สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากคนใน Foxconn ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างประกอบสมาร์ทโฟนให้หลายบริษัทรวมทั้งแอปเปิลและ Amazon ว่าตอนนี้ Amazon กำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนของตนเองอยู่ เพื่อเสริมการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่แอปเปิลและ Android ครองตลาดอยู่ ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่า Amazon น่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนนี้ในช่วงปลายปี และน่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่กดราคาลงมาต่ำ ตามกลยุทธ์เดียวกับ Kindle Fire
รายงานยังระบุว่า Amazon อยู่ในช่วงของการเจรจาซื้อกิจการบริษัทต่างๆ ที่ถือสิทธิบัตรซึ่งเกี่ยวข้องกับสมาร์ทโฟนอยู่ด้วย ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาการถูกฟ้องร้องเมื่อสินค้าเปิดตัวมา ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายบริษัทกำลังเผชิญอยู่
ที่มา: Bloomberg
Comments
amazon พาเพลินจริง ๆ ดีครับ จะได้ของดีราคาถูกลงไปอีก
สุดท้ายทุกบริการบนโลกนี้ เมื่อแข็งแกร่งและมีเงินถังแล้ว ก็ต้องผลิตมาสมาร์ทโฟนเพื่อให้ตัวเองมีที่ยืนได้อย่างมั่นคงในอนาคต
ไม่มีลายเซ็น
แข่งกับ Android ยังไง ในเมื่อ Tablet ของตัวเองยังใช้ Android หรือสร้างโอเอสใหม่เอง
มันไม่ใช่ Android ธรรมดานี่ครับ ใช้ Play Store ก็ไม่ได้
คิดว่าใช้ android แต่ทำบริการ คือ app มาแข่งอย่างที่ kindle ทำอยู่ครับ พวก market ซื้อ หนังสือ หรืออาจจะเป็น map ที่พึ่งซื้อ แต่คงต้องหาจุดขายที่ต่างจากคู่แข่งแบบ samsung หน่อย (เท่าที่เห็นก็บริการของ amazon ทั้งหมดละครับ มีอะไรก็ใส่มาให้หมด) แต่วิธีทำตลาดของ amazon ไม่ค่อยจะเหมือนใคร วิธีของพี่แกคือ กดราคาเครื่องให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ขายขาดทุนก็ยอม แล้วเน้นขาย content แทน ซึ่งก็สร้างปัญหาให้คู่แข่งแน่แน่ครับ ต้องรอดูกันต่อไป (ส่วนพวกเรา รอซื้อของถูกครับ)
Android โมดิฟายครับ ไม่มี Play Store ไม่ใช่ OS ตัวเอง 100% แต่ก็ไม่ใช่ Android 100% ด้วย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
งั้น Android 100% ของคุณก็เท่ากับ Android + Google Apps แล้วล่ะครับ
ในความคิดผมแค่ AOSP นับว่าเป็น Android 100% ได้นะ
คงแข่งกับ Android อื่นเรื่อง ecosystem แหละครับ ส่วนใหญ่ผูกติดกับ Google กันแทบทั้งนั้น
อย่าลืมว่า คอนเท็นท์ของอเมซอน อลังการมากเลยนะครับ แล้วฐานลูกค้าเยอะมากด้วย
ตามนั้น ใครที่เสพภาษาอังกฤษได้ จะซึ้งว่าเงินมันไหลออกจากตัวเราได้ง่ายเหลือเกิน
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
root ได้เมื่อไหร่ Amazon ร้องให้
แต่กลายเป็นว่า rooted แล้วก็ไม่อยากเปลี่ยน ROM อยู่ดีเพราะผู้ใ้ช้ติดใจบริการและ content ของ amazon ผมมองว่าเค้าก็ประมาณการไว้อย่างนี้เหมือนกันครับ
ผมว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Fire จึงไม่ได้อัพสเป็คอย่างหรูหราคือเน้นถูกใช้งานได้แต่สภาพแวดล้อมครบพร้อมเครื่อง เกมส์ที่ปรับแต่งให้ลื่นเป็นอย่างดี ที่ขายในมาร์เกตเฉพาะของตัวเองเท่านั้น แอพฯที่ขายก็เป็นรุ่นที่ติดต่อกับอเมซอนเพื่อตรวจลิขสิทธิ์การใช้งานทุกครั้งที่ทำงาน
คุณรูทไปได้ คุณก็เอาเกมส์ไปเล่นที่อื่นไม่ได้ หรือกลับกัน เอาเกมส์จากมาร์เกตปกติไปเล่นเกมส์ก็ไม่ลื่น
พวกนี้เค้ามีจุดแข็งของเค้าอยู่แล้ว ก็นะ ..ทำอะไรมาเสริมผลิตภัณฑ์หลักของตัวเอง ก็โอเคอยู่
..: เรื่อยไป
มันคือ แอนด๋อยแบบระบบปิดนั่นเอง :P
นี่แหละที่น่ากลัว GG จะว่าไงกันล่ะ
ตามความเห็นผมนะครับ นี่คือสิ่งที่ GG ตั้งใจจะให้เป็นแต่แรก (หรืออาจไม่ได้ตั้งใจ แต่ถึงมีคู่แข่งก็ไม่กลัว เพราะเหมือนเป็นการช่วยกันพัฒนา) android เป็น opensource ไม่ใช่ระบบปิด รายได้ของ GG ก็ไม่ได้มาจากการขาย os แต่เป็นโฆษณา (ยิ่งคนนิยมใช้ ก็ยิ่งขายโฆษณาได้มาก) GG พร้อมจะสู้ด้วยบริการที่เหนือกว่าอยู่แล้ว การพัฒนาโดยมีคู่แข่งในโลก opensource มีตัวอย๋างอยู่แล้วในกรณีของ chrome และ firefox มันจะช่วยทำให้การพัฒนาเร็วขึ้น ตอนนี้ก็มีกรณีคล้ายคลึงกันในกรณี kindle กับ nexus7 (ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าไม่มี kindle ก็คงไม่มี nexus7) และผู้บริโภคอย่างเราก็ happy ส่วน google ก็เก็บค่าโฆษณาต่อไป win win กันทั้ง 2 ฝ่าย
ผมมองอีกแบบอย่างนี้นะครับ GG ตั้งใจขายโฆษณา (+แอป) แต่ต้องแลกทรัพยากรส่วนหนึ่งในการพัฒนา OS ส่วน amazon ก็เอาสิ่งที่ GG พัฒนามาเปลี่ยนไส้ใน เอาโฆษณาของตัวเองลง ขายแอปของตัวเอง ยิ่งถ้า amazon มี search มี map แล้ว GG ก็มีแต่เสียครับ
ลายเซ็นยาวเกินไปครับ