หลังจากที่ได้เปิดให้บริการ Wi-Fi แก่ลูกค้าโดยที่ไม่ต้องใช้ Starbucks card ที่ลงทะเบียนแล้วนั้น (จากข่าวเก่า) ทางร้านในสหราชอาณาจักรได้มีการส่งเสริมการขายแบบใหม่โดยแจกโค้ดสำหรับดาวน์โหลดเพลงหรือหนังสือฟรีในแต่ละสัปดาห์บนแพล

แอปเปิลออก iTunes 10.5 มารอรับการอัพเกรด iOS 5 และ iCloud (ซึ่งจะออกตามมาวันนี้ตามเวลาสหรัฐ)

ฟีเจอร์สำคัญก็ตามหัวข่าวคือรองรับ iCloud นั่นเอง ส่วนฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นคือ Wi-Fi Sync ที่เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 5 ครับ รุ่นบนวินโดวส์ยังแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของโปรแกรมอีกด้วย

ผู้ที่มี iTunes ก็สามารถอัพเดตได้ผ่าน Apple Software Update

ที่มา - Ars Technica

รายงานของ 9to5Mac เปิดเผยว่าภายใน iTunes เวอร์ชั่นเบต้ารุ่นล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมาได้ไม่นานมานี้ ได้มีการพูดถึง iPhone 4S ด้วย โดยรูปภาพไอคอนที่แอปเปิลได้ใช้ในการแสดงผล iPhone 4S ที่ว่านี้เป็นรูปภาพของ iPhone 4 รุ่น CDMA ที่วางขายในสหรัฐตอนนี้

นอกจากว่าแอปเปิลได้เลือกใช้รูปภาพ iPhone 4 เวอร์ชั่น CDMA เป็นเพียงแค่ภาพแทนที่ไปก่อน คาดว่ามีโอกาสสูงมากว่าไอโฟนรุ่นต่อไปจะมาพร้อมกับหน้าตาที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจาก iPhone 4 ทุกวันนี้มากนัก โดยเว็บ 9to5Mac เอง ที่มีแหล่งข่าวของตัวเองที่น่าเชื่อถือได้สูงก็เชื่อว่าไอโฟนรุ่นต่อไปจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมาก

แอปเปิลเริ่มเปิดบริการ iTunes Match หรือการนำเพลงของเราไปไว้บน iCloud (แบบไม่ต้องอัพโหลดคือเช็คจากชื่อไฟล์เพลง) ให้นักพัฒนาทดสอบแล้ว

ผู้ที่จะทดสอบได้ต้องเป็นนักพัฒนาที่ลงทะเบียนไว้กับแอปเปิล โดยแอปเปิลจะให้เราดาวน์โหลด iTunes 10.5 Beta 6.1 ที่เปิดฟีเจอร์ iTunes Match ส่วนฝั่งมือถือจะต้องใช้ iOS 5 Beta ด้วยเช่นกัน

บริการนี้ไม่ฟรี และคิดค่าใช้จ่าย 24.99 ดอลลาร์ต่อปี โดยนักพัฒนาที่ทดสอบรุ่น Beta จะได้ใช้ iTunes Match ฟรีในช่วงทดสอบ และเมื่อออกรุ่นจริงแล้วจะได้อายุสมาชิกนาน 15 เดือน (คือ 1 ปี + ฟรี 3 เดือน)

วันเดียวกับที่ออก Mac OS X 10.7 Lion แอปเปิลก็ปรับปรุงซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆ ให้รองรับฟีเจอร์ของ Lion ด้วย

ตัวแรกคือ iTunes 10.4 ซึ่งมีฟีเจอร์สองอย่างสำคัญ อย่างแรกคือโหมดแสดงผลแบบเต็มหน้าจอของ Lion ส่วนอีกอย่างคือรองรับการทำงานแบบ 64 บิตเต็มขั้น (คนที่ใช้ปลั๊กอินเสริมอาจจะมีปัญหาบ้าง)

ตัวที่สองคือ iWork 9.1 จะรองรับฟีเจอร์ของ Lion หลายอย่าง ทั้งโหมดเต็มหน้าจอ การเซฟไฟล์อัตโนมัติ เซฟเป็นเวอร์ชัน และการ resume ไฟล์ที่เปิดอยู่

แอปเปิลออก iOS 5 Beta 2 (build 9A5248d) ให้นักพัฒนาแล้ว ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่

• Wi-Fi Sync (ที่ถูกหาว่าลอก) ต้องใช้คู่กับ iTunes 10.5 Beta 2 ที่ออกมาพร้อมกันด้วย
• ปรับ notification ในหน้า lockscreen ใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
• ปรับปรุงความเร็วของ iMessage (รุ่นของ Beta 2 ต้องใช้ Beta 2 คุยกันเองเท่านั้น)

ที่มา - MacRumors, BGR

MacRumors เปิดเผยว่า ได้ค้นพบฟีเจอร์ใหม่ของ iTunes ในหน้า My App Updates ของแอปเปิลเอง โดยหน้าดังกล่าวระบุข้อความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัพเดตแอพพลิเคชันที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดมา (แต่ต่อมาข้อความนี้ก็ถูกลบออก) ดังนี้

Or if your device has Automatic Download enabled for apps, your updates will download to your device without having to sync

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาก็มีข่าวลือในทำนองนี้เช่นกันว่า ตั้งแต่ iOS 5 เป็นต้นไปแอปเปิลใช้อัพเดตแบบ OTA

ที่มา: MacRumors

คู่แข่งอย่าง Amazon และกูเกิลเปิดตัวบริการฟังเพลงออนไลน์ไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามสองเจ้านี้ไม่สามารถเจรจากับค่ายเพลงเรื่องการขายเพลงได้ และผู้ใช้ต้องอัพโหลดเพลงของตัวเองขึ้นไปบนกลุ่มเมฆแทน ส่วนแอปเปิลซึ่งมีข่าวว่ากำลังพัฒนาบริการฟังเพลงออนไลน์แบบเดียวกัน (ซึ่งชื่อเล่นที่สื่อฝรั่งเรียกคือ "iCloud" ชื่อจริงอาจไม่ใช่แบบนี้นะครับ) กลับมีข่าวว่าเจรจากับค่ายเพลงได้แล้ว

นิตยสาร BusinessWeek ได้รายงานข้อมูลวงในว่า iCloud จะมีลักษณะดังนี้

ยังไม่ใช่ประกาศอย่างเป็นทางการของแอปเปิล แต่บริษัทที่เก็บสถิติด้านแอพบนมือถือ 3 รายคือ 148apps, Chomp และ Chillingo ก็ร่วมมือกันตรวจสอบและประกาศว่า แอพบน iTunes App Store มีจำนวนเกิน 500,000 แอพแล้ว

แอพยอดนิยมอันดับหนึ่งยังเป็น Angry Birds ที่อยู่อันดับหนึ่งมานาน 275 วัน ส่วนแอพที่ได้อันดับหนึ่งมากเป็นอันดับรองลงมาคือ The Moron Test (38 วัน) Moto Chaser (27 วัน) Flight Control, iShoot และ Skee-Ball (26 วันเท่ากัน)

หมวดแอพยอดนิยมได้แก่เกม (15%) หนังสือ (14%) บันเทิง (11%) และการศึกษา (8%) สัดส่วนของแอพฟรีอยู่ที่ 37% ของแอพทั้งหมด และราคาเฉลี่ยของแอพอยู่ที่ 3.64 ดอลลาร์

หลังจากที่ Amazon เปิดตัวบริการ Cloud Drive และ Cloud Player ไปเมื่อเดือนก่อน ล่าสุดแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับทั้ง Apple และ Google ได้เปิดเผยรายละเอียดกับ Reuters ว่า Apple ได้พัฒนาบริการเก็บเพลงออนไลน์บน cloud ผ่าน iTunes เสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเปิดตัวบริการนี้ก่อน Google โดยบริการที่ว่านี้จะทำให้ลูกค้า iTunes สามารถเก็บเพลงไว้ในบน server ของ Apple ได้ ซึ่งเพลงนั้นๆ จะสามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและใช้งาน iTunes ได้

กูเกิลเข้าซื้อบริษัท PushLife ที่สร้างซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ, เล่น, และแชร์เพลงข้ามระบบ โดยที่ผ่านมาสามารถทำให้ Android และ Blackberry สามารถเข้าถึงข้อมูลใน iTunes และ Windows Media Player ได้

ข่าวลือเกี่ยวกับการเปิดร้านเพลงสำหรับอุปกรณ์ Android นั้นมีมาตลอด แต่การเข้าซื้อ PushLife ก็อาจจะแสดงให้เห็นว่ากูเกิลเตรียมจะบุกตลาดเพลงอย่างจริงจัง และกำลังเตรียมใช้วิธีการ "ดึง" ฐานข้อมูลเพลงเดิมของผู้ใช้ที่ใช้ระบบอื่นให้สามารถย้ายข้อมูลมายัง Android ได้

ที่มา - TechCrunch

ช่วงนี้ดูจะเป็นมรสุมทั้งเรื่องสุขภาพและเรื่องธุรกิจสำหรับจ๊อบส์จริงๆ ล่าสุดศาลกลางของสหรัฐเพิ่งสั่งให้จ๊อบส์ต้องตอบคำถามกรณี iTunes ผูกขาดตลาดเพลงออนไลน์ ซึ่งคดีนี้ได้ถูกกลุ่มทนายเพื่อผู้บริโภคฟ้องไว้ตั้งแต่ปี 2005 และล่าสุด ศาลได้ประกาศให้ทางกลุ่มชนะคดีความ โดยได้สิทธิ์ตั้งคำถามได้โดยมีความยาวของการสนทนาไม่เกิน 2 ชม. ซึ่งจะต้องเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ Apple ได้ทำการแก้ไขซอฟท์แวร์เพื่อไม่ให้เพลงที่สร้างโดยใช้ซอฟท์แวร์จาก RealNetworks สามารถฟังได้บน iPod

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อครั้งที่ Safari 5 ออกและมีฟีเจอร์ช่วยจัดหน้าข้อความชื่อ Safari Reader โค้ดส่วนนี้เอามาจากโปรแกรม Readability ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส

ภายหลัง Readability ได้ปรับธุรกิจของตัวเอง โดยสร้างแอพบน iPad/iPhone แบบเก็บค่าสมาชิก และอาศัยจุดขายว่าผู้ใช้แอพตัวนี้ "ชอบอ่าน" เนื้อความที่เป็นข้อความ จูงใจให้สำนักพิมพ์และเจ้าของเนื้อหาส่งเนื้อหาเข้ามาเผยแพร่ โดยคิดค่าหัวคิว 30% จากค่าสมาชิก

ข่าวลือจากเว็บที่ไม่สามารถยืนยันความน่าเชื่อถือได้อย่าง Three Guys and a Podcast อ้างว่าแอปเปิลพยายามที่จะรวม iTunes เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Safari ภายในปีนี้ โดย Safari จะกลายเป็นเบราว์เซอร์ที่สามารถเปิดได้ทั้งเว็บ และเป็นโปรแกรมเล่นไฟล์มีเดียด้วย

โดยจากรายงานดังกล่าว สาเหตุที่แอปเปิลต้องการรวมสองโปรแกรมเข้าด้วยกันก็เพื่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ Safari โดยทุกวันนี้แอปเปิลยังมีส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ไม่ถึง 5% โดยการผูก iTunes เข้ากับ Safari แอปเปิลหวังว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ของ Safari ได้

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เว็บ MacRumors เองยังไม่เชื่อว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงแต่อย่างใด โดยทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่ามาจากการคาดเดาทั้งสิ้น

ข่าวลือจากเว็บที่ไม่สามารถยืนยันความน่าเชื่อถือได้อย่าง Three Guys and a Podcast อ้างว่าแอปเปิลพยายามที่จะรวม iTunes เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Safari ภายในปีนี้ โดย Safari จะกลายเป็นเบราว์เซอร์ที่สามารถเปิดได้ทั้งเว็บ และเป็นโปรแกรมเล่นไฟล์มีเดียด้วย

โดยจากรายงานดังกล่าว สาเหตุที่แอปเปิลต้องการรวมสองโปรแกรมเข้าด้วยกันก็เพื่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ Safari โดยทุกวันนี้แอปเปิลยังมีส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ไม่ถึง 5% โดยการผูก iTunes เข้ากับ Safari แอปเปิลหวังว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ของ Safari ได้

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เว็บ MacRumors เองยังไม่เชื่อว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงแต่อย่างใด โดยทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่ามาจากการคาดเดาทั้งสิ้น

สำนักข่าว BBC รายงานว่าบนเว็บไซต์ประมูล TaoBao ของจีน มีคนประกาศขายข้อมูลผู้ใช้ iTunes จำนวน 50,000 บัญชี

ข้อมูลเหล่านี้จะผูกกับบัตรเครดิตของผู้ใช้ ซึ่งผู้ขายโฆษณาว่า คนที่ซื้อข้อมูลสามารถใช้บัญชีเหล่านี้เข้าไปซื้อของใน iTunes Store ได้ไม่จำกัด (เพราะเป็นบัญชีที่ถูกแฮ็กมา) เป็นเวลาประมาณ 12 ชั่วโมงก่อนที่บัญชีจะถูกปิดเพราะแอปเปิลจับได้ ราคาของข้อมูลถูกถึงระดับบัญชีละ 1 หยวนเท่านั้น

ตอนนี้ยังไม่มีคำยืนยันว่าเป็นบัญชีชุดเดียวกับที่ iTunes Store เคยโดนแฮกเมื่อปีก่อนหรือไม่ ด้านแอปเปิลยังไม่แถลงข่าวใดๆ กับเรื่องนี้

ที่มา - BBC

เดิมทีเพลงตัวอย่างที่ให้ลองฟังก่อนซื้อบน iTunes Store มีความยาว 30 วินาที แต่แอปเปิลเพิ่งเปลี่ยนนโยบายใหม่ ให้เพลงตัวอย่างยาวขึ้นเป็น 90 วินาที

การเปลี่ยนแปลงนี้ยังมีเฉพาะ iTunes Store ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ส่วน iTunes Store ประเทศอื่นๆ ยังเป็น 30 วินาที แอปเปิลยังไม่ประกาศว่าประเทศอื่นๆ จะเปลี่ยนในอนาคตหรือไม่ เพราะเรื่องพวกนี้ต้องตกลงกับค่ายเพลงในแต่ละประเทศด้วย

ตอนนี้ยังมีบางเพลงเท่านั้นที่ให้ฟังแบบ 90 วินาที และเพลงที่จะทำได้ต้องยาวเกิน 2 นาที 30 วินาทีเท่านั้น ถ้าสั้นกว่านี้จะยังต้องพรีวิวแบบ 30 วินาทีเช่นเดิม

ที่มา - AppleInsider

แม้ไมเคิล แจ็คสันจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เขายังมีเพลงที่แต่งเก็บไว้และไม่ได้เผยแพร่สู่สาธารณะอยู่จำนวนหนึ่ง ทางค่ายเพลงจึงรวบรวมมาออกเป็นอัลบั้มใหม่ชื่อ MICHAEL วางแผงวันที่ 14 ธันวาคมนี้

เพลงหนึ่งในอัลบั้มชื่อ Much Too Soon เป็นเพลงที่ไมเคิลแต่งไว้ตั้งแต่สมัยอัลบั้ม Thriller แต่ยังหาโอกาสมารวมลงในอัลบั้มใดอัลบั้มหนึ่งของเขาไม่ได้สักที ตอนนี้ได้เปิดให้ฟังแบบสตรีมแล้วบน iTunes Ping เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ครับ ใครมี iTunes ก็เข้าไปฟังกันตามสะดวก

ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการโปรโมททั้งอัลบั้ม MICHAEL และบริการ iTunes Ping ไปพร้อมๆ กัน

ข่าวเก่าที่ The Beatles เตรียมขายเพลงใน iTunes Store ซึ่งผลจากการวางขายผ่าน iTunes ได้ผลการตอบรับที่ดีเกินคาดครับ เพราะเมื่ออัลบัมของ The Beatles ถูกวางขายได้เพียง 1 สัปดาห์ก็มียอดซื้อ (ผ่านการดาวน์โหลด) มากกว่า 2 ล้านครั้งแล้ว โดยอัลบัมที่ขายดีที่สุดคืออัลบัม "Abbey Road" และเพลงที่มียอดขายมากที่สุดก็คือเพลง "Here Comes the Sun"

ที่มา - Mashable

ไมโครซอฟท์เตรียมปล่อย Windows Phone 7 Connector for Mac เบต้า 24 ต.ค.นี้ (ตัวจริงจะปล่อยภายในปีนี้) ผู้ใช้จะสามารถซิงค์คอนเทนต์อย่างเพลง วีดีโอ และรูปภาพกับแพลตฟอร์ม Mac และสามารถซิงค์ไปยัง iTunes และ iPhoto ได้เพราะใช้ public API ของทั้งสองโปรแกรมนั่นเอง ไมโครซอฟท์บอกไม่ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ดังกล่าวร่วมกับบริษัทแอปเปิลแต่อย่างไร

Neowin.net ได้รับซอฟต์แวร์มาทดสอบก่อนเปิดตัวเบต้า พบว่าค่อนข้างเสถียรและทำงานได้ดีอย่างน่าพอใจ

ที่มา: Neowin.net

Ping บริการ social network ของ iTunes 10 นั้นมีจุดอ่อนสำคัญคือใช้ได้กับเพลงที่ซื้อจาก iTunes Store เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเพลงทั่วไปในไลบรารีของเราได้

ข้อจำกัดนี้ถูกแก้ไขแล้วใน iTunes 10.0.1 ซึ่งเราจะเห็นปุ่ม Ping บนทุกเพลงที่เลือก นอกจากนี้แอปเปิลยังเพิ่ม Ping sidebar ที่ช่วยให้เราแชร์เพลงได้ง่ายขึ้น

ส่วนเรื่องการใช้ร่วมกับ Facebook ยังไม่ได้เหมือนเดิม ต้องรอทั้งสองบริษัทเจรจากันต่อไป

ที่มา - TechCrunch

จากประเด็นเรื่องไอคอนของ iTunes 10 ห่วย-ไม่ห่วย (ซึ่งสตีฟ จ็อบส์บอกว่าไม่ห่วย) ทางเว็บไซต์ Wired ได้จัดการประกวดไอคอนใหม่ให้กับ iTunes 10 อย่างเป็นเรื่องเป็นราว และได้ผู้ชนะแล้ว

ไอคอนชื่อ “iTunes Digital Redux” ของ Ian Houser ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด เขาอธิบายแนวคิดของไอคอนว่ายึดตามแนวคิดเดิมของแอปเปิล ที่เพลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลและซีดีไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

นอกจากไอคอนอันนี้ยังมีไอคอนที่เข้ารอบอีก 15 แบบ ดูได้ตามลิงก์ที่มาครับ

ที่มา - Wired

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของ iTunes 10 คงไม่มีอะไรเด่นกว่าเปลี่ยนไอคอนที่ใช้มานาน โดยตัดเอารูปซีดีเพลงออกไปเพราะว่า iTunes เป็นมากกว่าโปรแกรมฟังเพลงมาก ปรากฎว่ามีคนจำนวนมากไม่ชอบไอคอนใหม่นี้

นาย Joshua Kopac ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ในวงการโฆษณาได้อีเมลไปหาสตีฟ จ็อบส์

Enjoyed the presentation today. But … this new iTunes logo really sucks. You’re taking 10+ years of instant product recognition and replacing it with an unknown. Let’s both cross our fingers on this…

คำตอบที่ได้

We disagree.

Sent from my iPhone

แอปเปิลประกาศความสำเร็จของ Ping บริการ social network บน iTunes ซึ่งมีผู้ใช้ครบ 1 ล้านคนใน 48 ชั่วโมงแรก

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าพบปัญหาสแปมในคอมเมนต์ของ Ping เป็นจำนวนมาก (ดังที่เคยเกิดกับ Twitter มาก่อนนี้) ทางผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย Sophos ระบุว่าแอปเปิลไม่ได้เตรียมมาตรการรับมือกับสแปม เช่น การกรอง URL ไว้เลย แต่ล่าสุดก็มีรายงานว่าแอปเปิลเริ่มไล่ลบสแปมออกจากคอมเมนต์ของศิลปินดังๆ บ้างแล้ว

ที่มา - Apple, Sophos

แอปเปิลเคยมีบริการพิเศษ เพิ่มเงินอีก 99 เซนต์เพื่อแปลงเพลงที่ซื้อจาก iTunes Store มาเป็นริงโทนบน iPhone มันอาจไม่ใช่ฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากนัก (เพราะต้องเสียเงิน) ทำให้ iTunes 10 แอบถอดฟีเจอร์นี้ออกไปแบบเงียบๆ แล้ว

แต่ถ้าใครยังอยากทำริงโทนแบบ 99 เซนต์ บน iTunes 9.2.1 ยังสามารถทำได้ครับ

ที่มา - MacLife