นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ได้หารือและจับมือกับผู้บริหารของ Baidu ในประเทศจีน เพื่อผลักดันให้สินค้าโอท็อป และสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เผยแพร่และสร้างความรู้จักในประเทศจีนให้มากขึ้น ผ่านทางตลอดออนไลน์
นอกจากนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำลังมีความร่วมมือกับทาง Baidu เพื่อจัดทำแหล่งข้อมูลการท่องเที่ยวของไทยบน Baidu Map ในภาษาอื่นๆ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงเผยแพร่สินค้าจากชุมชนด้วย
ที่มา - ผู้จัดการออนไลน์
Comments
หึ ๆ ผมไม่เอาด้วยคนนึงแน่นอน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Never trust them.
ปล. ไม่เข้าใจว่าทั้งที่จีนเอารัดเอาเปรียบมากกับประเทศไทย แต่ก็ยังดันทุรังหน้ามืดตามัวไปเป็นมิตรกันซะงั้น - -*
Get ready to work from now on.
ระดับ รมต. มาเองเลยนะเนี่ย
รัฐบาลนี้ หอมหวานกับจีนจังเลยนะ
รมต.ไอซี วางนโยบายใช้ไอทีเพื่อพัฒนาสินค้าการเกษตรแบบบูรณาการ
เอาผมไปเป็น รมตไหม
ทำแต่ละอย่างนี่ ไม่ต้องถาม ปรึกษาใคร หรือศึกษาข้อมูลก่อนเลยใช่ไหม ICT ตามมาด้วย ททท. อีก
เอาละครับ ประเทศไทยจงเจริญ
สยอง
ทำไมล่ะครับ ? นี่เอาของเราไปขายเขาไม่ใช่เหรอ ?
ถ้าข่าวเปลี่ยนว่าแวะหาพี่แจ๊ค หม่าคงไม่ตกใจแบบนี้หรอกครับ :)
นั่นสิครับ ถ้าไม่ผ่าน Baidu ก็ต้อง TaoBao ล่ะครับ
กดติดตั้ง Malwarebytes ทันที
ตะเตือนไต...
ผมว่าข่าวนี้เป้นเรื่องดีๆซะอีกนะครับ ถ้าเรามีเว็บค้าขายแบบ alibaba taobao ที่โพสขายแล้วแปลไทยเป็นจีนแล้วส่งตรงไปให้คนจีนที่อยากซื้อของดู แล้วรับเงินมาส่งให้ผู้ขายได้แบบที่ alipay ทำกับ alibaba หรือเพิ่มการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเป็นภาษาจีนให้แพร่หลายชักชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยว ก็ไม่ได้แย่อะไรนี่ครับ (ถึงผมเองจะคิดว่านักท่องเที่ยวจีนอาจจะพกเรื่องแย่ๆมาด้วยก็ตามที)
+1
ขอแปลแบบแปลไทยจริงๆนะ ไม่ใช่เอาตัวแปลภาษาของทางนั้นมาแปลเว็บทั้งเว็บสดๆทั้งดุ้นนะ
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
ถ้ามองแบบไม่อคิกับคำว่า Baidu ผมก็ไม่เห็นมันจะไม่ดีตรงไหนเลยนะ เราเอาของไปขายเขาไม่ใช่หรอ? แล้วเรื่องข้อมูลท่องเที่ยวบน Baidu Map นี่ก็ให้คนจีนที่มาเที่ยวไทยใช้นิ ไม่เห็นว่ามันจะแย่กับเราตรงไหน แต่ถ้าจะจ้างมาให้วางระบบวางโครงสร้างอะไรให้บ้านเรา อันนี้ค่อยว่ากันเรื่องนั้น
+1
กำลังตั้งคำถามในใจว่า Baidu ได้อะไรจากดีลนี้ ผมไม่เชื่อว่าธุรกิจจะใจกว้างถึงขนาดยอมช่วยผลักดันนำสินค้าไทยไปขายหรือแผนที่การท่องเที่ยวไปขายหรอกครับ ของแค่เนี่ยถ้ามันเจ๋งจริงเขามาเอาไปเองได้ ผมสงสัยผลประโยชน์เบื้องหลังการเจรจาครับ อยากรู้ว่าไทยเสียอะไรหรือเปล่า...
ถ้าเกิดเว็บการค้าไทยจีน เขาก็ได้ค่าส่วย/ธรรมเนียมการค้าขาย ถ้าคนนิยมใช้แผนที่ก็ได้ข้อมูลส่วนบุคคลค่าโฆษณาหรือเก็บค่าบริการกับเว็บที่เอาฐานข้อมูลแผนที่ไปใช้งานแบบกูเกิลไงครับได้ความร่วมมือกับทางการไทยก็ได้ข้อมูลเชิงลึกในแผนที่มาฟรีๆอีก
หรือ Baidu กำลังหาช่องทางมาลุย ecommerce ในไทย
ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันว่า Baidu ปูทางกับรัฐบาลไทยโดยยอมเสนอว่าจะนำสินค้าไทยบางอย่างไปขายให้ที่จีนก่อน(ขายจริงหรือเปล่า หรือขายมากน้อยแค่ไหนไม่รู้) เพื่อแลกกับเงื่อนไขบางอย่างในอนาคต เช่น รัฐต้องยอมนำระบบ Baidu มาใช้ในระบบราชการ etc (ปล ผมอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ แต่ขออย่าให้เป็นอย่างทีคิดเลย)
ผมก็คืดอย่างนั้นครับ ขนาดที่เมื่อก่อนต้องจ้างคนรีวิว Baidu ออก TV กันเลยทีเดียวเพื่อเจาะไทยให้ได้ แต่ด้วยโปรแกรมที่ฉ้อฉลและห่วยแตก เลยไม่สำเร็จ ตอนนี้เจาะตลาดผู้บริโภคตรงๆ ไม่ได้แล้วเลยหันหน้าไปร่วมมือกับรัฐโดยอ้างถึงประโยชน์ที่ไทยจะได้รับแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเล่เหลี่ยม Baidu ออกจะแพรวพราวสุดท้ายไทยอาจเสียเปรียบ
+1000
งูก็คืองูครับ
+10000
คนส่วนมากมองแต่ข้อดี ไม่มองข้อเสียในอนาคตและสิ่งที่ไปตู้เคยทำไว้
พอปัญหาเกิดไม่เห็นพวกไหนออกมากล่าวความรับผิดชอบเลยซักคน
ถ้าเป็นช่องทางให้กับผู้ประกอบการได้ โดยที่ไม่ต้องเสียอะไร หรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าช่องทางอื่นแต่เข้าถึงคนได้เยอะกว่า ผมว่าก็น่าสนใจดีนะครับ
ผมคิดอะไรตื้นไปหรือเปล่าเนี่ย ดันมองเห็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย หรือข้อเสียเพราะเอาของไทยไปขายในจีน? งง...
การขายตรงออนไลน์เองคงไม่ง่ายเพราะเงื่อนไขการค้าในจีนเยอะ อย่างน้อยต้องผ่านบริษัทตัวแทนจีนซักราย ให้เขาฟันหัวคิวก่อน
คงออกแนว Alibaba มากกว่า Aliexpress ไว้แนะนำสินค้าให้ ตัวแทนทางการค้ามาเจรจามากกว่า
และอาจเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไม กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพานิชย์ ict หรือผู้เกี่ยวข้อง ไม่ร่วมมือกันทำเว็บขายของเอง
โดนสวนกลับเละแน่ ๆ
"เผยแพร่และสร้างความรู้จักในประเทศจีนให้มากขึ้น"
เสร็จแล้ว OTOP เราก็โดนก๊อป หรือเปล่าครับ
OTOP นี่ไทยคิดเหรอครับ ผมเข้าใจว่าแนวคิดมาจากญี่ปุ่นตลอดเลย
ผมว่าไอเดีย OTOP ของบ้านเราก็คงได้มาจากญี่ปุ่นครับ แต่ OTOP ไทยกับญีปุ่นนี่ยังมีข้อแตกต่างกันเยอะอยู่นะครับ
เอาอย่างที่ชัดเจนที่สุดที่ผมพอจะมองเห็น คือ การที่สินค้า OTOP ของญีปุ่นจะไม่มีการจำหน่ายนอกเขตพื้นที่ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนที่อยากได้สินค้าจริงๆ ต้องเดินทางมาที่ในเขตพื้นที่นั้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ไปในตัว (ประมาณ area exclusive item) ข้อดีอีกอย่างก็คือ รายได้กระจายเข้าท้องถี่นโดยรวมแทนที่จะเข้าผู้ผลิตหรือนายทุนรายใดรายหนึ่ง
แต่สินค้า OTOP บ้านเราเห็นขายกันทั่วประเทศ เผลอๆ ยังมีส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งคนในท้องถิ่นก็คงได้ประโยชน์ในเรื่องการจ้างงาน แต่สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็หนีไม่พ้นนายทุน
ผมว่าเค้าหมายถึงก็อปตัวสินค้านะครับไม่ใช่วิธี
กลัวไง
กลัวไปทำอะไรแย่ๆ แล้วมันจะเสียมาถึงแบรนด์สินค้า เสียมาถีงชื่อประเทศ