Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิลที่มีประวัติแม่นยำที่สุด ออกรายงานล่าสุดว่าด้วย iPhone รุ่นใหม่ที่จะวางขายปลายปีนี้ ซึ่งมีการคาดกันก่อนหน้านี้แล้วว่าจะเป็นรุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G โดยคราวนี้ Kuo มีรายละเอียดเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า iPhone 5G จะรองรับทั้งคลื่น mmWave และ sub-6GHz แต่ข้อมูลใหม่นี้ Kuo บอกว่ารุ่นที่รองรับ mmWave จะวางขายเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ อเมริกา, แคนานา, ญี่ปุ่น, เกาหลี และอังกฤษ ทำให้ iPhone 5G ที่วางขายจะมีสองแบบคือรุ่นที่รองรับเฉพาะ sub-6GHz กับรุ่นที่รองรับทั้ง sub-6GHz และ mmWave
Kuo ยังบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่แอปเปิลอาจตัดคุณสมบัติ 5G ออกไปเลยสำหรับการขาย iPhone รุ่นใหม่ปี 2020 ในบางประเทศที่ยังไม่รองรับเครือข่าย 5G หรือมีเครือข่าย 5G แต่อัตราการใช้งานยังต่ำ
ที่มา: MacRumors
Comments
ดูทรงแล้ว ถ้าไทยยังไม่เรียบร้อย ก็คงโดนตัดรุ่น 5G ออกแหงๆ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
แต่ในไทย อย่างของ Ais มันก็จะมี mmwave ไม่ใช่เหรอ
มีได้ยังไงครับ? ยังไม่มีใครประมูลคลื่น mmwave ได้เลย ทุกเจ้าประมูลไปแค่ 700 ซึ่งจัดเป็น sub 6GHz นะครับ แล้วคลื่นเดิมที่มีอยู่ในมือทั้งหมดไม่ว่าจะ 850 900 1800 2100 2300 ก็เป็น sub 6GHz หมดเลยครับ
คลื่นที่กสทช.จะเอามาประมูลเดือนหน้าถึงจะมี mmwave ครับ
คลื่นที่กสทช.จะเปิดให้ประมูลมี 700 1800 2600 24GHz ครับ
ตอนนี้มีค่ายที่มารับซองเอกสารไปศึกษาเงื่อนไขแล้ว 4 เจ้า ยังไม่มี AIS ครับ แต่สามารถรับเอกสารได้ถึงวันที่ 3 ก.พ. นี้ครับ
แก้ให้ 26GHz ครับ
ลดต้นทุนค่าโมเด็ม5G
ส่วนตัวคิดว่า adoption ของ 5G อาจจะน้อยกว่าที่คิด เพราะตอนนี้ use case ที่เป็นประโยชน์จริง ๆ มันดูแล้วยังไม่ได้มากมายขนาดนั้น
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมก็คิดแบบนั้นครับ ตามความรู้ที่ผมมี ผมยังเห็นประโยชน์แค่เรื่อง latency ที่น้อยมากเท่านั้นเองที่ดูแล้วเข้าใจได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีที่เห็นภาพมากที่สุด
Bandwidth ด้วยครับช่องใหญ่
Bandwidth ที่ใหญ่ขึ้น แต่ต้องแลกมาด้วยระยะการส่งที่น้อยลง และรัศมีที่จำกัด ส่วนตัวคิดว่ามันไม่คุ้มค่าพอนะครับ use case ยังคงจำกัดมาก ๆ สำหรับ 5G
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าผมมอง use case ที่น่าจะได้ประโยชน์จริง ๆ ผมคิดว่าน่าจะเป็นพวกชายขอบที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบสายได้ยากครับ แต่ถึงกระนั้นก็เป็นเพียงไม่กี่ use case จริง ๆ แลคงเข้าถึงได้แค่ระดับ infrastructure กับ enterprise ในระดับ consumer ยังคงไม่มีแววที่จะใช้ประโยชน์ได้เลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เห็นด้วยครับ