Tags:
Node Thumbnail

บริษัทวิจัยตลาด Nielsen สำรวจข้อมูลผู้บริโภคตลาดสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 24% ตอบว่ามีสมาร์ทโฟนแล้ว ซึ่งเพิ่มมาจาก 21% ในช่วงต้นปี 2010

ประเทศที่มีสมาร์ทโฟนมากที่สุดคือสิงคโปร์ 47% ส่วนประเทศไทย ไม่ระบุข้อมูลว่ามีสมาร์ทโฟนเท่าไร (อยากรู้ต้องจ่ายเงินซื้อรายงานฉบับเต็ม) แต่บอกว่าอัตราการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค โตขึ้น 47% จากเดิม

คำถามต่อไปคือถามว่า ในอีก 12 เดือนข้างหน้าคุณจะซื้อสมาร์ทโฟนหรือไม่ ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศไทย 47% ตอบว่าซื้อแน่นอน/น่าจะซื้อ (สูงสุดในภูมิภาคคืออินโดนีเซีย 51%)

No Description

กิจกรรมที่ทำมากที่สุดบนสมาร์ทโฟนคือ SMS (92%) ตามด้วยการใช้อินเทอร์เน็ต (50%)

สมาร์ทโฟนที่เป็นเจ้าตลาดแถวนี้ยังเป็น Symbian 58% (โดยเป็นแชมป์ในอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์) ส่วน iOS มาอันดับสอง 37% (เป็นแชมป์ในสิงคโปร์) BlackBerry 20%, Windows Mobile/Phone 18% และ Android 16%

ที่มา - Nielsen

Get latest news from Blognone

Comments

By: EThaiZone
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 1 June 2011 - 15:34 #295654
EThaiZone's picture

ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นประเทศเดียวกันกับประเทศที่ 3G เลื่อนแล้วเลื่อนอีก


มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB

By: paepod on 1 June 2011 - 15:35 #295656 Reply to:295654

สอดคล้องกับคำพูดของศาลที่ตัดสินเป่าครับ ผมแซวเฉยๆ

By: kswisit
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 1 June 2011 - 16:03 #295660 Reply to:295654

เดี๋ยวรอ 10G


^
^
that's just my two cents.

By: Pinery
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 1 June 2011 - 16:34 #295664 Reply to:295654

ถ้ามี 3G นี่ อาจจะพุ่งได้อีกนะเนี่ย

By: PH41
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 1 June 2011 - 18:17 #295693 Reply to:295654
PH41's picture

ถึงจะเป็นถนนลูกรัง แต่ก็ชอบใช้รถหรู

By: anusorn20
Android
on 1 June 2011 - 19:13 #295704 Reply to:295693

+1 ได้ใจครับ

By: EThaiZone
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 1 June 2011 - 16:41 #295665
EThaiZone's picture

ผมว่าไทยจะได้ใช้ 3G ตอนญี่ปุ่นมีกัมดั้มขับไปดาวอังคารครับ :D


มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB

By: mr.k on 1 June 2011 - 16:49 #295667

...

By: lancaster
Contributor
on 1 June 2011 - 16:49 #295668

ตกใจว่าใช้ sms กันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ - -"

By: totiz
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 1 June 2011 - 17:46 #295688 Reply to:295668
totiz's picture

92% sms, 50% internet
ตัวเลขนี้บอกถึงมีการใช้อย่างน้อย 1 ครั้งใน 30 วัน ครับ

By: hlung
iPhoneIn Love
on 1 June 2011 - 17:06 #295670
hlung's picture

...

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 1 June 2011 - 17:17 #295672
TeamKiller's picture

Android ทำไมน้อยจัง

By: cavaji
AndroidUbuntu
on 1 June 2011 - 17:30 #295680 Reply to:295672
cavaji's picture

คนไท บ้ายีห้อ ไม่ชอบฟรี ชอบตามกระแส...(นิสัยบ้างคนมีเงินอย่างเด่วซื้อไม่ได้หรอ.)

By: อเนกนาค
iPhoneBlackberrySymbian
on 1 June 2011 - 18:15 #295692 Reply to:295680

อะไรฟรีหรอ ผมเห็นก็ต้องซื้อมาทั้งนั้น

By: Nics
iPhoneAndroidWindows
on 1 June 2011 - 20:33 #295721 Reply to:295692

+1 ฮะ 555 ฮาดี

By: gololo
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 2 June 2011 - 02:49 #295867 Reply to:295680

สนับสนุน อะไรที่ใช่ อะไรที่พอเพียง อย่าตามกระแสให้มาก

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 1 June 2011 - 18:05 #295691 Reply to:295672
PaPaSEK's picture

บอกไม่ได้ครับ ต้องดูเทรนด์ (กราฟ) ประกอบด้วยว่ามีอัตราการเพิ่มเท่าไร

By: kasidit_future
SymbianUbuntuWindowsIn Love
on 1 June 2011 - 17:40 #295684
kasidit_future's picture

ทำไมมีแต่เลข 47 > <

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 1 June 2011 - 17:43 #295686

สงสัยเรื่อง sms มากกว่า

มี สมาทโฟน มักจะใช้ แชต rss web FB กันมากกว่านะ ไม่ค่อยเอามาส่ง sms เท่าไร

หรือว่าไปเจอกลุ่ม TrueAF TGT

By: polaromonas
ContributorWindows PhoneWindows
on 1 June 2011 - 21:54 #295736 Reply to:295686

ผม text บ่อยกว่าเดิมเยอะเลยนะครับ ตั้งแต่ใช้สมาร์ทโฟนเนี่ย (เพราะพิมพ์ง่ายกว่า Feature phone เครื่องเดิมที่มี)

By: illusion
ContributorAndroid
on 2 June 2011 - 01:39 #295852 Reply to:295736
illusion's picture

+1

Smartphone พิมพ์ง่ายกว่ามากๆ เลยทำให้ส่ง SMS บ่อยขึ้นด้วย

แต่เรื่องผลสำรวจนี่ สำหรับผม ผมใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าส่ง SMS นะ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 2 June 2011 - 03:56 #295874 Reply to:295736
hisoft's picture

+1 ถ้าปลายทางใช้ push e-mail ผมก็จะส่งเป็นเมลอยู่หรอกครับ แต่ปัญหาคือหาคนใช้ด้วยไม่ได้ก็เลยอยู่กับ SMS ต่อไป

By: illusion
ContributorAndroid
on 1 June 2011 - 17:55 #295689
illusion's picture

คนสิงคโปร์ใช้ iPhone กันเยอะจริงๆ ครับ (iPhone 4 ด้วย) แล้วไม่ได้เยอะธรรมดาแต่ใช้กัน "แทบทุกคน" เรียกโทรศัพท์มือถือแห่งชาติเลยก็ได้ เห็นข้อมูลนี้ไม่แปลกใจเลย

ส่วนบ้านเรา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะลบทัศนคติว่ามือถือเป็นของฟุ่มเฟือย-ไร้สาระไปได้นะ ไม่งั้นโทรศัพท์ Smartphone โตกว่านี้อีก เพราะถ้าตัดอคติออกแล้ว ของพวกนี้มันเป็นอุปกรณ์พกพาที่มีประโยชน์กับชีวิตมากถ้าใช้เป็น (ถึงจะซื้อมาเล่นเกม มาแชท มันก็เป็นความบันเทิงคลายเครียด ติดต่อสื่อสารในสังคม ถ้าเอามาใช้ให้คุ้มผมก็ไม่เคยมองว่ามันไร้สาระหรือตามกระแสเลย)

แต่จริงๆ บ้านเรายังถือว่ารีดศักยภาพ Smartphone ออกมาได้ไม่เต็มที่ เพราะติดที่ 3G นั่นแหละ ถ้าบ้านเรามีคลื่น 2100 ใช้ก็คงจะมีคอนเทนท์และเซอร์วิสอีกมากมายที่ดูมีประโยชน์กับชีวิตจริงจนคนทั่วไปเห็นความสำคัญได้

ปล. เคยบ่นๆ เรื่อง CAT ขัดขาประมูล 3G ใน facebook แล้วก็มีพี่ที่รู้จักห่างๆ คนนึงมา reply ว่าประเทศไทยจะเอาเทคโนโลยีทันสมัยไปทำไม จะเอาอะไรเร็วๆ ล้ำโลกไปทำไม ในเมื่อจิตใจของคนยังไม่ยกระดับตามเทคโนโลยีไปด้วย

ผมอ่านแล้ว...จุกครับ นี่แหละทัศนคติและตรรกะแบบไทยแท้ๆ เลย

By: looghmoo
iPhoneSymbianUbuntuWindows
on 1 June 2011 - 18:02 #295690 Reply to:295689

ตอบกลับตรง ปล. นี้ก็เป็นนิสัยอีกอย่างของคนไทย "ชอบดูถูกคนบ้านเดียวกัน ชอบคิดแทนคนอื่นเสมอ"

By: amdo
iPhoneAndroidWindows
on 1 June 2011 - 18:22 #295695 Reply to:295689
amdo's picture

+๑

เห็นตรรกประเภทใน ปล. นี้ผมก็สงสัยว่าต้องรอนิพพานกันยกประเทศถึงจะมีสิทธิ์ได้ใช้สามจีกันหรืออย่างไร

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 1 June 2011 - 18:24 #295696 Reply to:295689
tekkasit's picture

คืองี้ครับ ที่สิงค์โปร์น่ะ เค้าเหมือนอเมริกา ตรงที่ว่ามือถือทำตลาดร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ คือที่นั่นเป็น talk/data plan ครับ ผูกกันเลย 12/24 เดือน ใช้ 3G ได้เดือนละกี่ G (ใช่... G พิมพ์ไม่ผิด) แล้วจะได้สิทธิ์ในการซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆในราคาถูกมากๆ คือ 0-200 เหรียญ แต่เครื่องเปล่าราคา 600-900 เหรียญ

แถมจะซื้อ talk/data plan ถ้าจะไม่ใช้สิทธิ์ เค้าก็ไม่ลดราคาให้ ดังนั้นทำให้ลูกค้ามักจะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเป็นรุ่นใหม่ๆ เมื่อตอนหมด data plan ครับ

ทำให้ที่นั้น เกือบ 70% ของโทรศัทพ์มือถือ เห็นถือ iPhone กันเยอะมาก เรียกว่าหูฟังขาวกันเยอะมากๆ มีรุ่นๆอื่นๆบ้าง หลังๆก็จะมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ เช่น Arc, Galaxy S, Galaxy Tab กันบ้าง

ผมว่า ให้มีถนนก่อนสิ เดี๋ยวคนก็คิดออกกันเองว่าจะใช้อย่างไร ไม่ใช่ไม่อนุญาตให้ ตัดถนนเพิ่ม ไม่ขยายถนน เพราะไม่เห็นการใช้งาน

By: nsasone
Windows PhoneAndroid
on 1 June 2011 - 19:04 #295700 Reply to:295696
nsasone's picture

ไม่ใช่ไม่อนุญาตให้ ตัดถนนเพิ่ม ไม่ขยายถนน เพราะไม่เห็นการใช้งาน ^^

ไม่ใช่ไม่อนุญาตให้ ตัดถนนเพิ่ม ไม่ขยายถนน เพราะไม่เห็นลู่ทาง (รับ-ปะ-ทาน).

By: illusion
ContributorAndroid
on 2 June 2011 - 02:16 #295858 Reply to:295696
illusion's picture

โอ่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นความรู้ใหม่ ^^

ใจนึงผมชอบแบบติดสัญญาเหมือนกันนะ (ถ้าค่าเครื่องถูกได้มากๆ แบบอเมริกา) เพราะว่ายังไงเราก็ต้องจ่ายค่าโทร-ค่า data แบบเหมาอยู่แล้ว ก็เท่ากับได้เครื่องถูกด้วยโดยแลกกับสัญญาการใช้งานเป็นปี-สองปี (คำนวณแล้วก็ถือว่าคุ้ม) ..แต่สำหรับเมืองไทย ออกมาในลักษณะแบบนี้ก็ดีครับคือเสรีทุกอย่าง เลือกได้ตามชอบ แต่ต้องเก็บเงินก้อนซื้อมือถือเองซึ่งจากตรงนี้ทำให้ตลาดมือถือเมืองไทยมันหลากหลายมาก พวก local brand ก็เลยมีโอกาสได้เกิดด้วย

ส่วนเรื่องพี่คนนั้น อยากบอกว่าผมก็ reply โดยอธิบายโดยยกตัวอย่างเรื่องถนนนั่นล่ะครับ :D ก็เลยเปรียบว่า เมื่อก่อนหมู่บ้านนึงทางเข้าเมืองเป็นถนนลูกรังสองเลน ความเจริญ-การแพทย์ก็เข้าไม่ค่อยถึง คุณภาพชีวิตของคนในหมู่บ้านนั้นก็เลยเหลื่อมล้ำกับคนในเมืองหลวงไปด้วย แต่พอทำเป็นถนนคอนกรีตสี่เลน ความเจริญและคุณภาพชีวิตของคนในหมู่บ้านนั้นก็ทัดเทียมกับคนในเมืองหลวงมากขึ้นและช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งกลับมาพูดถึง 3G มันก็ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล (digital divide) ได้จริงๆ แหละ ประเด็นนี้ชัดเจน ถ้าใช้ถูกทางก็เพิ่มโอกาสทางสังคมและการศึกษาได้ ไม่ดีตรงไหน (ตอกไปอีกหน่อยด้วยว่า ส่วนเรื่องจิตใจของคนน่ะ มันมีปัจจัยอื่นๆ ที่หล่อหลอมอีกเยอะ จะลากไปเกี่ยวกับเทคโนโลยีได้ยังไง -"-)

พี่คนนั้นก็ตอบมาอีก คราวนี้ก็เลยบรรลุแล้วครับว่าไม่ต้องไปตอบโต้อะไรอีก :D --> "ถนนสี่เลนดีตรงไหน ถามคนบ้านนอก เค้าต้องการแค่สองเลนก็หรูแล้ว สี่เลนมีตายทุกวัน" จบครับ !

(ข้อเท็จจริงคือ มีงานวิจัยรองรับมากมายว่าถนนแบบสี่เลนมีความปลอดภัยสูงกว่าถนนแบบสองเลน หรือไม่ต้องอ้างงานวิจัยก็ได้ แค่โดย common sense ก็พอจะนึกภาพออกได้ครับ)

By: lancaster
Contributor
on 2 June 2011 - 02:19 #295860 Reply to:295858

เรื่องติดสัญญา ผมว่ามันทำได้เพราะค่ารายเดือนที่อเมริกามันแพงโคตรด้วยแหละครับ

ถ้าทำแบบเดียวกันในเมืองไทยค่าโทรศัพท์คงต้องแพงขึ้นอีก หรือไม่ก็อาจต้องติดสัญญา 4-5 ปีไปเลย

By: illusion
ContributorAndroid
on 2 June 2011 - 02:31 #295862 Reply to:295860
illusion's picture

กรณีเมืองไทย ส่วนตัวมองว่าพอเป็นไปได้นะครับ อย่างตอน Hutch เข้ามาใหม่ๆ คนนิยมกันล้นหลาม (แต่คนที่ยังไม่ชินก็เยอะ) หรือตอน True Move นำ iPhone 3G เข้ามาครั้งแรกที่จำได้ดี (เพราะฝึกงานที่ True :P) ตอนนั้นมีให้เลือกทั้งแบบติดสัญญาและเครื่องเปล่าเหมือนกัน และราคาแบบติดสัญญานั้นพอรับได้ด้วยนะครับ (1,500 บาท x 24 เดือน) หรือจะเลือกเป็นจ่ายค่าเครื่องเพิ่มขึ้นก็ได้เพื่อแลกกับสัญญารายเดือนที่ถูกลง

แต่หลังๆ การขายโทรศัพท์แบบติดสัญญาแทบจะหายไปหมดแล้ว เคยอ่านแบบผ่านๆ ว่าติดข้อกำหนดซักอย่างของเมืองไทยนี่ล่ะครับที่ทำให้การขายแบบนี้มันลำบากจนต้องล้มเลิกกันไปหมด และอีกอย่างคนไทยชินกับการซื้อเครื่องเปล่า + ซิมมากกว่า เห็นพักหลังๆ เขาหันไปทำตลาดแบบซื้อมือถือผ่อน 0% 10 เดือนประมาณนี้กันหมด แถมฟรีแพคเกจราคาพิเศษ ซึ่งแบบนี้ลูกค้าเองก็แฮปปี้ด้วยล่ะ

By: lancaster
Contributor
on 2 June 2011 - 02:42 #295863 Reply to:295862

จริงๆตอน true นั่นผมเคยคิดๆดูแล้ว ราคาถูกกว่าซื้อไม่ติดโปรแค่นิดเดียวเองนะ แต่ถ้าถามผมผมก็อยากให้มีทั้ง 2 แบบอยู่ดีล่ะครับจะได้เป็นทางเลือก

By: gololo
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 2 June 2011 - 03:35 #295873 Reply to:295689

ผมว่าฟุ่มเพื่อยสิ ถ้าซื้อมาแล้วใช้มันไม่คุ้มค่า 2xxxx ซื้อเพราะเห็นคนอื่นซื้อเอามาอวดชาวบ้านเพราะใช้เงินเป็นอย่างเดียว

จะให้ชาวบ้านขายข้าวขายผักเอาเงินมาซื้อก็ใช่เรื่องเค้ามองว่ามันคือของ ฟุ่มเฟือย-ไร้สาระ ผมว่าผมมีลูกผมก็คงสอนเค้าแบบนี้นะให้รู้จักใช้เงิน ผมไม่รวยและผมคงไม่สอนให้ลูกซื้อ iphone แน่เพราะผมแค่พอมีพอกิน หรือ คุณไม่ ผมจะดูความต้องการผมและเลือกซื้อมันในราคาที่เหมาะสม และคนส่วนใหญ่คิดแบบนั้นก็ไม่แปลกและผมก็ว่าไม่ผิดด้วยเพราะคนส่วนใหญ่ในประเทศใม่ใด้มีถานะรวยนิ ปลูกข้าว เลียงไก่ เลียงหมู นำท่วม เป็นโรค มาซื้อของพวกนี้เหลอ หรือ พอขายใด้ก็ส่งเงินมาให้ลูกที่เรียนอยู่มาซื้อของพวกนี้ ผมว่ามันแย่นะ มันเหมาะกับคนที่ต้องการใช้มันจริงๆหรือคนรวยเท่านั้นแหละ และอีกอย่างของพวกนี้ประเทศเราไม่สามารถผลิตใด้ และมันยังไม่จำเป็นสำหรับคนส่วนใหญ่ในประเทศเราในตอนนี้ ไม่คงไม่ตายหลอกมั้งถ้าขายมือถือราคาแพง เพราะคนไทยอยู่อย่างพอเพียงใด้

และ 3G กับสัศนะคติคนไทยมันคนละเรื่องกัน คุณอย่าเอาคนๆบางคนที่มาโพสมาตัดสินดีกว่า เพราะบัญหา 3G มันไม่เกียวกัน มันเป็นปัญหาของผลประโยชมากกว่า บางทีคนที่โพสอาจเป็นหน้ัาม้าก็ใด้

By: illusion
ContributorAndroid
on 2 June 2011 - 06:08 #295881 Reply to:295873
illusion's picture

มีคำถามขอถามคุณว่า คนไทย ขายข้าวขายผัก ปลูกข้าว เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู กันทุกคนหรือเปล่าครับ?

ในทรรศนะของคุณ คุณมองว่าคนไทย ถ้าไม่จน ก็รวยไปเลยเท่านั้นหรือครับ? ถ้าไม่รวย ก็ต้องขายผักขายปลาอย่างนั้นหรือ?

และอีกคำถามว่า ทุกคนที่ซื้อ iPhone หรือมือถือราคา 2XXXX ซื้อเพราะเห็นคนอื่นซื้อเอามาอวดชาวบ้านกันหมดหรือเปล่าครับ?

เท่าที่เคยศึกษามา (เป็นวิชาบังคับในมหา'ลัย) ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยหลักการแล้วไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด ต้องทำตัวอัตคัด หรือห้ามใช้ของหรูหราราคาแพงนะครับ ถ้าใครเข้าใจแบบนั้นคุณเข้าใจปรัชญานี้ผิดแล้วล่ะ แต่หลักการที่แท้จริงพอสรุปโดยคร่าวคือ เราต้องรู้จักฐานะตนเอง มีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกัน ถ้าใครมีเงินน้อยก็ใช้น้อยเท่าที่มี ถ้าใครมีเงินมากก็ใช้มากได้เท่าที่มี ถ้าใครมีเงินมากพอที่จะซื้อของหรูหราราคาแพงที่ไม่เกินกำลังตนเองก็ซื้อได้ ถ้าซื้อแล้วมีความสุข-ซื้อแล้วไม่เดือดร้อนก็ถือเป็นความพอเพียง แต่หากมีน้อยแล้วอยากใช้มาก มีน้อยแต่ใช้เงินเกินตัว เกินกำลังตนเอง ใช้เงินไม่ระมัดระวัง ไม่รู้จักตนเอง ไม่มีภูมิคุ้มกัน จนต้องติดหนี้สินล้นพ้นตัว อันนี้ถือว่าชีวิตเดือดร้อน-ไม่มีความสุขและไม่พอเพียงนั่นเองครับ สรุปเป็นคำสั้นๆ คือ "ใช้ให้พอดีกับตนเอง" นั่นดูจะชัดเจนที่สุด

ทัศนคติของผม ถ้าคุณซื้อของใดๆ (แม้จะมีราคาสูง)ได้โดยที่คุณไม่เดือดร้อนทางการเงิน และคุณซื้อมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าตามคุณสมบัติของมัน (แม้จะเป็นเรื่องความบันเทิงก็ตาม..ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต) ก็ถือว่าคุณได้ลงทุนอย่างเป็นประโยชน์แล้ว อันที่จริงอย่างโทรศัพท์มือถือนั้นเป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันมากมายที่ไม่ใช่แค่โทรเข้าโทรออกถ้าเราใช้มันเป็น ลองมองประโยชน์ของมือถือรอบตัวแล้วสกัดออกมา (ตัวอย่างเช่น ติดตามข่าวสาร-ข้อมูล ทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ต ดูแผนที่กันหลงป่า นาฬิกาปลุก แอพสอนทำกับข้าว ค้นหาบริการ ติดต่อกับเพื่อน ส่งข้อความไปเล่าข่าวกับรายการทีวี นักศึกษาโหลด VOD เลคเชอร์ย้อนหลังมาดูซ้ำเพื่อทบทวนบทเรียน ฯลฯ) จะพบว่า มันช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับเราโดยที่บางสิ่งเราอาจไม่รู้ตัวจริงๆ

แต่ถ้าจะว่าประโยชน์แบบเน้นๆ เลยเนี่ย อุปกรณ์เหล่านี้กับเรื่องการศึกษามันไปด้วยกันได้ดีมากเลยนะครับ ลองจินตนาการว่าถ้าเราให้ tablet หรือ smartphone ให้เด็กคนละเครื่อง โดยที่มีคอนเทนท์ทางการศึกษาที่มีประโยชน์ให้กับเขา ให้เขาได้เรียนรู้นอกห้องเรียนได้ตลอดเวลาที่เขาต้องการ มีการทบทวนหลังการเรียน มีเกมฝึกสมอง ฝึกทักษะ มีการสอนเนื้อหาความรู้แบบที่ไม่ทำให้เขาเบื่อบนอุปกรณ์พวกนี้ เด็กๆ เขาก็จะใฝ่รู้และเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องหมกอยู่แค่ในห้องเรียน แถมข้อเด่นของอุปกรณ์พวกนี้คือมันสื่อสารได้ เด็กๆ จะไปค้นวิกิ ค้นกูเกิลอะไรได้ตลอด คุณครูก็จะติดตามเด็กๆ นักเรียนเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น เด็กๆ ก็จะคุยกันเองได้เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้กัน คุยกันมากขึ้น และทำให้เด็กเรียนรู้สังคมมากขึ้น ลองจินตนาการดูว่าถ้าเด็กๆ ในอนาคตเรียนรู้กันแบบนี้ โลกเรามันจะเจ๋งแค่ไหน

สิ่งเหล่านี้อาจไม่เห็นภาพในปัจจุบัน หรืออาจจะมองแบบทัศนคติในปัจจุบันแล้วไม่เห็น แต่ให้ลบภาพไป แล้วมองไปไกลๆ มองอย่างมีความหวัง คุณจะเห็นอะไรที่มันน่าสนใจครับ เพียงแต่เราต้องรู้จักใช้ของเหล่านี้ให้เป็น ให้เกิดประโยชน์ มองข้ามว่ามันเป็นของฟุ่มเฟือย-ไร้สาระอย่างมีอคติแบบนั้นไปซะ แล้วมองว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมันอย่างสูงสุดยังไงดีกว่า

ส่วนเรื่องประเด็นปัญหา 3G นั่นเป็นเรื่องของผลประโยชน์แน่นอนครับ ทุกคนทราบกันดีและผมก็ไม่ได้ลากเป็นประเด็นเดียวกับทัศนคติคนไทย (ผมเชื่อมสองเรื่องโดยมีความว่า การที่ทัศนคติของหลายๆ คนยังไม่เห็นความสำคัญของ Smartphone นั้นอาจเป็นเพราะยังไม่มีเซอร์วิสและคอนเทนท์ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันมากพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเติบโตได้จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงซึ่งก็คือ 3G นั่นเอง ถ้า 3G มาเมื่อไหร่เชื่อว่าเราคงได้เห็นบริการและแหล่งทรัพยากรต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันมากขึ้นอีกเยอะ คนทั่วประเทศจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อีกมาก ลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล เอื้อต่อการศึกษาทางไกล ฯลฯ คือมันต้องมีช่องทางให้ก่อน แล้วสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันจะตามมาเอง)

แต่ทั้งนี้เราอาจจะมองกันในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันก็ได้ครับ อย่างมุมมองของผมก็มองออกมาจากสังคมที่ผมอาศัยอยู่ตอนนี้ครับ

ยังไงก็แลกเปลี่ยนทัศนคติกันได้ครับ ยินดีที่ได้ร่วมสนทนา :)

ปล. เดี๋ยวหาว่าเป็นพวกวัตถุนิยม เพราะทุกวันนี้ผมใช้มือถือเครื่องละหกพันเก้าเองครับ

By: gololo
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 2 June 2011 - 07:21 #295892 Reply to:295881

คำถาม คนไทย ขายข้าวขายผัก ปลูกข้าว เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู กันทุกคนหรือเปล่าครับ?

ตอบ ไม่ เหมือนที่คุณบอกว่า คนไทยมีทัศนคติที่ผิดๆ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มีอาชีพดังตัวอย่าง และเป็นกลุ่มคนที่ผมอ้างถึง เช่น จะให้ชาวบ้านขายข้าวขายผักเอาเงินมาซื้อก็ใช่เรื่อง

คำถาม ในทรรศนะของคุณ คุณมองว่าคนไทย ถ้าไม่จน ก็รวยไปเลยเท่านั้นหรือครับ?

ตอบไม่ เพราะผมไม่ใด้แบ่งแยกและเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนแต่ผมหมายถึงประชากรณ์ส่วนใหญ่ที่เรียกว่าคนไทย คิดไปเองแล้ว

คำถาม ทุกคนที่ซื้อ iPhone หรือมือถือราคา 2XXXX ซื้อเพราะเห็นคนอื่นซื้อเอามาอวดชาวบ้านกันหมดหรือเปล่าครับ?

ตอบ ผมใด้อะธิบายใว้อย่างชัดเจนแล้วว่า "ถ้าซื้อมาแล้วใช้มันไม่คุ้มค่า 2xxxx ซื้อเพราะเห็นคนอื่นซื้อเอามาอวด" ดังนั้นในประโชคก็บอกอยู่แล้วว่า ถ้า แล้วคนเหล่านี้ก็มีในสังคนและประโยคแสดงให้เห็นถึงคนบางกลุ่ม เช่นที่เคยเจอที่ไม่ใช่คนรู้จักอยู่ในรถไฟเอามือถือราคาแพงมาเปิดเสียงดัง เป็นต้น

"สรุปเป็นคำสั้นๆ คือ "ใช้ให้พอดีกับตนเอง" นั่นดูจะชัดเจนที่สุด" ผมอะธิบายแล้ว "ผมจะดูความต้องการผมและเลือกซื้อมันในราคาที่เหมาะสม" ราคาที่เหมาะสมคืออะไรก็น่าจะรู้

"ถ้าคุณซื้อของใดๆ (แม้จะมีราคาสูง)ได้โดยที่คุณไม่เดือดร้อนทางการเงิน" 2xxxx และชิวๆนี่ผมเรียกว่ารวยและคนที่ผมอ้างอิงถึงก็คิดเช่นนั้น

"และคุณซื้อมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าตามคุณสมบัติของมัน (แม้จะเป็นเรื่องความบันเทิงก็ตาม..ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต) ก็ถือว่าคุณได้ลงทุนอย่างเป็นประโยชน์แล้ว" อธิบายไปแล้วในประโชคว่า "มันเหมาะกับคนที่ต้องการใช้มันจริงๆ"

จากที่คุณพิมพ์ใว้

แต่ถ้าจะว่าประโยชน์แบบเน้นๆ เลยเนี่ย อุปกรณ์เหล่านี้กับเรื่องการศึกษามันไปด้วยกันได้ดีมากเลยนะครับ ลองจินตนาการว่าถ้าเราให้ tablet หรือ smartphone ให้เด็กคนละเครื่อง โดยที่มีคอนเทนท์ทางการศึกษาที่มีประโยชน์ให้กับเขา ให้เขาได้เรียนรู้นอกห้องเรียนได้ตลอดเวลาที่เขาต้องการ มีการทบทวนหลังการเรียน มีเกมฝึกสมอง ฝึกทักษะ มีการสอนเนื้อหาความรู้แบบที่ไม่ทำให้เขาเบื่อบนอุปกรณ์พวกนี้ เด็กๆ เขาก็จะใฝ่รู้และเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องหมกอยู่แค่ในห้องเรียน แถมข้อเด่นของอุปกรณ์พวกนี้คือมันสื่อสารได้ เด็กๆ จะไปค้นวิกิ ค้นกูเกิลอะไรได้ตลอด คุณครูก็จะติดตามเด็กๆ นักเรียนเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น เด็กๆ ก็จะคุยกันเองได้เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้กัน คุยกันมากขึ้น และทำให้เด็กเรียนรู้สังคมมากขึ้น ลองจินตนาการดูว่าถ้าเด็กๆ ในอนาคตเรียนรู้กันแบบนี้ โลกเรามันจะเจ๋งแค่ไหน

มันก็เป็นเรื่องจริงแต่ผมหมายถึงมือถือราคาแพง อย่างตัวอย่างที่คุณยกใว้

" คนสิงคโปร์ใช้ iPhone กันเยอะจริงๆ ครับ (iPhone 4 ด้วย) แล้วไม่ได้เยอะธรรมดาแต่ใช้กัน "แทบทุกคน" เรียกโทรศัพท์มือถือแห่งชาติเลยก็ได้ "

ทำให้ผมคิดแบบนั้น ซึ้งถ้าเอามาให้เด็กใช้ก็ควรเป็น teblet หรือ netbook ราคาถูกไม่เกิน 6000 ไม่ให้ใช้ของเกินตัวและในปัจจุบันบางโรงเรียนก็เริ่มแล้ว ซึ่งถ้าราคาไม่มากเกินไปก็ไม่มีใครเรียกว่าของพุ่มเฟีอยหลอกนอกจากราคาจะแพง

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 1 June 2011 - 19:33 #295706
TeamKiller's picture

เพื่อนและญาติผมที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ไอที ซื้อ Smart Phone มา บอกต่อเน็ทแพง กันเป็นแถวเลย T-T ต้องดิ้นลนหา Wifi

By: nomad™
iPhoneAndroidBlackberry
on 1 June 2011 - 19:35 #295707
nomad™'s picture

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และก็จะจริงมากขึ้นเรื่อยๆ

By: hutha
SymbianUbuntuWindows
on 1 June 2011 - 19:45 #295711
hutha's picture

อยากให้คนที่จะซื้อสมาทโฟน ใจเย็นๆ หน่อย อยากให้รอดู MeeGo เป็นทางเลือก ไกล้จะคลอดแล้ว

By: tanit9999
iPhoneAndroidUbuntu
on 1 June 2011 - 20:17 #295718 Reply to:295711
tanit9999's picture

ปัญหาคือทีมพัฒนาครับ มีใครหนุนหลังเท่าไหร่

By: NuttTaro
iPhoneAndroidUbuntuIn Love
on 1 June 2011 - 21:45 #295734
NuttTaro's picture

47 เกือบถูกละ แต่มันออก 46

By: NuttTaro
iPhoneAndroidUbuntuIn Love
on 1 June 2011 - 21:46 #295735
NuttTaro's picture

ซ้ำครับ
ป.ล. กดครั้งเดียว

By: jp
iPhoneAndroidBlackberry
on 2 June 2011 - 02:27 #295861

เมื่อไร 3G จะหลุดกรอบกรุงเทพฯ
ปริมลฑลประปราย
กระยอมต่างจังหวัดเป็นจุดๆ

โครงข่ายแถวนี้ไม่แปลกใจสำหรับ SMS

อ่อ ไม่อยากเห็นสมาร์ทโฟนโตด้วยการฮั้วแบบน่าเกลียด(ไม่เนียน) วิธีงามๆก็มีไม่ต้องไปแอบๆ...