หลังจากเว็บไซต์ SuperSite for Windows ลงรีวิวมือถือ Kin ทาง Engadget และ Gizmodo ก็ได้เครื่องมาลองแล้ว ผลรีวิวทั้งคู่เป็นดังนี้ (เขียนเฉพาะส่วนที่แตกต่างระหว่าง Engadget และ Gizmodo)

ไส้ในเครื่อง

• ใช้ซีพียู Tegra APX2600 เช่นเดียวกับ Zune HD
• ไม่มีช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติม
• ขณะทำงานเครื่องไม่ค่อยร้อน
• รายละเอียดที่เหลือดูเพิ่มเติมได้จากข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2

ฮาร์ดแวร์

Engadget

• ทั้งสองใช้วัสดุคุณภาพต่ำ
• ตัวอักษรที่พิมพ์ลงบนคีย์บอร์ดอ่านยาก
• การวางคีย์บอร์ดแนวนอนของ Kin Two อาจทำให้ผู้ใช้ที่มือค่อนข้างใหญ่จับลำบาก

Gizmodo

• การสไลด์แผงปุ่มกดทำได้ดีทั้ง Kin One และ Kin Two
• คีย์บอร์ดใช้งานได้เป็นอย่างดี
• หากจับมือถือ Kin Two ถ่ายรูปโดยใช้ปุ่มถ่ายรูปอาจไปขยับแผงปุ่มกดให้เคลื่อนได้ (ต้นฉบับ: Holding the Kin Two like a camera and pressing the (dedicated) camera button causes the phone to inch open)

หน้าจอ

• ดูเหมือนหน้าจอมืดเกินไปในช่วงเปิดเครื่อง เนื่องจากการปรับอัตโนมัติตามเซ็นเซอร์แสง
• ต้องเพ่งสายตาดูข้อความ เนื่องจากหน้าจอความละเอียดน้อยและความหนาของพิกเซลที่ค่อนข้างหนา

กล้อง

Engadget

• เลนส์ทั้งคู่มีฟีเจอร์โฟกัสอัตโนมัติและ image stabilization
• จากคลิปโฆษณาของไมโครซอฟท์ แสดงให้เห็นว่าไมโครซอฟท์เน้นกับการใช้กล้องเป็นอย่างมาก แต่ปุ่มถ่ายรูปนั้นกดยากและใช้งานได้ไม่ค่อยสะดวกเพราะตำแหน่งของนิ้วมือที่จะกดถ่ายรูปได้อาจไปบังเลนส์กล้องเข้า ทำให้ภาพถ่ายดูไม่ดีตามไปด้วย
• สรุปว่า กว่าจะถ่ายรูปได้ฉากอันน่าประทับใจนั้นคงผ่านไปแล้ว!
• ผลงานการถ่ายวีดีโอ HD 720p ของ Kin Two ไม่ดีเท่าที่ควร แถมมีเสียงรบกวนจากลมค่อนข้างมาก
• ไม่สามารถอัพโหลดวีดีโอ HD หรือวีดีโอที่มีความยาวเกิน 1 นาทีเข้า Kin Studio ได้ (แสดงว่าคงไม่ใช่ทุกอย่างที่จะอัพโหลดขึ้น Kin Studio ได้เหมือนที่โฆษณาไว้)

Gizmodo

• ภาพถ่ายคุณภาพไม่น่าประทับใจ โดยภาพดูมืดมากในที่แสงน้อย และสว่างมากและสีไม่มีความอิ่มตัวในที่แสงจ้า
• แสงไฟแฟลชทำให้คุณภาพของภาพลดลง

คุณภาพเสียง

Engadget

• คุณภาพเสียงจากลำโพงเครื่องและหูฟังไม่ดีเท่าที่ควร

Gizmodo

• คุณภาพการโทรค่อนข้างดีและเสียงค่อนข้างหนัก (ต้นฉบับ: the volume was ample)

ซอฟต์แวร์

Engadget

• ถูกบังคับสร้าง Windows Live ID ทันทีเมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก เพื่อให้มือถือสามารถซิงค์ข้อมูลกับ Kin Studio ได้ และเนื่องจากการไม่สามารถใช้ Windows Live ID เดิมหรือแอ็กเคานต์ของผู้ให้บริการรายอื่นได้ ทำให้การนำรายชื่อผู้ติดต่อที่มีอยู่แล้วเข้ามือถือ Kin เป็นเรื่องยากไปเลย
• หน้าจอหลัก (home screen) เป็นดังแสดงในรูปข้างล่าง

• ดูไม่เข้าท่าเลยสำหรับซอฟต์แวร์ Spot ที่จะให้วางคอนเทนต์และรายชื่อคนที่เราจะส่งไปถึงลงไป เนื่องจากเป็นการยากที่แบ่งปันข้อความที่ผสมปนเปกันในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือ MySpace (ดูวีดีโอสาธิตการใช้ Spot ได้จาก Gizmodo)
• สมมติว่าผู้ใช้เพิ่มแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ลงเครื่อง ผู้ใช้จะสามารถมองเห็นและอัพเดทสถานะของตนลงไปได้ "เท่านั้น" โดยที่ไม่สามารถ retweet ไม่สามารถส่งข้อความไปหาใครโดยตรง ไม่สามารถเรียกดูการอัพเดทสถานะเฉพาะคนได้ และกระทั่งไม่สามารถเปิดลิงก์ที่แนบมากับทวีตได้ (ต้องคลิกลงทวีตนั้น เลือก Open in Browser รอให้เบราว์เซอร์โหลดเว็บไซต์ twitter.com แล้วค่อยอีกลิงก์นั้นอีกที!!)
• ไม่สามารถปรับตั้งการดึงการอัพเดทสถานะจากเว็บไซต์ชุมชนออนไลน์ได้ (อัพเดททุก 15 นาที) แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ไม่สามารถติดตามการอัพเดทและอัพเดทสถานะรวมถึงคอนเทนต์อื่นของตนเองแบบทันทีทันใดได้เลย!
• เบราว์เซอร์ล่มเป็นประจำเมื่อโหลดเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนมากเช่นเว็บไซต์ Engadget แถมโปรแกรมอ่านเขียนอีเมลยังมีปัญหาเรื่องการแสดงผลกระทั่งอีเมลที่เป็น HTML ธรรมดา
• Zune App ดูดีสุดเมื่อเทียบกับแอพพลิเคชันอื่นในมือถือ Kin แต่กระนั้นก็ยังมีปัญหาอยู่ อาทิ แสดงผลเฉพาะแนวตั้ง ยกเว้นตอนค้นหาเท่านั้นที่จะถูกบังคับแสดงผลแนวนอนแทน
• เครื่องค้างง่ายมาก ต้องรีสตาร์ทอยู่หลายครั้ง

Gizmodo

• ไม่สามารถแสดงผลอีเวนต์ รวมถึงคอนเทนต์อื่นๆ จากเฟซบุ๊กได้ รวมถึงไม่สามารถอัพโหลดรูปลงทวิตเตอร์และ retweet ได้
• ทำงานได้ค่อนข้างช้า
• ดูเหมือน "ไมโครซอฟท์ยังทำงานไม่เสร็จ"

สรุป

• Engadget: มือถือ Kin ไม่ได้โชว์อะไรที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งเลย มือถือนี้จึงควรถูกยุบโครงการไปก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดด้วยซ้ำ
• Gizmodo: หากเป็นผู้ฆ่าโทรศัพท์โง่ๆ คงเป็นเรื่องง่ายไร้กังวล แต่หากเป็นคู่แข่งกับสมาร์ทโฟนตัวอื่นล่ะก็ คงไร้ซึ่งความหวัง

ที่มา: Engadget, Gizmodo