By: mk 
on 28 November 2013 - 09:00
Tags:
Topics:
Futuremark เจ้าของโปรแกรมเบนช์มาร์คชื่อดัง 3DMark ถอดผลเบนช์มาร์คของมือถือหลายรุ่นออกจากฐานข้อมูล ด้วยเหตุผลว่ามีพฤติกรรมของคะแนนที่น่าสงสัยว่าจะละเมิดกฎการเบนช์มาร์ค (ไม่ระบุละเอียดว่ากฎข้อไหน แต่ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการโกงเบนช์มาร์คที่เป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้)
มือถือที่ถูกถอด (delisted) จะไม่มีคะแนนการรันเบนช์มาร์คอีกต่อไป โดยมือถือที่เข้าข่ายมีทั้ง HTC One, HTC One Mini, Galaxy Note 10.1 (2014), Galaxy Note 3 (Exynos/Snapdragon)
การถอดมือถือระดับเรือธงชุดนี้ออกไปจากฐานข้อมูล ทำให้ตอนนี้มือถือที่ได้คะแนนเบนช์มาร์คสูงสุดคือ Galaxy Round (ที่สเปกเท่ากับ Note 3) แทน
ที่มา - Futuremark, HotHardware
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
Samsung นี่โกงเรื่องนี้ผลการทดสอบในรีวิวต่างๆ มานานแล้วหนิ HTC ... เหมือนจะดิ้นให้ตัวเองอยู่รอด เหงิบ
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า มีอะไรที่ Samsung แอบซ่อนไว้อีกนะ...
แก้ไม่เป็นเลยต้องถอดสินะ
มันก็น่าจะพอแก้ได้นะครับ แต่มันอาจจะวุ่ยวายแล้วก็ไม่ควรทำมั้ง
คงเหมือนคนดังไปกินข้าวอ่ะ เป็นคนดังปุ๊บได้กุ้งเพิ่ม 20% อาจจะมองได้ว่าไม่แฟร์สำหรับคนอื่น จะปลอมตัวไปกินก็ไม่สะดวก
จากที่ว่า Galaxy Round (ที่สเปกเท่ากับ Note 3) งั้นถ้ารวม note 3 ด้วยก็คงจะพอๆกัน
อ้าว แต่ทำไม ไม่ใช่ Apple ละ คะแนนน่าจะสูงนะ เป็น 64 bit น่าจะประมวลผลเร็วกว่านะ
64 บิต ไม่ได้แปลว่าจะประมวลผลเร็วกว่า 32 บิตครับ
Dream high, work hard.
มันจะไปมี Apple ได้ยังไง เขาเอาไว้ทดสอบ Android ไม่น่าถาม
ทดสอบทุก OS นะครับ ที่เค้าพูดหมายถึงทำไมคะแนนสูงสุดไม่ใช่ Apple
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แล้ว iphone กับ ipad ที่อยู่ข้างล่างนิดนึงมันอาไร้
แป่ว
ติ่งแฟนบอยมาเองเลย
โปรแกรมนี้ทดสอบหมดเลยครับ เทียบได้ทุกระบบ pc ios wp8 android มีหมดครับ
โปรดศึกษาให้ดีก่อนออกตัวครับ
64 bit ไม่ใช่ทุกอย่าง และการทดสอบเค้ารวมหลายๆ ด้าน iPhone cpu แค่ 2 core และ clock 1.3 GHz นะครับ เทียบความแรงแล้วแม้ไม่สูงสุดแต่ก็ไม่เบาเลย แต่จาก 64 bit รึเปล่านี่ไม่รู้นะครับ ไม่รู้ว่าเค้า optimize โปรแกรมทดสอบสำหรับ 64 bit แล้วหรือยัง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ในข่าวก่อนๆ หลายคนเถียงว่าก็เป็นการใช้ฮาร์ดแวร์เต็มประสิทธิภาพ จะเรียกว่าโกงได้ยังไง
ตอนนี้เข้าใจแล้วนะครับว่าคนทำโปรแกรมทดสอบมองจุดยืนเรื่องนี้ยังไง รายละเอียดการถอดรายการอยู่ในหน้านี้ ลองเข้าไปอ่านได้
เห็นด้วยสุดๆ
ผมเห็นหลายคนมากเลย บอกว่าไม่โกงๆ
เจตนาชัดเจนขนาดนั้นแล้วแท้ๆ
คนทำ BenchMark ออกมาบอกเองขนาดนี้ก็คงชัดเจนละ
ผมเป็นหนึ่งในนั้นนะ
แต่ผม State ไว้ชัดเจนว่า วันใดที่ผู้พัฒนาโปรแกรมทดสอบ กำหนดว่า ทำไม่ได้ ...
หลังจากวันนั้น ถ้ายังทำต่อ ถึงจะผิด
กฎไม่พึงบังคับใช้ย้อนหลังครับ
และวันนี้เอง ถ้าผู้พัฒนาโปรแกรมรายไหนยังไม่บังคับใช้กฎ ก็ยังไม่ผิด
แต่ถ้าบังคับแล้วยังทำต่อ De-list ก็สมเหตุสมผลครับ
(นี่ถือว่าเป็นช่องโหว่ของกฎหมาย
จริงๆ เขียนกฎง่ายๆ เป็น Fair Rules + อย่าใช้ Commonsense คิด
เมื่อต้องมีการเปรียบเทียบ และมีผลเป็นเงินเป็นทอง ก็จบล่ะ)
Antutu ก็แก้โปรแกรมไม่ให้โกงคะแนนไป (ตั้งนาน) แล้ว Samsung กับค่ายอื่นๆ ก็ไม่เห็นแก้ไข สรุปว่าครั้งนี้มันผิดอยู่แล้วสินะครับ
แต่ละคนมองคำว่า "โกง" ต่างกันครับ
ถ้าว่ากันตามกฎที่ว่าผู้ทำโปรแกรมไม่ได้กำหนดวิธีนี้ไว้
โอเคมันก็ถูกของท่าน ไม่ได้ละเมิดกฎอะไร
แต่บางคนก็มองว่า มันเป็นการเอาเปรียบคู่แข่ง คิดไม่ซื่อ เล่นตุกติก
แบบนี้เจตนามันก็ชัดเจนครับ
ผมไม่ได้บอกว่าแบบไหนถูก แบบไหนผิดนะ
ตามนั้นล่ะครับ
แม้ในใจผมคิดแหล่ะ ว่ามันเป็นการเอาเปรียบคู่แข่ง คู่ค้า เล่นตุกติกครับ เจตนามันไม่ดีหรอก ทำในสิ่งที่เค้าไม่ทำ
แต่ในแง่การวัดค่า ผมมองว่า ตราบเท่าที่อยู่ภายใต้กรอบที่ผู้ตั้งวางไว้ ก็ถือว่าถูก
คือผมมองว่าทำได้มากที่สุดเท่าที่กรอบกติกาของการทดสอบจะกำหนด ....
ผู้ตั้งกติกาเองต้องทำให้รัดกุม
ที่ผมใช้คำแบบนี้เพราะว่า เรื่องที่ Sensitve, อ่อนไหวต่อการตลาด
การจำกัดนิยาม กฎ และความหมายแบบชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญ
กฎที่ชัดเจนครอบคลุม จะทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมครับ
ในเคสนี้ เมื่อผู้ตั้งกฎ ระบุเงื่อนไขแล้ว และผู้เข้าร่วมทดสอบผิดกฎ การถูกตัดสิทธิ์ก็เป็นเรื่องถูกต้องสมควรทำ ..... ตอนที่เกิดเหตุครั้งนั้น ซัมซุงพูดได้เต็มปากว่าอยู่ในกรอบกติกา .... แต่เหตุครั้งนี้ ซัมซุงเถียงไม่ได้ (เพราะกติกาห้ามไว้)
แน่นอน เราจะบอกว่าผู้ให้บริการโปรแกรมตั้งกติกาไม่เป็นธรรมก็ได้ (ถ้าจะมองแบบซัมซุงมอง)
แต่เมื่อเกิดเคสนี้ (ซัมซุงไม่ยอมรับ Gamemaster/Game Owner ในเกมส์) ก็โดนแบน จงไปเล่นเกมอื่นเสีย ... อยากเล่นเกมเดียวกัน ก็ต้องอยู่ใต้กติกาเดียวกัน
ปล. บางคนอาจจะมองว่า การยอมให้ตั้งค่าชื่อโปรแกรมได้ เป็น Bug/Glitches ก็เป็นได้
ผู้ตั้งแค่ทำโปรแกรม benchmark ออกมารึเปล่าครับ เค้าคงไม่ได้คิดล่วงหน้าว่าจะมีคนใช้วิธีการดักชื่อโปรแกรมแล้วปรับสปีดอัตโนมัติแบบนี้
แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยมี ตั้งแต่เล่นคอมมาเป็น 10ๆ ปี เค้าก็ใช้เป็นมาตรฐานในการวัดค่ามาตลอด เพิ่งเคยเจอกรณี samsung เนี่ยแหละครับ(อาจจะมีแต่ผมจำไม่ได้) ปกติแล้วก็เป็น clock/speed แบบ default ส่วนเวลาใช้จริงถ้าผู้ใช้อยากแรงก็ไป clock กันเอาเอง ไหม้ก็รับผิดชอบเอง
อยากรู้จังถ้าพวกโปรแกรม benchmark จับมือกัน โปรแกรมให้เวลาเทส ถ้าเจอเครื่องยี่ห้อ samsung ให้ลดคะแนนลง 30% ทุกรุ่น แม้จะเป็นรุ่นล่างๆที่ไม่ได้เน้นความแรง
โดยทุก nenchmark ทุกค่ายจับมือกัน วางเป็นแกรอบ เป็นมาตรฐาน จะหาว่าโปรแกรมโกงใหม ? หรือก็ถือเป็นมาตรฐานได้
ผู้ตั้งเบนช์มาร์ค โดยปกติจะเป็นแบบนี้ทุกเจ้าแหล่ะครับ เป็นมานานมากแล้วนะ
คือการแข่งขันในวงเบนช์มาร์คทูล เนี่ย เมื่อกฎกติกาไม่มี มีคนเล่นตุกติกกันเยอะ
ทุกค่ายแรกๆ ก็ไม่มีกฎกันหมด ผลก็จะเป็นแบบที่เห็นๆ กันทุกวันนี้
เมื่อเวลาผ่านไปสักพักนึง ก็จะมีคนขุดมาตั้งคำถาม และเกิดกฎตามมาครับ
เหตุการณ์เก่าแล้วตั้งแต่สมัย Intel, ATI, AMD ลองไปย้อนดูก็ได้
ตัวอย่างเหตุการณ์ 2003 - http://archive.is/5KHgX
ว่าด้วยเรื่องการ Detect โปรแกรมของค่าย FutureMark (3dmark03)
จริงๆ ถ้าหาดีๆ จะพบว่ามันมีการ Optimize for Benchmark ทั้งนั้น
(รวมถึงการ Speedtest ของค่ายเน็ตด้วย)
กฎเกิดขึ้นหลังมีคนทำอะไรที่ เมื่อผู้วัดตัดสินแล้วว่า "ไม่แฟร์" จึงเขียนกฎ
แต่ก่อนหน้าจะมีการตัดสิน ผมมองว่า เห็นเทคนิคที่ใครเห็น ใครฉกฉวยได้ มักจะทำกัน
*** ประเด็นนี้คนละเรื่องกับการเบนช์มาร์คที่ดีและการเบนช์มาร์คอย่างถูกต้องนะครับ ***
ประเด็นผมคือตรงนั้นแหละครับ ฉกฉวย ในสิ่งที่ไม่ควร หรือไม่มีใครทำ เผื่อประโยชน์ของตนเอง แค่นี้ก็น่าจะพอบอกได้แล้วว่า ผิด
ส่วนเรื่อง ก็เค้าไม่ได้มีกฏ ก็เค้าไม่ได้วางกรอบ ใครๆเค้าก็ทำกัน ใช้วินโดวส์แท้รึป่าว ผมเรียกว่าเป็นข้อแก้ตัวมากกว่า อิอิ
ประเด็นซัมซุง ผมว่าแค่นี้ก็ขายดีจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว มีครบทุกรุ่น ทุกราคา ไม่เห็นต้องทำอะไรอย่างงี้ให้เสียชื่อ
เป็นผลดีสำหรับ user ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยี
ส่วนคนที่เชี่ยวชาญอยู่แล้วคงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
สมน้ำหน้า และสมควรแล้วครับ
"ขี้โกงๆๆๆๆ" แบบนี้ ต้องถอดออก!!
แม้จะมีหลายๆ เสียงที่บอกว่า เลือกมือถือไม่ได้ดูตัวเลขๆๆๆ เอาจริงๆ นะ ก็เห็นดูกันตลอด เวลาเปรียบเทียบ Spec ความแรง ก็เห็นเขามาดูตลอดๆๆ ฮ่าาา
htc one ไม่น่าทำเลยถือเป็นบทเรียน เพราะปกติเพื่อนในกลุ่มก็ลื่นหัวแตก เสถียรมากๆเล่นบ่อย อีกสองคน i5s พึ่งมาใหม่เทียบกันหลายๆอย่างเหนือกกว่า i5s เยอะเลย ส่วนผมหรอ i5 อย่าเอาไปเทียบ แืดๆค้างๆไม่ค่อยได้เล่น รอวันเปลี่ยนไป anddoid หรือ wp รอตัว top ปีหน้า
อันนี้ค่าย Geekbench
Android
iOS
ไม่รู้ทำไม Single Core ของ iOS นำ Android ไปเยอะเลย
คงเป็นเพราะ browser ของ apple ไช้ประโยชน์จาก 64 bit ใด้ดีมั้ง
แต่เอาจริงๆ ดู multi-core test น่าจะเข้ากับสภาพการไช้งานจริงมากกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ดูคะแนน Multi-Core แล้วรู้สึกว่า
iPhone 5s (Apple A7 1300 MHz (2 cores))
ทำคะแนนได้พอๆกับ
LG Nexus 5 (Qualcomm Snapdragon 800 2265 MHz (4 cores))
แต่เทียบคนละค่ายมันก็แปลกๆเหมือนกันแหะ = =
ประสิทธิภาพต่อ core สูงกว่ารึป่าวครับ เหมือน amd intel ที่ประสิทธิภาพต่อ core intel จะสูงกว่าแต่ amd จะให้ core มาเยอะกว่าในราคาที่เท่าๆกัน
ปล.เดานะครับ
ก็มีส่วน แต่น่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า หน้าจอ apple ขนาดต่ำ ppi น้อย cpuก็จะประมวลผลได้เร็วขึ้นเพราะไม่ต้องทำงานหนัก
64บิตทำให้คำสั่งที่เรียกใช้ใหญ่ขึ้น ทำให้ไม่ต้องประมวลผลมาก แล้วก็มีอีกหลายอย่าง
ถ้าเทียบกันจริงดูจากclock ก็รู้เเลยว่าcpu ดีกว่าหลายขุม
โปรแกรมพวกนี้ไม่ได้ประเมินจากขนาดหน้าจอของ device นิครับผมว่ามันคงมีค่ากลางเป็นมาตรฐานในการทดสอบมากกว่า
มันสำพันกับการประมวลผลของเครื่อง ที่บอกก็คือ ยี่cpu ได้รับภาระน้อยเท่าไหร่ เครื่องก็ยิ่งเร็ว
เพราะแต่ล่ะ Core ของ A7 ที่แม้จะใช้สถาปัตยกรรม ARM เหมือนกัน แต่ก็ได้รับการปรับแต่งจาก Apple มากพอสมควรครับ เลยให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่ามากๆ ในแต่ล่ะ Core อีกทั้ง Apple ทำเองทั้ง HW และ SW ยิ่งทำให้ทำงานประสานกันดียิ่งขึ้นครับ