นอกจาก iPhone 8 และ 8 Plus แอปเปิลยังเปิดตัว iPhone X (อ่านว่า ไอโฟนเท็น) ตามความคาดหมาย
iPhone X ใช้ดีไซน์ตรงกับข่าวหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้ หน้าจอ OLED เกือบไร้ขอบ มีแหว่งด้านบน ตัดปุ่มโฮมออก เปลี่ยนมาใช้กล้องหน้า True-Depth สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคแทน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์
iPhone X ใช้ดีไซน์กระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบเดียวกับ iPhone 8 แต่เน้นความโค้งมนมากกว่า ตัวกระจกจะเรียบเนียนต่อไปกับขอบด้านข้าง
เนื่องจากใช้ดีไซน์ขอบบาง ตัวเครื่อง iPhone X มีขนาดเล็กกว่า iPhone 8 Plus ที่มีหน้าจอขนาดเล็กกว่า (5.5") และมีขนาดใหญ่กว่า iPhone 8 (4.7") เล็กน้อย
ของใหม่ที่สำคัญของ iPhone X คือจอภาพ Super Retina Display ขนาด 5.8" 2436x1125 (458 ppi มากที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone) ใช้ดีไซน์แบบไร้ขอบ ตัวจอภาพเป็น OLED ที่มีอัตราคอนทราสต์สูง และแก้จุดอ่อนของ OLED เรื่องความสว่างและความแม่นยำของสีไปแล้ว
ตัวจอรองรับการแสดงผล HDR ทั้งมาตรฐาน Dolby Vision และ HDR10, รองรับการสัมผัสแบบ 3D Touch ในตัว
iPhone X ยังตัดปุ่มโฮมออก ใช้วิธีแตะจอเพื่อปลุกแทน และใช้ gesture ต่างๆ สั่งงาน เช่น ปัดขึ้นเพื่อปิดหรือสลับแอพ
ส่วนฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ Touch ID ถูกตัดออกไป เปลี่ยนมาใช้การปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า Face ID แทน โดยใช้ระบบกล้องและเซ็นเซอร์ด้านหน้าหลายตัว ทำงานร่วมกันร่วมกับเทคนิค machine learning สร้างโมเดลใบหน้าที่แม่นยำ
สำหรับคนที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลใบหน้าจะถูกประมวลผลภายในเครื่องเท่านั้น และเก็บไว้ในชิปพิเศษของแอปเปิลแบบเดียวกับข้อมูลลายนิ้วมือ Touch ID
Face ID ยังสามารถใช้แทน Touch ID ในการจ่ายเงิน Apple Pay รวมถึงใช้ล็อกอินกับแอพตัวอื่นๆ ได้ด้วย
ระบบกล้องหน้าของ iPhone X นอกจากใช้สแกนใบหน้าเพื่อล็อกอินแล้ว ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ Animoji ที่ขยับใบหน้าของ Emoji ตามใบหน้าของเราได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟคต์สติ๊กเกอร์ที่ขยับตามใบหน้า (แบบเดียวกับ Note 8) ด้วยเช่นกัน
iPhone X ใช้กล้องคู่ 12MP ตัวเดียวกับ iPhone 8 Plus (f/1.8 และ f/2.4) แต่วางเรียงในแนวตั้ง กล้องทั้งสองตัวมาพร้อมกับ OIS และมีแฟลช LED True Tone 4 ตัว
กล้องมาพร้อมกับฟีเจอร์ Portrait Mode และ Portrait Lighting แบบเดียวกับ iPhone 8
ส่วนกล้องหน้าใช้ประโยชน์จากกล้อง True-Depth เพิ่มโหมด Selfie ที่สมจริง มีฟีเจอร์ Portrait แบบเดียวกับกล้องหลัง
ใช้สเปกเดียวกับ iPhone 8 โดยเป็นชิป A11 Bionic และจีพียู, หน่วยประมวลผลภาพ (ISP) ที่แอปเปิลออกแบบเอง
แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่า iPhone 7 อีก 2 ชั่วโมง และรองรับระบบชาร์จไร้สาย Qi เหมือนกับ iPhone 8
iPhone X มีให้เลือกสองสีคือ Space Grey และ Silver มีความจุให้เลือก 2 แบบคือ 64GB ราคา 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,000 บาท) และ 256GB ราคา 1,149 ดอลลาร์ (ประมาณ 38,000 บาท) ส่วนราคาไทยก็ต้องรอติดตามกันต่อไป
iPhone X เปิดพรีออเดอร์ 27 ตุลาคม วางขายจริง 3 พฤศจิกายน
การเปิดตัว iPhone X ทำให้ปีนี้แอปเปิลมี iPhone วางขายทั้งหมด 5 รุ่น เริ่มตั้งแต่ iPhone SE (ที่ยังขายอยู่!) ราคา 349 ดอลลาร์ ไล่มายัง iPhone 6s, 7, 8 และ X ที่ระดับสูงสุด
วิดีโอแนะนำตัว iPhone X
Comments
สรุปการสั่งงานแบบปัดล้วนๆของ MeeGo BlackBerry 10 มาเร็วไป5-6ปีสินะ
+1
Nokia N9 มันเวิร์กมาก ๆ ฮะ
Nokia N9 ขนาดเครื่องอายุผ่านมา 6 ปีแล้ว ยังทำงานได้รวดเร็วมากเลยครับ
เพื่อนผมเคยใช้ N9 เพิ่งคุยกันไปก็ยังติดใจในการใช้งานอยู่เลยนะครับ
เสียดาย Nokia ไม่ได้ดันระบบ MeeGo ต่อครับ
ดูดีมากเลยครับ
แล้วมาย้อนดูแอนดรอยสมัยนี้ สเปคล้นๆ แต่ก็ไม่ได้หนีไปจาก Nokia N9 เท่าไหร่
แรม 1Gb CPU SingleCore แต่ MultiTasking แบบโหดมาก ๆ ฮะ
พูดแล้วก็เจ็บใจไม่หาย เจ้า CEO คนนั้น
โครตเทพ CEO เลือกผิดจริงๆ ทั้งที่ winphone ก็ไม่มีแอพพอๆ กัน
ตอนนั้น meego กำลังรันแอพของ Android ได้แล้วนะฮะ ถ้าอีกนิดคงมีสโตร์ที่พอร์ตไฟล์ apk มาแน่ ๆ
ราคาน้องๆ Macbook Air เลยทีเดียว
มีผ่อน 0% 20 เดือนไหม
จะเป็น
iPhone X 10.1
iPhone X 10.2
.
..
...
ด้วยหรือเปล่าน้อ
iPhone X 10.1 Creator Update
ทำไมคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
iPhone X
iPhone X mini
iPhone XA
iPhone XA1
iPhone XZ
iPhone XZs
iPhone XZ Premium
ขาด iPhone X Performance ไปตัวนึงครับ lol
ทีแรกตอนลือไม่ค่อยชอบ ตอนนี้กำเงินรอซื้อละ
เหตุผลที่กำเงินรอซื้อคือ??
ชอบครับ รอเปลืยนiPhoneใหม่มาพอสมควรละ
เวลาดูวิดีโอจอก็แหว่งซ้ายอีก
+1
มันดูตลกมากกว่าจะดูดี
+1 กำลังจะเข้ามาถามพอดี
เข้ามาช่วยหงุดหงิดครับ
แต่ปกติก็ไม่ได้ใช้ iOS อยู่ละ
เห็นด้วยครับ ก็งงว่าคิดยังไงถึงออกแบบมาแบบนี้
จงใจให้แหว่ง มั้ง จะได้เหมือน โลโก้ แอปเปิ้ล แหว่ง ตั้งแต่ต้น
อย่างเห่ยเลยครับ ถ้าตั้งค่าไม่ได้นี่ เอ่อ...
ถ้าจะให้ดีควรทำแถบดำไว้ตรงด้านข้างทั้งสองฝั่งเวลาดูคลิป อย่างนี้ผมถึงจะรับได้นะ
มันจะไปเหมือน Samsung น่ะสิ เดี๋ยวโดนเอาคืน
เลือกได้สองแบบครับ ว่าจะเอาแบบเต็มจอแต่แหว่งซ้าย หรือจะเอาขอบดำด้านข้าง
ดับเบิลแท็บเอาเหมือนเดิม
ข้างหน้าสวยจริง(ไอ้แทบดำตรงนั้นมันก็ทำให้ดูสมดุลดีอยู่อ่ะนะ ยังไงถ้าดูวิดีโอ 16:9 มันก็น่าจะไม่มาบังวิดีโออยู่แล้ว)
แต่ข้างหลังนี่กลายเป็นว่า iPhone8 สวยกว่าซะงั้น(แต่ก็เข้าใจว่าต้องทำกล้องตั้งเพราะที่แนวนอนโดน TrueDepth Camera ยึดไปหมดแล้ว)
จุดน่าคิด:
- ขอบจอมันยังเหลืออยู่เยอะ
- ความสับสนของปุ่ม Power มันใช้หลายหน้าที่ไปไหม?
- ไม่มีสีทองซะงั้น (สีทองใหม่สวยมาก เหมือนเอาทอง+ทองชมพูบวกกันแล้วหาร2)
ทำWallpaperมากันหน้าจอเบิร์นโดยเฉพาะเลยสินะ
ปกติจะโชว์ความ Retina Display แต่รอบนี้ความคมชัดพี่หายไปไหน
ตอนดูวิดีโอก็ไม่Resizeวิดีโอ ดันCropวิดีโอส่วนที่โดนติ่งบังออกไปแทนซะงั้น
ดูหนังกันแบบขอบซ้ายแหว่งกันเลยทีเดียว
คนใช้จะรำคาณเวลาดูวีดีโอแล้วจอแหว่งนี่แหละ แต่คงไม่เป็นไรซื้อมาใช้ต้องทำใจยอมรับ
หน้าจอ OLED เกือบไร้ขอบ
นี่ถ้าไม่มีข่าวหลุดจะว้าวกว่านี้เนอะ.
พยายามมาไกลแต่ยังไปไม่สุด
หรือจะคาดหวังมากเกินไปกับ iPhone ทีี่จะฉลองครบ 10 ปี พอเปิดตัวมาแค่นี้ถึงรู้สึกเฉยๆ
Face ID ถึงมาทีหลังแต่โหดมากจริงๆ
คิดเรื่อง face id กับหนังอาชญกรรม งี้ถ้า apple แชร์ข้อมูลให้ส่วนกลางก็สามารถติดตามได้ง่ายๆเลย
ข้อมูลอยู่ในเครื่องและ Apple ไม่สามารถดึงออกไปได้ครับ
เท่าที่ตามข่าวมา คดีที่ San Bernardino ถ้ามีการไช้ icloud เพื่อ backup ข้อมูล apple สามารถดึงข้อมูลออกไปได้ "เมื่อมีหมายศาล" โดย apple จะทำสำเนาข้อมูลผ่าน icloud แล้ว restore ไปที่มือถือเครื่องอื่น ...
นอกจากนี้เรื่องยังจบโดย fbi สามารถ hack iphone เครื่องดังกล่าวใด้สำเหร็จ และ apple ก็ไม่ขอช่องโหว่ไปอุดด้วย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ข้อมูลลายนิ้วมือ (และใบหน้า ที่อ้างว่าใช้แบบเดียวกัน) ไม่ถูกสำรองขึ้นไปบน iCloud และไม่สามารถดึงออกมาจากชิปที่จัดการเรื่องนี้ได้ครับ แบบเดียวกับพวก TPM
ส่วนเรื่องที่ว่า FBI เจาะเข้าไปได้สำเร็จ อันนั้นมันเรื่องของการถูกเข้าถึงตัวเครื่องได้ครับ ไม่อยู่ในระดับควรวิตกอะไรเพราะถ้าถึงเครื่องได้ทุกอย่างก็ประเมินไปเลยว่าเสีย จะ Microsoft BitLocker, Apple fingerprint อะไรนี่, Samsung Knox หรืออะไรก็เถอะ กระทั่ง TPM เองเค้าก็แกะกันได้ PS3 เองก็ถูกเจาะหลุดได้ง่ายๆ ในเวลาสั้นๆ ด้วยซ้ำเมื่อใช้วิธีที่ถูกต้องและมีเครื่องมือครบ
Face ID ก็โชว์ความแม่นยำกลางงานเลยทีเดียว
โม้ Super Retina นั่นนี่ สุดท้ายก็คือ AMOLED
จอที่อย่าได้ดูอะไรในแนวนอนเลยนะ
ราคา 40000+ นี่คือว้าวที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วสินะ
Face ID ก็โชว์ความแม่นยำกลางงานเลยทีเดียว
โม้ Super Retina นั่นนี่ สุดท้ายก็คือ AMOLED
จอที่อย่าได้ดูอะไรในแนวนอนเลยนะ
ราคา 40000+ นี่คือว้าวที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วสินะ
หญิงอาหรับใช้ไม่ได้สินะ iPhone X
ใช้ Passcode ได้ครับ
Face ID นี่ว้าวนะครับ แต่ในแง่การใช้งานจริงนี่ไม่สะดวกแน่นอน กว่าจะสแกนหน้า กว่าจะเอานิ้วไถ
ยิ่งใช้ apple pay นี่ไม่สะดวกอย่างแรงครับ
2436x1125
ไม่ใช่ 16:9 ใช่มั้ยเนี๊ยยยย
เข้าใจว่าเอฟเฟคสติกเกอร์เป็นของ Snapchat นะครับ แค่กล้องหน้าของ iphone X จะจับการเคลื่อนไหวได้แม่นยำกว่า
แฝด(แท้) Face ID จะแยกออกไหม ?
เกิดอุบัติเหตุหน้าเสียโฉมจะยังปลดล็อกได้หรือเปล่า ?
อุบัติเหตุก็ปลดล็อคปกติแล้วสแกนหน้าใหม่ครับ
แบบ Touch ID หลังเปิด-ปิดเครื่องใหม่ มันจะบังคับให้ใส่รหัสตัวเลขก่อนเสมอ
เดาว่า Face ID ก็น่าจะใช้วิธีการเดียวกัน เป็นออฟชั่นสำรองในกรณีที่ การปลดล็อคแบบแรกไม่ผ่าน
แฟน: ตะเอง มองตาเค้านะ
(เอาไอโฟนเทนจ่อหน้าแล้วปลดล็อค)
จบแล้วชีวิตนี้...
ก็ยังดีกว่าแบบ Touch ID ที่ใส่ลายนิ้วมือไว้เลยครับ :X
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เอารหัส PIN มา จะบอกไม่บอก!!!
ถ้าผบ.ทบ.ตัวจริง แค่ออกคำสั่งว่า "ส่งโทรศัพท์มา!!" ก็ต้องปลดล็อคแล้วส่งเครื่องให้แต่โดยดีครับ
ProMotion 120Hz แบบใน iPad Pro ใส่มาให้ใน X ไหมนะครับ เหมือนจะยังไม่มีใช่ไหม
animation ตอนชาร์ทไร้สายมัน สวยมากกก กก
แต่ไม่คิดว่า Apple จะกล้าเดินทางนี้แฮ กกล้ามากที่ทำจอแบบนี้ แถมกล้องหลังนั่นมันคืออะไรกัน
ตรงกับที่หลุดมาทุกประการ สแกนหน้าทำไมผมว้าวกล้องสร้าง 3d object ของโสหนี้ มากกว่าแฮะ
คงต้องพิสูจน์ต่อไปว่าเฟซไอดีมันเวิร์กจริงก่อน
นั่นสิ เห็นเฮกันใหญ่ ทั้งที่โซนี่ออกมาก่อน
แถมของโซนี่นี่เอ๊กพอร์ทออกไป 3d printer ได้อีกตะหาก แสดงว่าใช้ได้จริงมากกว่าอีก
เจ้าอื่นทำก่อน แต่เจอการตลาด การนำเสนอ ก็แพ้ Apple จากคนนำกลายเป็นคนตามไปกัน
นั้นมันก่อน Steve Jobs จากโลกไป หลังแกไป Apple ก็เปลี่ยนเป็นผู้นำไม่ได้ขึ้นเรื่อยๆนะ
เห็นด้วยครับ หมดยุค steve แล้ว ยุคทิมคือ กำไร เพื่อ ผู้ถือหุ้นครับ
steve ไม่เคยสนว่า ผู้ถือหุ้นจะกำไรเพิ่มหรือลดลง
iPhone มันต่างจาก sony อยู่นะครับ เพราะมัน realtime เลย ไม่รู้เปิดให้ 3rd party app เอาไปใช้ได้แค่ไหนหรือเปล่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มาลงชื่อ ปีนี้ขนาดไม่ค่อยดูภาพที่หลุดๆ มาก่อน เห็นตัวจริงยังรู้สึกธรรมดาเลย
หลุดมาแทบทุกอย่าง ทำให้ตอนเปิดตัวไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่
มีดีแค่ Face ID ที่โดดเด่นนำหน้าเจ้าอื่นหน่อยเพราะไม่มีเจ้าอื่นทำ แต่อันอื่นไม่เฉยๆก็มีเจ้าอื่นทำนานโคตรแล้ว เช่นถ่าย Video แล้วมี ไดโนเสาร์ด้วยเทคโนโลยี AR เป็นต้น
เจ้าอื่นเขาข้ามไป scan ม่านตาแล้วอะครับ
สแกนหน้า มี SS กะอีหลายเจ้าทำนะครับ ฮาาาา
สแกนม่านตาด้วย ไม่รุ้ต้องยกขึ้นมมาระดับไหน ฮาาา
ผมว่าประเด็นที่น่าทึ่ง มันไม่ใช่ว่าสแกนอะไรนะครับ
แต่น่าทึ่งคือ Apple เอามันมาใช้ได้มากกว่าปลดล๊อคเครื่องไงครับ
เอามาทำAnimoji ให้มันแสดงอารมย์ตามหน้าของเราได้ เอามาใช้ร่วมกับกล้องหน้า เพื่อจำลองแสงให้เหมือนกับในสตูดิโอได้เป็นธรรมชาติกว่าการใช้App หรือเร่งแสงจากแอพกล้อง
จริง face recognition ธรรมดาๆ ทำได้นานแล้วครับ แต่เรื่องความปลอดภัย ที่กันเอารูปมาแทนงี้ เห็นมี Microsoft Hello งี้ที่เอา IR Camera มาใช้งาน เพิ่มความปลอดภัย
คือจริงๆ มันก็พอๆ กับ Windows Hello (Intel Realsense camera) เลยแหละครับ แต่ว่าย่อส่วนมาใส่ในมือถือได้
ผมว่า Windows Hello มันดีมากนะ เสียดายมันดันไม่เกิดซะงั้น
Windows Hello มันเป็นแค่ชื่อแพลตฟอร์มการยืนยันตัวแหละครับ จริงๆ มีย่อยอีกหลายอย่าง (คือแบบที่สแกนลายนิ้วมือเครื่อง VAIO ผมที่ออกสมัย Vista พออัป Windows 10 มามันก็กลายเป็น Windows Hello เลย)
ส่วนตัวสแกนหน้านี่ก็แค่ดึงพลังของ Intel Realsense มาใช้อีกที ซึ่งถามว่าเกิดมั้ยผมว่าคนที่มีกล้องที่รองรับก็ใช้กันเยอะแหละนะครับ แต่คือกล้องมันแพงคนก็ไม่ค่อยอยากซื้อเพิ่มกัน
แต่ความผิดจริงๆ น่าจะเป็นคนทำเครื่องพวก laptop/tablet/hybrid ที่ใส่มาไม่เคยเอามาโฆษณานี่สิ กระทั่ง Surface Pro 4 เองก็ยังไม่เอามาชูเป็นจุดขายเลยครับ หรือเพราะเครื่องพวกนั้นมันมี keyboard อยู่แล้วคนเลยไม่ค่อยคิดมากที่จะพิมพ์ลง hardware keyboard ?
ผมใช้SP4อยู่ที่ทำงาน เวลาไปเข้าห้องน้ำก็กดสลีปเครื่อง พอเดินกลับมาเคาะคีบอร์ดไปทีให้เครื่องมันติด เงยหน้ามองจอมันก็ล็อคอินให้เลย ยังไงก็สะดวกกว่ามานั่งพิมพ์รหัสเองนะ
ใช่ครับ ผมก็คิดงั้น แต่นั่นสิ ทำไมเค้าไม่โปรโมทล่ะ The new Surface ผมก็เห็นแค่แว้บเดียวเอง ใจผมยังอยากซื้อ webcam ที่รองรับมาติด desktop เลย
ผมลงทุนสั่ง Fingerprint sensor มาเองไว้ใช้กับ Desktop แต่มันดันสแกน 5 ผ่าน 1 แล้วบังคับให้กรอกพินอยู่ดี (แล้วจะสแกนเพื่ออะไร 555) ครั้นจะไปขุดกล้อง HD-3000 มาใช้ก็พบว่าใช้ไม่ได้เลยไปหาข้อมูลรุ่นที่ใช้ได้ก็พบว่าสเปคขั้นต่ำ(ราคา)โหดมากเลยขอบายใส่พินเหมือนเดิมดีกว่า
แต่เคยลองกับ Laptop ที่มี Fingerprint ติดมากับเครื่องแล้วชอบมากเปิดเร็วปรี๊ด
ไปเจอที่สแกนคุณภาพต่ำสินะครับ เศร้าไป
เรื่องใส่พินนี่เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยชอบที่สุดแล้วครับ คือรู้สึกว่ามองๆ หน่อยก็รู้กันหมดแล้ว - -"
ผมสั่งยี่ห้อ eikon มาจาก amazon ใช้ดีอยู่นะครับ เป็นแบบรูดนิ้ว สแกน 10 ครั้ง โอกาสพลาด 0.5 เพราะรูดนิ้วเร็วไป ไม่ก็นิ้วชิดซ้ายหรือขวามากเกินไป แต่ไม่ต้องอยู่ตรงกลางแปะๆ ก็ได้ ถ้ารู้องศามันก็แทบจะไม่พลาดแล้ว แปะไว้หน้าเคส
ป.ล. รอคีย์บอร์ดจาก MS ไม่รู้จะเข้าไทยเปล่า กับอย่างหนึ่งคือซื้อคีย์บอร์ดที่มี USB เสริม
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
สแกนหน้านี่ Android ทำได้ตั้งแต่เวอร์ชั่น 4.0 แล้วครับ (เปิดตัวเมื่อเกือบ 6 ปีที่แล้ว) แต่จะบอกว่านำหน้าก็ได้มั้งเพราะ Android เองก็ไม่ได้พัฒนาอะไรต่อ
ทำไมผมคิดว่ายอดขาย iPhoneX จะแรงทะลุ iPhone8 ทุกขนาดรวมกัน
ตัวผมเองหลังจากเห็นหน้าตาของ X แล้ว อ่านสเปก 8 ไปก็ไม่เข้าหัวละ
นั่นกล้องหรือไฟจราจร
ไอโฟน 8/8+ หน้าตาเหมือนเดิม
ไอโฟน x มีไอ้เจ้าบากๆข้างบนนั่น
เป็นเหตุผลอย่างดีที่จะใช้ ไอโฟน7+ ต่อไปยาวๆ
แล้วใครจะซื้อไอโฟน 8 ละเนี้ยะ ฟีเจอร์ฆ่ากันขนาดนี้
เอา 3D Face ของ Sony มารวมกับ Face ID ของ Apple ให้ Model ของ Sony แสดงอารมณ์ได้แบบ Emoji ของ Apple ใช้เป็น Option เสริมของ Facetime ก็คงดีนะดูน่าสนุกดี
"ตัวจอภาพเป็น OLED ที่มีอัตราคอนทราสต์สูง และแก้จุดอ่อนของ OLED เรื่องความสว่างและความแม่นยำของสีไปแล้ว"
แต่ไม่ยอมพูดเรื่องจอเบรินนะ คาดว่าคงแก้ไม่ได้
ว้า แบบนี้สาวกคงซื้อใช้ไม่ได้แล้วล่ะ เห็นเกลียดจอ OLED มากๆเลย
อะ แซะกันไป ตัวเองก็เขียนเองว่าก่อนหน้านี้ OLED มีจุดอ่อน 555
Feature Studio light นี้ถือว่างานดี
จริงๆถ้า face id สามารถปลดล็อคได้ทุกมุมของหน้า กับต้องลองดูว่าปลดล็อคตอนมืดๆนี้แม่นแค่ไหนนี้ผมถือว่าโอเคเลยนะครับ
S8 นี ปลดล็อคด้วยหน้าเวลามืดๆไม่ต้องคุยใช้ iris scan ดีกว่าเยอะ
อิงตามที่เห็น กับรูปทรงผมว่า iphone x ผ่าน ด้วยราคาขนาดนี้ก็ไม่ได้หน้าเกลียดอะไร เพราะเป็น premium phone อยู่แล้ว
COBOL !!
Nokia N9 ในมือสั่น
ค่อนข้างผิดหวังที่ตัด touch id ผมไม่สะดวก face id
หน้าจอ home ไม่สวย ตรงหู
ส่วนตัวน่าจะไม่โดน คงไป SE แทน
ยังดูขาดๆ (รุ่นหน้า คงไม่เอา touch id กลับมาแล้วใช่ไหม)
touch id บนจอ หรือบนปุ่ม power ก็ไปอยู่สาย iphone ปกติแทน
ชอบฟีเจอร์กล้องมาก สตูดิโอไปอีกกก
อันนี้เห้นด้วย ทำให้รุ้สึกว่า กล้องมือถือรุ่นอื่นในตลาดดูโบราณไปในทันตา
เห็นด้วยเลย แต่ขอดูตอนใช้จริงก่อน คิดว่าคงใช้วิธีเดียวกับทำหลังเบลอเพราะฉะนั้นมีโอกาสที่จะตัดขอบไม่เนียนสูงมาก
จอแหว่งๆ งี้ผมต้อง dev ยังไงหว่า หรือว่าตอน dev ให้ตัดที่แหว่งออกไป
📸
ส่วนตัวแล้ว Wow กับหลายๆอย่างที่ถูกส่งออกมาในรอบนี้
- Face ID อันนี้เยี่ยมมาก
- Touch ID ที่หายไป ยังทำใจไม่ได้
- จอที่แหว่งไป ... สองมุมนั้นมีความสามารถอะไรเพิ่มเติมบ้าง นอกจากบดบังบางส่วนของการใช้งานเต็มหน้าจอ เช่น ดูหนัง
- กล้องที่พัฒนาการประมวลผล วิเคราะห์ตื้นลึกได้ดีขึ้น
- ราคาที่ดีดตัวเองออกไปสูงกว่าคู่แข่งอีกระดับ กับสิ่งที่เพิ่มขึ้นมา ... อืมมมม กระอักเลือด!!
35000 ราคารับได้กับส่งที่ใส่ให้มา
ผมให้ผ่านครับ ทำได้ดี ขัดใจเล็กน้อยกับเรื่องหู (คือมันสวยนะ แต่ใช้งานจริงยังไม่รู้ ยังไม่ออกตัวแรงแล้วกัน) กับเรื่องพอร์ตชาร์จ คือพี่จะทำให้ laptop พี่ใช้ที่ชาร์จร่วมกับมือถือชาวบ้านเค้าได้แล้ว แต่มือถือตัวเองต้องพกสายชาร์จแยกน่ะนะ?
อย่าลืมนะครับว่า Face ID จริง ๆ แล้วมาจากบริษัท PrimeSense ที่แอปเปิลซื้อกิจการไปเมื่อช่วง 3-4 ปีที่แล้ว และถ้าหากใช้ทฤษฎีสมคบคิดแล้ว ผมคิดว่าแอปเปิลแกวางแผนเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนซื้อกิจการแล้วครับ
และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ต้องใช้ทฤษฎีสมคบคิดเลยเหรอครับ ผมว่ามันคือแผนธุรกิจธรรมดาๆ มากนะครับ อยากได้อะไรก็ซื้อชิ้นส่วนมา ถ้ามีตังค์หน่อยก็ซื้อบริษัทมันมาซะเลย
ผมว่าแอปเปิลวางแผนเรื่องนี้มานานแล้วครับ เผลอ ๆ ก่อน iPhone 5s ออกด้วยซ้ำ ตอนวางแผน แอปเปิลคงคิดว่าถ้าจะใส่ Touch ID แบบปุ่มไปคงไม่ได้แน่ เลยจะหาวิธีใหม่ คือสแกนนิ้วใต้หน้าจอ หรือวิธีอื่น พอเทคโนโลยีไม่ได้ ก็เลยเลือกสแกนหน้า
พอเห็นว่าตัวเองทำไม่ได้ ก็เลยต้องซื้อกิจการมาตั้งแต่ต้นเพื่อทำตรงนี้โดยเฉพาะครับ
ผมคิดแบบนั้นจริง ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คือผมก็มองแบบลุงโฮลี่อ่ะครับ ที่ว่ามานั่นมันก็แค่แผนธุรกิจธรรมดาๆ
Face ID ไม่เข้าท่าเลยจริงๆ เพราะช้ากว่า ลายนิ้วมือ และ Touch ID..รอดูจากการใช้งานจริง
ราคา 999 บาทสหรัฐ+ นี่แพงเกินนะ เมื่อเทียบกับน้องAnd บางอย่างน้องเขาก็ทำมาหมดแล้ว ยิ่ง8 ไม่ต้องพูดมาก ผมยอมรับว่า ผลไม้ทำได้ดีในระบบปฏิบ้ติการ แต่เรื่องราคาและตลาดนี่ ตอนนี้ไม่เข้าท่าแล้ว เอาว่า ตัวใครตัวมัน อยู่ที่ความชอบ
มีข้อกังขาเรื่องแว่นตานิดนึง ถ้าใส่แว่นกันแดดหล่ะ แว่นดำแบบ Polarize หรือไม่เลนส์ฉาบปรอท ซึ่ง Face ID จะปลอดล๊อคได้ก็ต่อเมื่อลืมตา
แล้วถ้าใส่แว่นพวกนี้ Face ID จะมองเห็นลูกตาไหม เพราะในตัวอย่าง Keynote ก็มีแต่แว่นใส
คือผมเองก็สนใจนะ แต่มีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น
วันไหนที่เปิดตัวในไทย คงต้องไปหาเครื่องมาลองเล่นดูก่อน ราคาแบบนี้ไม่ลองก่อนคงไม่กล้าซื้อ แบบว่าซื้อไปแล้วไม่ตอบโจทย์ตัวเองคงเฟลสุดๆ