ปัญหาอย่างหนึ่งของ Windows 7 คือไมโครซอฟท์ซอยรุ่นย่อย (edition) เยอะมากถึง 7 รุ่น (แถมต้องคูณ 2 ถ้านับแยก 32/64 บิต) ทำให้ผู้ใช้สับสนไม่น้อย
ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการว่า Windows 8 จะแก้ปัญหานี้อย่างไร แต่ข้อมูลที่ HP เผลอโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของตัวเอง ระบุรุ่นย่อยของ Windows 8 ไว้ดังนี้
- Microsoft Windows 8 32 Edition
- Microsoft Windows 8 64 Edition
- Microsoft Windows 8 Enterprise 32 Edition
- Microsoft Windows 8 Enterprise 64 Edition
- Microsoft Windows 8 Professional 32 Edition
- Microsoft Windows 8 Professional 64 Edition
ถ้าข้อมูลนี้เป็นจริงและไมโครซอฟท์ไม่เพิ่มรุ่นอื่นๆ เข้ามาในภายหลัง ก็แปลว่า Windows 8 จะมีเพียงแค่ 3 รุ่นย่อยเท่านั้น? (มาตรฐาน, Professional, Enterprise)
มีความเป็นไปได้ว่าข้อมูลของ HP จะถูกต้องแต่อาจไม่ครบ แต่ในเพจเดียวกันก็แสดงจำนวนรุ่นของ XP/Vista/7 ทุกรุ่นที่ไมโครซอฟท์ทำออกมาขาย
ที่มา - HP via The Register
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
Comments
มันควรจะเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ
เคยหา driver ของ HP บางทีเค้าก็ลงไม่ครบนะ HP น่ะ
ถ้าจำไม่ผิดแรก ๆ มีข่าวว่า Windows 8 จะลดจำนวนรุ่น แต่ขายฟีเจอร์เสริมแยกเอานะ
แนว DLC ที่ใช้กับเกมเปล่าหว่า ฮ่าๆ
ราว ๆ นั้นหล่ะครับ แต่จาก DLC คงเป็น APC (Activate by Purchased Content) แทน
ด้านมืดก็ง่ายเลยแบบนี้ อิอิ มีอยู่ในเครื่องอยู่แล้ว
จริงๆ ผมว่ามันควรจะมีแค่
Windows 8 desktop 32bit, Windows 8 desktop 64bit, Windows 8 Server 32bit, Windows 8 Server 64bit
แล้วที่เหลือเป็น market app แยกขายเป็น ส่วนๆ ไป จะได้ไม่สับสนกันมากมาย เหมือนทุกวันนี้ ผมต้องเปิด compare รุ่นเปรียบเทียบเกือบทุกครั้งเลย
แต่มันจะทำให้เราเสียเงินมากกว่าเดิมรึเปล่านะ ถ้า MS เขาเล่นเอา features ทุกอย่างแยกขายใน market app หมด เช่น AD, Share folders
555+
ผมว่าถึงตอนนี้น่าจะตัดรุ่น 32บิทไปได้แล้วนะ 555
+1
+20
32bit ตัดไปเอา ARM มาแทนเลยดีกว่า
สุดท้ายก็ทำเหมือน Apple ออกรุ่นเดียวใช้กันตั้งแต่ Starter ยัน Pro ไม่เข้าใจว่าทำไม Microsoft จะต้องทำอะไรให้มันยากเข้าไว้เสมอ เรื่องง่ายก็ทำให้มันยุ่งยากซับซ้อนวุ่นวายได้ เชื่อเขาเลยจริงๆ
ความสามารถและราคาไงครับ
ใช้มาก จ่ายมาก ใช้น้อย จ่ายน้อย
อย่าง Home Edition เนี่ย ก็ไม่จำเป็นต้องต่อ AD หรือ Business Feature อื่นๆ
ช่วยให้ราคาถูกลงได้อีก
ส่วน Professional ซึ่งเป็น Business Edition ก็ไม่จำเป็นต้องพกพาความสามารถทั้งหมดของ Enterprise หรือ Ultimate มา
ไม่ได้ใช้ทั้งหมด ราคาก็ถูกกว่า
พวก Office ก็เหมือนกัน Home/Standard (ยกเว้น Student) ก็ไม่จำเป็นต้องมี Access / Publisher / Visio เป็นต้น
ขนาด Outlook 2010 Home/Standard ยังไม่สามารถใช้งาน Online Archive Mailbox ของ MS Exchange 2010 ได้เลย ต้องเข้าผ่าน OWA แทน แต่ใช้เมลได้ปกติทั่วๆ ไป ฟังก์ชั่นพิเศษก็อยู่ใน Professional / Enterprise ไป
ผมว่ามันก็สมเหตุสมผลดีนะครับ
อย่าเอาเรื่องของใครบางคนไปตัวสินใครอีกบางคนครับ แน่นอนละความเรียบง่ายแบบ Apple ใครๆก็ชอบ แต่ที่ Microsoft ซอยรุ่นย่อยๆออกมาก็เพราะราคาด้วย ถ้ามีแต่รุ่นแพงอย่างเดียวราคาเป็นหมื่นๆ คุณจะซื้อมั้ยละ คนก็มาบ่นกันอีก เค้าก็ทำเพื่อผู้บริโภคทั้งนั้นแหละ
ไม่ซื้อ
Apple เน้นขาย Hardware มั้งครับ สังเกตจากโหลดของเถื่อนมาใช้ก็ไม่มีขึ้นว่า คุณอาจตกเป็นเหยื่อของซอฟแวร์เถื่อน บลาๆๆ
M$ ขาย Software, OS เลยแยกขายให้เป็นรุ่นๆตามความเหมาะสม
ไม่มี Ultimate ซะแล้วเหรอ ?
น่าจะใช้ เอนเตอร์ไพซ์ แทนไปเลย
จัด Pro ไป
Coder | Designer | Thinker | Blogger
น่าจะทำรุ่น Tablet ด้วยนะ
windows 8 ไงครับ Feature ประเด็นหล้กเลย
Windows 8 เป็น Tablet/Desktop อยู่แล้วครับ
สลับกันไปมาได้ ปรับตามการใช้งานได้เลย
seeking for New Frontier...
Edition แบบนี้ ถ้ามองแล้ว จริง ๆ น่าจะใช้ในการซื้อแบบ Box และ จะเลือกได้ 3 Sets แบบนี้ครับ คือ
Microsoft Windows 8 32 Edition/64 Edition
Microsoft Windows 8 Professional 32 Edition/64 Edition
Microsoft Windows 8 Enterprise 32 Edition/64 Edition
ถ้าให้ผมเดา
Microsoft Windows 8 น่าจะแทน Starter/Home
(Home Premium สงสัยจะเป็น App-in Purchase)
Microsoft Windows 8 Professional น่าจะแทน Professional
Microsoft Windows 8 Enterprise ก็จะแทน Enterprise และ Ultimate
(Ultimate คือ Enterprise ที่ขายแบบ Box เพราะ Enterprise ไม่มีขายแบบ Box ครับ)
การแบ่ง x86/x64 นั้นไม่ค่อยมีปัญหานะ เพราะ ใช้ Key เดียวกัน
แล้ว Media ก็จะมีให้มาทั้ง 2 แบบอยู่แล้ว (Windows 7 ก็เป็นแบบนั้น)
คราวนี้ก็ขึ้นกับ User ที่จะติดตั้งมากกว่าครับว่าจะเอาอันไหน
(อย่าลืมว่า Standard NB จะใส่ Ram มาแค่ 2 ครับ x64 อาจจะหนักเกินไป)
ส่วน Microsoft Windows 8 ARM ผมคิดว่าน่าจะเป็น OEM ให้กับ Hardware Vendor มากกว่าครับ
PS. ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ
seeking for New Frontier...
แบ่งรุ่นไม่มาก ผู้ใช้เลือกได้ง่าย
ปกป้อง | เฟสบุ๊ก | ทวิตเตอร์