หลังจากเปิดตัว iPhone 5 ที่ไม่ได้บอกรายละเอียดซีพียูมากมายนัก แต่สื่อหลายสำนักก็เก็ง ๆ กันว่าเป็นดูอัลคอร์ วันนี้ รายละเอียด Benchmark ของ iPhone 5 โผล่บน Geekbench แล้ว ในชื่อ iPhone 5,2 (iPhone 4S คือ iPhone 4,1) ซึ่งบอกรายละเอียดสเปกไว้คร่าว ๆ ว่าเป็นดูอัลคอร์ 1.02GHz ARMv7 แรม 1GB
คะแนน benchmark ของ iPhone 5 อยู่ที่ 1601 คะแนน ซึ่งมากกว่า iPhone 4S ที่ 629 คะแนน และ iPad (3rd Generation) ที่ 766 คะแนน ตรงกับที่ Apple เคลมไว้ว่า A6 จะแรงกว่า A5 ถึง 2 เท่า
นอกจากนั้น ยังได้ทราบอีกว่าซีพียู Apple A6 นั้น ถูกคล็อกสัญญาณนาฬิกาไว้ที่ 1GHz ซึ่งมากกว่า A5 ที่ถูกคล็อกไว้ที่ 800MHz
หากเทียบกับฝั่ง Android พบว่า คะแนน benchmark ของ iPhone 5 ใกล้เคียง Galaxy S III และ Nexus 7 ที่ใช้ซีพียูแบบควอดคอร์เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี นี่เป็นผลการทดสอบที่ออกมาก่อนเครื่องจริงจะออก ซึ่งต้องรอยืนยันอีกทีเมื่อ iPhone 5 วางขาย 21 กันยายนนี้
ที่มา - MacRumors
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เแก้แล้วครับผม
1.02 GHz ครับ ไม่ใช่ 1.2
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
iPhone 4S เป็น 4,1 ครับ
ครับผม ขอบคุณครับที่เตือน
ผลการการทดสอบ => ผลการทดสอบ
กันยายนนี้นี้ => กันยายนนี้
เรียบร้อยครับ
อยากให้เอาชาร์ตคะแนนมาลงด้วยครับ จริงๆ ผมเปิดเอาจากที่มาก็เห็น แต่มันไม่ยาวเท่าใหร่เลยน่าจะเอาลงไว้ด้วยเลย
ps0. ผมว่าการทดสอบนี้ไปเอาเครื่อง IPhone มาจากใหนหว่า
จัดไปครับ
รูปไม่ขึ้นน่ะครับ
เหรอครับ ผมขึ้นปกติครับ
ผมสืบจนรู้แล้วครับ ออฟฟิศผมเขาบล็อค www.uppic.org นี่เอง = ="
ขออภัยด้วยครับ
อาจจะเอาเครื่องที่ให้เล่นในวันเปิดตัว โหลดแอพมาลองเลยก็ได้ครับ :P
น่าจะมี Sony T มาด้วยนะขานั้นแรงกว่า S3 อีกนิ
ทำไมไม่เป็น iPhone6,x -.,-"
Classic เป็น 1,1
3G เป็น 1,2
3GS เป็น 2,x
4 เป็น 3,x
4S เป็น 4,x ครับ
ใครมี iPhone อยู่ในมือลองดูใน Diagnostics ได้ครับ
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแฮะว่า Apple นับยังไง
ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเป็น quad core จะขนาดไหน = =
ความร้อน?
อิอิ
ต้องดูผลทดสอบโดยรวม เพราะผลที่ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยประมวลผลทาง math integer Floating Point แต่เวลาทำงานจริงๆไม่ได้มีแค่นี้
เพิ่มเติมครับ
21 กันยานะครับ ไม่ใช่ ตุลา
แก้เรียบร้อยครับ
หากเทียบกับฝั่ง Android พบว่า คะแนน benchmark ของ iPhone 5 ใกล้เคียง Galaxy S III และ Nexus 7 ที่ใช้ซีพียูแบบควอดคอร์เลยทีเดียว
ก็แค่เทียบเคียงตัวจริงออกมามากหรือน้อย มันก็ไม่ได้แรงเวอร์ที่บางคนคิด2เท่าจาก i4s มันจะแรงกว่าเจ้าอื่นไม่เห็นฝุ่น ที่จริง cpu แรงๆก็ไม่ได้ใช้เต็มที่เท่าไหร่ เผลอๆถ้าระบบไม่ดี task manager ห่วยๆ กินแบตตายเลย
สุดยอด ไร้ที่ติ
gpu ละครับ ผลเป็นไงบ้าง
กินแบต 555
L2 cache มือถือเด๋วนี้ เป็นเม็กแล้ว ตามไม่ทันจริงๆ
ถ้าตามไปดูจากตารางที่มาแล้วน่าจะเป็นSmartphone ที่ได้คะแนนเยอะที่สุดเท่าที่มีขาย ณ "ปัจจุบัน" ตอนนี้เลยหรือเปล่าครับได้คะแนนเยอะกว่า S3 NeXUS7 One X,S อีก
ใช่ครับ จริงๆ ในข่าวควรใช้คำว่า "สูงกว่า" มากกว่าคำว่า "ใกล้เคียง" เพราะคำว่าใกล้เคียงอาจตีความได้ว่า ไเ้คะแนนน้อยกว่า s3 หรือ nexus 7 เล็กน้อยก็ได้
in-depth analysis from anandtech
great job from Apple !
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
"we confirmed that Apple is using its own custom designed ARM based CPU cores in its A6 SoC."
งานนี้ A6 แรงจริงๆเพราะ Apple เขาแนว
ผมว่า ท่า android ไม่รันผ่าน dakvik vm cpu omap snapdragon Exynos ไม่น่าจะต่างกันมากน๊ะ มาจาก arm เหมือนกัน
ให้แบตน้อยกว่าคนอื่น แต่เลือกใช้ dual core ในขณะที่คนอื่น quad และใช้ clock ที่ 1 GHz ในขณะที่คนอื่น 1.4-1.6 GHz แต่ยังแสดงพลังมาได้มากทีเดียว อืมม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แค่ 4s ก็ลื่นแล้ว นี่ต่างกันเกิน 2 เท่า คงไม่ต้องพูดถึง
ปล ios มันโหดจริงๆ
เหมือนเล่นเกมส์ที่ frame rate 60 fps กับอัพเสปกแล้วได้ frame rate 120 fps กระมังครับ
มันไม่แตกต่างกัน เพราะคนเราไม่สามารถสัมผัสเห็นความแตกต่างในระดับนั้นได้
ซอฟท์แวร์เปรียบเสมือนโหลด(ภาระ) ซึ่งถ้าสเปก(ฮาร์ดแวร์) พร้อมก็สามารถออกแบบซอฟท์แวร์ที่ดีขึ้น สะดวกขึ้นให้เหมาะสมกับสเปกที่มีได้ครับ งงป่าวครับ
จริงพูดตรงๆนะ ตอนนี้แอพผมว่า android กะ Iphone เรื่องแอพจำเป็นพอๆกันแล้ว
ผมเลยมอง ราคา กับ สิ่งที่ได้โดยไม่สนสองหัวสามหัวอะไรนั้นหรอกมองแค่ว่า
ราคาเท่ากัน ลื่นพอกันมั้ย
กี่หัวก็ช่างแบตอยู่นานเท่าไหร่ ใครนานกว่า
แค่นั้นแหละครับ
23000 บาท ได้อันใหนคุ้มกว่าก็เอาอันนั้น เทียบ OS ผมไม่ค่อยสนใจเพราะเล่นมาแล้วสายผมไม่เซ้นทิทีพพอจับความต่างได้ สรุปราคาเท่านั้นความลื่นพอกันแล้ว เหลือความอึดของแบท ถ้าพอกันอีก ผมเลือก Android เพราะเสียบปุ๊บถ่ายไฟล์ปั๊บ ทำอะไรได้สะดวกอีกมากมาย ไม่สนใจเรื่องเกมส์อลังการมากโน็ตบุคมีในมือถือเอาแค่เล่นขำๆฆ่าเวลาจบ ในมือถือเล่นทำไมให้แบตหมด ถ้าแบตหมดใครจะติดต่อผมได้หละ
แอนดรอยมันรันแอพพลิเคชั่นเบื้องหลังหลายๆแอพอยู่ตลอดเวลา ดูง่ายๆ ตอนกด Home น่ะ ios มันจะช้าเพราะตอนเรากดใช้แอพอื่นๆ มันก็ปิดไปแล้ว กดHome อีกมันก็รัน Home ใหม่อีก
เปรียบเทียบคัดลายมือ
-iOS เขียนได้สวยมาก แต่เขียนได้เพียง 1 อักษร ต่อ 1 วินาที
-Android ลายมือไม่สวย ตัวไม่เท่ากัน แต่เขียนได้ถึง 8 อักษร ต่อ 1วินาที
เปรียบคุณคิดเลข 5 ข้อ แบบios ใช้เวลา 20 วินาที เพราะคิดทีละข้อ แต่ถ้าเป็น android จะใช้เวลา 4 วินาที เพราะคิดทีเดียว 5 ข้อ
เอาระบบที่รันได้ทีละแอพมาเทียบกับระบบที่เขารันทีหลายๆแอพแบบนี้มันไม่ดีนะครับ
เปรียบคุณคิดเลข 5 ข้อ แบบios ใช้เวลา 20 วินาที เพราะคิดทีละข้อ แต่ถ้าเป็น android จะใช้เวลา 4 วินาที เพราะคิดทีเดียว 5 ข้อ
ตำราใหนครับเนี่ย
คิดเลขทีเดียว 5 ข้อ ปวดหัวแน่ๆ มึนๆ ไปหมดเลย
เป็นผมคิดเลขพร้อมกัน ห้าข้อ ใช้เวลา ห้านาทีครับ เพราะมึนอยู่.
ไม่เห็นด้วยครับ
ถ้าผมให้สเปคเท่ากันทั้งหมด (สมมติว่าคอร์เดียวละกัน) แล้วให้คิดแบบ serial (แบบที่คุณว่าเป็น iOS) กับเป็น parallel (แบบที่คุณว่าเป็น Android) ให้คิดเลขใช้เวลาข้อละ 4 วินาทีจะได้แบบนี้ครับ (ไม่คิดเวลาอย่างอื่นเลย ดูแค่เวลาที่ใช้คิดอย่างเดียว)
serial computing จะทำแบบ 4+4+4+4+4 เรียงกัน และได้ผลลัพธ์เป็น 20 วินาที
parallel computing จะทำแบบวิ่งทุกๆ ข้อสลับไปเรื่อยๆ (assume ว่าข้อละ 1 วินาทีแล้วเปลี่ยน) จะได้ว่า (1+1+1+1+1)+(1+1+1+1+1)+(1+1+1+1+1)+(1+1+1+1+1) สุดท้ายผลลัพธ์ก็ยัง 20 วินาทีอยู่ดีครับ
ผมมองว่าที่ไม่ควรเอามาเทียบกัน น่าจะเป็นเพราะมันคนละ OS กัน มากกว่าเรื่องระบบรันทีละแอพมาเทียบกับระบบที่รันทีละหลายๆ แอพ เพราะเอาเข้าจริงๆ ถ้าถึงเวลา benchmark จริงๆ คงไม่มีใครอยากให้เครื่องเสียทรัพยากรไปกับ background process เท่าไหร่หรอกครับ
อีกหนึ่งข้อที่สงสัยคือ ทำไมคุณถึงมั่นใจว่า iOS รันทีละแอพ? ในเมื่อมันก็ควรจะมี background process ที่เป็นประเภท monitoring อยู่หลายๆ ตัวเช่นกัน? แล้ว 1 แอพจะมีได้แค่ 1 process ด้วยรึเปล่าครับ? ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมครับ
ป.ล. iOS ใช้วิธี suspend ไม่ใช่ "ปิด" ไม่ใช่หรือครับ? พอทรัพยากรระบบไม่พอถึงจะเริ่มปิดแอพนั้นๆ ซึ่งก็เหมือนกับ Android ที่พอทรัพยากรเริ่มไม่พอ ก็จะเริ่มปิดแอพที่อยู่ใน background เช่นกัน
Dream high, work hard.
แถม parallel กิน ram อีกต่างหาก ต้องมองทีละ 5 ข้อ serial ทำเสร็จก็ไม่ต้องจำ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Samsung Galaxy S III
Samsung Exynos 4412 1400 MHz (4 cores)
1736
http://browser.primatelabs.com/android-benchmarks
แปลกใจทำมัยคะแนนต่างกันกับในเวป MacRumors
ว่าแต่ลองไปดูคะแนน cpu PC ของเราหน่อย Intel Core 2 Duo E6300 1860 MHz (2 cores) ได้ 2122 คะแนน ให้ตายเถอะเดี๋ยวนี้มือถือกำลังจะรัน crysis ได้แล้วจริงๆเหรอเนี่ย O_o
นึกถึงที่ซีอีโอ Foxconn พูดไว้ก่อนเปิดตัวเลย
ตอนแรกเห็นบอกว่าเป็น Quad Core เลยจะเข้ามาเล่นมุข "จตุคอร์ แรมเทพ" พลาดเลยอิอิ ไว้เล่นคราวหน้าละกัน
ตกใจนิดหน่อยอีกเหมือนกันที่เป็น CPU Dual Core แต่ดันแรงทิ้ง Quad Core เจ้าอื่นซะขนาดนี้ ก็นึกไม่ออกว่า iPad ตัวใหญ่รุ่นใหม่ที่น่าจะใช้ A7 (ซึ่งน่าจะเป็น Quad core แล้ว) จะแรงขนาดไหน
Technology is so fast!