Tags:
Node Thumbnail

แม้หลายประเทศจะพยายามใช้แอพจำพวก contact tracing ที่ใช้ Bluetooth ของมือถือ เพื่อติดตามและประเมินความเสี่ยงในการติด COVID-19 ของผู้ใช้ เช่น แอพ StopCovid ของฝรั่งเศส ที่มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 2 ล้านครั้ง และแอพ Covidsafe ของออสเตรเลีย ที่มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 6 ล้านครั้ง แต่ปัจจุบัน ทั้งสองแอพมียอดการแจ้งเตือนรวมกัน แค่ 14 ครั้งจาก StopCovid เท่านั้น ส่วน Covidsafe ของออสเตรเลียยังไม่มีการแจ้งเตือนสักครั้ง แม้ยังมีเคส COVID-19 ในรัฐวิคตอเรียอยู่

เว็บไซต์ MIT Technology Review ติดตามเรื่องนี้ และพบว่ามีหลายสาเหตุที่อาจทำให้แอพเหล่านี้ไม่เวิร์คเท่าที่ควร เช่นเหตุผลทางคณิตศาสตร์ ที่ศาสตราจารย์ Jon Crowcroft แห่งมหาวิทยาลัย Cambridge ให้ข้อมูลว่า ตามหลักสถิติแล้ว ถ้ามีคน 1% ติดโควิด และในจำนวนนั้น มี 1% ที่ใช้แอพ อัตราที่แอพจะตรวจเจอคนติดโควิด และส่งแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้อื่น ก็ยังมีแค่ 1 ใน 10,000 เท่านั้น

No Descriptionรูปจาก: University of Washington

นอกจากนี้ยังมีสาเหตุทางด้านเทคนิคต่างๆ เมื่อหลายประเทศ เลือกไม่ใช้โมเดลของ Google และ Apple ที่จะเก็บข้อมูลไว้บนมือถือของผู้ใช้เอง แต่สร้างแอพที่จะส่งข้อมูลไปเก็บไว้ยังเซิฟเวอร์ส่วนกลาง จนพบปัญหาว่า iOS ไม่ยอมให้แอพ Third-Party เปิดใช้งาน Bluetooth เป็นเบื้องหลัง เพื่อทำการ handshake ตรวจสอบการอยู่ใกล้กันของผู้ใช้ได้ แอพ Covidsafe ของออสเตรเลียจึงทำงานได้เพียง 1 ครั้ง จากการเปิดใช้งาน 4 ครั้งบนมือถือบางเครื่อง

ส่วนแอพของฝรั่งเศส ก็มีบั๊กที่แอพจะกินแบตของผู้ใช้มากเกินไป จนมีคนทยอยลบแอพออกไปเยอะ และนอกจากนี้ แอพแต่ละเจ้า ยังตั้งเกณฑ์ระยะเวลาการอยู่ใกล้กันของผู้ใช้ไว้นานจนเกินไป จากการพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการเตือนที่ผิดพลาด แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีการเตือนเกิดขึ้นเลยแทน

No Descriptionแอพ Covidsafe ของออสเตรเลีย บน Play Store

เป็นเรื่องยากที่จะสร้างแอพ contact tracing ที่แยกออกจากระบบของ Apple หรือ Google โดยสิ้นเชิง และ MIT Technology Review ก็แนะนำว่าหลายๆ ประเทศอาจจะต้องลดการรวมศูนย์ข้อมูลไปยังส่วนกลางที่ทำให้เกิดปัญหาทางเทคนิคลง

หรืออีกทางเลือกก็คือใช้โค้ดของแอพที่พิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้ผล เช่นแอพ Corona-Warn ของเยอรมันที่มีผู้ใช้กว่า 15 ล้านคน และเป็น open-source มาปรับใช้ แทนที่จะสร้างแอพใหม่ และควรให้ความรู้กับประชาชนว่าแอพ contact tracing เป็นเพียงอุปกรณ์หนึ่งในการติดตามเท่านั้น ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะแก้ไขปัญหา COVID-19 ได้ทันที

ที่มา - MIT Technology Review

Get latest news from Blognone

Comments

By: tom789
Windows Phone
on 14 July 2020 - 19:31 #1167099

แอพ พวก นี้ มัน ดึง ข้อ มุล มากจากไหน นะครับ ถึง รุ้ว่า คนๆนั้น ติด มาก่อนแล้ว ตัวแอพ ก็ไม่น่าจะรุ้ ว่า ใคร เปินไม่เป็น แค่ แจ้งเตือน

By: mheevariety
ContributorWriter
on 15 July 2020 - 01:55 #1167127 Reply to:1167099
mheevariety's picture

คือมันเป็นระบบเก็บสถิติครับ พอตรวจเจอว่าติด ก็ย้อนประวัติไปดู ว่าอยู่ใกล้ใครที่ไหนบ้าง เพื่อสืบต่อให้เร็วที่สุดว่าใครมีโอกาสติดจากคนที่ตรวจเจอ เพื่อให้มันไม่แพร่กระจายเป็นวงกว้าง

By: TheOrbital
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 15 July 2020 - 08:03 #1167134 Reply to:1167099
TheOrbital's picture

ลองอ่านตามเว้นวรรคจริงๆ จะได้อารมณ์แบบคลิบฌอนมากๆ =_="

By: xyz123 on 14 July 2020 - 19:46 #1167103
xyz123's picture

ผมเข้าใจว่ารัฐบาลหลายประเทศไม่ชอบระบบ API ของ Apple/Google แต่ตอนนี้มันยังไม่มีอะไรที่ดีเทียบเท่า และเพื่อประโยชน์ของประชาชน(?) ก็ควรจะยอมใช้ API อันนี้ไปก่อนไหม และศึกษาหาวิธี(หาบัค?)เพื่อที่จะทำให้ app ของรัฐบาลเองที่อยากรวบรวมข้อมูลเองเป็นผลสำเร็จ

By: korrawit
ContributorAndroid
on 14 July 2020 - 22:50 #1167118

นอกจานี้

นอกจากนี้

By: mheevariety
ContributorWriter
on 15 July 2020 - 01:54 #1167126 Reply to:1167118
mheevariety's picture

เรียบร้อย ขอบคุณครับ

By: jokerxsi on 15 July 2020 - 13:54 #1167181

ผม Ok กับ App เก็บตำแหน่งที่ไม่ส่งเข้า Server ผมคิดว่าหลายคนคงเห็นด้วยเหมือนกัน ประโยชน์จะตกกับคนใช้ App เต็มๆ มันน่าจะมีคนเล่นมากกว่า

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 15 July 2020 - 13:56 #1167183 Reply to:1167181
hisoft's picture

+1 ผมพอเข้าใจนะว่ารัฐก็อยากได้ข้อมูลแต่ผมมองว่าเป็นการดื้อจนเสียประโยชน์กันมากกว่า