Tags:
Node Thumbnail

Soma Somasegar ผู้บริหารฝ่ายนักพัฒนาของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับ ZDNet ถึงเบื้องหลังการประกาศเปิดโค้ด .NET บางส่วนเป็นโอเพนซอร์ส ว่าไมโครซอฟท์เตรียมการเรื่องนี้มา 3 ปีแล้ว

เขาบอกว่าผู้บริหารของไมโครซอฟท์ว่ายังสนับสนุนโอเพนซอร์สได้ไม่ดีเท่าที่ควร และมีการถกเถียงกันภายในบริษัทว่าตกลงแล้วควรเลือกเปิดโค้ดของ .NET ที่ระดับไหนบ้าง ทั้งการเปิดโค้ดเฟรมเวิร์คระดับบนๆ แล้วไล่ลงมายังเทคโนโลยีฐาน หรือเปิดเลยทั้งหมดเท่าที่จะทำได้

ไมโครซอฟท์ได้รับคำปรึกษาจาก Xamarin ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ตอนแรกไมโครซอฟท์ไม่ไว้ใจ Xamarin มากนักเพราะมองว่าการรัน .NET บน iOS/Android ถือเป็นการสนับสนุนแพลตฟอร์มคู่แข่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไมโครซอฟท์ก็เข้าใจแนวทางของ Xamarin มากขึ้น (ถึงขนาดมีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะซื้อ Xamarin ด้วยซ้ำแต่ก็ยังไม่เกิดขึ้น)

Soma บอกว่า Xamarin ไม่ได้บอกให้ไมโครซอฟท์โอเพนซอร์ส .NET แต่แนะนำให้ดึง "ชุมชน" เข้าร่วมด้วยให้มากๆ สุดท้ายแล้วไมโครซอฟท์จึงตั้ง .NET Foundation ขึ้นมาเป็นองค์กรแยกต่างหากสำหรับกำกับดูแลกระบวนการโอเพนซอร์สทั้งหมด

ส่วนกรณีของ Roslyn แพลตฟอร์มคอมไพเลอร์ตัวใหม่ของ .NET นั้น Soma ปรึกษากับ Anders Hejlsberg ผู้นำโครงการ Roslyn (และเป็นคนสร้างภาษา Delphi/C#/TypeScript) ซึ่งทั้งสองเห็นตรงกันว่าควรโอเพนซอร์ส Roslyn ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2013

แผนการโอเพนซอร์ส .NET ได้รับการสนับสนุนจาก Satya Nadella (ที่ตอนนั้นคุมฝ่าย Server and Tools ยังไม่เป็นซีอีโอ) เป็นอย่างดี โดยเขาบอกว่าถ้าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับนักพัฒนา ขอให้ทำเลย

ปัจจุบันไมโครซอฟท์ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเปิดซอร์สโค้ดของ .NET ส่วนที่เหลือหรือไม่ (เช่น Base Class Libraries (BCL) และ Common Language Runtime (CLR)) แต่ไมโครซอฟท์ก็บอกว่าจะค่อยๆ เพิ่มโครงการโอเพนซอร์สอย่างช้าๆ ทีละขั้น และยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งแพลตฟอร์ม .NET อย่างแน่นอน

ที่มา - ZDNet

Get latest news from Blognone