เมื่อช่วงราวสิ้นปีที่แล้ว (2555) กูเกิลได้ทำการเปิดตัว Chromebook (โน้ตบุ๊กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS ของกูเกิล) ใหม่จำนวนสองรุ่น ซึ่งก็คือ Samsung Chromebook ที่ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Exynos 5 บนสถาปัตยกรรม ARM และ Acer C7 Chromebook ที่ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Intel Celeron บนสถาปัตยกรรม x86 (และในภายหลังออกรุ่นปรับปรุงเพิ่มคือ Acer C710 Chromebook ที่เพิ่มแรมและแบตเตอรี่) ซึ่งทั้งสองรุ่นมีราคาที่ไม่แพง คือ 249 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ สำหรับ Samsung Chromebook (ขายดีมาก จนติดอันดับหนึ่งของ Amazon) และ 199 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ สำหรับ Acer C7 Chromebook
เนื่องจากมีโอกาสซื้อเครื่อง Acer C7 Chromebook มือสองมาในราคาที่ค่อนข้างถูก (ด้วยสภาพที่ใหม่มาก) และมีโอกาสได้ลองใช้งานมาแล้วระยะหนึ่ง จึงเขียนรีวิวเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ในการใช้งาน และนี่คือรีวิวครับ
สำหรับตัวเครื่อง มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1 กิโลกรัมเศษ มาด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบๆ มีโลโก้ Acer ตรงกลางฝาเครื่อง และโลโก้ Chrome ด้านบน
ด้านซ้ายมือของเครื่องจะมีช่องเชื่อมต่อต่างๆ (จากซ้ายไปขวา: RJ-45 สำหรับสายแลน, VGA, HDMI และ USB 2.0)
ส่วนขวามือก็มีช่องเชื่อมต่อต่างๆ เช่นกัน (จากซ้ายไปขวา: ช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟน, USB 2.0 จำนวน 2 ช่อง, ช่องเสียบสายชาร์จ, ช่องสำหรับ Kensington Lock)
ด้านหน้ามีช่องใส่ SD Card ด้วยอยู่ด้านซ้ายมือ และไฟบอกสถานะอยู่ด้านขวามืิอ
ส่วนด้านหลังก็แบตเตอรี่ล้วนๆ ครับ (ซึ่งเป็นข้อดีอย่างหนึ่งก็ตรงที่ รุ่นนี้แบตสามารถเปลี่ยนได้)
ด้านล่างของเครื่องครับ
หน้าตาของเครื่องเมื่อเปิดครับ (แป้นพิมพ์ภาษาไทยเนื่องจากผมซื้อสติกเกอร์มาแปะครับ)
สำหรับบางท่านที่อาจจะรู้สึกว่า ทำไมหน้าตาของ C7 Chromebook ถึงรู้สึกคุ้นๆ คำตอบก็คือ ตัวเครื่องนั้นแทบไม่ได้ต่างจาก Acer Aspire V5-171 แม้แต่น้อยครับ แม้กระทั่งแบตเตอรี่และสายชาร์จก็ยังใช้แทนกันได้ ส่วนตัวเองถ้าไม่สังเกตให้ดีเวลากลางคืน ก็หยิบเครื่องสลับกันเลยครับ
ด้านซ้ายมือของรูปคือ C7 Chromebook ส่วนขวามือ Aspire V5-171 ครับ
ส่วนสายชาร์จก็ตามนี้เลยครับ ใช้สลับกันตลอด
สำหรับระบบปฏิบัติการของเครื่องก็คือ Google Chrome OS ของกูเกิล ซึ่งสำหรับ Chromebook จะไม่สามารถลงระบบปฏิบัติการตัวอื่นได้โดยตรง (มีบางแห่งประสบความสำเร็จลงระบบปฏิบัติการ Ubuntu Linux บนเครื่อง C7) และแน่นอนว่าหนึ่งในคุณสมบัติคือการปรับปรุงให้อยู่ตลอด ดังนั้นแล้วหน้าตา ตลอดจนถึงคุณสมบัติต่างๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาครับ (ลองดูรีวิวจากคุณ mk ในตอนแรกๆ ของ Chrome OS เทียบกับรีวิวเครื่ิอง CR-48 ได้ครับ)
โดยหลักการแล้ว ก็คือเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่มีอะไรอยู่เลย นอกจากเบราว์เซอร์ Chrome เท่านั้น (แต่ในระยะหลังมีการเพิ่มความสามารถขึ้นมาอีกนิดหน่อย เช่น เปิดไฟล์ หรือ เล่นเพลง แต่โดยหลักการก็คือ มีเฉพาะเบราว์เซอร์) ทำให้ต้องถูกบังคับเสมือนต้องต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาที่ใช้งานครับ ยังโชคดีว่าในระยะหลังมีโปรแกรม (แอพ) ที่สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้อยู่จำนวนหนึ่ง ทำให้สภาพของเครื่องไม่ถึงกับเป็น "เป็ดง่อย" เสียทีเดียว แต่จะเทียบกับระบบปฏิบัติการแบบเต็มๆ อย่าง Windows หรือ Linux ก็คงจะลำบากอยู่ ลองดูวิดีโอด้านล่างนี้สำหรับแนวคิดของ Chrome OS และ Chromebook ครับ
โปรแกรมเรียกดูไฟล์ในเครื่อง
สำหรับโปรแกรมเรียกดูไฟล์ในเครื่องก็เป็นแบบพื้นฐานมากๆ และแสดงเฉพาะโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า "Downloads" เท่านั้น
จากเท่าที่ใช้งานมาได้ระยะหนึ่ง ต้องยอมรับครับว่ามันถูกออกแบบมาแต่แรกให้เป็นเครื่องที่เชื่อมเข้ากับอินเทอร์เน็ตอย่างเดียวจริงๆ และถ้าเราทำงานแบบตัดขาดจากอินเทอร์เน็ต นั่นก็ย่อมแปลว่าจะใช้งานหรือได้รับประสบการณ์ที่ไม่เต็มที่นั่นเอง
ในแง่ของความเร็ว ต้องบอกว่า C7 นั้นไม่ได้มีความเร็วมากมายเท่าใดนัก และใช้ระยะเวลาในการเปิดเครื่องอยู่ที่ประมาณ 10-12 วินาที ซึ่งหากเทียบกับปัจจุบันแล้วถือว่าช้าพอสมควร เพราะ Macbook Air หรือแม้แต่เครื่องที่ใช้ Windows 8 ในปัจจุบันก็ทำได้เร็วในระดับใกล้เคียงหรืออาจจะเร็วกว่าไปแล้ว
สำหรับน้ำหนัก ปกติผมจะใช้ Macbook Air ควบคู่ไปกับ Surface และ Playbook ซึ่งเมื่อใส่กระเป๋าสะพายแล้วถือว่ามีน้ำหนักที่พอสมควรระดับหนึ่ง การเปลี่ยนจาก Macbook Air มาเป็น C7 ต้องยอมรับว่าในแง่น้ำหนักให้ความรู้สึกไม่ต่างกันนัก ดังนั้นส่วนมากเครื่อง C7 จึงถูกทิ้งเอาไว้ที่บ้าน โดยมีวัตถุประสงค์คือใช้งานสำหรับเบาๆ ไม่ว่าจะเช็คเมล์ในตอนเช้า หรือเปิดข่าวอ่านตอนก่อนนอน หากต้องการทำงานพิมพ์เอกสาร ก็จะเปลี่ยนมาใช้เครื่องใหญ่หรือไม่ก็ Surface แทน
ปัญหาสำคัญของ C7 อยู่ที่อายุของแบตเตอรี่ ที่ผมใช้แล้วไม่เคยผ่านพ้น 3 ชั่วโมง เลย ซึ่งเมื่อนำแบตก้อนเดียวกันไปใช้บนเครื่อง V5-171 กลับสามารถใช้งานได้เกือบๆ 4 ชั่วโมงเต็มๆ ผมเลยคาดว่าปัญหาน่าจะมาจากตัวหน่วยประมวลผลไม่รองรับระบบการจัดการพลังงานด้วยส่วนหนึ่ง และนอกจากนั้นคือตัวการ์ดไวไฟนั้น เมื่อพิจารณาจากข้อมูลของกูเกิล จะพบว่าการ์ดรองรับบลูทูธ แต่ไม่ถูกเปิดให้ใช้งาน ซึ่งถือว่าเป็นความแปลกพอสมควร
สิ่งสำคัญอันหนึ่งคือการที่ Chrome OS พยายามที่จะชูความเร็วในการทำงาน การเปิดใช้งาน และการอัพเดทตัวเองตลอดเวลา คำถามก็คือ เมื่อคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถทำงานและเปิดเครื่องได้เร็วพอๆ กับ Chrome OS แล้ว (ซึ่งเป็นจุดขายอย่างมากในระยะแรกๆ) ที่ยืนของ Chromebook/Chrome OS จะอยู่จุดไหนกันแน่ ซึ่งสำหรับผมแล้ว อาจจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ต้องการความซับซ้อนในการใช้งาน หรือไม่ได้ใช้อะไรมากกว่าอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว แต่สำหรับคนทั่วไปที่ยังต้องการทำงานแบบออฟไลน์หรือทำงานที่ซับซ้อน Chromebook/Chrome OS ไม่ได้ตอบโจทย์แต่อย่างใด
และในที่สุดแล้วอย่างที่คุณ mk เคยบอกเอาไว้ในรีวิว CR-48 ว่าคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ Chrome OS อาจจะไม่ใช่ใครที่ไหนไกล นอกจาก Android นั่นเอง
ป.ล. ภาพทั้งหมดดูได้ที่นี่ครับ
Comments
เคยลองเล่น Chromebook Pixel ของพี่ที่รู้จักอยู่พักนึง ... ปัญหาใหญ่ของ Chrome OS เลยคือภาษาไทยยังรองรับไม่สมบูรณ์แบบ อาจจะดูสมบูรณ์แบบใน Google Docs แต่เวลาเล่นเว็บอื่น (เช่นบล็อกนันนี่แหละ) พิมพ์ยาวๆ ไปแล้ว ภาษาไทยถูกเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษโดยอัตโนมัติ แล้วเปลี่ยนกลับไม่ได้จนกว่าจะปิดแท็บไป ส่วนตัวคิดว่าคงต้องใช้เวลานานอีกพอสมควรกว่าภาษาไทยจะสมบูรณ์แบบกว่านี้ครับ
ป.ล. ...
ครับ :3
ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ
ปล. ถ้าปรับเป็นช่อง Beta/Dev ปัญหานี้จะหมดไปครับ จริงๆ ช่อง Stable ก็มาแล้วนะครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
โน๊ตบุ๊ค => โน้ตบุ๊ก
อินเตอร์เน็ต => อินเทอร์เน็ต
วีดีโอ => วิดีโอ
ขอบพระคุณครับ ดำเนินการเรียบร้อย
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
โน้ตบุ๊ค => โน้ตบุ๊ก
ขอบพระคุณมากครับ หลวงพิสูจน์อักษร
เล็ดรอดจากสายตาผมไปได้ไงเนี่ย
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
.>_<
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
10-12วินี้ อย่างกะคอมเมื่อ 4-5ปีที่แล้ว
ไม่ใช่หรอกครับคอมผม 3 ปีแล้วยังรอเป็นนาที กว่าจะพร้อมใช้งาน
ผมว่าไม่เกิน 20 วิแล้วพร้อมใช้งานนี่ถือว่าเร็วมากๆแล้วนะ
+1 เลยครับ ถ้าไม่ใช้ SSD, Window 8 ผมว่า 20 วินับจากกดปุ่ม Power มันก็เร็วมากๆเหมือนกันนะครับ
Boot เข้า Windows แบบไม่ใช่จาก Stand by ใช้ SSD ยังเกิน 12 วิเลยครับ
my blog :: sthepakul blog
ผม 15วิ
ลง Windows Server 2008 บู๊ตแค่ 5 วิครับ เงิบ
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว อย่าง chrom os ไม่น่าจะเกิดจริง ๆ ครับ แต่คุณพิชัยก็ไม่น่าจะทำ android book หรือ android pc แน่ เสียดายโอกาสจริง ๆ ครับ และโอกาสอาจกำลังจะหมดไป อยากเห็น android book มาก ๆ ครับ
มันต้องใช้เวลา ท่ามกลาง Microsoft และ Apple ถ้าจะให้ OS ใหม่ได้รับความนิยมกันภายในไม่กี่ปีมันยากนิดหน่อย
ผมมองว่า ถ้าผลัก android เข้าไปแทนมันจะง่ายนะสิครับ
นึกถึง Netbook เลย
ถ้าอยากจะจำกัด client ให้เป็นคล้ายterminal ในงานเฉพาะทาง
ผมว่าพวก android tv stick + mouse+keyboard wireless น่าจะทดแทนได้ และมีapp ให้ลงมากกว่าเสียอีก แถมเล่น offlineได้ด้วย app เอกสารก็พอใช้ได้หลายตัวเลยทีเดียว
+1 เห็นด้วยครับ
อันนั้นก็ไม่เรียกว่าจำกัดสิครับ :)
ถ้าจะจำกัดจริงคงต้องเป็น web browser อย่างเดียว (ฮา)
อยากจะจัด C7 ซักเครื่องมาก แต่ดันไม่มีขายในไทย = =" คนหิ้วก็เอาแพงเหลือเกิน เซ็งเบย กะจะเอามาเรียน compro 2 ซักหน่อย
สาเหตุที่ google ยังพยายามชู Chrome OS อาจเนื่องมาจาก Google โตมากับเว็บและอยากให้ทิศทางการพัฒนาเป็นไปในแนวทาง web application หาก google เลือกที่จะพัฒนา android เพียงอย่างเดียวอาจะทำให้ตลาดเว็บที่ google ยิ่งใหญ่อยู่ลดความนิยมลงได้
ตัวอย่างเช่น
เดี่ยวนี้เปิดแอพง่ายกว่าเปิดเว็บมาก รวมถึงแอพก็ใช้งานได้ง่ายกว่า ลองนึกภาพดูสิ หากวันหนึ่งคนใช้แต่แอพ จะเกิดอะไรขึ้น เว็บที่เคยเป็นแหล่งรายได้หลักของ google จะต้องเป็นตลาดที่ตายลงไปในที่สุด
เหตุนี้ google จึงยังพยายามชูธง เรื่องของ web application บน Chrome OS ถึงเเม้ว่าในตอนนี้ web application จะไม่สามารถใช้งานได้สมบุรณ์แบบเท่าไร แต่ไม่แน่นะ ในอนาคตอาจมีอะไรตื่นเต้นที่ช่วยชูให้ web application บน chrome os ไปได้ไกลกว่านี้
รอให้ออกมาซักพัก ค่อยหามาลองเล่นดูซักหน่อย