นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้พบกับนักธุรกิจสายเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริการะหว่างการเยือนนิวยอร์กเพื่อประชุมสหประชาชาติ โดยบุคคลที่ได้พบคือ Elon Musk, Brad Smith ประธานของไมโครซอฟท์ (คนใส่เนกไทสีม่วงในภาพ) และตัวแทนของกูเกิล
เศรษฐา เล่าว่าพบกับ Elon Musk และทีมงานทั้งจาก Tesla, SpaceX และ Starlink โดยแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับโลกอนาคตที่ใช้พลังงานสะอาด ซึ่ง Elon เองก็เข้ามาตอบใน Twitter ว่าเป็นเกียรติที่ได้พบ และประเทศไทยมีอนาคตที่น่าตื่นเต้น
นอกจากนั้น เศรษฐายังได้เจอกับ Brad Smith ผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ตำแหน่งประธานบริษัท (President) และได้คุยเรื่องอนาคตของประเทศไทยในยุคคลาวด์ด้วย ซึ่ง Brad Smith ก็มาตอบผ่านทวิตเตอร์ว่าเป็นเกียรติที่ได้พบเช่นกัน
It was an honor to meet. Thailand has a very exciting future!
— Elon Musk (@elonmusk) September 22, 2023
It’s a good opportunity having meeting with @Microsoft and @MicrosoftThailand representatives during my trip to #UNGA in #NewYorkCity. Great discussion of the exciting future of cloud and opportunities for Thailand. Look forward to see more public-private collaborations in the… pic.twitter.com/dh2FRtWuIG
— Srettha Thavisin (@Thavisin) September 22, 2023
It was a pleasure meeting with @google team today! I was pleased to hear that Google has made Thailand workers gain 5 days of productivity annually as well as the exciting news on the success of Google's cloud-first concept in many countries. I'm sure that the concept would also… pic.twitter.com/7BdviCyxm9
— Srettha Thavisin (@Thavisin) September 22, 2023
Comments
สรุปนายกเศรษฐาได้ถาม Elon เรื่องบัญชี Twitter ของตัวเองถูกแฮ็คไหม
ฮาา
WE ARE THE 99%
ดูดีกว่าคนเก่าเยอะ 🫣
Elon จะมาเปิด Tesla Flagship Showroom ที่ EMSPHERE ด้วยตัวเองรึเปล่านะ
หวังว่าคงดูดีกว่ายุค แปดปีที่ผ่านมา
Not the most prestigious PM but this is apparently better than Prayuth.
นานแล้วที่ไม่เห็นอะไรแบบนี้
จะว่าไป แกไม่มี blue check เหรอเนี่ย
ดีนะไม่โดนทวง
Elon กับ เศรษฐา นี่คล้ายๆ กันนะเป็นผู้บริหารที่พนักงานมักจะไม่ชอบ ไม่ชอบขี้หน้า แต่คนแบบนี้บริหารงานได้ดี พาธุรกิจประสบความสำเร็จ
ในทีมบริหารขนาดใหญ่มักมี 2 ไพ่ คือ ไพ่นักบริหาร กับไพ่ผู้นำ นักบริหารที่ทำงานหน้างานจะทำหน้าที่ค่อนข้างดุดัน สั่งต้องได้เพื่อให้องค์กรเป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ ในทางกลับกันคนถือไพ่ผู้นำมักจะมีลักษณะตรงข้ามกัน คือ อ่อนโยน เป็นห่วงเป็นใยคนอื่น มีวิธีพูดโน้มน้าวคนที่ดี ซึ่งมักจะมีคอย support เวลาพนักงานนอยด์จากผู้นำที่เป็นผู้บริหารเพื่อปรับสมดุลทีม
ถ้าทีมไหนมี 2 ไพ่ ผลักดันนโยบาย มักได้ผลสูงสุดมากกว่าผู้นำที่มีไพ่ในมือใบเดียว ในพรรคเพื่อไทย ก็มีคนถือไพ่นี้คนละใบ ทำงานแยกกันอยู่แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่สมดุลสุด เพราะปกติจะไม่นำคนที่มีไพ่หน้าเดียวกันมาทำงานนำองค์กรเหมือนกันเพราะมักจะทะเลาะกัน หรือปล่อยให้มีไพ่ใบเดียวในมือ พอโดนตีตรงจุดก็ไปต่อไม่ได้ การวางไพ่มันแสดงให้เห็นถึงวิธีคิดของคนในองคกรนั้นๆ ด้วย ถ้าจะเลือกทีมไหนมานำประเทศก็ดูการวางโครงสร้างทีมได้ในระดับหนึ่ง
ทั้ง Teala, Microsoft และ Google เริ่มลงทุนในประเทศไทยมาเป็นปีแล้ว
อย่างว่าแหละ ก่อนหน้านี้สื่อไม่ลงคนก็ไม่รู้ ถือซะว่าเป็นการสานต่อในเรื่องที่ดี
สื่อยุคนี้เอียงสุดๆ
ไม่เหลือจรรยาบรรณในการเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาและเป็นกลางเลย
ยุคนี้ก็ยังบิดเบือนนะ
สื่อหลักหลายเจ้าลงข่าวบิดเบือนเรื่องนโยบายจ่ายเงินเดือนข้าราชการสองงวดเร็วขึ้น แต่ชี้นำว่าจ่ายช้าลง แถมปั่นข่าวกันทุกวันทั้งๆที่เขาชี้แจงหลายรอบแล้วว่าจ่ายเร็วขึ้น
แต่ข้าราชการที่โดนปั่นว่าจะได้เงินช้าลงไม่พอจ่ายหนี้แล้วออกมาด่าหยาบคายเต็มฟีดก็นะ....
นั่นแหละ ตอนนี้สื่อเรามี misinformation, disinformation, malinformation ครบ
จนผมรู้สึกว่า ปัญหาหลายอย่างเกิดจากสื่อ
แล้วเราไม่สามารถหยุดยั้ง ลงโทษสื่อ+แก้ไขสถานการณ์ข่าวอะไรได้เลย
เพราะถ้าทำจะเจอการ์ด คุกคามสื่อ+เสรีภาพสื่อ ตลอด
PR ไม่ดี เอง
กับลงข่าวแต่คนไม่เชื่อกัน เรียกง่ายๆ ขาดความน่าเชื่อถือ ทำไรคนก็ไม่ชอบ ภาพลักษณ์มันเสียไปแล้วละครับ
คุณต้องทำความเข้าใจด้วย ว่ายุทธศาสตร์การข่าวของรบ.ก่อนทำให้ตัวรบ.เองประชาสัมพันธ์ได้ไม่เต็มที่
เล่นอวยจีน ด่าอเมริกาไว้ซะขนาดนั้น ลูกไล่ลูกหาบก็ตามไปด่าล้าง ด่าเช็ดอเมริกากัน
จะให้ลูกหาบมายินดีกับการลงทุนจากประเทศที่โจมตีเอาไว้มันก็ลำบากนะครับ เดี๋ยวก็หาว่ารบ.ขายประเทศให้อเมริกาไปอีก
แถมพอฝั่ง รบ ปัจจุบันทำบ้างผมไม่ค่อยเห็นกระแสปั่นเรื่องฐานทัพลับอเมริกามาเหมือนของอีกฝั่งในช่วงเลือกตั้งเลยนะครับ
+1 ทั้งสองคนครับ
ลุงตู่ก็เคยเข้าพบกับ elon นะครับทำเป็นเล่นไป ถถถถถถ.
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
รายนั้นน่าจะเป็นตอนเหตุถ้ำหลวงซึ่งไม่เกี่ยวกับธุรกิจนะครับ
ผมว่าคราวนั้น Elon เข้ามาช่วยเด็กติดในถ้ำมากกว่านะ แต่ไม่ได้ช่วยเพราะโดนปฏิเสธจากทีมช่วยเหลือ แล้วไปด่าอาสาสมัครจากออสเตรเลียคนหนึ่งว่า Pedo (ผู้ใหญ่ที่มีความใคร่กับเด็กผู้หญิงไม่บรรลุนิติภาวะ)
อาสาคนนั้นก็ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทใส่ Elon ต่อ ตอนนี้น่าจะยังอยู่ระหว่างกระบวนการในศาลอยู่หละมั้ง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว