ถ้ายังจำกันได้ เดิมทีนั้น Microsoft Azure เคยมีชื่อเรียกว่า Windows Azure และเป็นบริการคลาวด์ที่เน้นระบบปฏิบัติการ Windows Server เป็นหลัก แล้วค่อยๆ เปิดกว้างมากขึ้น รองรับ VM ลินุกซ์ครั้งแรกในปี 2012 และเลิกใช้คำว่า Windows Azure ในปี 2014
สัดส่วนการใช้งานลินุกซ์บน Azure เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดคือแซงหน้า Windows ไปเรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่า Azure กลายเป็นบริการคลาวด์ที่ลูกค้าหลักเป็นลินุกซ์แทน
ข้อมูลนี้มาจาก ใบสมัครของไมโครซอฟท์เข้าร่วมอีเมล Linux Security เมื่อเดือนที่แล้ว โดย Sasha Levin นักพัฒนาเคอร์เนลลินุกซ์ของไมโครซอฟท์ เปิดเผยในอีเมลสมัครเข้ากลุ่มว่า อัตราการใช้งานลินุกซ์บน Azure แซงหน้า Windows ไปแล้ว (the Linux usage on our cloud has surpassed Windows)
นอกจากการใช้ลินุกซ์บน Azure ซึ่งเป็นการตัดสินใจเลือกของผู้ใช้งาน ไมโครซอฟท์ยังมีดิสโทรลินุกซ์ของตัวเองถึง 3 ตัวคือ Azure Sphere ลินุกซ์สำหรับ IoT, WSL2 ที่ใช้เคอร์เนลลินุกซ์ตัวเต็มรันบน Windows และ Azure HDInsight / Azure Kubernetes Service บนคลาวด์
Comments
ถ้าใช้ของ windows มันก็ต้องบวกเพิ่มไปอีกหลายบาท เลือกถูกๆ เลือกแบบฟรี ก็ต้องเลือกลินุกซ์อยู่แล้ว ไม่แปลกที่สัดส่วนจะแซงหน้า
RHEL นี่ก็ไม่ถูกนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ลดราคาวินโดส์ให้เท่าๆ Linux ซิ
พี่ขายตรงเองเลยน่าจะมีราคาพิเศษหน่อย
จากที่ใช้มา ราคา license ตัว Windos Server บน Azure จะราคาถูกกว่าใช้บน AWS นะครับ
แต่ถ้าเทียบกับ Linux บาง Distro ก็แน่นอนว่ามันแพงกว่า เพราะบาง Distro มันฟรี แต่ฟรีคือดูแลตัวเอง รับความเสี่ยงเอง (patch บางตัวออกหลังจากฝั่ง distro เสียเงินสนับสนุนออกประมาณ 1-2 วัน หรือขอ hot fix ได้ด้วยหากเราเจอ bug ที่ยังไม่ official fix) แต่ถ้าต้องการการสนับสนุนจากผู้ผลิต เพื่อเอาไปรองรับลูกค้าที่ต้องการ เช่น ลูกค้าองค์กร Distro อย่าง Red Hat หรือ SUSE ก็จะได้ราคาก็จะพอๆ กันกับ Windows Server หรือบาง plan ของการสนับสนุน ของ Linux จะราคาแพงกว่า (แน่นอนว่าถ้ามองภาพรวมของของราคา โดยการแยกการสนับสนุนระหว่าง dev กับ production แล้ว ก็อาจจะถูกกว่าอยู่ดี แต่ถ้าเทียบ production)
ไมโครซอฟท์สยายปีก ตอกย้ำนโยบายเปิดกว้างนั้นมาถูกทาง