การฉีดวัคซีน COVID-19 ในสหรัฐฯ เริ่มครอบคลุมประชากรจำนวนมากแล้ว นอกจากรัฐบาลแล้วก็มีฝั่งเอกชนที่ช่วยกระตุ้นให้การฉีดวัคซีนนั้นเข้าถึงได้ Uber เองก็ได้ร่วมมือกับ Walgreens มาสักระยะแล้วในเรื่องการพาคนไปฉีดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายการเดินทาง ล่าสุด ขยายฟังก์ชั่นเพิ่ม ให้กดจองเวลานัดหมายฉีดวัคซีน COVID-19 ได้ในแอปเลย
ในการนัดหมาย ผู้ใช้สามารถกดที่ไอคอน Walgreens ที่หน้าหลักของ Uber ทำการจอง ลงตารางเวลา และแสดงปุ่มเรียกรถล่วงหน้าเพื่อจะพาผู้โดยสารไปฉีดวัคซีนตามเวลานัดหมายได้
นอกจากนี้ Uber ยังเปิดตัวบริการเช่ารถในแอป พร้อมตัวเลือกให้มีคนขับนำรถมาส่งให้และนำกลับได้ด้วย เริ่มต้นใช้งานที่ Washington D.C ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่นต่อไป
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เร่ิมต้น > เริ่มต้น
Washington D.C.
รอดูว่าหมอพร้อมของไทยจะใช้งานได้ดีอย่างที่หวังไหม
คนที่ตาละห้อย น่าจะเป็นผู้เสียชีวิต และครอบครัวในสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถอยู่รอถึงวันนี้ได้
นั้นแหละ อยากเป็นประเทศเสรี ไม่มีแดดดี้เป็นเจ้าของก็ต้องทนไป
สู้ไทยไม่มีทางได้...
อันนี้ดักใช่มั้ย 555
อยากขำแต่ขำไม่ออก ประเทศนี้ ?
แล้วผู้เสียชีวิต และครอบครัวในไทยนี่ต้องทำตายังไงรึครับ?
ล่าสุดเห็นคนรู้จัดเตรียมบินไปเมกาเพื่อฉีดวัคซีนละ
คนรู้จักผมบินไปแล้วอ่ะ น่าจะถึงแล้วมั้ง
ไทย Active case / 1M Population = 400
USA Active case / 1M Population = 20,500 (น่าจะสูงที่สุดในโลกตอนนี้นะ)
น่าคิดว่า ระหว่างอยู่รอที่ไทย ไม่ได้ฉีดซักที่ การดูแลจัดการก็แย่ แต่ความหนาแน่นของผู้ติดเชื้อน้อยกว่า โอกาสเสี่ยงน้อยกว่า
กับไป USA มีโอกาสได้ฉีดวัคซีน แต่ความหนาแน่นผู้ติดเชื้อมากกว่า โอกาสติดเชื้อมากกว่า
จะเสี่ยงแบบไหนดี
แต่อย่างว่า ถ้าเราดูแลตัวเองดี ไปถึงสนามบินปั๊บ มีรถมารับ อยู่แต่ในทีพัก ไปฉีดวัคซีนแล้วก็กลับ ก็น่าจะลดโอกาสติดเชื้อได้ ก็น่าไปอยู่
เทียบกันอย่างนั้นไม่ได้ เพราะ จำนวนตัวเลขในไทย ไม่ได้สะท้อนผู้ที่ติดเชื้อที่แท้จริงครับ
ในไทย ยังมีหลายคนที่ต้องการตรวจแต่ไม่ได้ตรวจ หรือแม้แต่คุณอัพที่เพิ่งเสียชีวิตหลังจาก live สด ก็ยังไม่สามารถตรวจได้ หลายรพ.หยุดรับตรวจ บางแห่งปฏิเสธไม่ตรวจให้เพราะไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แถมเอกชนเสียค่าตรวจหลายพัน แถม บางแห่งต่อให้มีเงินก็ตรวจไม่ได้ (โดยส่วนตัว ก็มีคนที่ผมรู้จักอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหลายคนก็ยังไม่ได้ตรวจครับ) ยิ่งไปกว่านั้น การตรวจในไทยให้ RT-PCR หมด ซึ่งก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจำนวนสูงสุดที่ตรวจได้ในแต่ละวันนั้น เท่าไร .... นั่นคือตัวเลขที่เห็นๆ ประกาศๆ ออกมาตอนนี้น้อยกว่าความเป็นจริงแน่นอนครับ
ในเมกา ตรวจกันเป็นว่าเล่น มี drive-through แทบจะทุกแห่ง แถมในระยะไม่กี่ไมล์ แถมตรวจได้ตรวจหมด ไม่ต้องต้องขอ approve แล้วรอรลุ้นผลจากสปคม. ไม่ต้องมานั่งรอขอหมายเลขโค๊ด ... และที่สำคัญคือทุกคนตรวจฟรีหมด
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขที่รัฐไม่เคยเปิดเผยเลยคือ % ของคนติดเชื้อจากที่จำนวนคนทั้งหมดที่ตรวจในแต่ละวัน ผมเชื่อว่า ณ ตอนนี้ % สูงกว่า เมกาแน่นอนครับ
ผมเข้าใจที่คุณเขียนนะ แต่ถ้าจะบอก ไทย % สูงกว่าอเมริกานี่ ต้องคูณเลขดูดีๆ
ประชากรไทยประมาณ 66M เอาแค่เท่าอเมริกา 20,500 ต่อ 1M คือ 1,353,000 เลยนะครับ คุณคิดว่าคนไทยมีติดเชื้อเป็นล้านเลยเหรอครับ
ถ้าถึงขนาดนี้จริง ผมว่าหายนะกว่าที่เป็นอยู่เยอะครับ รู้ว่าคุณไม่ชอบการจัดการของรัฐบาล ซึ่งผมก็ไม่ชอบ แต่เรายังไม่ถึงนะดับอเมริกาหรอกครับ อันนี้เกินไป
อคติมันบังตาก็แบบนี้แหละ ในเฟสเจอน่าจะเฟมทวิต เพราะอ้วกบ่อย หดหู่บ่อยเกิน บอกว่าจะรังเกียจพม่าทำๆม เขาฉีดวัคซีนไปหมดประเทศแล้วโว้ย ... โทรลในหมู่โทรลที่คิดว่าตัวเองคือวอร์ชิฟสินะ
ทำไมไม่คุยกันดีๆ คุยด้วยเหตุผลผมก็คุยนะ ผมหยาบคายตรงไหนหรือครับ
เขาหมายถึง % คนที่เป็นเทียบกับ "จำนวนคนที่ไปตรวจ" ครับ ไม่ได้เทียบกับประชากรทั้งหมด
ซึ่งผมก็ค่อนข้างเชื่อว่าตัวเลขนี้ % เยอะกว่าครับ
แต่มันไม่ได้แปลว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเราหนาแน่นกว่านะครับ เพราะของไทยเราตรวจค่อนข้างน้อยและตรวจเฉพาะคนที่เสี่ยงจริงๆ จึงไม่แปลกอะไร % ที่เจอจะเยอะกว่าประเทศที่เขาปูพรมตรวจแทบทุกคน
สรุปง่ายๆคือ ตอนนี้เราแทบไม่รู้เลยครับว่าความหนาแน่นของผู้ติดเชื้อหรือโอกาสเสี่ยงในไทยเป็นอย่างไร เพราะมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตรวจ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้อะไรเลยแบบนี้ ถ้าเลือกได้ผมคิดว่าบินไปอเมริกาน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าครับ
เซ็ง รบ. นี้มาก ไม่เคยเรียนรู้อะไรเลย คราวคลัสเตอร์สนามมวยก็ไม่สกัดคน ปล่อยให้มันระบาดไปทั่วประเทศ พอมารอบนี้คลัสเตอร์ทองหล่อก็ปล่อยคนกลับบ้านสงกรานต์อีก ปีที่ผ่านมาฉีดวัคซีนได้น้อยมาก จนเวียดนามแซงหน้าไปแล้ว แถมไอ้ที่ระบาดรอบสองก็เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวเถื่อน+พวกสถานบันเทิงกับบ่อนทั้งนั้น
ตอนนี้เชื่อแล้วว่า 10ตู่มาเป็นนายกก็คงทำได้ไม่ดีไปกว่านี้
แต่ถ้าให้คนอื่นมาเป็นน่าจะดีกว่าเยอะ
ตอนนี้ยึดอำนาจ single command แล้วด้วย 55
คงต้องรอให้ความขัดแย้งที่หักหลังภาคธุรกิจเรื่องวัคซีนมันลุกลามจนไฟลนก้นแทน เพราะฟากนั้นไม่ง้อเป็นหมาแบบภาคพรรคร่วม
ที่อเมริกาฉีดกันได้เยอะก็น่าจะเพราะว่าประธานาธิบดีอเมริกาใช้กฎหมาย DPA เพื่อสั่งห้ามการส่งออกวัตถุดิบสำหรับการผลิตวัคซีนเพื่อเร่งผลิตในประเทศและระดมฉีดในคนอเมริกันก่อน
เดี่ยวคนไทยก็จะผลิตเองเหมือนกันนะครับ น่าจะฉีดได้เยอะไม่แพ้อเมริกาแน่นอน 5555+
แต่คงต้องรอหน่อยน่าจะปลายปีเลยหรือเปล่า