Tags:
Node Thumbnail

ข่าวร้อนรอบสัปดาห์อย่าง Adobe ยกเลิก Creative Suite ต่อไปนี้จะกลายเป็น Creative Cloud ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อแนวคิด "ซอฟต์แวร์กล่อง vs ซอฟต์แวร์แบบเช่าใช้" เป็นอย่างมาก

ไมโครซอฟท์ในฐานะผู้ขายซอฟต์แวร์แบบกล่องรายใหญ่ และกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคกลุ่มเมฆเหมือนกับ Adobe (ผ่าน Office 365) ออกมาแสดงความเห็นผ่านบล็อกของบริษัทว่า ไมโครซอฟท์เห็นด้วยกับเป้าหมายของ Adobe ว่า software-as-a-service คืออนาคต เพราะเหนือกว่าเรื่องการอัพเดตตลอดเวลา และจ่ายทีเดียวใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้

แต่ไมโครซอฟท์ก็คิดว่าการเปลี่ยนผ่านจากซอฟต์แวร์กล่องเป็นบริการแบบเช่าใช้ต้องใช้เวลานาน โดยภายใน 10 ปีข้างหน้าคนจะยอมรับซอฟต์แวร์แบบเช่าใช้เป็นมาตรฐาน แต่ระหว่างนั้นไมโครซอฟท์จะยังให้ตัวเลือกกับลูกค้าทั้งซอฟต์แวร์แบบกล่องและแบบเช่าใช้ควบคู่กันไป

ที่มา - Office News

Get latest news from Blognone

Comments

By: pasuth73
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 9 May 2013 - 14:38 #570780

เป้าสำคัญคือหยุดการใช้ซอฟท์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ และบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเงินทุกปี เพราะผมมองไปทางไหนก็มีแต่ผู้เชี่ยวชาญไอทีระดับหนึ่งเท่านั้นถึงจะอัพเดทซอฟท์แวร์ใหม่ๆ ไม่ว่าเอกชนหรือรัฐบาลตอนนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนผ่านซอฟท์แวร์น้อยมาก(ยังใช้XP กันอยู่เลย เพราะหลายๆปัจจัยที่รู้กัน) การจะทำแบบเช่าได้ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ต้องปรับระบบให้อัพเดทเร็วขึ้นแล้วพัฒนาเวอร์ใหม่ทุกปีเหมือนพวกแอนตี้ไวรัสหรือAdobe และก็ซับพอร์ตผู้ใช้มากขึ้น(ต้องมีบริการอบรมบุคคลากรใช้ซอฟท์แวร์ฟโดยไม่มีค่าใช้จ่าย) ถึงจะดึงดูดผู้ใช้มาได้ ส่วน OS ถ้าจะใช้ระบบเช่าคนใช้คงหนีไป Linux กันหมดแน่นอน

ปล.adobeเปลี่ยนยังไง โครงสร้างหน้าตาก็ไม่เปลี่ยนมากนะ แต่ office 2003 > 2007 > 2010 > 2013 เปลี่ยนค่อยข้างมากนะครับมันทำให้ผู้ใช้สับสน(อย่างน้อยก็ป้าๆที่ไม่สันทัดเทคโนโลยีละ 555+)

By: suwatchai on 9 May 2013 - 21:00 #570925 Reply to:570780

มีทุกสิ่งที่คุณอยากรู้

Microsoft Volume Licensing Center

By: originalBlueSin
Windows PhoneWindows
on 9 May 2013 - 14:55 #570786
originalBlueSin's picture

ที่จริงถ้าทำให้เลือกฟีเจอร์แล้วจ่ายค่าเช่าตามความสามารถและจำนวนฟีเจอร์ได้จะน่าสนใจมากเลยครับ ไม่เอาความสามารถที่ไม่ใช้ แล้วลดราคาลงไป อย่าง Photoshop ก็มีความสามารถหลายอย่างที่เกินความต้องการของผู้ใช้ทั่วไปแต่กลับต้องจ่ายเงินซื้อความสามารถของโปรแกรมแบบเหมาเอา

แต่ในทางปฏิบัติคงยาก ฝันเอาไปก่อน ตอนนี้ใช้ paint.net ไปพลาง ๆ แต่ความสามารถเรื่องงานตัวหนังสือยังสู้ Photoshop ไม่ได้จริง ๆ

By: pasuth73
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 9 May 2013 - 15:43 #570808 Reply to:570786

จ่ายเป็นรายฟีเจอร์ก็ดีนะครับ แต่ไม่เห็นใครทำเลย จัดชุดใหญ่มาขายกันทั้งนั้นเลย = =

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 9 May 2013 - 22:14 #570963 Reply to:570808
mr_tawan's picture

พวกโซลูชั่นธุรกิจใช้วิธีนี้กันนะ ขายเป็น service ย่อยเป็นชิ้น ๆ แล้วแต่ว่าลูกค้าอยากได้อะไรแบบไหน


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: nrml
ContributorIn Love
on 9 May 2013 - 18:29 #570862 Reply to:570786
nrml's picture

ปกติก็มีแบบที่ลด feature ลงมาเป็น Photoshop Element อยู่แล้วนะครับ

By: BLiNDiNG
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 9 May 2013 - 18:44 #570866 Reply to:570786
BLiNDiNG's picture

ในกรณีของ Microsoft ก็คงคล้ายๆกับที่มี Windows รุ่น home , รุ่น pro ล่ะมั้ง

นอกจากเรื่องควบคุมปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว บริษัทยังซัพพอร์ทง่ายด้วย บังคับอัพเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ทุกเครื่องได้เลย

ไม่ต้องซัพพอร์ตพร้อมกันหลายๆเวอร์ชัน

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 9 May 2013 - 15:04 #570787

"ไมโครซอฟท์เห็นด้วยกับเป้าหมายของ Adobe ว่า software-as-a-service คืออนาคต เพราะเหนือกว่าเรื่องป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ และลูกค้าต้องจ่ายยาว ๆ" #ห๊ะ

ไมโครซอฟต์ เจ้าอย่ามาซึนเดเระ!


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 9 May 2013 - 15:06 #570789 Reply to:570787

คิดแบบนี้เหมือนกันเลย 555


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: vevysang on 9 May 2013 - 15:32 #570805

โอกาสของแอปเปิ้ล

ผมชอบแนวคิดของแอปเปิ้ลมากกว่า
App Store อยากซื้อก็กดซื้อได้เลย มีอัพเดรดก็แสดงเตือนแบบเข้าใจง่ายๆ
และสามารถเข้าไปอัพเดรดได้เลยผ่านทาง App Store มี minor อัพเดรดเรื่อยๆ
ถ้าเกิด major update ก็ขึ้นเป็น ซอร์ฟแวร์ตัวใหม่

สะดวกและแฟร์ทั้งคนใช้ ผู้พัฒนาเอง และแอปเปิ้ลเองก็ได้ตังแบบง่ายๆ(30%)
แต่บริษัทซอร์ฟแวร์ใหญ่อาจจะไม่ชอบนัก

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 9 May 2013 - 15:47 #570809 Reply to:570805
Ford AntiTrust's picture

ไม่มีใครอยากให้ตัวเองเล่นอยู่บนเกมคนอื่น เม้นแต่บริษัทเล็กๆ ก็คงไม่อยาก แต่ส่วนใหญ่จำยอมทำเพราะไม่มีทางเลือก คือเอาขึ้น store แบบนั้นมันขึ้นอยู่กับ store ของ platform นั้นๆ มากเกินไป การอัพเดทต่างๆ ต้องทำและรอการยืนยันจากเจ้าของ platform ก่อน ถ้าเกิดปัญหา zero day path จะอัพเดทไม่ทันการได้ และอีกอย่างคือการขายผ่าน store ของ platform นั้นเกิดปัญหาปัญหา 30:70 ทำให้รายได้ของนักพัฒนาลดลง และสำหรับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่คงไม่ยอมกันอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่ราคาซอฟต์แวร์พวกนี้หลักร้อยถึงหลายพันเหรียญ คิดเป็นอัตราส่วนจะเยอะมาก การแยกขายแบบนี้ทำให้ควบคุมการอัพเดทและราคาได้ง่ายกว่า

ส่วนตัวใช้ Office 365 และบริการอื่นๆ ที่คล้ายๆ พวกนี้ Adobe CC ก็เช่นกัน ผมเฉยๆ มากๆ เพราะการติดตั้งนั้นไม่แตกต่างจาก install ตัว Software แบบเดิมๆ เพียงแต่ต้องต่อ internet เพื่อ activate เพื่อขอเวลาเพื่อใช้งานกับระบบเฉยๆ แถมเมื่อมีการอัพเดทระบบมัน shadow update ให้ทันที ไม่ต้องมากดร้องขออะไรอีก ผู้ใช้งานไม่ต้องสนใจว่าทำอะไร (จริงๆ ตั้งได้ว่าจะให้มีกดยืนยันหรือไม่ด้วย แล้วแต่ชอบ) ทำให้ได้ซอฟต์แวร์ใช้งานที่ใหม่เสมอครับ

แต่ทั้งหมดทั้งมวล ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ด้านส่วนแบ่งรายได้เป็นหลักมากกว่า

By: suwatchai on 9 May 2013 - 21:01 #570928 Reply to:570809

ลองดูวีดีโอสาธิตของ Volume Licensing นะครับว่าทำมาเพื่ออะไร เหมาะกับใคร

Microsoft Volume Licensing Center

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 9 May 2013 - 23:02 #570994 Reply to:570928
Ford AntiTrust's picture

อันนี้ทราบครับ เอามาให้ดูทำไมเหรอครับ งง

คือข้อมูลพวกนี้มีอยู่แล้วเพราะเป็น consult พวกนี้อยู่ครับ ซึ่งผมพูดถึงนั้นเป็นเรื่องของระดับ consumer ไม่ใช่ enterprise นะครับ

By: watana-design
ContributoriPhone
on 9 May 2013 - 17:24 #570834
watana-design's picture

เน็ตแบบไทยเรา เปิดทำงานของ Adobe ที่อยู่บน Cloud ชาติไหนจะเสร็จเนี่ย


รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 9 May 2013 - 17:36 #570838 Reply to:570834

โปรแกรมมันรันบนเครื่องเหมือนปกตินะครับ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 9 May 2013 - 18:09 #570852 Reply to:570834
Ford AntiTrust's picture

Adobe CC กับ CS ทำงานบนเครืองเราครับ แต่ต่างกันเล็กน้อยตรงที่ CC มันโหลดตัว software ตัวเต็ม stream ผ่าน cdn มาลงบนเครื่องเราให้ โดยตอนแรกมีตัว setup ให้ แล้วติดตั้งบนเครื่อง พอจะใช้ครั้งแรก และตอนหมดระยะเวลาใช้ เช่นหมดเดือนที่ใช้และต้องการต่ออายุก็ login เข้าระบบไป renew ใหม่แค่นั้นเอง ไม่ได้ทำงานผ่าน web browser นะ

By: BLiNDiNG
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 9 May 2013 - 18:47 #570867 Reply to:570834
BLiNDiNG's picture

ให้นึกถึง Steam ที่ใช้เล่นเกมน่ะครับ :) ยังรันบนเครื่องเหมือนเดิม

By: pasuth73
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 9 May 2013 - 19:57 #570903 Reply to:570867

ผมนึกถึง origin 5555+