Activision Blizzard ประกาศผ่าน Blog ของเกม Overwatch 2 ว่ากำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้เกมกลับมามอบประสบการณ์ดีในโหมด PvP อีกครั้ง และจะสร้างความโปร่งใสเพิ่มความไว้วางใจให้กับผู้เล่นมากขึ้น
ทีมงานยืนยันว่าพวกเขาได้ยินเสียงตอบรับจากผู้เล่นเกี่ยวกับโหมดการแข่งขันตลอด 8 ซีซั่นที่ผ่านมา และมีแผนจะเปิดตัวอัปเดตใหญ่เพื่อให้ตัวละครแต่ละตัวเข้ามือผู้เล่นมากขึ้น และทำให้ผู้เล่นเห็นอันดับใหม่ของผู้เล่นทุกครั้งหลังจบทุกแมตช์โดยมีรายละเอียดระบุอย่างชัดเจน
Overwatch 2 – Season 9: Champions จะปล่อยให้เล่นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ อัปเดตของซีซันนี้มีเปลี่ยนแปลงได้แก่ ระบบ Progression แบบใหม่, วิธีคำนวณอันดับการเล่นในโหมดการแข่งขันแบบใหม่, การปรับบาลานซ์ของเกมเพลย์แต่ละตัวละครในแต่ละตำแหน่งให้สมดุลมากขึ้น และสกินใหม่ ๆ ของตัวละคร
ที่มา - Overwatch Official via Eurogamer
Comments
จากใจคนที่เล่นตั้งแต่ Day 1 บอกได้แค่เพียงว่า
" ครับ "
คิดถึง 6v6 เหมือนเดิมง่ะ
+1
+2
Make Overwatch Great Again.
ยากอะ ถ้าฟัง Casual มากไปพวกจริงจังเกมมิ่งก็เลิก
ถ้าไปฟังพวก Competitive มากมันจะทำให้ Casual เลิกเล่น และสุดท้ายพวก Competitive มันก็เลิกเพราะไม่มีคนมาวิ่งให้ยิง
มันต้องหา Balance ผมอยากเล่นนะ แต่อ่อนอะ เข้าไปทำไรไม่ได้เลย เวียนว่ายตายเกิดจนเบื่อ
เอ๋ แบบนี้แปลว่าdotaประสบความสำเร็จหรอครับ เพราะมันใช้แพทเดียวกัน เกมก็แสนยากลึกลับซับซ้อน
The Last Wizard Of Century.
อาจจะเป็นเพราะว่า DotA มันปรับ mode ได้หลากหลาย
อยาก casual ก็ easy mode
อยาก จริงจัง ก็ league mode
ละมั๊ง
ปัญหาคือคนเล่นส่วนใหญ่คือcasualนี่แหละแต่ก่อนหน้านี้ดันปรับสมดุลเกมเอาใจแต่สายesportมากเกินไปจนไม่สนใจcasualเลยไม่ฟังfeedback คนเค้าถึงได้ออกมาด่ากันว่าเกมไม่สนุกยิ่งพวกreworkตัวละครควรเป็นสิ่งสุดท้ายที่ควรจะทำแต่บลิซซาดก็ขยันreworkบ่อยมากถามหน่อยมีใครอยากฝึกตัวเมนใหม่บ่อยๆบ้าง บางทีรีเวิร์คมาเปลี่ยนสกิลจนเล่นไม่ได้เลยก็มีต้องเปลี่ยนเมนที่ชอบกันไปเลย ไอ้พวกจริงจังhardcoreมันไม่อะไรหรอกเล่นทั้งวันเค้ามีเวลาฝึกเยอะ แคชชวลนี่กว่าจะฝึกจนเก่งเล่นไปเหอะอีกเป็นเดือนกว่าแร้งเท่าเดิม
ความคิดเห็นส่วนตัวทั้งหมด
ผมชอบ graphic แบบเดิมมากกว่า แบบใหม่มันดูเด็กน้อยเกิน ไม่ค่อยเข้ากับ story ต่าง ๆ เท่าไร
การเล่นแบบตายแล้วเกิดใหม่เร็ว ผมว่ามันทำให้คนเล่นเกมล้าและเบื่อง่าย game play ที่รวดเร็วเกินไป ทำให้เกมนี้ไม่เหมาะจะมาทำเป็น e-sport เพราะความสนุกของการดูกีฬาคือการได้ดูการแข่งขันไปพร้อม ๆ กับซึบซับทำความเข้าใจผ่านการฟังนักพากษ์ การพากษ์กีฬานี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สำคัญมาก ลองสังเกตดูว่ากีฬาที่นิยมส่วนมากมักจะมีการพากษ์ประกอบทั้งสิ้น ยกเว้นเสียแต่กีฬาที่เล่นคนเดียวหรือทำอะไรชัดเจนเข้าใจง่าย เช่น สนุกเกอร์ ว่ายน้ำ ตีแบด ตีเทนนิส เป็นต้น ดังนั้นในการแข่งขันมันต้องมีช่วงเวลานิ่ง ๆ ให้นักพากษ์ได้ทำหน้าที่อธิบายบ้าง แต่ Overwatch ทุกอย่างมันเร็วไปหมด คนดูก็ดูไม่ทัน คนพากษ์ก็พากษ์ไม่ทัน ดูแล้วไม่มีความสนุก Overwatch League ถึงได้เจ๊งไปยับ ๆ
That is the way things are.
เรื่องgame playเร็วนี่อยากจะบอกว่าเกมfpsทุกเกมที่เป็นesportแล้วประสบความสำเร็จตอนนี้เร็วกว่าOWทั้งสิ้น ไม่ว่าจะcsหรือvaloที่ยิงกันเปรี้ยงเดียวตาย ไม่ได้มีมายิงยื้อกางโล่ยืนฮีลกันแบบOW ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่ทำให้คนดูesportสนุกคืออะไรที่มันเบสิคเข้าใจง่ายมากกว่า แบบOWมันทำหลายอย่างเกินไปดูไม่รู้เรื่องไม่ใช่เพราะว่ามันเร็วต่อให้สโลว์x4ถ้าคนที่ไม่ได้เข้าใจเกมลึกซึ้งมาดูก็ดูไม่รู้เรื่องรวมถึงการสลับจอไปมารัวๆทำให้การดูยิ่งสับสน(เช่นจับจอทีมAอยู่ดีๆสลับเป็นทีมBแล้วสลับไปมา) ส่วนเรื่องเกิดใหม่นี่ผมมองว่าคนเล่นสนุกกับสิ่งนี้มากกว่าคนดูตรงนี้ผมไม่ได้แคร์คนดูเท่าไหร่แหละเพราะการตายแล้วต้องมานั่งรอลุ้นเพื่อนแม่งโครตน่าเบื่อจากที่เคยเล่นโหมดที่ตายแล้วตายเลยมาบางตาเจอเกมยื้อนั่งรอจนง่วง เล่นเกมมันควรจะได้เล่นต่อเนื่องไม่ใช่มาเล่นๆหยุดๆ ถ้ารอบไหนดวงซวยตายตั้งแต่เริ่มติดๆกันนี่เบื่อหนัก ลีกที่มันเจ๊งมันเกิดจากหลายสาเหตุนะทั้งระบบการแข่งขันที่คนส่วนใหญ่ชอบทัวร์นาเม้นมากกว่าทั้งเกมที่ดูยากเข้าใจยากพอดูไม่รู้เรื่องก็ไม่สนุกแล้วก็บาลานซ์ไม่ดีทำให้hero poolในแต่ละซีซั่นทุกทีมซ้ำๆกันไปหมด
ผมว่าคุณเข้าใจความหมายของผมผิดนะ
เร็วช้าคือหมายถึง มันต้องมีจังหวะว่างให้คนพากษ์ได้นำเสนอความสนุกของเกมให้คนดูเข้าใจ
ยกตัวอย่างเช่น ฟุตบอล กีฬายอดฮิตประจำชาติไทย
ในเกมฟุตบอลก็จะมีบางช่วงที่เกมผ่อน ๆ เช่น ตอนเน้นครองบอลแดนกลาง ตอนโกลรับลูกบอลได้แล้วหาจังหวะเตะสาด ่ช่วงเตะออกหลังหรือออกข้างแล้วนักเตะค่อย ๆ เดินไปหยิบบอล ตอนได้ฟาวล์แล้วรอกรรมการสั่งจุดวางบอล ตอนเปลี่ยนตัวสำรอง เป็นต้น ช่วงจังหวะพวกนี้คนดูจะได้ผ่อนคลายความตื่นเต้น ได้ฟังนักวิเคราะห์เกม และร่วมลุ้นร่วมเชียร์ไปกับทีม บางทีก็ร่วมคิดวิเคราะห์เกมด้วยว่าจังหวะนั้นนี้ไม่ควรทำอย่างนั้นอย่างนี้
ส่วนช่วงจังหวะตื่นเต้นน่าสนุกเร้าใจก็มี เช่น ช่วงลากบุก ช่วงทำประตู ช่วงยิงฟรีคิก เป็นต้น
การเสพสื่อบันเทิงผมว่ามันต้องมีจังหวะเร็วช้าถึงจะประสบความสำเร็จครับ ถ้าทุกจังหวะคือเร็วตลอด ตื่นตัวตลอด สุดท้ายมันจะกลายเป็นน่าเบื่อไปเอง หนังสืบสวนมันก็ต้องมีการปูพื้นเรื่องราวแล้วค่อยมาเฉลยตอนจบ หนังสยองขวัญมันก็ต้องมีการสร้างบรรยากาศกดดันแล้วค่อยเสริมจังหวะสะดุ้งตกใจ
ซึ่งจังหวะแบบนี้มันไม่มีในการแข่งขัน Overwatch เลย มาถึงก็เดินมาพร้อมกัน 5 คน ตะลุย ๆ นัว ๆ กัน บางตัวละครอาจจะแยกไปคนเดียวได้บ้าง เช่น Sombra แต่หลัก ๆ ส่วนมากทุกคนในทีมต้องอยู่ใกล้ ๆ กัน เพราะภารกิจมันออกแบบมาเน้นแบบนั้น เช่น ยึดฐาน เข็นรถ เป็นต้น สุดท้ายการดำเนินเกมมันเลยกลายเป็นว่าสู้นัวกันตลอด ไม่ได้มีการซุ่มดักรอหรือใช้เทคนิคอื่นเท่าไร ตายแล้วก็เกิดใหม่เร็ว คนพากษ์ยังไม่ทันวิเคราะห์ดีเลยว่าควรเปลี่ยนตัวหรือไม่เปลี่ยนดี เผลอแป้บเดียวคนเล่นเลือกตัวใหม่เสร็จแล้ว คนดูก็ช่วยคิดตามไม่ทันไปด้วย ก็รู้สึกขาดส่วนร่วมไปบางส่วน
ในทางกลับกัน CS นี่ยังมีจังหวะถ่วงเวลา ซุ่มซ่อน หรือวางแผนแยกหน้าที่กันไป เช่น ส่งคนไปแอบวางระเบิด เป็นต้น ความสนุกในการลุ้นพลิกเกมก็มี เช่น บางครั้งทีมเสียเปรียบเหลือผู้เล่นแค่ 1 คนในขณะที่อีกฝั่งมี 3 คน แต่ผู้เล่น 1 คนนี้ก็ซ่อนตัว เลือกเส้นทางลอบเร้นได้ดี จนสามารถเก็บอีกฝั่งได้หมด เป็นต้น จังหวะพวกนี้คนพากษ์สามารถเล่าเรื่องให้คนดูอินตามได้ไม่ยาก มันก็เลยดูแล้วสนุก
สรุป ตามนิยามเร็วช้าของผม CS กับ Valorant ช้ากว่า Overwatch ครับ
That is the way things are.
ไอ้ที่พูดมามันก็ไม่ใช่เรื่องของเกมเร็วละ มันคือเรื่องของเกมเพลย์แล้ว ถ้าจะให้แก้ก็คือเปลี่ยนเกมไม่ใช่แค่ทำให้เกมช้าแล้วจะเป็นแบบ cs, valo แล้วเอาจริงๆอย่างที่บอกเกมเพลowอะช้ากว่าสองเกมนั้นแค่มันมีความต่อเนื่องกว่าเพราะเกมไม่ได้จบแค่ตายแล้วจบไฟท์มันต้องทำภารกิจจนเสร็จด้วย(เวลาวัดเกมเพลไวไม่ไวมันต้องดูว่าเวลาเข้าไฟท์แล้วจบไฟท์กันไวแค่ไหนไม่ใช่เริ่มแมทเดินไปยืนหาจุดซุ่มรอคนมาแล้วนับว่าช้าเพราะรอคนเดินมานานแต่จริงๆเกมพวกนั้นยิงฆ่ากันได้ในเวลาไม่ถึงวิในขณะที่owยิงกันหมดแม็กกว่าจะตายดูยังไงก็ช้ากว่าสองเกมนั้น) แล้วที่คุณคิดว่ามันเร็วจริงๆคือมันแค่รายละเอียดเยอะจนคุณจับใจความในไฟท์ไม่ได้เฉยๆ เพราะการไฟท์ของOWคือการเล่นเป็นทีมเกมเน้นทีมเวิร์คสูงเข้า/ออกต้องทำพร้อมๆกันเพราะงั้นเป็นเรื่องยากที่จะดูอะไรรู้เรื่องในไฟท์ ตรงนี้ผมก็เห็นด้วยว่ามันดูไม่สนุกเลยเพราะนัวเกิน แต่มันเป็นปัญหาของเกมสนุกไม่สนุกมั้ย? มันปัญหาของการดูesportมากกว่าถ้าไปโฟกัสตรงนั้นมากต้องแก้เกมจนกลายเป็นเกมอื่นก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วอัพเดทล่าสุดผมว่าblizzardเค้าเข้าใจแล้วนะว่าเกมที่สนุกมันเป็นยังไงไม่ใช่ไปบ้าโฟกัสแค่esport แต่ต้องใส่ใจคนเล่นหมู่มากที่เป็นแร้งล่างๆด้วยตะหาก ปรับให้ยิงโดนกันง่ายขึ้นเพิ่มความแคชชวลเข้าไปทำให้คนaimไม่แม่นก็สนุกไปกับมันได้ลดช่องว่างความห่างของสกิลเพลย์เพื่อให้การแข่งขันมันสูสียิ่งขึ้นเวลาเจอสเมิฟก็จะได้ร้อนน้อยลงด้วย
ใครจะเรียกแบบไหนก็แล้วแต่ได้เลยครับ ผมได้อธิบายรายละเอียดไปหมดแล้ว
ผมเองก็เป็นคนที่เสียเงินซื้อเกม Overwatch มาตั้งแต่แรก ๆ นะ ไม่ใช่เพิ่งมาเล่นฟรีตอนหลัง แล้วก็ตามข่าวเรื่องการพยายาม promote ตัวเองเป็น next e-sports ของ Overwatch มาตลอด จำได้ว่าตอนแรก ๆ มีการเก็บเงินค่าลง league สูงมากหลายสิบล้านดอลล่าร์ ฮิตถ่ายทอดสดการแข่งขันบน Twitch อยู่พักหนึ่ง จนตอนหลังก็เหมือนจะยกเลิกไปเพราะความนิยมเสื่อมถอยลง ตัวผมเองก็เลิกเล่นไปแล้วเช่นกัน
ผมได้ดูถ่ายทอดสดการแข่งขันหลาย match แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าดูแล้วสนุกเลย คนพากษ์นี่ต้องพูดเร็วรัวประหนึ่ง rapper ฟังแทบไม่รู้เรื่อง เมื่อเทียบกับ DOTA2 TI สมัยก่อนนี่สนุกกว่ามาก
เกมถ้าวาง position ตัวเองเป็น e-sports ยังไงก็ต้องดูแล้วสนุก แต่ถ้าจะไม่สนใจ position นี้ก็จะทำแบบไหนก็ได้ แต่ก็ไม่ควรเน้นออกสื่อว่าตัวเองเป็น e-sports มากเกินไปเหมือนแต่ก่อน จะทำให้เกมมัน casual มากขึ้นจับตลาดกลุ่มคนที่เล่นเกมไม่เก่งก็ได้ แต่มันก็จะลดทอนความสนุกของกลุ่มที่เน้น skill play ด้วยเช่นกัน ก็ต้องบริหารสมดุลของ 2 ฝั่งนี้ให้พอดี
ส่วนตัวผมก็ไม่เห็นด้วยที่เกมมันจะต้องง่ายขึ้นนะ เล่นเกม FPS แบบมี objective เอาชนะกัน ถ้ายิงไม่แม่นก็ควรต้องไปฝึกให้เก่งขึ้นมากกว่า แต่อย่างว่า trend ของโลกมันไปทางนี้ ผมก็พอเข้าใจ มันก็คล้าย ๆ กับ DOTA2 กับ LOL
สุดท้าย จำนวนผู้เล่นจะเป็นตัวบอกเองครับว่าเกม competitive FPS เกมไหนสนุกหรือไม่สนุก
That is the way things are.