Bluesky บริการโซเชียลแบบกระจายศูนย์ที่ผลักดันโดย Jack Dorsey เปิดตัวโลโก้ใหม่อย่างเป็นทางการ จากของเดิมเป็นภาพท้องฟ้าธรรมดา กลายมาเป็นรูปผีเสื้อสีฟ้า
Bluesky บอกว่าเหตุผลที่เลือกรูปผีเสื้อ เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลง (change and transformation) แต่จุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากผู้ใช้ Bluesky เองเริ่มใช้อีโมจิรูปผีเสื้อ 🦋 เพื่อบอกว่านี่คือชื่อ username ในระบบ Bluesky ทำให้ทีมงานชอบและนำมาใช้งานต่อ
Linda Yaccarino ซีอีโอ X ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เผยว่าบริษัทเตรียมตั้งทีมพัฒนาแอปในญี่ปุ่น โดยจะเริ่มรับสมัครวิศวกรในปี 2024 ซึ่งจะเป็นการตั้งทีมพัฒนาแอปนอกสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก
แนวทางของทีมพัฒนาที่ญี่ปุ่น คือการพัฒนาฟังก์ชันและฟีเจอร์ ตลอดจนส่วนระบบโฆษณาเพื่อเจาะตลาดให้เข้ากับประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดย X หวังว่าจะช่วยเพิ่มการลงโฆษณาจากธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในญี่ปุ่นได้มากขึ้น ทั้งนี้ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับ 2 ของ X รองจากอเมริกา จากจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด 10% อยู่ในญี่ปุ่น ขณะที่จำนวนโพสต์และ Engagement นั้น ตัวเลขของญี่ปุ่นสูงกว่าประเทศอื่น ๆ
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram และ Threads อธิบายรายละเอียดแผนการรองรับการเชื่อมต่อกับ Fediverse ในอนาคต เนื่องจาก Threads รองรับโปรโตคอลของ ActivityPub อยู่แล้ว รวมถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่ายก็เป็นสิ่งที่ Threads บอกว่าจะทำตั้งแต่แรก
Mosseri ชี้แจงทีละประเด็นที่ตอนนี้วางแผนไว้ดังนี้
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศผ่านบัญชี Threads ของเขา ว่าตอนนี้ได้เริ่มทดสอบให้โพสต์จาก Threads แสดงผลได้บน Mastodon และบริการอื่นที่ใช้โปรโตคอล ActivityPub แล้ว ซึ่งทำให้ Threads สามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นได้ และทำให้คอนเทนต์เข้าถึงคนได้ในวงกว้างมากขึ้น
Threads มีจุดขายหนึ่งในตอนเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม คือการประกาศรองรับ ActivityPub ซึ่งเป็นมาตรฐานเปิด แต่ตอนนั้นบอกว่าจะรองรับในอนาคตยังไม่ได้กำหนดช่วงเวลา ประกาศนี้จึงน่าจะช่วยให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าทำแน่นอน
Threads เพิ่งขยายความสามารถการค้นหาโพสต์ด้วยคีย์เวิร์ด มีผลกับผู้ใช้งานทั่วโลก และรองรับภาษาไทยแล้ว แต่มีข้อสังเกตว่าหน้าแสดงผลการค้นหา ไม่ได้เรียงลำดับโพสต์ตามเวลา หรือเลือกให้แสดงแบบตามลำดับเวลาได้แบบ X
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ยืนยันเรื่องนี้ โดยตอบความเห็นจากผู้ใช้งานว่า Threads ไม่รองรับการแสดงผลตามเวลา เพราะจะทำให้เกิดช่องโหว่ของความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ Mosseri ไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติม
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram และ Threads ประกาศว่าฟีเจอร์ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด ตอนนี้รองรับกับผู้ใช้งานทั่วโลกแล้วที่สามารถใช้งาน Threads ได้ และรองรับการค้นหาในทุกภาษา ซึ่งภาษาไทยก็สามารถใช้งานได้
การค้นหาโพสต์ด้วยคีย์เวิร์ด เป็นอีกเครื่องมือที่จะทำให้ Threads มีความสามารถอีกหนึ่งอย่างใกล้เคียงกับ X มากขึ้น อย่างไรก็ตาม Threads ยังไม่มีระบบหัวข้อเทรนด์ยอดนิยม แต่ได้ทดสอบระบบการแท็กหัวข้อของโพสต์ที่คล้ายกับแฮชแท็ก ซึ่งยังจำกัดประเทศที่ใช้งานอยู่
ที่มา: Adam Mosseri
จากประเด็นที่แบรนด์โฆษณารายใหญ่ต่างหยุดการลงโฆษณาใน X ชั่วคราว เนื่องจากพบว่าโฆษณาถูกแสดงถัดจากคอนเทนต์ที่สนับสนุนนาซี The New York Times อ้างเอกสารภายใน X ล่าสุด ซึ่งพูดถึงผลกระทบจากปัญหานี้ และดูเหมือนจะหนักกว่าที่เห็น
ในเอกสารซึ่งมาจากฝ่ายขายของ X ระบุรายชื่อแบรนด์ที่หยุดการลงโฆษณา ซึ่งมีมากกว่า 200 แบรนด์ มีแบรนด์ดังเพิ่มเติมจากรายงานก่อนหน้านี้รวมทั้ง Airbnb, Amazon, Coca-Cola และ Microsoft ตัวเลขเบื้องต้นเงินโฆษณาหายไปแล้วประมาณ 75 ล้านดอลลาร์ และอาจมากกว่านั้นเนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นเทศกาลลดราคาในสหรัฐอเมริกา ที่แบรนด์น่าจะซื้อโฆษณากันมากขึ้น
Facebook Messenger ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้ใหม่นักสำหรับแพลตฟอร์มในเครือ Meta นั่นคือ Notes ฟีเจอร์แสดงข้อความด้านบนสุดของ Inbox ประกอบกับรูปโปรไฟล์ในแถวด้านบน เหมือนเป็นสเตตัสสั้น ๆ
ที่บอกไม่ใหม่เพราะฟีเจอร์นี้มีอยู่แล้วทั้งใน Instagram และ WhatsApp ใครที่คุ้นเคยกับการใช้งาน ตอนนี้ก็สามารถมาเพิ่มสเตตัสแบบเดียวกันที่ Messenger ได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้มีข้อจำกัดอยู่บ้าง โดยโพสต์ได้เฉพาะข้อความไม่เกิน 60 ตัวอักษร แต่ยังใส่เพลง GIF หรือคลิปสั้นไม่ได้ รวมทั้งไม่รองรับ Business Pages
ช่วงที่ผ่านมา Threads แพลตฟอร์มโซเชียลเน้นตัวหนังสือของ Meta ได้พยายามหาวิธีเพิ่มผู้ใช้งาน ด้วยการแสดงข้อความของโพสต์ที่น่าสนใจใน Threads บนหน้าฟีดของ Facebook และ Instagram อย่างไรก็ตามแนวทางดังกล่าวทำให้ผู้ใช้งานหลายคนไม่ชอบ ซึ่ง Meta ก็บอกว่ารับฟังปัญหานี้
ล่าสุดเริ่มมีผู้ใช้งาน Threads พบตัวเลือกในการตั้งค่า สามารถปิดการนำโพสต์ไปแสดงบนโซเชียลอื่นแล้ว ซึ่งตัวเลือกมี Facebook และ Instagram สามารถเลือกเปิด-ปิดบางตัวได้
เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่แพลตฟอร์มโซเชียลจะตั้งกองทุน Creator Fund เพื่อจ่ายเงินดึงดูดให้ครีเอเตอร์มาสร้างสรรค์เนื้อหาบนแพลตฟอร์ม ดึงดูดผู้ใช้ทั่วไปให้มาติดตามครีเอเตอร์อีกที
อย่างไรก็ตาม กองทุนย่อมมีวันเงินหมด ล่าสุด TikTok ประกาศปิดกองทุน Creator Fund ขนาดเงินที่สัญญาไว้ 1 พันล้านดอลลาร์ ที่เริ่มในปี 2020 แล้ว มีผลวันที่ 16 ธันวาคม 2023
ประกาศนี้อาจไม่กระทบต่อครีเอเตอร์ TikTok ในไทย เพราะกองทุนเวอร์ชันดั้งเดิมจ่ายเงินให้เฉพาะครีเอเตอร์ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศสเท่านั้น
ข้อมูลนี้ Forbes อ้างจากอีเมลภายใน X ที่ได้รับ เกี่ยวกับการตั้งทีมภายในชื่อ @Handle เพื่อดูแลการสร้างมาร์เกตเพลส โดยสามารถซื้อชื่อบัญชีเก่าที่ไม่มีการใช้งานแล้วได้ เบื้องต้น X หรือ Twitter เดิม ได้อีเมลสอบถามกับผู้ซื้อที่น่าจะสนใจ บางชื่อบัญชีก็มีราคาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.78 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ Elon Musk เจ้าของ X เคยพูดถึงไอเดียการจัดการบัญชีเก่าที่ไม่มีการใช้งานแล้ว ว่าอาจลบเนื้อหาทั้งหมดแล้วนำชื่อบัญชีนี้มารีไซเคิล ให้ผู้สนใจนำไปใช้งานต่อ ซึ่งตอนนี้ X ก็ได้อัพเดตเงื่อนไขการใช้งานแพลตฟอร์ม โดยบอกว่าแพลตฟอร์มยังไม่สามารถเปิดให้สมัครใช้ชื่อบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหวได้ในตอนนี้
Elon Musk เจ้าของ X มองไปที่คู่แข่งอย่าง Meta โดยมองว่าตัว Mark Zuckerberg ไม่ได้โพสต์ใน Threads ซึ่งเป็นคู่แข่งทางตรงของ X มากพอ
Elon Musk ให้สัมภาษณ์รายการพอดแคสต์ The Joe Rogan Experience โดยกล่าวถึง Threads ของ Meta ว่าเป็นเหมือนเมืองผีสิง (Ghost Town) ที่เงียบจนน่าขนลุก และขนาดตัวเจ้าของอย่าง Mark Zuckerberg ก็ยังไม่ยอมโพสต์ในนั้น พร้อมกล่าวเสริมว่า Mark ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และในระหว่างการสนทนา Elon ยังกล่าวเชิงล้อเลียน Instagram ด้วยว่าทำไมคนเราต้องถ่ายรูปเซลฟี่เพื่อรับไลค์ด้วย
จากการเปรียบเทียบพบว่า Mark Zuckerberg ใช้ Threads โดยโพสต์เฉลี่ย 1 ครั้งต่อ 1 ถึง 2 สัปดาห์ ในขณะที่ Elon Musk โพสต์ใน X หลายครั้งต่อวัน
แพลตฟอร์มโชเชียลมีเดียชื่อดังในจีน เช่น WeChat, Weibo, Douyin, Bilbili ตลอดจนเว็บค้นหา Baidu และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช Xiaohongshu พากันปรับนโยบายการใช้งานพร้อมกัน ว่าจะบังคับให้บัญชีที่มีผู้ติดตามเกิน 500,000 บัญชีต้องแสดงชื่อจริงไม่เช่นนั้นจะถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ
นโยบายนี้กระทบคนดังในโลกออนไลน์นับพันคน ก่อให้เกิดความกังวลว่าคนดังเหล่านี้จะถูกติดตามตัว ทางด้าน Bytedance นั้นระบุว่าจะจำกัดเฉพาะผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนแล้ว จึงจะมองเห็นชื่อจริงของบัญชีเหล่านี้ ขณะที่ Weibo ก็สัญญาว่าจะไม่ขยายนโยบายไปบัญชีที่เล็กกว่านี้แล้ว
มาตรการบังคับของแพลตฟอร์มต่างกันไป บางแพลตฟอร์มระบุว่าหากไม่ยอมลงชื่อจริงจะเริ่มบีบการมองเห็น หรือบางแพลตฟอร์มก็บีบรายได้
Threads แพลตฟอร์มโซเชียลของ Meta ที่หวังแข่งกับ X หรือ Twitter เปิดตัวให้ใช้งานมาเกือบ 4 เดือนแล้ว แม้หลายคนจะลืมไปแล้วว่ามีแอปนี้ แต่ Meta ก็ยังหาวิธีดึงให้คนมาใช้งานตลอด ล่าสุด Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ซึ่งรับผิดชอบโครงการ Threads นี้ด้วย โพสต์ Q&A ให้ถามอะไรก็ได้ (AMA) และเขาตอบหลายประเด็นเกี่ยวกับ Threads ไว้ดังนี้
คำถามแรกคือเขามองความสำเร็จของ Threads เป็นแบบไหนใน 1 ปี? Mosseri บอกว่าภาพในระยะยาวเขามองเป็นพื้นที่แบบทางการที่ใช้สนทนาเรื่องต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ สะท้อนมุมมองวัฒนธรรมได้ตามขนาดของแพลตฟอร์ม เขายอมรับว่าวันนี้ Threads ยังไม่ใช่พื้นที่สนทนาออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด แต่ทีมเห็นโอกาสที่จะแซง Twitter หรือ X ได้ ด้วยการปรับปรุงเพิ่มฟีเจอร์ในทุกสัปดาห์
ในช่วงที่ผ่านมาแพลตฟอร์มของ Meta ทั้ง Instagram และ Facebook ต่างใช้วิธีแสดงโพสต์จาก Threads แพลตฟอร์มโซเชียลตัวใหม่ที่หวังแข่งขันกับ X หรือ Twitter เดิม โดยแทรกเข้ามาในฟีด ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการดึงคนเข้าไปใช้งาน
ทุกวิธีการในการดึงผู้ใช้งานย่อมมีคนที่ไม่ชอบใจ แม้วิธีการนี้ไม่ใช้ของใหม่ เช่น Reels ใน Instagram ก็เคยแสดงผลบน Facebook เช่นกัน ซึ่งล่าสุดบัญชีทางการของ Threads ก็โพสต์ว่าวิธีการดังกล่าวเพื่อทำให้คนเห็นคอนเทนต์ล่าสุดใน Threads ได้โดยตรงผ่าน Facebook และ Instagram อย่างไรก็ตามบริษัทก็รับฟังฟีดแบ็กจากทุกคนในเรื่องนี้
มีรายงานว่าผู้ใช้งาน Threads บางคนเริ่มพบโพสต์ของ Threads ปรากฏในฟีดของ Facebook โดยมาเป็นแถบแบบปัดแนวนอน (carousel) ขึ้นข้อความว่า For You on Threads เพื่อดึงดูดให้เข้าไปใช้งาน Threads ที่ดูเหมือนหลายคนจะลืมไปแล้วว่าเคยมีโซเชียลนี้หวังแข่งกับ X
ก่อนหน้านี้ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Threads เคยทดสอบฟีเจอร์แถบแนะนำโพสต์ใน Instagram ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับ Facebook มาก่อนแล้ว แต่ดูเหมือนการตอบรับไม่ดีนักจึงเริ่มลดการแสดงผลส่วนนี้ไป
ก็คงต้องดูกันต่อไปว่าแผนนี้จะเพิ่มจำนวนการใช้งานในแพลตฟอร์มได้บ้างหรือไม่
Discord แจ้งว่า Gas แอปโซเชียลที่บริษัทซื้อกิจการมาเมื่อต้นปี โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่า จะปิดให้บริการในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งทีมงานของ Gas จะมาพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ สำหรับการสนทนากับเพื่อนใน Discord ต่อไป
Gas เป็นแอปโซเชียลสำหรับทำโพลล์สอบถามความคิดเห็นเชิงบวก ซึ่งเน้นจับตลาดนักเรียนไว้ให้ถามกันในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้น ทำตลาดเฉพาะในอเมริกาและแคนาดา เป็นที่นิยมสูงเมื่อช่วงปลายปี 2022 ด้วยจำนวนดาวน์โหลด 7 ล้านครั้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปความนิยมของแอปก็ลดลงมาก
Similarweb รายงานสถิติคนเข้าเว็บไซต์ Twitter.com ในโอกาสครบ 1 ปีที่ Elon Musk ซื้อกิจการ พบว่าทราฟฟิกของเดือนกันยายน 2023 ลดลง 14% จากเดือนกันยายน 2022
ถ้าประเมินแยกเป็นรายประเทศ ทราฟฟิกจากสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 1/4 ของทราฟฟิกทั้งหมด ลดลง 19% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนทราฟฟิกในประเทศตะวันตกอื่นๆ ก็ไปในทางเดียวกัน เช่น สหราชอาณาจักร (-11.6%) ฝรั่งเศส (-13.4%) เยอรมนี (-17.9%) ออสเตรเลีย (-17.5%)
X หรือ Twitter ประกาศเริ่มทดสอบโปรแกรมใหม่ชื่อว่า Not A Bot ซึ่งทำให้เข้าถึงสิทธิการใช้งานบนแพลตฟอร์มระดับเขียน (Write-Level) ได้แก่ โพสต์เนื้อหา (ทวีต), รีพลาย, รีโพสต์ (รีทวีต), โควทข้อความ, บุ๊คมาร์ก โดยผู้ใช้งานต้องจ่ายเงินแบบ subscription 1 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้เข้าถึงสิทธิดังกล่าว
X บอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับ บัญชีสมัครใช้งานใหม่ที่ไม่ยืนยันตัวตน (ไม่ได้สมัคร X Premium หรือ Twitter Blue ชื่อเดิม) เฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ ไม่มีผลกับบัญชีปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ก่อนหน้า บัญชีสมัครใหม่ยังสามารถอ่านโพสต์ กดติดตาม หรือดูภาพ-วิดีโอได้ และ X ย้ำว่าโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่มีสถานะทดสอบเบต้า ซึ่งหมายความว่า X จะดูผลลัพธ์เพื่อพิจารณาว่าจะทำหรือไม่ทำต่อไป
WordPress.com เปิดใช้งานฟีเจอร์ ActivityPub ตามปลั๊กอินที่เปิดตัวเวอร์ชัน 1.0 ไปก่อนหน้านี้ ทำให้เจ้าของเว็บไซต์ที่โฮสต์บน WordPress.com จำนวน 13.3 ล้านราย สามารถใช้โดเมนเว็บไซต์ตัวเองเป็นโปรไฟล์โซเชียลในระบบ fediverse (เช่น Mastodon) ได้ทันที โดยไม่ต้องตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง
วิธีการใช้งานต้องไปเปิดใน Settings > Discussion > Fediverse ก่อน ซึ่งเราจะได้บัญชีชื่อ name.wordpress.com@name.wordpress.com มาใช้งาน หากเรามีโดเมนเนมของตัวเอง (custom domain) ก็สามารถนำมาเป็นโพรไฟล์ที่สั้นและจดจำง่ายขึ้นได้
Meta เปิดตัวบริการขายเครื่องหมายติ๊กถูก Meta Verified for Businesses สำหรับองค์กรภาคธุรกิจบน Facebook และ Instagram ในราคา 21.99 ดอลลาร์ต่อโซเชียลต่อเดือน หากต้องการทั้ง Facebook และ Instagram มีราคาเหมา 34.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
Meta Verified for Businesses เป็นส่วนต่อขยายจาก Meta Verified สำหรับบุคคลทั่วไป ที่ราคา 11.99 ดอลลาร์ จ่ายเงินแล้วได้ยืนยันตัวตนว่าเป็นธุรกิจนั้นจริงๆ ไม่ถูกสวมรอย, มีบริการเฝ้าระวังการสวมรอยจากบัญชีชื่อแบบเดียวกัน, สามารถติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตที่เป็นมนุษย์ได้โดยตรง, แสดงอยู่ในพื้นที่เด่นชัดบนผลการค้นหา และมีแนะนำให้ติดตามบน feed ด้วย
WhatsApp ประกาศขยายคุณสมบัติ WhatsApp Channel ไปยังผู้ใช้งานทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย หลังจากทดสอบก่อนหน้านี้ในโคลอมเบียและสิงคโปร์
WhatsApp Channel เป็นฟีเจอร์สำหรับสื่อสารแบบทางเดียว (1-Way) คล้ายกับ Broadcast ของ Instagram ให้ผู้ดูแลสามารถส่งคอนเทนต์ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ สติกเกอร์ โพลล์ ไปยังผู้ติดตามของช่อง โดยส่วนการค้นหาช่องอยู่ในแถบ Updates เนื้อหานี้จึงแยกจากแชทกับผู้ติดต่อทั่วไป
Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้แชร์โพสต์ในฟีดเฉพาะกลุ่ม Close Friend โดยสามารถกดเลือก Audience ให้เป็น Close Friends ตอนกำลังจะโพสต์รูปผ่านฟีด แต่ฟีเจอร์นี้เปิดให้ทดสอบใช้ในบางประเทศและบางคนเท่านั้น
ทางบริษัทแพลตฟอร์มบอกว่า หากฟีเจอร์แชร์โพสต์ฟีดกับเพื่อนตอบโจทย์ผู้ใช้ มันจะช่วยลดปัญหาของการสร้างบัญชี Finsta (ย่อมาจาก Fake Instagram) หรือบัญชีแอคหลุม
Lily Cohen ผู้ดูแลระบบของ Firefish Social เว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ รายงานถึงเหตุการณ์ข้อมูลหาย ว่าเป็นอุบัติเหตุระหว่างการจัดไฟล์คอนฟิกใหม่ ทำให้ข้อมูลสูญหาย แถมพบว่าระบบสำรองข้อมูลที่คอนฟิกเอาไว้ทำงานผิดพลาดจนข้อมูลไม่ได้ backup ไว้จริง
ปัญหาเริ่มต้นจากการย้ายไฟล์ yaml จัดโครงสร้างใหม่ แต่ปรากฎว่า yaml บางส่วนถูกจัดไปอยู่ในโฟลเดอร์ที่ ArgoCD มองไม่เห็น ส่งผลให้ ArgoCD ลบข้อมูลใน namespace ที่ถูกย้ายไฟล์คอนฟิกออกไปทั้งหมดทันที รวมถึงข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดที่อยู่ใน Persistent Volume Claims (PVC)
Threads แอปโซเชียลของ Meta อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งโดยปกติก็ไม่ควรเป็นประเด็นอะไร แต่พอเป็นกรณีนี้ก็เลยเป็นประเด็นได้ นั่นคือปุ่มแชร์โพสต์ของ Threads ไปยัง X หรือ ชื่อเดิม Twitter ได้แล้ว โดยเป็นการนำลิงก์ Threads พร้อมพรีวิวข้อความ เพื่อให้คนใน X กลับเข้ามาอ่านที่ Threads
ก่อนหน้านี้ Threads ทยอยเพิ่มฟีเจอร์แชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่นเช่น Instagram ซึ่งคาดว่าเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานหลังจากมีรายงานตัวเลขที่ลดลงนิวโลรายสัปดาห์นับจากเปิดตัว