ไมโครซอฟท์เปิดตัวแว่นสามมิติ HoloLens ไปเมื่อต้นปี วันนี้ที่งาน Build 2015 บริษัทนำผลิตภัณฑ์ของจริงมาเดโมให้ดูบนเวทีแล้ว
ข้อมูลของ HoloLens ที่ประกาศเพิ่มเติมคือมันเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานได้เองอย่างอิสระ ไม่ต้องต่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนหรือพีซี ไม่ต้องมีสาย มีแบตเตอรี่ในตัว และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ตรวจความเคลื่อนไหวของศีรษะ (head tracking) แบบเดียวกับแว่น VR หลายตัวในท้องตลาด
วิดีโอแนะนำข้อมูลของแว่น HoloLens
เดโมที่ไมโครซอฟท์นำมาโชว์มีทั้งหมด 3 ชุด เริ่มจากชุดแรกเป็นการเดโมความสามารถของ HoloLens
จอภาพด้านซ้ายแสดงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนเวที นั่นคือเจ้าหน้าที่ของไมโครซอฟท์ใส่แว่น HoloLens ยืนอยู่ที่ฉากบนเวที ส่วนด้านขวาเป็นสิ่งที่ผู้ส่วมใส่ HoloLens มองเห็น
สิ่งที่นำมาแสดงบน HoloLens ได้ มีทั้งแอพบน Windows 10 ตามปกติ (แสดงเป็นจอภาพสี่เหลี่ยม) และวัตถุสามมิติเหมือนของจริง
หน้าจอแอพสามารถขยายขนาดได้ตามต้องการ สามารถสั่งไปแปะติดค้างไว้บนผนังได้ และสามารถให้จอลอยตามตัวเราไปขณะเดินได้ด้วย
เดโมชุดที่สองแสดงการใช้ HoloLens กับการเรียนการสอนสาขาแพทย์ศาสตร์ สามารถใช้ HoloLens จำลองโมเดลของอวัยวะมนุษย์ได้
ตัวอย่างการสาธิตบนเวที ผู้ใส่แว่น HoloLens กับฉากเปล่าๆ
สิ่งที่ผู้ใส่แว่นมองเห็น
เดโมชุดที่สาม ใช้ HoloLens ร่วมกับหุ่นยนต์ เราสามารถสร้างอินเทอร์เฟซเพื่อควบคุมหุ่นยนต์ได้จาก HoloLens
จุดที่น่าสนใจคือ เราสามารถใช้ HoloLens ช่วยสแกนสภาพแวดล้อม แล้วส่งข้อมูลให้หุ่นยนต์ได้ นั่นแปลว่าหุ่นยนต์ของเราไม่จำเป็นต้องมีระบบเซ็นเซอร์ซับซ้อน แต่ใช้วิธีดึงข้อมูลจาก HoloLens แทน เพื่อให้เดินหลบสิ่งกีดขวางได้ตามที่เราต้องการ
เดโมที่ไมโครซอฟท์มีเป็นวิดีโอมาโชว์ คือการใช้งานกับธุรกิจการก่อสร้าง เพื่อให้ก่อสร้างอาคารได้ตรงกับแบบมากขึ้น
พาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมพัฒนาแอพบน HoloLens ร่วมกับไมโครซอฟท์
Comments
ราคาคงไม่ต้องพูดถึง
นี่ถ้าเป็นอีกค่าย แค่เห็นยี่ห้อ ก็ไม่มีใครสนราคาแล้ว 5555
ที่ผมสงสัยคือเอา atom ไปไว้รอบ ๆ หัวนี่เวลามันทำงานหนัก ๆ มันจะร้อนขนาดไหน
เห็นมีที่คาดชั้นในด้วย น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้
แรงบันดาลใจจาก Nevgear ใน SAO ปะเนี้ย
ผมว่าน่าจะมาจาก Dennou Coil มากกว่านะฮะ
ฮืม การ์ตูนดีที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ( เพราะดันมาพร้อมกับกุเรนลากัน )
ขอแปะซ้ำอีกที
"In 2026, eleven years after the introduction of internet-connected augmented reality eyeglasses and visors, Yūko Okonogi moves with her family to the city of Daikoku,...."
2026-11 = 2015
สะพรึงเลย......
http://en.wikipedia.org/wiki/Denn%C5%8D_Coil
ผมนี่ ลลล link start !! เลยทีเดียว
ทำจริงๆ ด้วย สุดยอด
เฮ้ย พัฒนาเร็วมาก มาทีหลังแต่แซงหน้าคนอื่นซะงั้น
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เห็น Partner แล้วผมนี่ลุกขึ้นยืนเลยครับ
คือมันเป็นที่สุดแล้ว(ในสายตาผม)ของเทคโนโลยีที่ตามหามานาน
ผมว่าตัวเดโมที่ 3 มันยังพัฒนาได้อีกคือ ตัวหุ่น(ที่ไม่ใช่ VR) อาจจะเป็นแบบหุ่นยนต์ทำความสะอาด แต่ถ้าทำแบบหุ่นใน Star Wars นี้กราบเลย
แต่ผมสงสัยอย่างหนึ่ง เวลาจะวีดีโอคอลกันนี้ จะเอากล้องหน้าถ่ายจากไหน? เพราะปกติวีดีโอคอลในโทรศัพท์ก็ต้องผ่านกล้องหน้าอยู่แล้ว แต่นี้ยังนึกไม่ออกว่าจะมาแนวไหน กล้องจะลอยอากาศหรอ? กล้องจะทะลุออกมาจากแว่นหรอ? บลาๆๆๆ
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
คงทำได้แค่ดูอีกฝ่าย ไม่ก็ดูบรรยากาศรอบๆ 555
ปรบมือให้เลยครับ
nasa jpl เข้ามาร่วมพัฒนาด้วย สงสัยมองเห็นประโยชน์สำหรับการใช้ติดต่อสื่อสารกับนักบินในอวกาศ
เห็นมี LEGENDARY ผมนี้นึกถึงโนแลนตอนใส่มันขึ้นมาเลยทีเดียว
สงสัยว่าตาจะ focus วัตถุที่สร้างมายังไง คือถ้าจำสมัย glass ได้ ก็มีตัวอย่างอะไรแบบนี้เหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงเวลาใช้งาน ตาต้อง focus อย่างใดอย่างนึงว่าจะเป็นที่ glass หรือภาพจริงข้างหลัง หรือว่าตัวนี้จะให้คนมองที่จอภาพอย่างเดียวแบบพวก VR เลยรึเปล่า
ผมว่ามันสร้าง skeleton จำลองขึ้นมาจากมือของเรามากกว่า ถ้าดูวีดีโอ จะเห็นชุดกล้องอยู่ ผมว่ามันมาจาก kinect นั่นแหล่ะ ดังนั้นหลักการไม่น่าจะบังคับด้วยตา แต่ดูจากวัถตุที่เคลื่อนที่ผ่านชุดกล้อง แล้วควบคุมด้วย gesture
นึกง่ายๆ กล้องจับที่มือของผู้ใช้ ระบบจำลองโครงสร้างมือเป็น skeleton แล้วดูมุมการเคลื่อนที่ของมือ เทียบกับ gesture ที่บันทึกรูปแบบการควบคุมไว้ ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้ามีมือมากกว่า 1 มือ ยื่นเข้ามาพร้อมกัน ระบบจะ detect อันไหน แต่ผมว่าถ้าใช้หลัก skeleton ระบบน่าจำลององศาของมือที่เป็นไปได้ เมื่อเทียบกับจุดติดตั้งอุปกรณ์ ดังนั้นปัญหามีมือซ้อน ก็ไม่น่าจะใช่ประเด็น
ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องการควบคุมนะครับ ผมหมายถึงการที่ผู้ใช้จะมองเห็นอะไรผ่านแว่นนั้นต่างหาก คือตอนเดโมผู้ชมก็จะเห็นผ่านกล้องอีกทีนึงบน screen ก็ดูไม่มีปัญหา แต่ถ้าเคยใช้ google glass จะพบว่าปัญหาใหญ่คือ เวลาเรามองที่จอของ glass เราต้อง focus มามองใกล้ ๆ ถ้าเราจะมองภาพจริง ก็ต้องบังคับตาให้ focus ผ่านหน้าจอไป คือเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเห็นภาพทั้งจาก จอของ glass แล้วภาพจริง อย่างชัดเจนในเวลาเดียวกันได้ครับ
เจ้านี่คงไม่มีปัญหากับสังคมเรื่องการใช้งานขณะขับรถหรือความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น (เหมือนคราว Google Glass) เพราะมันคงไม่สนุกเลยที่จะใส่ออกนอกบ้าน
ถ้ามีปัญหาจะหนักกว่าเพราะแว่นต้องใช้กล้องแสกนสภาพแวดล้อมตลอดเวลา แต่คงหมดกังวลว่าคนใส่จะถ่ายไหมเพราะมันถ่ายแน่ๆ แต่ก็อย่างว่าผมคงไม่แบกแว่นใหญ่ขนาดนี้เดินไปมา ถ้าเอามาใช้เฉพาะที่เหมือนแท็บเล็ตขึ้นมาก็เวิร์คอยู่
คล้ายๆ MINI Augmented Vision glasses แต่ของ MINI ดูแฟชั่นกว่า
ถ้ามันสามารถสั่งหุ่นยนต์ได้แบบนี้ ผมนี่รอแอพจากประเทศญี่ปุ่นเลยครับ
แบบนี้ใครก็เป็น ironman ได้เลย
เชื่อมต่อกับ Cortana นี่ แจ่มเลย
Friday
น่าจะมีค่าย illusion ร่วมพัฒนาด้วยนะครับ อิอิ
ชื่อคุ้นๆนะที่ทำเกมใช่ไหม
แน่ เกมไรหยอ :D
ສະບາຍດີ :)
ถ้าจับยัดลงใน windows phone ได้ iPhone มีหนาว
ไมโครซอฟท์พยายามตีโจทย์และพยายามก้าวข้ามข้อจำกัดไปได้ด้วยการวิเคราะห์ที่แยบยลจริงๆ แต่อุปกรณ์ตัวนี้ก็คงถูกวางอยู่คนละตลาดกับพวกแว่น VR นะครับ
รอดูหุ่นยนต์เมียจากประเทศญี่ปุ่นแล้วกัน เห็นพยายามทำมาหลายปีแล้ว
ถ้าเป็นจากค่าย Illusion ละครับ แหม่
ສະບາຍດີ :)
อยากได้วิดีโอที่แสดงขั้นตอนการจำลองทั้งหมดเลยได้ไหมครับ (ไม่เอาเวอร์ชันคนมาอธิบาย) แนะนำลิงก์หน่อยครับ
ช่วงท้ายๆ
http://channel9.msdn.com/Events/Build/2015/KEY01
ถ้าครอบผู้คนได้ด้วยนี่จะสุดยอดเลยนะครับ เอาไปเล่นคอสกันสบายเลย ใส่แล้วโมเดลขยับตามได้(เพิ่มแขน เพิ่มหาง?) เป็นงานหน้ากากที่ล้ำโพดๆ
หรือเอาไปทำเป็นเกมยิงกันในสวนสนุกก็ได้ อันนี้ก็สุดยอด
ใส่ไปจิ้น
ยังคงรอความหวังจากค่าย Illusion สินะ:P
แล้วก็ติดไวรัส คนที่เดินอยู่ข้างหน้าหันมาหน้าเละพุ่งเข้าใส่
เชื่อว่าคนร้อยละเก้าสิบกว่าต้องตอบโต้กันบ้างแหละ
กำลังมอง screen คุย skype ผ่านแว่นตา อัฉริยะ อยู่ แล้วเดินตกท่อ หรือ รถชน ทำงัย
คำถามนี้คงคลัายๆ กับคนก้มหน้าเดินกดมือถือบนทางเท้าหรือกดมือถือขณะขับรถ อันนี้ผิดที่ผู้ใช้ครับ ใช้ไม่ถูกที่ถูกเวลา
เอาแค่อ่านหนังสือธรรมดาๆ เป็นเล่มๆ แล้วเดินชนคนอื่นก็พอครับ =_= คำถามแบบว่า ...