Tags:
Node Thumbnail

เมื่อไม่กี่วันก่อนเว็บไซต์ The Atlantic เพิ่งลงพิมพ์เนื้อหาบางส่วนของหนังสือ Dogfight: How Apple and Google Went to War and Started a Revolution ที่เขียนโดย Fred Vogelstein ไป เนื้อหาจะพูดรวมๆ ถึงเบื้องหลังของ Android ที่มีต่อคู่แข่งอย่าง Windows Mobile และ iPhone เสียส่วนใหญ่ ล่าสุด Google Operating System เว็บไซต์ที่มีข่าวหลุดของกูเกิลอยู่เป็นประจำเพิ่งออกมาพูดถึงหนังสือเล่มนี้บ้าง โดยเน้นเหตุการณ์ภายในตัวกูเกิลเองว่าแต่เดิมแล้ว Android มีความสำคัญแค่ไหน และใครมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้บ้าง

เนื้อหาที่พูดถึงเริ่มต้นราวปี 2007-2008 หลังจากที่ทีม Android เปลี่ยนเป้าหมายจากเดิมที่จะแข่งกับ Windows Mobile ไปสู้กับ iPhone แทน ในตอนนั้นโปรเจคพัฒนา Android มีความสำคัญน้อยกว่าดีลร่วมกับแอปเปิลอย่างมาก (น่าจะหมายถึงระบบค้นหา แผนที่ และ YouTube) ซึ่งกว่ากูเกิลจะให้ความสำคัญกับ Android มากขึ้นก็ปาเข้าไปปี 2009-2010 ช่วงที่เปิดตัว Mototola Droid และ Nexus One แล้ว

ในโพสต์ดังกล่าวยังยกคำพูดของผู้บริหารระดับสูงของกูเกิลหลายคนที่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อย่าง Vic Gundotra (ปัจจุบันคุม Google+) เคยล้อมวงคุยกับทีม Android (ซึ่งมีคนนำเป็น Andy Rubin) เพื่อขอให้ทีม Android โน้มน้าวให้เขาเห็นว่าทำไมกูเกิลถึงต้องเชื่อมั่นใน Android ที่อาจจะเป็นชนวนทำให้กูเกิลบาดหมางกับแอปเปิลซึ่งเป็นคู่ค้ารายสำคัญในขณะนั้น แน่นอนว่าทีมอุปกรณ์พกพาของกูเกิลซึ่งเป็นฝ่ายที่ดีลกับแอปเปิลเกลียดทีม Android มาก เช่นเดียวกับ Gundotra ก็เคยเกลียดทีม Android ในตอนแรกเช่นกัน

ในครั้งนั้นเพื่อนของ Andy Rubin บอกว่านั่นเป็นการประชุมที่หนักหน่วงสำหรับเขามาก เขาเกือบจะเลิกทำไปแล้วด้วยซ้ำ แม้จะเข้าใจว่า Gundotra สื่อถึงอะไร แต่ทีม Android ก็แทบไม่ได้รับการสนับสนุนจากกูเกิล ช่วงนั้น Rubin ถึงกับเขียนบนกระดานของออฟฟิซไว้ว่า "STEVE JOBS STOLE MY LUNCH MONEY" เลยทีเดียว

ผู้บริหารอีกราย และซีอีโอในขณะนั้นอย่าง Eric Schmidt ยังบอกว่าถ้าเขาได้ไปคุยกับ Steve Jobs เรื่อง Android (ที่ Jobs โกรธนักหนา) เขาจะยืนยันกับ Jobs ให้ชัดเจนไปว่ากูเกิลให้ความสำคัญกับ iPhone ก่อนเสมอ และบอกกับ Rubin ในปี 2011 ว่าอาจมีแค่เขาที่เข้าใจความสำคัญของ Android แต่คนที่เหลือของกูเกิลนั้นไม่ และกูเกิลเองก็ยังยุ่งอยู่กับงานอื่นๆ อยู่อีก โชคดีของ Rubin ที่ Schmidt มากลับคำในภายหลังจากที่ทำความเข้าใจร่วมกันกับสองผู้ก่อตั้ง (Larry Page และ Sergey Brin) และเข้าใจว่า Android มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แค่ไหน แผนการหลังจากนั้นจึงทำกันอย่างรวดเร็ว เมื่อคู่แข่งเดินเกมพลาด ทางกูเกิลจะส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ถูกที่ถูกเวลา และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Android จากมุมมองข้างในกูเกิลเองครับ

ที่มา - Google Operating System

Get latest news from Blognone

Comments

By: cartier
iPhoneAndroid
on 23 December 2013 - 21:04 #667141
cartier's picture

ดีแล้วครับที่​ Rubin ยังสู้อยู่​ จะได้เห็นการแข่งขัน​ ทำให้เทคโนโลยี​มันก้าวไปไวมาก
ดีกว่าให้แอปเปิล​ครองตลาด​ อาจจะไม่เกิดเทคโนโลยี​ใหม่ๆกว่านี่ก็เป็นได้​
ถึงจะไม่ได้กินข้าวเที่ยงก็เหอะ​ T_T

By: paween_a
Android
on 24 December 2013 - 12:23 #667255 Reply to:667141
paween_a's picture

ทำไมเขาเขียนว่าขโมยเงินค่าอาหารกลางวันล่ะครับ ทำงานจนไม่ได้ออกไปกินก็ไม่เสียตัง น่าจะหายถึง Jobs ช่วยประหยัดเงินค่าอาหารกลางวันไม่ใช่หรือ หรือเป็นเพราะว่า Google บริการอาหารฟรี เขาเลยขาดทุน?

By: cartier
iPhoneAndroid
on 24 December 2013 - 13:26 #667262 Reply to:667255
cartier's picture

ไม่มีตังจะกิน​ กับมีตังแต่ไม่ได้ไปกิน​ มันก็ต่างกันอยู่นะครับ​

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 23 December 2013 - 21:49 #667148

"ที่อาจจะเป็นฉนวนทำให้กูเกิลบาดหมางกับแอปเปิลซึ่งเป็นคู่ค้ารายสำคัญในขณะนั้น"

"ชนวน" ครับ


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 23 December 2013 - 22:32 #667158 Reply to:667148
panurat2000's picture

ในครั้งนั้นเพื่อนของ Andy Rubin บอกว่านั้่นเป็นการประชุมที่หนักหน่วงสำหรับเขามาก

บอกว่านั้่น => บอกว่านั่น

ทำความเข้าใจร่วมกันกับสองผู้ก่อตั้ง (Larry Page และ Sergrey Brin)

Sergrey Brin => Sergey Brin

แผนการณ์หลังจากนั้นจึงทำกันอย่างรวดเร็ว

แผนการณ์ => แผนการ

By: komkit0710
Windows PhoneSUSEWindows
on 23 December 2013 - 21:58 #667151

น้ำตาจะไหล เข้าใจโปรเจคลูกเมียน้อย T_T

By: btoy
ContributorAndroidWindows
on 23 December 2013 - 22:23 #667155
btoy's picture

เบื้องหลังนี่มัน ทุกโปรเจคเลย


..: เรื่อยไป

By: xnone
AndroidWindows
on 23 December 2013 - 22:45 #667163

แอนดรอยเคยเกือบเป็นหมัน
What if...... แอนดรอยไม่เกิด Microsoft จะซื้อโนเกียหรือเปล่าครับ?

By: TakeshiBoy on 23 December 2013 - 23:52 #667184 Reply to:667163
TakeshiBoy's picture

The butterfly effect

By: sp on 24 December 2013 - 08:44 #667214 Reply to:667163

อาจเลิกทำ Windows Phone ไปเลย

By: gooGof
ContributorAndroidIn Love
on 23 December 2013 - 22:54 #667169

เกือบไปละ

By: kadeep
AndroidUbuntuWindows
on 23 December 2013 - 23:15 #667173
kadeep's picture

เนื้อหาตอนท้ายๆ รวบรัดเกินไปครับ อาจหลายรอบก็ยังงง

ตรง "และบอกกับ Rubin ในปี 2011 ว่าอาจมีแค่เขาที่เข้าใจความสำคัญของ Android"
ใครคือ เขา รูบิน หรือ ชมิท

By: neonicus
Android
on 24 December 2013 - 01:02 #667191 Reply to:667173

ไปอ่านลิงค์ต้นทาง เขียนชื่อไว้เลยครับว่าหมายถึง Rubin ครับ

By: JomMarn
iPhoneAndroid
on 24 December 2013 - 02:22 #667199 Reply to:667173
JomMarn's picture

จากที่ว่า "โชคดีของ Rubin ที่ Schmidt มากลับคำในภายหลัง" แสดงว่าหมายถึงรูบินนั่นแหละครับ ซึ่งถ้าเป็นตามนี้จริงๆ นี่ ถือว่าแรงพอสมควรเลยครับ

By: JomMarn
iPhoneAndroid
on 24 December 2013 - 02:42 #667201
JomMarn's picture

ลองอ่านต้นทางข่าวมาด้วยอีกที จริงๆ ที่ว่า "เขาเกือบจะเลิกทำไปแล้วด้วยซ้ำ" จากต้นฉบับเขียนว่าจะลาออกจากกูเกิ้ลเพราะเรื่องนี้เลยนะครับ ถ้าเขียนแบบนี้ไปเลยจะเข้าใจตรงกว่าอีกหน่อยว่าไม่ใช่แค่เลิกทำแอนดรอยด์

แล้วก็ตรง "และบอกกับ Rubin ในปี 2011 ว่าอาจมีแค่เขาที่เข้าใจความสำคัญของ Android แต่คนที่เหลือของกูเกิลนั้นไม่" ผมอ่านเข้าใจว่าเขาบอกกับ Fred Vogelstein นะครับ ในความหมายว่าเขาคิดผิดไปแล้วมีแต่รูบินที่เข้าใจความสำคัญอยู่คนเดียวซึ่งออกแนวเป็นคำชม (ถ้าดูจากปีว่าเป็น 2011 ก็จะหมายถึงชมย้อนหลังไป) แต่ถ้าไปบอกกับรูบินจะออกไปในแนวว่าดูถูกรูบินเลยนะครับว่าเอ็งกระจอกไรงี้

ยังไงถ้านี่ผมอ่านเข้าใจผิดไปเองก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ :)

By: 0FFiiz
Windows PhoneAndroidWindows
on 24 December 2013 - 10:39 #667230
0FFiiz's picture

สร้างหนังได้เลยนะเนี่ย

By: pinpan0304
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 24 December 2013 - 15:27 #667299

ถ้าพี่แกหยุดไปตอนนั้น ตอนนี้เทคโนโลยีวงการมือถือคงหยุดอยู่ที่ iOS3

By: jinxplay
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 25 December 2013 - 15:35 #667571
jinxplay's picture

ผมว่าน่าชื่นชมนะครับ ที่ Schmidt และผู้บริหารคนอื่นๆ ยอมฟังและพยายามเข้าใจ ความคิดเห็นของ Rubin (ซึ่งเป็นวิศวกร...มั้ง?)