ในช่วงที่ iPhone X เพิ่งเปิดให้สั่งซื้อและยังไม่ส่งมอบเครื่อง ก็มียูทูบเบอร์สาวรายหนึ่งชื่อ Brooke Peterson โพสต์วิดีโอไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของแอปเปิล และคุยกับพ่อของเธอซึ่งเป็นพนักงานของแอปเปิล และมี iPhone X ใช้งานก่อนบุคคลภายนอกบริษัท
Brooke จึงมีโอกาสได้ถ่ายคลิปลองใช้ iPhone X จากในโรงอาหาร Caffe Macs ของแอปเปิลเอง และโพสต์ต่อสาธารณะ
หลังจากวิดีโอถูกเผยแพร่ออกไป แอปเปิลก็ไล่พ่อของเธอออกจากงานทันที ด้วยเหตุผลว่าละเมิดกฎของแอปเปิลที่ห้ามถ่ายวิดีโอในสำนักงาน และเผยแพร่ iPhone X ที่ยังไม่วางขายทั่วไป
คลิปต้นฉบับถูกลบไปแล้ว แต่ยังมีคนดูดคลิปเก็บไว้และอัพโหลดเข้า YouTube ใหม่อยู่เรื่อยๆ ครับ
Comments
เย้ ลูกพาเจริญ
เป็น rf designer ... จะย้ายไปทำกับ google ก็ไม่น่าจะใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไปทำกับซัมซุงก็ได้ แต่ลูกคงต้องงดเข้าที่ทำงานพ่อตลอดชีวิต
ซัมซุงไม่น่าจะออกแบบใน usa มั้ง ... ออกแบบในเกาหลีไม่ก็จีนมากกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ยุคนี้ทำงานต่างประเทศ, ทำงานข้ามประเทศ กันเป็นเรื่องปกติ
หรือไถลไปต่อว่างานออกแบบต้องคนชาตินั้นเท่านั้นถึงจะออกแบบได้ ?
ขนาดปีเตอร์กวง จับมาเป็นพันรุ่น ยังไม่กล้าให้ถ่ายเครื่องเลย เพราะมันไม่คุ้มเสีย
ใช่ปีเตอร์กวงที่ไหน คุณพีรพลต่างหาก 555
คุณพีรพลเค้ากระซิบมาว่าเครื่องนี่เนียนมือมากเลย...
ทำไมเค้าถึงได้จับก่อนละครับ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เพราะเขาคือปีเตอร์กวง ควงมือถือไงละฮ๊ะ
รอผู้รู้จริงๆ มาตอบ
ถ้าจำไม่ผิดเค้าเป็นระดับผู้บริหารค่ายมือถือนิ คงได้จับตอนดีลเพื่อนำเครื่องมาขายแหละ
สมควรละครับไม่โดนฟ้องก็บุญแล้ว
พ่อ ลูกมันเหมือนเธอ
แม่ เหมือนคุณน่ะล่ะ
ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะละเมิดกฎเอง
สงสัยว่าถ้าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ทำไมรบพถึงยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ ถ้านี่เป็นเรื่องที่สำคัญจนผิดร้ายแรงขนาดไล่ออกในความผิดครั้งเดียวก็ไม่ควรให้พนักงานใช้ตั่งแต่แรกหรือมีการตรวจสอบการเคลื่อนย้ายของอุปกรณ์หรือไม่ และไม่ควรให้บุคคลภายนอกเข้ามาในอาคารที่่มีส่วนเกียวข้องกับผลิตสินค้า และยิ่งเป็นสินค้าที่เปิดตัวไปแล้วด้วย โทษก็ไม่น่าจะหนักขนาดนี้
ที่สำคัญคือ มีการกำชับและบอกโทษการกระทำก่อนใหม ซึ่งจากข่าวพ่อก็ต้องรู้ว่าลูกเป็นนักยูทูป ถ้ารู้โทษแล้วคงไม่ทำแน่ๆ
หลายถ้ามาก ..
my blog
ปกติพวกนี้ต้องเซ็นต์สัญญาก่อนอยู่แล้ว จะรับเครื่อง จะทำอะไร มันไม่ใช่ผิดครั้งเดียวแล้วไล่ออก แต่ผิดสัญญา ซึ่งโทษก็รับรู้อยู่แล้ว แต่ยังทำ
ไม่ได้ตามไปอ่านต้นทางครับ
พ่อรู้แต่ลูกไม่ฟังก็มี
ส่วนถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็ไม่ต้องให้พนักงานข้องเกี่ยวนี่ยากนะครับ เพราะเค้าคงทำงานด้านนั้น ถึงมีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนเรื่องสัญญา อันนี้โดนไล่ออกได้คงมีสัญญาจริงๆล่ะ ไม่งั้นก็คงฟ้องกลับได้
ในสัญญาการทำงานต้องมีอยู่แล้วครับ
คลิปจัดเต็มซะขนาดนี้ แค่โดนไล่ออกนี่ก็ถือว่าปราณีมากมายแล้วนะผมว่า ไม่โดนฟ้องเรียกค่าเสียหายทางธุรกิจก็บุญแล้ว
จากที่เคยทำงานแบบที่ต้องเซ็น NDA ตรงนี้ก็ต้องแยกเป็นส่วนส่วนคือส่วนของผู้ว่าจ้างกับส่วนของผู้รับจ้าง ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีเงื่อนไขและข้อกำหนดแตกต่างกันไป ในบางข้อมันก็เขียนขึ้นมาแบบกว้างๆ เป็นการ respect ซึ่งกันและกัน ไม่ได้มีระบุเป็นข้อๆ หรือเงื่อนไขเป็นรายละเอียดชัดเจน แต่ให้ใช้วิจารณญานของเราว่าจะทำยังไงถึงจะสามารถรักษาความลับตามเงื่อนไขได้
ตัวอย่างเช่นเรื่องสลิปเงินเดือนที่ถือเป็นความลับของบริษัท ซึ่งตรงนั้นก็ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าของสลิปที่ต้องรักษาความลับตรงนั้นไว้ หากวันหนึ่งไปวางทิ้งไว้ในบ้านแล้วมีคนอื่นๆ ในบ้านเอาข้อมูลนี้โพสต์ลง social media ถ้าจะมีการลงโทษใดๆ เกิดขึ้นก็คงต้องยอมรับกับโทษนั้นๆ
ตอนที่ผมไปทำที่ไซท์ที่แคนาดา ที่ออฟฟิศมีกฎว่าห้ามถ่ายรูปในออฟฟิศ และห้ามนำอุปกรณ์ถ่ายภาพทุกชนิดเข้าออฟฟิศครับ
โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในออฟฟิศก็จะถูกปิดกล้องด้วย
ข้ออื่นก็จะมีเช่น ห้ามนำเด็กเข้าออฟฟิศ แขกในออฟฟิศจะต้องมีคนคอยเดินตามประกบตลอดเวลา และต้องคอยดูแลความปลอดภัยทั้งหมด กฎที่ว่าไว้ข้างบนก็มีผลด้วย เพราะเป็นระเบียบด้านความปลอดภัย
นี่แค่ บ.Fintech ธรรมดา ๆ นะ :)
ปกติพนักงานต้องเซ็น NDA (non-disclosure agreement) ก่อนอยู่แล้วครับ
ขนาดแค่บล็อกเกอร์ หรือ Youtuber ที่ไปงาน Press ยังโดนจับเซ็นเลย
ตัวพนักงานนี่ต้องยิ่งรักษากฎ
เรื่องโทษคิดว่าคงเขียนไว้ชัดเจนตอนเซ็น
ถ้าต้องบอกทุกกระเบียดนิ้วเหมือนสอนเด็กเล็กๆ ผมคงไม่จ้างคนแบบนี้มาทำงานแน่นอน เพราะคงคิดอะไรไม่เป็น
ทำงานเป็นพนักงานเอกชนต้องระวังมากๆ ทำผิดพลาด ทำงานเฉื่อย หรือผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็พร้อมที่จะโดนไล่ออกหรือบีบให้ออกอยู่ตลอดเวลา ต้องมีสติอยู่เสมอและกระตุ้นตัวเองบ่อยๆ คงไม่มีอาชีพไหนมั่นคงเท่าข้าราชการอีกแล้ว ต่อให้พลาดแค่ไหนก็โดนไล่ออกยากมากๆ อย่างมากก็แค่ย้าย
คุณอยู่ในสภาพแวดล้อมประเทศไทย คุณเลยใช้สมมติฐานตามประสบการณ์ในสภาพแวดล้อมที่คุณเจอมาครับ
ในข่าวไม่ใช่ที่ไทยครับ
ผมก็บอกที่ไทยละฮ่ะ บ่นไปงั้นๆแหละ
ย้ายเพื่อรอการใต่สวนนะครับ เพื่อที่จะไม่สร้างปัญหากับคู่กรณีหรือเจ้าหน้าที่ หรือหาพรรคพวก หรือทำลายหลักฐานหรือสร้างหลักฐาน ไม่ใช่ว่าย้ายที่ทำงานแล้วจบ ต้องรอตัดสิน ที่ควรกังวลคือพวกที่ให้ออกแต่ได้บำเหน็จหรือบำนาญต่างหาก
มันก็ควรจะได้ตามสิทธิ์รึเปล่าอะครับ? เทียบกับเอกชนก็เหมือนให้ออก แต่ไม่มีสิทธิ์ไปยึดเงินในสหกรณ์ หรือหุ้นที่ถืออยู่นั่นแหละ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ยังมีคนที่ไม่รู้อีกมากมาย คิดแต่ว่าราชการทำผิด โดนสั่งย้ายเฉยๆ โดยไม่มีการทำโทษ
แท้จริงแล้วเป็นตามนี้นะฮะ
ให้ออก ได้เงินชดเชยถูกต้องแล้วนี่ครับ
ที่ไม่ได้คือไล่ออก
ความอืดอาด ความชักช้า การหักหัวคิว ระบบเส้นสาย ระบบผู้อาวุโส ระบบยศต่างๆ ความโปร่งใส บ้าประเมิน บางหน่วยงานวันๆก็จะเอาแต่ประเมินซึ่งก็คือการเอางานปีที่แล้วมาเปลี่ยนวันที่ใหม่ การดูงาน ซึ่งความจริงแล้วก็คือการไปเที่ยวนั่นแหละแค่เป็นเงินหลวงแล้วก็ถ่ายรูปบรรยายใต้ภาพ การปริ้นงานออกมาเซ็นแล้วแสกนกลับแล้วก็ปริ้นไปให้อีกแผนกเซ็นแล้วก็แสกนกลับอีกที ผู้บริหารตำแหน่งสูงๆที่จบไม่ตรงสายงาน ความโบราณทางความคิด ฯลฯ
สำหรับบางคนแล้วสิ่งเหล่านี่มันเป็นภาพลักษณ์ของระบบราชการที่ติดอยู่ในหัวไปตั้งแต่ตอนอยู่ในโรงเรียนแล้วครับ บางคนต่อให้หัวเด็ดตีนขาดยังไง เขาคงทนไม่ได้ที่จะทำงานในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ ข้อดีไม่กี่อย่างที่นึกออกที่ทำให้คนอยากทำงานด้วยคือ สวัสดิการรัฐ เงินเบี้ยเลี้ยงต่างๆทั้งก่อนและหลังเกษียณ และความมั่นคงทางอาชีพเนื่องจากไม่ต้องกระตุ้นตัวเองบ่อยๆ
ในองค์กรเอกชน การที่ถูกไล่ออกบางครั้งอาจหมายถึงบุคคลไม่เหมาะกับองค์กรนั้นๆ เป็นการคัดกรองคนออกไป เอาเฉพาะคนที่มีความสามารถจริงๆที่ตรงกับที่องค์กรต้องการ ผลจากสภาพแวดล้อมที่พนักงานต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มีทิศทางการบริหารและกฎเกณฑ์ชัดเจน อย่างน้อยมันก็แสดงให้เห็นถึงองค์กรมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน มีความคล่องตัวและความรวดเร็ว ทำให้งานที่ออกมามีคุณภาพที่ดีกว่า รวมถึงตัวเองได้ประโยชน์ในส่วนนี้ด้วยครับ
ทำตัวเอื่อยเฉื่อย ทำงานพลาด ไม่มีผลงานก็ไม่เป็นไร นี่ถือว่าเป็นข้อดีเลยเรียกว่ามั่นคงเหรอครับ ผมว่าไม่นะ...
ในมุมมองของหลายๆคน มันคือความมั่นคงทางการเงินครับ
ถ้าไม่ผิดวินัยร้ายแรงชัดเจนก็ไม่โดนไล่ออก
มองจากมุมคนที่คุ้นกับระบบเอกชนนั้นขัดใจแน่นอนครับสำหรับ dead wood พวกนี้
ซูเนโอะ มีอยู่ทั่วไป...
จริงๆ
ผมก็เคยถ่าย แต่เจอยาม (ใส่สูท) ข้างหน้าเรียกไปให้ลบตอนกำลังจะออกจากแคมปัส ด้วยน้ำเสียงน่ากลัว และเพื่อนผมโดนรายงานผ่านไปทางหัวหน้า ป.ล. รูปที่ถ่ายมีทั้งสนามด้านหน้า แคนทีน แล้วยังเซลฟี่กันกับเพื่อนอีกต่างหาก (โดยที่มันไม่รู้เลยว่าเค้าห้ามถ่าย)
positivity
ถ้ามีคนรู้จักหรือหลานของ Jonathan Ive มาถ่ายเล่นแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น
จะกล้าไล่ออกไหมล่ะนั่น ถ้าไล่นี่หุ้นร่วงกราวแน่ ไม่ไล่ออกก็สองมาตรฐานอีก
จะสองมาตราฐานก็ไม่แปลกเพราะแอปเปิ้ลเป็นเอกชนไม่ใช่หน่วยงานรัฐ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด พนักงานธรรมดาก็ต้องทำตามกฏให้เคร่งครัด ที่สำคัญ Jony Ive เป็นหัวหน้าระดับสูงคนสำคัญมากๆของแอปเปิ้ล ต่อให้ลูก ive มาทำทะลึ่งแบบนี้ ก็ไม่โดนไล่ออกหรอกครับ อย่างมากก็แค่ขอโทษขอโพยกันไป
ผมว่าก็โดนนะ
เคยเห็นคนที่ทำงานกับ NDA Item ทั้งหลายนี่เค้าจะระมัดระวังมากประหนึ่งงานสายลับ
คือเบอร์ใหญ่ๆ น่าจะถึงขั้นไม่นำออกจากห้องหรือพื้นที่ปิดด้วยซ้ำ
Apple ให้ทุกคนเซ็น NDA หมดแหละ ขนาด Operator ขายเครื่องในไทยยังโดนเลย
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ขนาดอัพเดทแอปให้รองรับ iPhone X แล้ว Submit ขึ้น Store แล้ว meta มีเขียนบอกว่าอัพเดทเพื่อรองรับขนาดหน้าจอของ iPhone X ยังโดน Reject เลยครับ ผิดกฎข้อ pre-release
ลูกบังเกิดเกล้า