คำสั่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่ห้ามไม่ให้บริษัทสหรัฐทำธุรกิจกับ Huawei ส่งผลกับบริษัทสัญชาติจีนในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ไปจนถึงซอฟต์แวร์และบริการบนแอนดรอยด์จาก Google และก็เป็นประเด็นหลังนี้ที่เอง ที่ผู้บริหาร Huawei ออกมายอมรับว่าส่งผลกระทบต่อบริษัทมากที่สุด
Joy Tan รองประธานฝ่ายกิจการสาธารณะของ Huawei สหรัฐออกมายอมรับว่าบริษัทยังพอหาฮาร์ดแวร์จากช่องทางอื่นได้ ทว่าในแง่ซอฟต์แวร์และอีโคซิสเต็มที่ Huawei ไม่สามารถใช้แอปและ Google Mobile Service ได้นั้น Tan ยอมรับว่าหาสิ่งที่ทดแทนได้ยาก โดยตัว HarmonyOS รวมถึง Huawei Mobile Service ก็น่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนาและสร้างอีโคซิสเต็มขึ้นมา
ที่มา - Financial Times
Comments
ประธานาธืบดี >> ประธานาธิบดี
ถึงผมจะติด GMS อย่างมาก ก็ขอให้ huawei สู้ๆ ครับ
โลกต้องการ การแข่งขัน และพัฒนา ดีใจที่คนเอเชียไม่น้อยหน้า
WE ARE THE 99%
+1
มันเหนื่อยตรงที่จะหาพาร์ทเนอร์มาใช้งานด้วยนี่แหละ ใครจะมาร่วมลงเรือลำนี้ เพราะรายอื่นเค้าก็ต้องเลือก GMS เป็นหลัก Google สามารถทุ่มทุนพัฒนาอีโคซิสเต็มของตัวเองออกมา อย่างน้อยก็มีผู้ผลิตโทรศัพท์ที่ใช้แอนดรอยด์ที่พร้อม(หรือต้อง)รับมันมาใช้
..: เรื่อยไป
เห็นว่า app หลายรายก็พยายามกระจายตัวไปหลาย store นะครับ Amazon, Apptopia, F-Droid ยิ่ง code ก็ไม่ต้องเปลี่ยน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ประเด็นสำคัญคงอยู่ที่คำว่า "code ก็ไม่ต้องเปลี่ยน" นี่แหละครับ ถ้าหากว่าตัว HMS ยังยึดอยู่บนพื้นฐานนี้ปัญหาก็น่าจะลดลงไปบ้าง ส่วนปัญหาใหม่ก็คงจะเป็นแบบที่อีกท่านในด้านล่างว่ามาคือจุดแข็งของ Play store คือมี partner เยอะ เรียกได้ว่า ซื้อทีเดียวแล้วย้ายไปใช้บนแอนดรอยด์เครื่องไหนต่อก็ได้
ต่อมา google อาจยุบฟีเจอร์ของ android ในรุ่นใหม่ๆ เรื่อยๆ แล้วไปปรากฏอยู่ใน GMS ...
I need healing.
ทำอย่างงั้นคงได้โดน FTC สอบสวนแน่ๆ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ในจีนที่Googleโดนแบนอยู่นั่น ลักษณะของ service เป็นยังไงครับ
I need healing.
ก็เป็น Service ที่รัฐบาลจีนควบคุมได้ 100% ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำอ่ะครับ
555555555555
คือเอาจริงๆ นะ
พวกแอพหลักๆ เช่น แอพแชท แอพธนาคาร แอพYoutube MAP Service บริการต่างๆ ทั้งหลาย ผมเชื่อว่าดึงมาเป็น Partner ทำแอพลงได้ไม่ยาก ยิ่งค่ายใหญ่อย่าง Huawei ด้วยแล้ว อ่ยางที่เห็นว่าตอนนี้ Huawei App gallery (ในรีวิวเก่า) ก็มีแอพหลักพอสมควร เนื่องจากแอพเหล่านี่เป็นลักษณะต้องวิ่งเข้าหาลูกค้าเพื่อชิงส่วนแบ่ง
ในขณะที่บางแอพ
เช่น เกมดังๆ บางเกมนี่ไม่ง้อลูกค้าเลย ทำลง Platform หลักๆ ก็พอแล้ว ยังไงก็มีคนตามมาเล่น (หรือซื้อเครื่องเพื่อเล่น) อย่างเช่นผมเองก็เล่นอยู่หลายเกม ปกติเติมเงินผ่าน GMS, Google Play ถ้าไม่มีเกมลง HMS ทุกอย่างก็จบแล้ว
จุดแข็งของ Play store คือ ซื้อแอปเดียว ลงได้ทุกยี่ห้อ
ฉะนั้น Huawei app gallery หรือ HMS หรือแม้กระทั่ง Galaxy store ของ Samsung ต้องเปิดให้ install ได้ในทุกยี่ห้อด้วยครับ ถึงจะพอมีลุ้นขึ้นมาบ้าง (แต่ฟีเจอร์บางอย่างยังไงก็สู้ Play store ที่เป็นคนทำ OS ไม่ได้นะ ต้องทำใจ)
เอาง่ายๆ ขนาดบรรดาแอดมินในกลุ่มหัวเว่ยไทย หรือบางคนที่ต้องใช้พวกบริการกูเกิล ยังไม่กล้าลงแบบไม่ง้อ HMS เลย ยังสรรหาวิธีลง GMS ด้วยวิธีไม่ปกติแบบต้องต่อผ่านคอมอยู่ดี ซึ่งมีการอ้างว่าไม่มีความเสี่ยงโดนกูเกิลสั่งแบน แต่จะอ้างได้อีกนานมั้ยหรือต้องรอคนโดนลงโทษก่อน ทีนี้พวกแอดมินในนั้นก็ช่วยไม่ได้หรอก เหอะๆ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ใช่เลยครับ..รู้เลยว่าแอดฯกลุ่มไหน คอยเชียร์คนในเพจว่า ซื้อได้/ลงได้/ไม่เป็นอะไรบลาๆๆๆ
แต่ถ้า Google สั่งแบน Id google หรือแบนเครื่องที่พากันอวยขึ้นมา แอดมินจะทำหน้าที่เป็นปากเสียงเรียกร้องให้ทางบริษัทคือเงินไหม??
เพราะผมเคยได้ยินก่อนหน้านี้ว่า Huawei ประเทศไทยไม่รับผิดชอบในการลง GMS เอง
...
MS ก็พยายายามจ้างคนทำแอพลงStoreแทบตาย ยังไปไม่รอดเลยครับ
ผมว่า MS นี่ใหญ่กว่า H เยอะเลยนะครับ
ก็ไปซื้อยี่ห้ออื่น ก็จบ
ไม่ได้เป็นติ่งหัวเว่ย ไม่เดือนร้อน
เดี๋ยวตาทรัมป์ก็ประกาศ
ใครทำแอปลง HMS ถือว่าทำธุรกรรมกับหัวเหว่ยที่เป็น entity list และจะโดนแบนไปด้วย
เพื่อให้คนทำแอปดังๆไม่กล้าทำ ver.HMS
ปิดทางออก
ทรัมป์จะอยู่ได้อีกนานแค่ใหนเหอะ ฮา