ไมโครซอฟท์มีบริการฐานข้อมูลบนคลาวด์ Azure SQL Database มานานแล้ว (มันเป็น SQL Server เวอร์ชันดัดแปลงเล็กน้อย และรันแบบ managed database คือไมโครซอฟท์ดูแลและจัดการคอนฟิกให้ ผู้ใช้มีหน้าที่ใช้อย่างเดียว)

ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกบริการรุ่นย่อย Azure SQL Database Hyperscale สำหรับการทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาให้ใช้กัน

Azure SQL Database Hyperscale รองรับฐานข้อมูลขนาดสูงสุด 100TB และเน้นเรื่องการขยายฐานข้อมูลอย่างรวดเร็ว ทั้งแบบ scale up และ scale out รวมไปถึงยกระดับการเก็บล็อกจำนวนมากขึ้นด้วย

ไมโครซอฟท์อธิบายว่า SQL Database Hyperscale เป็นผลจากการออกแบบสถาปัตยกรรมฐานข้อมูลใหม่ โดยแยกส่วนของการเก็บข้อมูล (storage) การประมวลผล (compute) และการเก็บล็อก (log) ออกจากกันเป็นคนละโหนด ทำให้แต่ละส่วนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

• Compute nodes ยังทำงานเหมือนเดิมกับใน SQL Server แต่ไม่ต้องทำหน้าที่เขียนไฟล์ข้อมูลหรือล็อกแล้ว
• Log services แยกส่วนการเก็บล็อกออกมาจากตัวฐานข้อมูล โดยรับค่าล็อกมาจากส่วน Compute เพื่อบันทึกล็อก และส่งต่อล็อกให้ส่วนของข้อมูล (Page servers)
• Page servers ทำหน้าที่เก็บตัวข้อมูลจริงๆ โดยรับข้อมูลล็อกจาก log services เพื่อนำข้อมูลส่วนที่แก้ไขมาเขียนลงในฐานข้อมูล

สถาปัตยกรรมนี้ทำให้สามารถทวีคูณจำนวน Page servers ได้ถ้าหากปริมาณข้อมูลเยอะกว่าที่รองรับได้ โดยที่ Page server แต่ละตัวทำงานเป็นอิสระต่อกัน

นอกจากนี้ การทำ snapshot ของข้อมูลยังทำได้เร็วขึ้นมาก เพราะแบ็คอัพตัวไฟล์จาก Page server ทุกช่วงเวลาที่กำหนดได้เลย ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ส่วนตอนคืนค่ากลับก็นำไฟล์แบ็คอัพไปประมวลผลร่วมกับล็อก (เก็บนานสูงสุด 7 วันในช่วงทดสอบรุ่นพรีวิว) และใช้เวลารวดเร็วเช่นกัน

Azure SQL Database Hyperscale จะเริ่มทดสอบแบบ public preview ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ที่มา - Azure Blog