Tags:
Node Thumbnail

จากข่าวของน.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ที่อ้างว่าถูกขโมยบัตรประชาชนจนคนร้ายสามารถไปเปิดบัญชีได้ที่ธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี จนกระทั่งถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง ตอนนี้หน่วยงานกลางของธนาคารก็ออกรับแสดงท่าทีรับรู้ปัญหานี้แล้ว ทั้งสมาคมธนาคารและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ธปท. ออกมาระบุว่าได้สั่งการให้สถาบันทางการเงินตรวจสอบ ชี้แจงสาเหตุ และแนวทางดำเนินการ ให้ธปท. ทราบ "โดยเร็ว"

ทางด้านสมาคมธนาคารออกจดหมายข่าว ระบุว่าธนาคารที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบ (เนื้อหาอยู่ที่ย่อหน้าสาม ที่เหลือเป็นเรื่องทั่วไป ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นข่าว)

ข่าวของ น.ส.ณิชา เปิดเผยต่อสาธารณะมาตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อเธอตั้งกระทู้ในเว็บพันทิบรายงานว่าถูกสวมรอยเปิดบัญชี โดยในกระทู้ได้ระบุว่าเธอได้โทรไปขอความช่วยเหลือจาก ธปท. ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม ผ่านทางหมายเลข 1213 ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โดยระบุว่า คคง. อ้างว่า "ไม่รับช่วยกรณีส่วนบุคคลแบบนี้"

ที่มา - จดหมายข่าวสมาคมธนาคาร

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 10 January 2018 - 14:00 #1027791
lingjaidee's picture

อยากให้มาตรการหละหลวมของธนาคารในการเปิดบัญชีโดนเอาผิดซะบ้าง แค่ขั้นตอนนี้รอบคอบหน่อย คดีคงจะลดลงไปได้เยอะ เว้นแต่ธนาคารเห็นเป็นอย่างอื่น ถึงได้มีเจตนาปล่อยประละเลย ;(


my blog

By: Gored on 10 January 2018 - 14:01 #1027794
Gored's picture

กฏระเบียบใครๆก็รู้ แต่พนักงานละเลยเพราะอะไร คนร้ายอาจเสนอทำประกันจนพนักงานแบงค์ลืมตรวจสอบที่จริงเปิดหน้ากากอนามัยออกมาให้พนักงานดูไม่กี่นาที คงไม่ถึงตายหรอก คนธรรมดาไม่มีปัญหาหรอกที่จะเปิดแสดงความบริสุทธิ์ใจ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 10 January 2018 - 14:26 #1027812 Reply to:1027794
Holy's picture

ตามในกระทู้บอกว่า พนักงานเสนอบัตรพ่วงประกันแพงๆ แบบไหน คนร้ายก็ยอมทำหมด เลยอาจมีส่วนให้พนักงานหละหลวมมากขึ้นด้วยครับ

By: Gored on 10 January 2018 - 15:28 #1027832 Reply to:1027812
Gored's picture

คิดแล้วต้องเป็นแบบนี้เคยเปิดบัญชีค่ายสีเขียว พนักงานเสนอบัตรพ่วงประกันผมไม่เอา ลดราคามาผมก็ไม่เอาจนเสนอบัตรเดบิตผมไม่เอา กว่าจะเปิดเสร็จเป็ยชม.พนักงานบอกถ้าทำบัตรด้วยเสร็จถายในครึ่งชม.คิดในใจไม่น่าใช่ไม่สมัครบัตรด้วยก็น่าจะเร็วเพราะไม่ต้องลงทะเบัยนอะไรนอกจากบัญชี ที่เสียเวลาน่าเป็นเพราะโต้เถียงเรื่องสมัครไม่สมัครบัตรเดบิตมากกว่า

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 10 January 2018 - 14:03 #1027796

สนับสนุนให้ต้องลงทะเบียนด้วยลายนิ้วมือ เลียนแบบลงทะบียนเบอร์มือถือเลยครับ และต้องใช้บัตรประชาชนพร้อมchip ลงทะเบียนเท่านั้นด้วย

และควรจะลงเลขบัตรประชาชนบนหน้าแรกของสมุดคู่กับชื่อบัญชีด้วย ไม่งั้นคนชื่อนามสกุลซ้ำกันก็โดนมั่วกันได้อีก

กระบวนการใดๆที่มีผลต่อคดีอาญาฯร้ายแรง ก็ควรมีข้อกำหนดกฎหมายลงโทษคนตรวจสอบในกระบวนให้ชัดเจนตามไปด้วย

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 10 January 2018 - 14:31 #1027814 Reply to:1027796
lew's picture

ตรวจอีกกี่อย่าง ออกมาตรการแก้ผ้าตรวจปานก็ไม่ได้ผลครับ

ถ้าแค่ตรวจใบหน้าตามบัตรประชาชนยังไม่ทำก็ได้ จะเพิ่มอีกร้อยอย่างก็ข้ามได้ทั้งนั้น


lewcpe.com, @wasonliw

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 10 January 2018 - 15:14 #1027826 Reply to:1027814

ต้องมีบทลงโทษทางอาญาฯกับพนักงานที่ประมาทเลินเล่อไงครับ ถ้าไม่มีกฎหมาย เขียนprocedure กี่ร้อยข้อก็ไม่สนใจทำกันหรอก

ผมสนับสนุนแบบเดียวกับการลงทะเบียนซิม และกระบวนการออกซิมใหม่ ที่ต้องมีบทลงโทษทางอาญาฯที่ชัดเจนกับผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการลงทะเบียน/ออกบัญชี

ไม่งั้นก็จะมีอีกเรื่อยๆ ที่ผู้ได้รับผลกระทบจากความประมาทหรือจงใจของจนท. แล้วโดนโทษทางอาญาฯ หลายคนอาจต้องโดนโทษจำคุกไปแล้ว ถึงพิสูจน์ตัวเองได้ภายหลัง

ในเมื่อใช้สมุดบัญชี/ซิมการ์ด เป็นตัวยืนยันการกล่าวหาบุคคลจนโดนลงโทษทางอาญาฯได้ มันก็ย้อนแย้งในตัวเองว่า ทำไมยังไม่มีกฎหมายควบคุมกระบวนการออกบัญชี/ซิม กันสักที?

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 10 January 2018 - 15:22 #1027829 Reply to:1027826
lew's picture

เรื่องลงทะเบียนซิม ผมมองว่าธุรกิจโทรศัพท์โดยทั่วไปมูลค่ามันไม่สูงนักครับ โทรศัพท์รับผิดชอบวงเงินอย่างมากคงไม่เกิน 20,000 บาทเท่านั้น การกำกับดูแลก็ต้องอีกแบบ

ส่วนธนาคาร ธุรกิจรับผิดชอบเงินมากกว่านั้นมาก การกำกับดูแลก็อีกแบบ ธนาคารต้องหากระบวนการยืนยันตัวตนที่เหมาะสมกับความรับผิดชอบของตัวเอง

ในกรณีของหมายเลขโทรศัพท์ ไม่มีใครอยากลดตำแหน่งขายซิมให้พนักงานของค่ายโทรศัพท์โดยตรงเท่านั้น ไม่อย่างนั้นคนจำนวนมากก็จะเข้าไม่ถึงแบบทุกวันนี้ เราก็ต้องยอมรับว่าความถูกต้องมันมีข้อจำกัด (ควรทำ แต่เราเชื่อถือข้อมูลได้ระดับหนึ่ง)

ส่วนธนาคารมีกฎหมายชัดเจน ต้องแสดงตัวต่อสาขา หรือใช้กระบวนการ "ที่เทียบเท่า" เท่านั้น โทษหรือมาตรการก็ต้องต่างกัน

แต่ทั้งนี้ เราไม่ควร "เพิ่มขึ้นตอน" ไปเรื่อยๆ โดยขั้นตอนเติมยังไม่มีปัญหา แต่ปัญหากลับเป็นการไม่ทำตามครับ ถ้าคนมันข้ามก็ข้ามเหมือนเดิม เรากำหนดโทษแต่ขาดการบังคับมันก็เหมือนเดิมได้เหมือนกัน

ปัญหาในกรณีนี้ไม่ใช่เคสประหลาดเช่นฝาแฝดไปเปิดบัญชีให้กันจนเราต้องเพิ่มมาตรการ (เพิ่มได้ก็ดี แต่ถ้าทั้งหมดบังคับไม่ได้ เพิ่มไปก็เสียเวลา)


lewcpe.com, @wasonliw

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 10 January 2018 - 15:30 #1027833 Reply to:1027829

ผมกลับมองในประเด็นกฎหมายอาญาฯครับ

ถ้าเราใช้ซิมการ์ด ในการกล่าวโทษคดีอาญาฯ ที่มีโทษจำคุกสูงมากๆได้(ตามคดีตัวอย่างที่เคยมีมาก็โทษกระทงละ 3-15ปี) และมีโอากาสที่จะผิดพลาดจากการปลอมแปลง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็ควรมีกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและบทลงโทษทางอาญาฯเช่นกัน

ในกรณีนี้จนท.ใช้บัญชี กล่าวโทษคดีอาญาฯ จนผู้ถูกกล่าวหาต้องขังไปหลายคืน ทั้งๆที่ยังไม่มีโอกาสพิสุจน์ถูกผิด ก็ไม่ต่างกัน

ไม่ว่าใครกำกับดูแล หรือมีขั้นตอนมากน้อยแค่ไหน อย่างไรถ้าไม่มีบทลงโทษที่สมน้ำสมเนื้อกับความเสี่ยง ก็คงมีข้ออ้างพนักงานเลินเล่อมาอีกเรื่อยๆ

อย่างถ้าเป็นจนท.รัฐ ทำคดีพลาดหรือดำเนินการทางเอกสารผิดพลาดร้ายแรง โดนฟ้องประพฤติโดยมิชอบ โทษสูงสุดคือจำคุก แต่พนักงานธนาคารล่ะ? พนักงานผู้รับลงทะเบียนซิมล่ะ? (รวมไปถึงพนักงานที่ออกซิมอย่างผิดพลาด)มีโทษจำคุกกันบ้างไหม นอกจากไล่ออกเฉยๆ?

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 10 January 2018 - 15:54 #1027837 Reply to:1027833
lew's picture

มืดใช้ฆ่าคนได้ครับ โทษตลอดชีวิต ผมซื้อครั้งล่าสุดไม่ได้ลงทะเบียน


lewcpe.com, @wasonliw

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 10 January 2018 - 18:01 #1027860 Reply to:1027837

อืม ยกตัวอย่างมีดมาเทียบไม่ได้ครับเพราะตัวมีดที่ใช้ก่อเหตุเฉยๆ มันใช้ในการกล่าวหาคุณไม่ได้ ถ้าไม่มี identity อื่นๆ เช่นลายนิ้วมือแฝง หรือ DNA แฝง ซึ่งมันปลอมแปลงได้ยาก ไม่เหมือนบัญชีธนาคารหรือซิม ที่สวมรอยออกใหม่จากความประมาทเลินเล่อ(?)ของพนักงานได้กันบ่อยๆ แต่ดันใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการกล่าวหาดำเนินคดีได้

ถ้าจะให้ยกตัวอย่างแบบสุดโต่งแบบที่เกิดขึ้นจริงได้ เช่นคุณโดนสวมรอยออกซิมใหม่โดยใช้บัตรหน่วยงานปลอม และขโมยเลข IMEI จากบันทึก CDR ของคุณโดยผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึง(อาจจะสวมรอยมาขอรายการ อ้างว่าสงสัยว่ามีรายการมั่ว) และนำซิมนั้นไปใช้โทรไปสั่งการให้เกิดการระเบิด โดยโทรจากมือถือที่ปลอม IMEI เดียวกับของคุณ แล้วบังเอิญเหลือหลักฐานซิมที่จุดระเบิดไม่เสียหายมาก เลยไล่หาเบอร์ที่โทรเพื่อจุดชนวนได้

ถ้าคุณไม่มีหลักฐานที่อยู่ตัวเองในเวลาที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน(เช่นทำงานมีพยานเยอะ) ก็อาจจะต้องโดนสอบยาว หรือถ้าอยู่ภายใต้พรก.ฉุกเฉินหรือม.44 ก็อาจโดนควบคุมตัวในค่ายทหารอย่างน้อย 1 เดือน(ต่อเวลาได้เรื่อยๆทีละ 1เดือน) เพราะความประมาทเลินเล่อของพนักงานผู้ออกซิมและให้ข้อมูล CDR ? ซึ่งบทลงโทษพนักงานนั้นก็แค่โดนหักเงินเดือน หรือมากสุดก็ไล่ออก แต่คุณต้องเข้าคุกไปก่อน?

อันนี้อาจฟังดูเว่อไปหน่อย เพราะในความเป็นจริง เขาใช้ซิมกับมิือถือที่โดนปล้นมาก่อเหตุกันง่ายกว่า

อีกประเด็นหนึ่ง ถ้าจะบอกว่า หลักฐานพวกนี้ควรจะสามารถใช้เป็นได้แค่พยานแวดล้อมเท่านั้น ต้องมีหลักฐานที่หนักแน่นอื่นๆชี้มาก่อน แต่ในความเป็นจริง เขาสั่งขังคุณตามอำนาจฝากขังไปแล้ว เพราะพยานแวดล้อมล้วนๆนี่แหละ ยังไม่นับคดีแบบอากง ที่พยานแวดล้อม 100% ทำให้จำคุกได้จริง

มันก็ขัดแย้งในการปฎิบัติไหม?

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 10 January 2018 - 18:27 #1027864 Reply to:1027860
lew's picture

ผมเข้าใจความคิดคุณนะครับ

แต่ผมมองว่าการดู identity ของสิ่งของแล้วกล่าวหา ทำชีวิตผู้ต้องหาลำบาก เป็นความมักง่ายของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของผู้ออก ID โดยตรงครับ

ถ้ามีเจ้าหน้าที่เจอ IMEI ของผู้ต้องหาก่อการร้ายแล้วไล่ยิงเอาตายอย่างเดียว เราคงไม่บอกว่าหลังจากนี้ใครออกซิมผิดต้องมีโทษประหาร


lewcpe.com, @wasonliw

By: KR on 11 January 2018 - 13:35 #1028010 Reply to:1027864

อันนี้เราเห็นด้วยเลยนะ ให้เอกชนตรวจสอบมันก็ได้แค่ระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญเลยคือต้องเปลี่ยนวิธีคิดของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่บัญชีชื่อใคร เบอร์โทรชื่อใคร ก็สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าคนนั้นเป็นคนร้าย เพราะมิจฉาชีพจริงๆมันก็ไม่ใช้ชื่อตัวเองมาทำการแบบนี้ เราว่าเคสนี้ตำรวจผิดมากกว่าธนาคาร

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 11 January 2018 - 14:03 #1028016 Reply to:1028010
lew's picture

อย่างกรณีนี้ คนคนอาจจะไม่พอใจกันเยอะเพราะถึงขั้น "เข้าคุก" ตรงนั้นผมมองว่าเป็นปัญหาของกระบวนการยุติธรรมครับ (รวมๆ ตั้งแต่การส่งหมายเรียก ไปจนถึงขั้นตอนประกันตัว)

แต่อย่างรายงานแรกตั้งแต่เดือนที่แล้ว ที่คุณณิชาต้องเดินทางไปติดต่อธนาคาร, แจ้งความ, ทำเรื่องอายัดบัญชี ฯลฯ เป็นสิ่งที่ธนาคารควรเล็งเห็นผลได้จากความเลินเล่อของตัวเอง และหากเป็นความผิดของธนาคารก็ควรชดใช้ตรงนั้นทั้งหมด (ค่าเสียเวลา ค่าใช้จ่ายต่างๆ ฯลฯ)


lewcpe.com, @wasonliw

By: whitebigbird
Contributor
on 11 January 2018 - 10:17 #1027966 Reply to:1027860
whitebigbird's picture

ผมเข้าใจว่าบัตรประชาชนมันน่าจะเป็นบัตรแบบใหม่เกือบหมดแล้ว ก็น่าจะมีลายนิ้วมืออะไรก็ว่าไป ก็ตรวจคู่กันกับคนที่มายื่นเปิดบัญชี

ผมเชื่อว่ามันทำได้ กระบวนการไม่ได้ยากเกินไปเลยครับ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 10 January 2018 - 16:03 #1027840 Reply to:1027814
Holy's picture

เฉพาะเรื่องตรวจใบหน้า/ลายนิ้วมือนะครับ

ผมมองว่าถ้าการตรวจสอบลดการใช้วิจารณญาน (ใช้สายตาพนักงานดูว่าเหมือน/ไม่เหมือน) เปลี่ยนเป็นใช้ระบบเปรียบเทียบ (ลายนิ้วมือ/อื่นๆ) และใช้ระบบคุมเพิ่ม (จะเปิดบัญชีต้องเสียบบัตร + สแกนนิ้วว่าตรงกับในบัตร/ระบบ ถ้าไม่ตรงระบบล็อคเปิดบัญชีไม่ได้) น่าจะช่วยแก้ปัญหาในภาพใหญ่ได้ ส่วนภาพเล็ก กลุ่มคนพิการ etc. อะไรก็มีมาตรการสำรองไป

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 10 January 2018 - 16:12 #1027842 Reply to:1027840
lew's picture

ถ้าครั้งนี้ไม่มีการลงโทษอะไรธนาคาร

ปีหน้ามีลูกค้าเปิดบัตรพิเศษแต่สแกนลายนิ้วมือไม่ผ่าน พนักงานก็ทำแบบเดิมได้อยู่ดี

ปีต่อไปจะตรวจ DNA เครื่องสแกนไม่ผ่านสักที ลูกค้าจะรีบไปทำธุระต่อ ก็ทำแบบเดิมได้อยู่ดี?


lewcpe.com, @wasonliw

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 10 January 2018 - 16:42 #1027845 Reply to:1027842
Holy's picture

ถ้าลูกค้าสแกนนิ้วไม่ผ่าน ธนาคารไม่สามารถอ้างได้ว่า คนร้ายปลอมตัวมาเหมือนมากเลยอนุมัติไป ไงครับ

ในกระทู้จากที่ผู้เสียหายไปขอดูกล้อง คนร้ายมีหลายคน ช่วงแรกๆ พยายามปลอมตัว ตัดผมให้เหมือน พาเด็กไปด้วย etc. แต่หลังๆ ใส่ Mask ไปดื้อๆ ซึ่งกรณีหลังผมเห็นด้วยว่าเลินเล่อ ควรโดนลงโทษจริง แต่กรณีแรกธนาคารจะอ้างได้ว่า พนักงานใช้วิจารณญานอย่างดีที่สุดแล้วก็ได้ ซึ่งถ้าจะฟ้องร้องลงโทษก็ต้องมานั่งพิสูจน์กันอีกว่า พยายามดีที่สุดแล้วหรือยังไงครับ

ส่วนเรื่องการลงโทษธนาคาร ถ้าเป็นผลการพิจารณา/บทลงโทษจาก ธปท. ก็คงไม่เปิดเผยอะไรอยู่ดี คงได้แต่เดากันไปครับ

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 11 January 2018 - 07:14 #1027930 Reply to:1027845

เห็นด้วยครับ
ถ้าลดการตรวจสอบโดยใช้วิจารณญาณ ให้เหลือแค่ 0-1 มันก็จบ
เวลาตรวจสอบก็ง่าย อันนี้เปิดกล้องก็อ้างได้ว่าหน้าเหมือน
แต่ถ้าตรวจลายนิ้วมือ คำจำกัดความว่า “เหมือน” มันชัดเจนกว่า
แล้วมองในมุมธนาคาร ทางธนาคารก็สามารถปฏิเสธได้เต็มปากเต็มคำ กว่าพูดว่า “หน้าไม่เหมือย”

By: xx555
ContributoriPhone
on 10 January 2018 - 14:17 #1027805

สมาคมธนาคาร >> สมาคมธนาคารไทย

By: kadeep
AndroidUbuntuWindows
on 10 January 2018 - 14:18 #1027806
kadeep's picture

หากลูกค้าทำผิด ลูกค้ารับผิดชอบ แต่หากธนาคารทำผิด กรูไม่รับผิดชอบ
มาตรฐานโลกไหนวะนี่

By: Gored on 10 January 2018 - 14:21 #1027809 Reply to:1027806
Gored's picture

มาตรฐานประเทศไทยครับ ธนาคารไม่เคยผิดขนาดพนักงานตัวเองทำผิดไม่ยอม ออกกฏมาให้ตัวเองได้ประโยชน์

By: xx555
ContributoriPhone
on 10 January 2018 - 14:21 #1027808

จริงๆ แนวทางการเปิดบัญชี ถ้า หน้าไม่เหมือนบัตรประชาชน
ก็มีการตรวจสอบเพิ่มเติมได้ เช่น
ขอดูบัตรอื่นๆ เช่น ใบขับขี่ บัตรพนักงาน
อย่างน้อยต้องมีชื่อเดียวกัน ถ้าไม่มีเวลาก็ค่อนข้างน่าสงสัย

By: iamfalan
iPhoneAndroidWindows
on 10 January 2018 - 14:21 #1027810

เมื่อไหร่จะเลิกระบบ แจ้งเรื่องเฉพาะสาขาที่เปิดบัญชี กับ แจ้งความในท้องที่ที่เกิดเหตุ ซะที

By: thanyadol
iPhone
on 10 January 2018 - 14:36 #1027815

มิวิธีเยอะแยะ แต่เขาไม่ทำกันเองครับ องค์กรห่วยๆ ขอให้เจ้งไปซะ

By: Lennon
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 10 January 2018 - 14:34 #1027817

ที่ไม่อยู่ในเนื้อข่าวคดีนี้ ตำรวจก็มีส่วนทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตโดยการรีบรวบรัดตัดความ ขนาดเขามีใบแจ้งความกระเป๋าตัวค์หาย เป็นเจ้าทุกข์แท้ๆ ตำรวจก็ไปดึงใบแจ้งความของเขาออกจากสำนวนกะจะรีบจบคดี จนจากเจ้าทุกข์ กลายเป็นผู้ต้องหาเข้าคุกไปแล้ว 3 วัน แล้วแบบนี้จะให้เชื่อใจการทำงานตำรวจได้สนิทใจ?

ในส่วนของธนคารอยากให้ลองมองหลายๆมุม คนร้ายหลอกเปิด บช ได้ตั้ง 7 ธนาคาร แสดงว่าคนร้ายก็แพรวพราวพอตัว ถึงจะใส่แมสก์มาแต่เอาเข้าจริงถ้าขอให้เปิดหน้าแล้วมันไม่เหมือนเลย เป็นคุณเป็นพนักงานจะทำไงครับ? ระบบเอกชน ลูกค้าเป็นใหญ่ไปถามไรมากจุกจิกไม่เข้าเรื่อง ถ้าเขาเป็นตัวจริงขี้หงุดหงิดร้องเรียนขึ้นมา พนักงานคนนั่นก็ซวยอีก ที่สำคัญเลยคือ ผมมองว่า พนักงานแบงก์อาจไม่ได้ตระหนักด้วยซ้ำว่าการเปิดบัญชีใหม่จะมีผลเสียอะไรได้มากมายต่อธนาคารเพราะเป็นการเอาเงินไปให้เขา เหมือนเวลาเอาเงินไปฝาก เขาก็ไม่ดูอะไรมาก ผิดกับตอนเอาเงินออกจะยุ่งยากกว่า

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 10 January 2018 - 14:37 #1027818 Reply to:1027817
lew's picture

ย่อหน้าสองของคุณนี่ล่ะครับ ความผิดธนาคาร คุณเป็นธนาคารภายใต้ระบบกำกับดูแล ไม่ใช่ร้านโชว์ห่วยขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถ้าพนักงานบอกว่าไม่รู้ผลกระทบนี่ธนาคาร audit ไม่ผ่านแล้ว


lewcpe.com, @wasonliw

By: Lennon
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 10 January 2018 - 14:42 #1027820 Reply to:1027818

ไม่ได้บอกว่า ธนาคารไม่ผิดเลยนะครับ แต่ขอให้มองดีๆ โจรหลอกแบงก์ได้ 7 เจ้าใหญ่ๆ แสดงว่าโจรเองก็ไม่ธรรมดานะครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 10 January 2018 - 14:55 #1027822 Reply to:1027820
lew's picture

หรือไม่ก็วงการธนาคารมันแย่มากจนกระทั่งมาตรการทั้งหลายไม่ได้ทำตามจริงจัง เป็นกระดาษ๋กองไว้เฉยๆ


lewcpe.com, @wasonliw

By: osmiumwo1f
ContributorWindows PhoneWindows
on 10 January 2018 - 14:56 #1027823 Reply to:1027820
osmiumwo1f's picture

ต้องบอกว่าธนาคาร 7 แห่งสัพเพร่าที่อนุญาตให้เปิดบัญชีโดยไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของเอกสารมากกว่า เพราะปกติทุกที่จะดูหน้าว่าตรงกับบัตรประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจอาจจะให้คนอื่นช่วยยืนยันก็ได้ครับ

By: Gored on 10 January 2018 - 15:23 #1027830 Reply to:1027820
Gored's picture

พนักงานธนาคารสะเพร่าเพราะอยากได้ค่าคอม แค่เสนอบัตรเอทีเอ็มพ่างประกันพอบอกเอาก็ลืมตรวจสอบแล้วไม่ใช่เก่งอะไรหรอก

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 10 January 2018 - 15:16 #1027827 Reply to:1027817

มันลักลั่นตั้งแต่ใช้ สมุดบัญชีในการกล่าวโทษคดีทางอาญาฯได้

แต่ไม่มีบทลงโทษทางอาญาฯกับกระบวนการออกบัญชี?

ถ้ามันแค่ฟ้องแพ่งเฉยๆ ก็ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายอาญาฯ บังคับ แต่เอกสาร identity ใดๆที่สามารถใช้อ้างอิงเพื่อกล่าวโทษทางอาญาฯได้ ก็ควรจะต้องมีบทลงโทษเพื่อควบคุมกระบวนการออก identity นั้นๆด้วยเช่นกัน

By: whitebigbird
Contributor
on 11 January 2018 - 10:23 #1027967 Reply to:1027827
whitebigbird's picture

อันนี้ก็เห็นด้วย ที่สำคัญคือขั้นตอนยืนยันตัวตนที่ชื่อมันบอกชัดเจนว่าต้องยืนยันตัวตน แต่ไม่กล้าปฏิบัติขั้นตอนยืนยันตัวตน ทั้งๆ ที่มีกฎหมายรองรับให้สิทธิในการปฏิบัติก็ยังไม่ทำ

ฉะนั้น ถ้าขั้นตอน verify มันผิดพลาด ทำงานไม่ครบกระบวนการก็ควรเอาผิดได้ และในกรณีอันนี้ ธนาคารควรชดใช้ให้ผู้เสียหายด้วย (ควรมีเป็นกฎหมาย) ไม่ใช่ไล่ไปฟ้องอย่างเดียวแล้วลอยตัวเหนือความผิด

ตำรวจเอย หน่วยงานกำกับดูแลเอยก็ควรดูแลเต็มที่ รวมถึงผู้พิพากษาและกระบวนการยุติธรรมด้วย จะมาลอยตัวเหนือปัญหากล่าวแค่ว่าฉันทำตามหลักฐานอย่างเดียวแล้วส่งคนเข้าคุกจนจะกลายเป็นคอกเลี้ยงแพะ แต่ถึงเวลาก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแบบที่ผ่านๆ มา

แบบนี้สังคมก็แย่ลงทุกวัน

By: whitebigbird
Contributor
on 11 January 2018 - 10:24 #1027968 Reply to:1027967
whitebigbird's picture

สายป่านพลาดลงรูปนี่จะเป็นจะตาย ทั้งๆ ที่เป็นเหยื่อของการทำให้เสื่อมเสียแท้ๆ จะเรียกเข้ามาสอบสวน บลาๆๆๆๆ

By: waroonh
Windows
on 10 January 2018 - 14:46 #1027821

ถ้าคิดจะไม่รับผิดชอบอะไรเลย จะโทษอะไรก็โทษได้ครับ มาหน้าสด เปิดบัญชีได้ ก็โทษกล้องถ่ายรูป หรือ ตัวปริ้นรูปลงบัตรของกรมการปกครอง เอาก็ได้ว่าถ่ายรูปบัตรมาแล้วหน้าไม่เหมือนตัวจริงครับ อยากให้ธนาคารสาขาที่ ใส่หน้ากากกันหวัดเข้าไปเปิดบัญชีออกมาได้ รับผิดชอบมากกว่านี้ครับ จะให้ดีอยากให้ ผจก สาขา กับ พนักงานที่เปิดบัญชี ลองเข้าไปอยู่ในตารางที่ สน. ดูซัก 24 ช.ม. ก็ได้ครับ ว่าสนุกมั้ย ทำคนอื่นติดคุกเนี่ย

By: fullstepmixsong
Contributor
on 10 January 2018 - 15:12 #1027825

Something you have
Something you know
Something you are

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พนักงานเคาน์เตอร์ธนาคารไม่รู้ครับ เพราะห่วงแต่ยอดประกันที่จะขายได้
ขออนุญาตสบประมาทแล้วกันนะครับ เพราะเห็นคนติดคุกทั้งที่ไม่ได้ทำผิด แถมยังมีการมาปกป้องด้วยกันเองจากในองค์กรอีก

By: 255BB
Android
on 10 January 2018 - 15:21 #1027828

ได้อ่านกระทู้พันทิปตั้งแต่ต้นเดือนธันวา ปีก่อน ผู้เสียหายลำบากมาก ต้องไปแจ้งตำรวจหลาย สน ไปธนาคารหลายสาขา เหนื่อยแทน บางทีก็โบ้ยกันไปมา ราชการชอบใช้คำว่าบูรณาการแต่พอมีเรื่องกลับไม่ประสานงานกัน แทนที่จะแจ้งที่เดียวจบ ต้องไปๆ มาๆ นี่ถึงกับต้องนอนคุก ธนาคารควรต้องถ่ายรูป เช็คลายนิ้วมือเพิ่ม

ผมก็เคยทำบัตร ปชช หายเหมือนกัน ลงแอป กสทช 3 ขั้นอะไรนั่น ก็โชคดีว่าไม่มีเบอร์โทรศัพท์แปลกปลอม ส่วน บช นี่ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะโชคดีที่หัวล้าน โจรมันคงไม่ลงทุนปลอมตัวขนาดนั้น

By: errin on 10 January 2018 - 15:54 #1027836

เคยทำบัตรประชาขนหายไปที่เขตเค้าก็บอกไม่ต้องแจ้งความ แต่เจอข่าวแบบนี้ยังไงก็ขอไปลงบันทึกประจำวันกันไว้ดีกว่า

By: gobman
iPhoneAndroidSymbianUbuntu
on 10 January 2018 - 19:15 #1027873 Reply to:1027836

ถ้าตำรวจว่างและยินดีรับแจ้งความนะครับ เพราะตอนนี้ไม่ต้องแจ้งความแล้ว

ใช้เอกสารที่เราไปให้ข้อมูลกับเขตโดยตรงว่าบัตรหาย อ้างอิงได้เหมือนกันกับแจ้งความ

By: SuPPy
AndroidWindows
on 10 January 2018 - 19:20 #1027874

เป็นเคสที่อ่านแล้วเหนื่อยใจมาก แจ้งความก็เกี่ยงกันไม่รับ จขกท คือไฟว้มากวิ่งไปแจ้งความตามท้องที่ วิ่งไปธนาคารเองทุกสาขา ข้อมูลบัตรประชาชนในชิปที่ธฯาคารบอกว่าไม่มีการแจ้งเตือนว่าบัตรไม่ใช่บัตรล่าสุด
คือสงสารมากเหนื่อยขนาดนี้แล้วยังต้องโดนนอนคุกอีก

อยากเห็นว่าธนาคารแต่ละเจ้าจะรับผิดชอบอะไรไหม ไม่ใช่แค่เพิ่มความปลอดภัย แต่อยากให้โดนลงโทษกันบ้าง แต่กลัวว่าจะลอยตัว แค่บอกว่าจะเพิ่มความปลอดภัยให้แล้วก็จบกัน ชีวิต จขกท ที่เสียไป ก็แล้วกัน

By: gobman
iPhoneAndroidSymbianUbuntu
on 10 January 2018 - 19:27 #1027875

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับความมั่นคงของระบบ

มีกฎที่อ่อนแอหรือซับซ้อนเกินไป และที่มีกฎแต่ไม่รับการปฎิบัติหรือทำตามกฎหรือเพิกเฉยต่อกฎหรือคำแนะนำ

ปัญหานี้จับพนักงานธนาคารมาติดคุกแทนก็เท่านั้น เพิ่มกฎให้ยุ่งยากขึ้นก็มีแต่จะปฏิบัติตามไม่ได้ หรือยากจนไม่มีใครอยากใช้

ถ้าไม่ปฏิบัติตามคนที่เดือดร้อนจริงๆ ต่อไปคือตัวธนาคารเองนั้นละ ถ้ายังมักง่ายแบบนี้ ต่อไปจะมีกฎออกมาว่าจะออกเลขบัญชีได้ต้องได้รับการออกโดยคนที่มีใบอนุญาตจากแบงค์ชาติ เพราะตรวจสอบตามกฎจริงๆ และถ้าพลาดก็จะถูกพักใบอนุญาตหรือมีบทลงโทษตามกฎหมาย เหมือนสถาปนิก วิศวกร และอีกหลายๆ อาชีพ ที่ถูกควบคุมอยู่

กฎ หรือ กระบวนการ ที่ดูงี่เง่าบางอย่างเราก็มองว่าไม่จำเป็นต้องมี เมื่อคนนั้นมักง่ายชีวิตมันเลยยุ่งๆ แบบที่กำลังจะเป็น

By: Hoo
AndroidWindows
on 11 January 2018 - 00:00 #1027908

เป็นไปได้มั๊ยที่
ถ้าระบบ ถ่ายรูป+scan ลายนิ้วมือ แบบที่ ตม.ใช้ ราคาถูกลง
จนเอามาวางตามธนาคารสาขาต่างๆได้?

By: PandaBaka
iPhoneAndroidWindows
on 11 January 2018 - 00:08 #1027910 Reply to:1027908
PandaBaka's picture

เหมือนแต่ละแบงค์จะเริ่มมีนโยบายป้องกันส่วนตัวกันแล้วมั้งครับ
ล่าสุดวันนี้ผมไปเปิดบัญชีกสิกรเพิ่ม เห็นมีการจับถ่ายรูปในการเปิดบัญชี และกรอกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับส่วนตัวเยอะมาก
แถมต้องพ่วงเบอร์โทรศัพธ์เพื่อยืนยันตัว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนใช้แค่บัตรประชนชนยื่นให้แป๊ปเดียวก็จบแล้ว

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 11 January 2018 - 00:18 #1027913
mr_tawan's picture

KYC


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Hadakung
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 11 January 2018 - 08:07 #1027932

ผมว่านะวิธีแก้ที่ง่ายกว่านี้คือบัตรประชาชนเป็นสมาร์ทการ์ดจริงสักทีมันควร call service ไปที่ส่วนกลางเปิดขอข้อมูล และล็อกบัตรได้ทำ policy คล้ายธนาคารก็ได้ ล็อกบัตรได้ ปัญหาพวกนี้ก็หายไปเยอะละ แล้วก็เลิกใบขับหรือสารพัดใบสักทีจะได้เป็น 4.0 อย่าวที่โม้ไว้บ้าง

ปล. แสกนนิ้วไม่เหมาะเพราะว่าไม่ใช่ทุกคนจะลายมือชัดเจนตลอดครับแม่ผมก็เป็นคนที่ลานมือชอบหายแสกนไม่เจอ และมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องทำวานจนลายนิ้วมือมีปัญหา ถ้าใช้วิธีแสกนนิ้วเท่าคนเหล่านี้หมดสิทธิ์เปิดบัญชีแน่ๆครับ

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 11 January 2018 - 11:35 #1027981 Reply to:1027932
lew's picture

แล้วกระบวนการปลดล็อกจะเป็นยังไงครับ? แล้วพนักงานต้องยืนยันตัวตนอย่างไรบ้างเพื่อล็อกหรือปลดล็อก?


lewcpe.com, @wasonliw

By: foizy
AndroidUbuntuWindows
on 11 January 2018 - 13:54 #1028013 Reply to:1027981

จริงๆผมว่า บัตรประชาชนแค่มี pin (6หลักแบบบัตรเอทีเอ็ม)
นี่ก็น่าจะช่วยได้มากแล้วนะครับ

แล้วก็เพิ่มระบบไปว่า ถ้าจะอ่านการ์ดต้องมี alert ผ่านช่องทางใดช่องทางนึงเสมอๆ ก็น่าจะพอแก้ได้เบ็ดเสร็จแล้ว

แต่ที่ยากคือพอจะทำเข้าจริงๆก็ติดระบบราชการนั่นแหล่ะ

By: terdsak.s on 11 January 2018 - 12:28 #1027996

ใครๆก็รู้ว่าวงการนี้เร่งเอายอดอย่างเดียว ใครจะฉิบหายช่างมัน

By: raichinton
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 11 January 2018 - 17:44 #1028050

ตอนนี้เรามีระบบอะไรที่สามารถสิบค้นได้ว่าชื่อของเราถูกนำไปเปิดบัญชีที่ไหนบ้างแบบทีเดียวเลยไหมครับ
ยกตัวอย่างเคสนี้ ต้องไล่ติดต่อเอาเองทุกๆธนาคารเลย ถ้าเป็นธนาคารเล็กๆที่คนไม่ค่อยรู้จัก ก็จะไม่รู้เลยว่ามีชื่อไปเปิดบัญชีเอาไว้

By: nrml
ContributorIn Love
on 11 January 2018 - 18:24 #1028053 Reply to:1028050
nrml's picture

นั่นสิครับ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้โดยตรง แต่ว่าเบอร์โทรที่เพิ่งเปิดใหม่ของผมซึ่งน่าจะเป็นเบอร์เวียน ก็มีการเอาไปสมัครใช้งานอย่างน้อยบริการหนึ่งจากธนาคาร อ. ซึ่งทำให้ผมต้องรับ sms ต่างๆ เช่นแจ้งให้ไปชำระสินเชื่อ ฯลฯ ทุกๆ เดือน พอแจ้งไปที่ CC ก็บอกให้ไปที่ธนาคารซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของคนที่เดือดร้อนที่จะต้องเสียเงินเสียเวลาไปตามเรื่องเอง

ตรงนี้ผมว่ามันควรมีกระบวนการอะไรที่สามารถเช็คและจัดการได้แบบ one stop service. ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ควรล้างข้อมูลเบอร์ก่อนที่จะเอามาเวียนขายนะครับ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 11 January 2018 - 21:45 #1028081 Reply to:1028053
Holy's picture

การเอาเบอร์มาเวียนขายเป็นการจัดการของโอเปอร์เรเตอร์มือถือครับ ส่วนการเอาเบอร์ไปลงทะเบียนเป็นเรื่องของลูกค้ากับธนาคาร ถ้าก่อนจะเอาเบอร์ใดๆ มาเวียนขาย โอเปอร์เรเตอร์ต้องไปแจ้งธนาคารทุกธนาคาร (และรวมถึงทุกหน่วยงานที่มีการติดต่อผ่านมือถือ ยังมีพวก 2nd-factor authentication ทั้งหลายอีก) คงไม่ได้เวียนขายเบอร์แน่นอน

By: nrml
ContributorIn Love
on 11 January 2018 - 23:35 #1028106 Reply to:1028081
nrml's picture

ในกระบวนการที่เกิดขึ้นปัจจุบันผมทราบดีครับ ก็พอจะเข้าใจถึงเงือนไขและภาระผูกพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการกับเจ้าของเบอร์โทร โอเปอเรเตอร์ก็ต้องดูแลเจ้าของเบอร์ ธนาคารก็ต้องรับผิดชอบดูแลเจ้าของเบอร์ที่เอามาลงทะเบียน แต่สิ่งที่มันดูจะเป็นปัญหาอยู่คือใครที่จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเจ้าของเบอร์ใหม่ในกรณีข้างต้น? ถ้าคำตอบคือไม่มีแสดงว่านั่นมันก็เป็นปัญหาละ

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 11 January 2018 - 21:40 #1028080 Reply to:1028050
Holy's picture

ตอบแบบสั้นที่สุดเลยคือ "ไม่มี" ครับ สำหรับฝั่งเงินฝาก ส่วนฝั่งเงินกู้ สินเชื่อต่างๆ เช็คได้ที่ NCB (เครดิตบูโร) ครับ

สาเหตุที่ไม่มีระบบที่ว่า เนื่องจากข้อมูลสินทรัพย์ส่วนบุคคลถือเป็นข้อมูลลับมากๆ และโดยปกติแล้วคนเรามักจะไม่ค่อยลืมว่ามีเงินฝากไว้ที่ไหนบ้าง การมีช่องทางที่แบบ เช็คทีเดียวรู้หมด จะสร้างความเสี่ยงอาชญากรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นเยอะครับ แค่ข้อมูลว่ามีบัญชีที่แบงก์ไหนบ้าง กี่บัญชีก็มีความเสี่ยงแล้ว