CNA สัมภาษณ์พนักงาน Twitter ทั้งอดีตพนักงานและพนักงานปัจจุบันรวม 10 คนถึงเหตุการณ์ที่ Elon Musk ปลดพนักงานออกครั้งใหญ่หลังจากขึ้นเป็นซีอีโอ
พนักงานที่ถูกปลดเผยว่าการปลดพนักงานของ Twitter ไม่เหมือนบริษัทเทคโนโลยีใหญ่รายอื่น ๆ คือ ไม่มีการแจ้งอย่างชัดเจน ไม่มีการสื่อสารกันภายในองค์กร ไม่เหมือนการทำงานใน Twitter ที่ปกติให้คุณค่ากับความโปร่งใสและความเห็นใจกัน
พนักงานคนหนึ่งยังบอกอีกว่าในช่วงที่บริษัทปิดออฟฟิศเพื่อประกาศปลดพนักงาน บางคนก็ไม่สามารถเข้า Email และ Slack ได้ตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับอีเมลว่าถูกปลดออก หลังจากเปิดบริษัทก็มีความสับสนเกิดขึ้นในบริษัทเพราะพนักงานโดนปลดออกจำนวนมาก บางทีระดับผู้จัดการถูกปลดออก พนักงานก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำงานอย่างไร บางทีมถูกปลดออกเกือบหมด แม้แต่คนที่ไม่ถูกปลดก็รู้สึกผิดกับเพื่อร่วมงาน
พนักงานมองว่าการเปลี่ยนแปลงและการปลดพนักงานเป็นเรื่องปกติเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าของ แต่งเธอมองว่าอย่างน้อยก็ไม่ควรจะปลดซีอีโอ Parag Agrawal และผู้บริหารออกเป็นคนแรก ๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงเรื่องเงินชดเชย พนักงานในสิงคโปร์ได้รับอีเมลเลิกจ้างในวันที่ 9 พฤศจิกายนและมีเวลาตอบกลับถึง 16 พฤศจิกายน โดยบริษัทให้พนักงานหยุดทำงานแต่ยังคงได้รับค่าจ้างถึงวันที่ 31 พฤศจิกายน (Garden leave) และพนักงานจะได้รับเงินชดเชยตามขั้นเงินเดือนครึ่งเดือนคูณกับจำนวนปีที่ทำงานในบริษัท ซึ่งไม่ตรงกับที่ Elon Musk บอกว่า 3 เดือน
ในสิงคโปร์นายจ้างจะต้องแจ้งกระทรวงแรงงานภายใน 5 วันหลังจากแจ้งลูกจ้างเรื่องการเลิกจ้างแล้ว พนักงานที่ให้สัมภาษณ์กับ CNA จึงรอเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ ที่ยื่นเรื่องไปยังสภาสหภาพการค้าแห่งชาติ (National Trades Union Congress - NTUC) จะสามารถเจรจาต่อรองได้ แต่ได้รับคำตอบจาก ว่า Twitter ไม่ได้เป็นสมาชิกของสภาทำให้การช่วยเหลือมีจำกัด
ที่มา: CNA
Comments
ยังจะมีคนเชียร์พี่ Elon อีกไหมนะ
ก็มีแหละครับ มันมีหลายแง่น่ะนะ ผมเองก็มองว่ามันมีทั้งข้อดีข้อเสียแหละ
"ทำไมคุณควรเป็นติ่ง Elon Musk" 🤔
เค้าก็ยังมองว่า Twitter ทำตัวเป็นเต่า ไม่พัฒนา แล้วอีลอนเข้ามาเฉือนเนื้อร้ายออก อยู่ดีล่ะครับ
ธุรกิจคือ ธุรกิจจริงๆ เงินคือเงิน คนหาเงินก็ลำบาก มาจ้างพนักงานอีกเป็นแสน ก็หน้าจะตึงมือ สงสารคนโดนปลอดออกจริงๆ อย่างที่เขาบอก ทำงานให้คนอื่น สิบปี ก็ ไม่มีประโยชน์ สู้เป็นนายตัวเองหาโอกาสที่เหมาสมเพื่อสร้างมันดีกว่า หน้าจะดี
แต่เธอมองว่า
บางที่? บางทีม? ...แต่น่าจะบางทีมนะ ผมเดาจากย่อหน้านี้
ไม่ได้บอกว่าถูกต้อง แต่จากที่ผ่าน layoff มาหลายรอบ มันก็เป็นแบบนี้แหละฮะ นั่งลุ้นว่าตัวเองจะโดนมั้ย คนที่โดนอยู่ดีๆก็หายไป ต้องไปนั่งคุยกันในเว็บ thelayoff ว่าใครโดนบ้าง
ยิ่งเห็นแบบนี้ก็ยิ่งสมาทานความคิดอีลอนไม่ลงจริงๆ จะหักล้างถางพงยังไงก็ต้องซื่อสัตย์กับทำตามกฎหมายให้ได้ด้วย ก็สมควรแล้วที่จะโดน ส.ว. ด่ากลับมา
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
อ่านดูก็งงคนที่ด่า
ก็ยังดูไม่ได้ผิดกฎหมายแรงงานสิงคโปร์ตรงไหนหรือเปล่า?(ข่าวยังไม่ได้บอกว่ามีผิดนะ) เรื่องยอดชดเชย ก็คงแตกต่างไปตามสาขาแต่ละประเทศไป กฎหมายคุ้มครองต่างกัน
จะบอกว่า การlayoff เป็นเรื่องปกติของวงการธุรกิจ โดยเฉพาะบ.ข้ามชาติขนาดใหญ่ และยิ่งเป็นการล้างบางหลังการtake over ก็ไม่แปลกที่ระดับผู้บริหารจะโดนปลดก่อน
สิ่งสำคัญคือทำตามกฎหมายแรงงาน ชดเชยตามกฎหมายหรือเปล่า ถ้าทำตามก็จบ แยกย้าย โอกาสหน้าก็เจอกันใหม่ ไม่ใช่ต้องรวมตัวไปศาลแรงงานกันเองเหมือนบางที่ในบ้านเรา ที่ต้องร้องดังๆออกสื่อถึงได้เงินชดเชยไว(ส่วนเคสที่ไม่ออกข่าว ก็รอนานหน่อย ศาลนัดล่าช้ามากช่วงโควิทบางคนสองปียังไม่จบ) เพราะบ.ข้ามชาติโดยเฉพาะสัญชาติเมกัน ต้องกันเงินสำรองไว้ชดเชย ตามกฎหมายบ้านเขาอยู่แล้ว เลยได้เปรียบกว่าบ้านเรา ที่กฎหมายบอกให้ไปฟ้องเอาเองถ้าไม่จ่าย แถมอาจเจอขอผ่อนอีกตะหาก(เพราะไม่กันสำรองไว้จ่าย)
อีกแง่นึง ถ้าองค์กรยังไปได้ดีมีกำไรมาก ก็คงไม่ขายให้ใครง่ายๆ(ไม่นับเคสstartupนะ) มันก็เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านในยุคเศรษฐกิจแย่แบบนี้แหละ
แต่อันที่จริงส่งจดหมายเลิกจ้างแล้วยังให้เงินเดือนฟรีๆอีกครึ่งเดือนก็นับว่ามากกว่าปกติแล้ว ปกติเขาก็ล็อคระบบตั้งแต่วันออกจดหมายนั่นแหละ
ทำเหมือนเล่นขายของ ก็เล่นจริงๆนั่นแหละ
คือ layoff แบบผู้ใหญ่เขาทำกัน แจ้งเป็นทางการ อะไรยังไงว่ากันไป มันยากยังไง
+1
ในข่าวก็เห็นว่าส่งemail แจ้งตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. ส่วนคนที่เข้าระบบไม่ได้น่าจะเพราะมีสิทธิ์สูง เขาก็ล็อค account เพื่อป้องกันเข้าไปยุ่มย่ามเป็นธรรมดา แล้วรับหนังสือแจ้งเป็นกระดาษวันที่กลับเข้าไปนั่นแหละ
ก็เป็นทางการอยู่นะครับ มีให้เงินชดเชยด้วย ไม่เห็นจะว่าผิดกฎหมายแรงงานสิงคโปร์ตรงไหน
ที่พนักงานสับสน เพราะโดนออกทั้งทีม ถามหัวหน้าก็ไม่รู้เรื่อง จริงๆเคสแบบนี้ เกิดปัญหาต้องไปถามHRครับถึงจะปลดคนออกเกือบหมด ก็จะยังต้องเหลือคนของHRบางส่วนไว้เคลียร์เอกสาร รวมถึงฝ่ายการเงิน/บัญชีด้วย
อันนี้ถามเป็นความรู้นะครับ กรณีที่ได้รับเงินชดเชยตามขั้นต่ำของกฎหมายแรงงาน แต่ไม่ตรงกับที่นายจ้างแจ้งไว้ (เช่นกรณีนี้ ตอนแรกแจ้งเราเป็นลายลักษณ์อักษรว่า 3 เดือน แต่ของจริงเอาไปคูณกับปี แล้วน้อยกว่า 3 เดือน) อันนี้ลูกจ้างมีสิทธิ์ฟ้องมั้ยครับ
ผมไม่เห็นต้นฉบับนะ แต่ปะติดปะต่อจากหลายๆข่าว เหมือนจะเป็นข้อเสนอpackage สำหรับการสมัครใจลาออกนะครับ ซึ่งถ้าทำตาม(เซ็นลาออก)แล้วไม่จ่าย ตามกฎหมายไทยก็ฟ้องบังคับสัญญาได้ครับ
ส่วนถ้าบอกว่า จะเพิ่มให้อีกสามเดือน ในการlayoff อันนี้ไม่เคยเห็นว่ามีที่ไหนทำแบบนี้ แต่คิดว่าถ้ามีสัญญาหรือemailระบุจริง ก็น่าจะฟ้องได้เช่นกัน
แต่ก็ต้องดูรายละเอียด ว่าเขาระบุอย่างไรเป็นเอกสารในนามบ.หรือไม่ เช่นพูดที่เมกา หรือพูดในนามcorporate HQ เพราะตัวพนักงานที่สังกัดสาขาในประเทศต่างๆ จริงๆแล้วก็สังกัดกับบ.ที่จดทะเบียนในประเทศไม่ได้สังกัดHQ อาจจะไม่ได้เงื่อนไขตามHQ ก็ได้(เขาถือว่าเป็นคนละบ.กันแค่HQ ถือหุ้นบ.ลูกที่จดในประเทศ ไม่ได้มีภาระผูกพันทางกฎหมายโดยตรง)
เอกชนก็อย่างนี้ ไม่มั่นคง ไม่แน่ไม่นอน
ต้องพร้อมจะออกได้เสมอ แต่ละเดือนต้องเก็บเงินเยอะๆเข้าไว้
เป็นราชการ เช้าชามเย็นชาม ผลงานไม่ต้องมี ผิดพลาดต้องรีบโบ๊ย เลี้ยงตัวสบาย ๆ เกษียณก็มีคนเลี้ยง
เอกชนต่างประเทศไม่เหมือนในไทยนะครับ เกษียณแล้วเค้ามีเงินบำนาญ
ส่วนไทย ทำงานเงินเดือนหลักแสนหลักล้าน หักภาษีแล้วเอาเงินไปบำเรอราชการหมด พอเกษียณแล้วไม่มีสวัสดิการ