น ถ้าจำไม่ผิดนะ

คนไม่รู้ไม่ติดตามข่าวก็พูดมั่วกันไป ไปหาว่าเขาแก้ตัวหลังคนด่าไปซะอีก ยุคข่าวสารเข้าถึงง่ายขึ้น แต่อคติทางการเมืองทำให้ความเชื่อถือของข่าวต่ำลงเรื่อยๆ เพราะไม่คิดจะตรวจสอบอะไรเลย

น่าสงสารประเทศไทยจริงๆ เกือบทุกเรื่องบนโลกนี้โยงเข้าการเมืองไทยได้หมด ประเทศอื่นเขาพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว คนอียิปต์เขาทะเลาะกันคนไทยกลุ่มหนึ่งก็โยงมาเป็นประเด็นเพื่อนโจมตีรัฐบาลจนได้

พยายามหาช่องทางกำจัดความคิดเห็นฝ่ายตรงข้ามให้หมด

เรื่องมันมีอยู่ว่า เด็กชาย ล่อเด็กชายบีว่า "พ่อตายๆๆๆๆ 555+" เด็กชายบีชกเด็กชายเอร้องไห้ ครูทำโทษเด็กชายบี ตั้งแต่นั้นมาสังคมไทยส่วนหนึ่งจึงไม่เคยถูกสอนว่าให้รับผิดชอบคำพูดของตนเอง

เห็น dislike ตกใจ!

ไม่มีใครสงสัยบ้างเหรอครับ ว่ารัฐบาลจะจับต้นตอได้อย่างไรถ้าข่าวต้นตอมาจาก Facebook ?

ถ้าคนโพสข่าวไม่ใช้ชื่อจริง นามสกุลจริงโชว์กันดื้อๆ

ผมสงสัยว่าเขาจะหาบุคคลจริงๆเหล่านั้นกันโดยวิธีไหน ?