Apple

รองประธานฝ่ายการตลาดของแอปเปิล Phil Schiller ได้ลบบัญชีใช้งานของเขาบน Instagram ที่เขาใช้นามว่า "@schiller" และให้สาเหตุว่า Instagram ได้ทำการ "jump the shark" หรือ "ลดคุณภาพลงเกินการเยียวยา" แล้วหลังจากที่เปิดให้บริการกับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ Android

แน่นอนว่าในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดทั้งหมดของแอปเปิล เขาต้องเคยเห็น Instagram เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดึงให้ผู้ใช้เลือก iOS ก่อนแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยก่อนหน้านี้ Instagram เองก็ได้ถูกเลือกนำมาเป็นโชว์เคสบน App Store หลาย ๆ ครั้งรวมถึงการได้รับตำแหน่ง App of the Year จากแอปเปิล

Update: Schiller ได้เขียนตอบเว็บ 9to5Mac ว่า Instagram ยังเป็นแอพที่ดีไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ดีที่สุดของ Instagram ก่อนหน้านี้คือสังคมขนาดเล็กที่ผู้ใช้แชร์รูปภาพกัน แต่ตอนนี้ขนาดสังคมมันใหญ่ขึ้นมาก และอัตราส่วน signal to noise มันก็เปลี่ยนไป ซึ่งส่วนตัวแล้วนั่นคือสิ่งที่เขาชอบกับ Instagram เมื่อก่อน (หรือว่า Schiller ต้องการสื่อว่าภาพขยะมากขึ้น?)

ที่มา - 9to5Mac

Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ

CP AXTRA Public Company Limited - Lotus's company cover
CP AXTRA Public Company Limited - Lotus's
CP AXTRA Lotus's is revolutionizing the retail industry as a Retail Tech company.
Token X company cover
Token X
Blockchain, ICO, Tokenization, Digital Assets, and Financial Service
Carmen Software company cover
Carmen Software
Hotel Financial Solutions
Next Innovation (Thailand) Co., Ltd. company cover
Next Innovation (Thailand) Co., Ltd.
We are web design with consulting & engineering services driven the future stronger and flexibility.
United Information Highway Co., Ltd. company cover
United Information Highway Co., Ltd.
UIH is Thailand’s leading Digital Infrastructure and Solution Provider for Business
KKP Dime company cover
KKP Dime
KKP Dime บริษัทในเครือเกียรตินาคินภัทร
Kiatnakin Phatra Financial Group company cover
Kiatnakin Phatra Financial Group
Financial Service
Fastwork Technologies company cover
Fastwork Technologies
Fastwork.co เว็บไซต์ที่รวบรวม ฟรีแลนซ์ มืออาชีพจากหลากหลายสายงานไว้ในที่เดียวกัน
Thoughtworks Thailand company cover
Thoughtworks Thailand
Thoughtworks เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโยลีระดับโลกที่คว้า Great Place to Work 3 ปีซ้อน
Iron Software company cover
Iron Software
Iron Software is an American company providing a suite of .NET libraries by engineer for engineers.
CLEVERSE company cover
CLEVERSE
Cleverse is a Venture Builder. Our team builds several tech companies.
Nipa Cloud company cover
Nipa Cloud
#1 OpenStack cloud provider in Thailand with our own data center and software platform.
CDG GROUP company cover
CDG GROUP
Provider of IT solutions to public, state, and private sectors in Thailand for over 56 years
Bangmod Enterprise company cover
Bangmod Enterprise
The leader in Cloud Server and Hosting in Thailand.
CIMB THAI Bank company cover
CIMB THAI Bank
MOVING FORWARD WITH YOU - CIMB is the leading ASEAN Bank
Bangkok Bank company cover
Bangkok Bank
Bangkok Bank is one of Southeast Asia's largest regional banks, a market leader in business banking
Gofive company cover
Gofive
“We create world-class software experience”
KBTG - KASIKORN Business-Technology Group company cover
KBTG - KASIKORN Business-Technology Group
KBTG - "The Technology Company for Digital Business Innovation"
Siam Commercial Bank Public Company Limited company cover
Siam Commercial Bank Public Company Limited
"Let's start a brighter career future together"
Icon Framework co.,Ltd. company cover
Icon Framework co.,Ltd.
Global Standard Platform for Real Estate แพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร มาตรฐานระดับโลก
REFINITIV company cover
REFINITIV
The Financial and Risk business of Thomson Reuters is now Refinitiv
H LAB company cover
H LAB
Re-engineering healthcare systems through intelligent platforms and system design.
LTMH TECH company cover
LTMH TECH
LTMH TECH มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยพันธมิตรของเราให้บรรลุเป้าหมาย
Seven Peaks company cover
Seven Peaks
We Drive Digital Transformation
Wisesight (Thailand) Co., Ltd. company cover
Wisesight (Thailand) Co., Ltd.
The Best Choice For Handling Social Media · High Expertise in Social Data · Most Advanced and Secure
MOLOG Tech company cover
MOLOG Tech
We are Modern Logistic Platform, Specialize in WMS, OMS and TMS.
Data Wow Co.,Ltd company cover
Data Wow Co.,Ltd
We enable our clients to realize increased productivity by solving their most complex issues by Data
LINE Company Thailand company cover
LINE Company Thailand
LINE, the world's hottest mobile messaging platform, offers free text and voice messaging + Call
LINE MAN Wongnai company cover
LINE MAN Wongnai
Join our journey to becoming No.1 food platform in Thailand

ที่เห็นเถียงกันอุดตลุดข้างล่างนี้ ผมว่าไม่ได้มีใครเค้าง้อให้ phil ใช้เลยนะ เลิกก็เลิกไปดิ ถ้า Mark Zuckerberg เลิกใช้ Facebook ยังว่าไปอย่าง

atheist Fri, 04/20/2012 - 10:50

โอ้ ระดับอัตรสาวกยังเป็นแบบนี้เลย

พวกที่ประกาศตัวแบบนี้ มันทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัวนะ เพราะมันแสดงนิสัยต้นกำเนิดของตนออกมาเลย คนอื่นรู้กันหมด

ยิ่งเป็นผู้บริหารแอปเปิลด้วยแล้ว มันแสดงภาพลบต่อองค์กรออกมาเลย ทำร้ายตัวเองไม่พอ ทำร้ายองค์กรด้วย

ผมว่าเพราะแกเป็นผู้บริหารแอปเปิลนี่แหละ แกเลยต้องประกาศตัวยืนข้างสาวกของแก จะได้สร้างศรัทธาได้เต็มที่ ส่วนคนที่ไม่แคร์ถึงแกจะพูดยังไงก็คงไม่แคร์อยู่ดี

เรียกได้ว่าที่สร้างข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อ การตลาด ล้วนๆเลยครับ

เฮ้อ ท่านคิดว่า Iphone กากๆของท่านถ่ายภาพได้สวยที่สุดแล้วเช่นนั้นหรือ ท่าน อัครสาวก

เปิดโลกกันบ้าง Android เทพๆที่ถ่ายได้สวยกว่ามีแยะกว่าอีก ไหนจะกล้องรุ่นใหม่ๆที่ใช้ os android ไม่แน่นา กล้อง SLR เทพ + Instagram App คงสนุกพิลึก

นั้นสิ ผลการทดสอบทั้งสองครั้งค่อนข้างต่างกัน มีใครช่วยวิเคราะห์หน่อยได้หรือเปล่าครับ ว่าเป็นเพราะอะไร ดูน่าสนใจมากๆ แต่ผมไม่ชำนาญเรื่องการถ่ายภาพเลย แต่ผลออกมา ถ้าดูจากภาพก็ตรงดี (ทั้ง 2 ครั้ง)

ผมดูเทียบของเก่าแล้วมั่นใจว่าเป็น4Sเลยนะ แสง สี รายละเอียด คล้ายของเดิมเลย(อันเก่าก็โหวต4S)

ปรากฏเป็น XS ซะงั้น

เขาต้องเคยเห็น Instagram เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดึงให้ผู้ใช้เลือก iOS ก่อนแพลทฟอร์มอื่น ๆ

แพลทฟอร์ม => แพลตฟอร์ม

ภาษาอังกฤษเมื่อมาเขียนทับศัพท์เป็นภาษาไทยสามารถเขียนได้หลายรูปแบบนะ เพราะ platform ตัวสะกดตัว t
เป็นได้ทั้ง ต และ ท

เมื่อมีคนเมลไปถาม Phil Schiller (ก็ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่านะ) พี่แกก็ตอบมาว่า

Instagram is a great app and community. That hasn’t changed.
But one of the things I really liked about Instagram was that it was a small community of early adopters sharing their photographs.
Now that it has grow(n) much larger the signal to noise ratio is different.
That isn’t necessarily good or bad, it’s just not what I originally had fun with.

คือมันเป็นเรื่องความชอบส่วนตัว ที่พอถึงจุดที่ไม่ชอบก็เลิกเล่น (คิดว่ามนุษย์ทุกคนบนโลกก็เป็นแบบนี้นะ) แต่แกเป็นคนดังแล้วดันไปพบว่า instagram ของ Schiller หายไป พอถามไปแกดันตอบกลับมาอย่างจริงใจ (มาก) ไม่มีปิดบังว่าทำไมถึงเลิก 555 เงิบเลย

รู้สึกทาง 9to5Mac จะยืนยันแล้วนะครับว่าจริง

ผมอยากให้คนอ่านอีเมลข้างบนนี้มากเลย เพราะPhil เขาตอบได้ตรงไปตรงมามาก ว่าคนเยอะขึ้นก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ signal to noise ratio มันก็เยอะตามไปด้วย (ตามธรรมชาติ) เขาก็เลยไม่ชอบเล่นเหมือนสมัยคนน้อยๆ ก็แค่นั้น

ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่ามันก็เรื่องปกติมาก ที่พอคนเยอะแล้วcontentมันก็เลยหลากหลายตามไปด้วย

ก็ไม่เห็นจะโลกแคบ หรือ ต่ำ สถุล(หา?) อะไรอย่างที่ถูกกล่าวหาเลยครับ :)

ในที่นี้เค้าคงหมายถึงรูป = signal เยอะขึ้น, รูปกากๆ แบบว่าก๊อปมาโพสซ้ำๆ รูปไม่ได้คุณภาพ บลาๆ คือ noise ละมั้งครับ

ความคิดคนเรามันไม่เหมือนกันสินะ แต่ คนคิดแบบนี้ เป็นพวกบ้าวัตถุนิยม จริงๆ
เป็นคนที่มองโลกแคบเกินไป คิดว่าโลกนี้มีแค่ Apple สินะ -*-

ผมไม่รู้ว่าเหล่าสาวกจะกล้ายอมรับกันมั้ย แต่ผมเห็นว่านอกเหนือจากที่ iphone จะเป็น 1 ในนวัตกรรมชั้นยอดแล้ว มันยังเป็นเครื่องมือที่แสดงให้เห็นถึงความ "คลั่งในวัตถุนิยม" ของบุคคลได้อย่างดีเลย หลายครั้งที่ความคลั่งตรงนี้ถูกแสดงออกมามากเกินไปจนเราก็เห็นเป็นข่าวกันทั่วโลกอยู่ ณ ตอนนี้

คน 1 คนใน Apple เลิกใช้ 1 แอพเพราะว่าไม่ชอบนี่ มีผลกับแบรนด์ขนาดนั้นเลยเหรอครับ?

อันนี้ไม่ได้ถามแบบยั่วโมโหหรืออะไรนะครับ แค่อยากรู้ว่าสมมติมีคนใน Google เลิกใช้เหมือนกันจะรู้สึกแย่กับ Google ด้วยรึเปล่า?

จะไม่มีปัญหาอะไรถ้าคนให้สัมภาษณ์ไม่ใช่ รองประธานฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ผมว่าที่เป็นประเด็นคือตรงนี้มากกว่า มันส่งผลต่อภาพลักษณ์

ทำไมทัศนคติของบุคคลถึงส่งผลเสียต่อบริษัทอะครับ

คนทำบุญผมมองว่าคนนั้นดูดี ผมไม่ได้มองว่าบริษัทเค้าดูดี
คนทำแย่ ผมมองว่ามันแย่ที่บุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับภาพลักษณ์เลย

เพราะมองจุดๆนึงแล้วชอบวิจารณ์ภาพรวมกันใช่รึเปล่า ดราม่ามันถึงเกิด

+1 ผมเห็นด้วย

แต่(ไม่ได้แก้ตัวแทนนะครับ) มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชนจริงๆ
คือบางทีเราก็รู้ทั้งรู้ ว่ามันคือคนๆหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งองค์กร
แต่ลึกๆ ในใจ (หรือจะในจิตใต้สำนึกที่ถูกปลูกฝังมาตามแต่ละคน) เราอดจะเอาไปเชื่อมโรงกับองค์กรนั้นๆไม่ได้ "นิดนึง"
แม้ว่าอาจจะไม่ได้พูดออกมาก็ตาม

ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ มันก็มักจะมีอารมณ์มาเกี่ยวข้องด้วยตลอด ส่วนจะมากน้อยแล้วแต่พื้นฐานชีวิตของคนๆนั้น
ต้องทำใจ!

แล้วแต่สังคมมั้งครับ ประเทศเรามองว่าการที่พนักงาน พนักงานระดับสูงจะทำอะไรคงไม่ต้องแคร์ชื่อเสียงองค์กรณ์ที่ทำงานอยู่ เพราะคิดว่าคงไม่เกี่ยวกันละมั้งนะ
แต่คงไม่ใช่ที่ญี่ปุ่นแน่ ๆ ครับ ขนาดพนักงานระดับล่างยังต้องรักษาหน้าตาของบริษัทที่ทำงานด้วย เพราะประเทศนี้เขามีค่านิยมว่าถ้าทำอะไรไม่ดี บริษัทที่ทำงานด้วยจะดูไม่ดีไปด้วย
ส่วนอเมริกาผมไม่รู้แฮะ...

เกี่ยวอะไรกับแบรนด์ครับ โลกแคบไปเปล่า หัดมองโลกในมุมกว้างๆ หาเหตุผลบ้างนะ
มองเป็นคนๆไป สมมติ เห็นพวกขับเบนซ์คนนึงชูนิ้วกลางใส่คุณ คุณบอกว่าเกลียดแบรนด์เบนซ์มากๆ

โอ้ละหนอ ตรระกะเมพขิงๆ

ถามจริงๆเคยใช้หมดยังทุก OS อย่าตอบนะว่ามีเงินซื้อแค่อย่างเดียว

แต่ผมเจอพวกรถเบนซ์ส่วนมากชอบไม่เปิดไฟเลี้ยว เจอหลายๆ ครั้งผมก็เหมาเลยนะครับว่าพวกขับรถหรูนิสัยเป็นแบบนี้

พูดง่ายๆ ว่าผมเห็นเป็น stereo type ของคนกลุ่มนี้เลยแหละ ส่วน stereo type ของคนใช้แอปเปิลก็เป็นแบบที่เราเรียกกันว่า สาวก

คงไม่ต้องอธิบายมากว่าเป็นแบบไหน

แล้วถ้ามันจะส่งผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็ไม่น่าแปลกครับ

ผมเจอรถทุกประเภท ทุกยี่ห้อ ไม่ยอมจอดให้ข้ามทางม้าลาย แม้กระทั่งข้างหน้าติดไฟแดงแล้ว แถมแม่งทับทางม้าลายขวางอีก

ถ้าสถานการณ์เหมาะสมให้เค้าควรจะหยุด ผมเข็นจักรยานปาดหน้าเลยครับ - -" จะทำให้คนเกลียดชาวจักรยานมากขึ้นหรือเปล่าผมไม่รู้ ผมรู้ว่าคนไทยส่วนมากขับรถแบบไม่สนเครื่องหมายจราจรทั้งป้ายและสัญญลักษณ์บนพื้นผิวทางจราจรซึ่งมันไม่ถูกต้อง

เห็นชัดสุดก็จอดตรงขาว/แดงแทนที่จอดรถประจำบ้าน, จอดทับทางม้าลายแบบที่คุณว่า และจอดทับเส้นเหลืองไขว้ห้ามจอดนี่หล่ะ

ผมเจอ Honda City จอดคร่อมสองเลนตรงที่จอดรถในโลตัส อันนี้แสดงว่า คนที่ขับรถ Honda ทุกคนเกรียน?

ถ้าตรรกะเป็นเช่นนั้น ผมว่าคนคิดตรรกะนั่นล่ะเกรียนที่สุดแล้ว

ก็ ถ้าในฐานะผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์ของ Apple มันก็เป็นแค่คนครับ
แต่ Phil Schiller เป็นรองประธานฝ่ายการตลาดของแอปเปิล
เกี่ยว ไม่ เกี่ยวคิดเองละกันนะครับ

ถ้าผู้บริหารเบนซ์มาชูนิ้วกลาง ผมก็เซงเบนซ์ครับ

เทียบให้มันเท่ากันๆหน่อย ผู้ใช้กับผู้บริหารมันคนละเรื่องกัน

เปลียนใหม่ครับ ถ้าสมมติ ผู้บริหารระดับสูงของเบนซ์ บอกว่าสังคมคนใช้เบนซ์ดีอยู่แล้ว ที่นี้ เจ้าของร้านโชว์ห่วยธรรมดาซื้อเบนซ์แล้วเบนซ์บอกว่า เป็นแค่เจ้าของร้านโชว์ห่วยมาซื้อเบนซ์ทำให้สังคมคนขับเบนซ์ตกต่ำ แล้วสัมถาษออกสื่อ คุณว่าจะมีผลต่อแบรนมั๊ย หรือว่าแค่คนๆเดียว ประเด็นคือเค้าเป็นผู้บริหารนี้แหละ แ่ถ้าเป็นแค่ คนรวยๆที่ขับเบนซ์พูดคงเฉยๆ

สมมติ
ถ้าคนขับรถที่ชูนิ้วกลางคนนั้นเป็นผู้บริหารระดับสูง บ.A
ภาพลักษณ์ที่คนมอง บ.A ย่อมต้องมีติดลบบ้างละครับ
อาจมีคถามว่าทำไมถึงให้คนแบบนี้มาทำงาน

ผมยกตัวอย่างเฉยๆ นะ

คนระดับนี้บางทีก็ต้องทำใจครับ นับเป็น Celeb ในวงการตัวเอง ถึงจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่จะพูดจะทำอะไรก็ต้องระวังๆ ตัวซะหน่อย เพราะถือเป็นบุคคลสาธารณะในระดับนึงแล้ว น่าเห็นใจในระดับนึง แล้วก็น่าหมั่นไส้พอควร 5555

http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T11982371/T11982371.html

อ่านกระทู้นี้เอาฮาได้

แต่ก่อนทั้งคนที่เข้ามาดู คนที่อัพรูปใช้ iOS ทั้งนั้น แต่วันนี้ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นไม่ได้บอกถึงจำนวนผู้ใช่ iOS อีกต่อไปแล้ว และที่สำคัญ ในอนาคตจะมีตัวเลขใหม่อีกชุดนึงที่บอกว่าจำนวนผู้ใช้ instagram บน Android มากกว่าผู้ใช้บน iOS กี่คน

หลายๆ คนอีโก้สูงเกินกว่าจะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้

ทำเป็นสัญลักษณ์ ตามหน้าที่การงานหรือเปล่า (อยู่ Apple ต้อง Art หน่อย แถมอยู่ฝ่ายการตลาดด้วย) แต่ถ้าไม่ด่า Instagram หรือผู้ใช้จาก Android เสียๆ หายๆ ผมว่า จะทำอะไรก็ได้แหละ

อ่านต้นฉบับแล้วก็พอเข้าใจนะ เคยเป็นเหมือนกัน อารมณ์แบบว่าชอบฟังเพลงใหม่ๆ เพลงที่เขายังไม่ฮิตกัน แต่พอมันฮิต คนฟังเยอะ ก็เลิกชอบแล้วหาเพลงอื่นฟัง

ตอนเด็กๆ ก็เป็นกัน โดยเฉพาะของเล่น

ต้องไม่เหมือนพี่หรือเหมือนน้อง พอแม่ซื้อให้มาเล่นเหมือนกัน เจ้าเดิมก้เบื่อ ออกมาโวยวาย หรือ บลัฟ

มันอาจจะเป็นพื้นฐานนิสัยของมนุษย์ก็ได้นะ

ตอนนี้สังคมของ iOS ก็ใหญ่ขึ้นมากแล้ว ทำไมคุณไม่ลาออกแล้วไปหาสังคมเล็กๆอยู่ละครับ

อัตราส่วน signal to noise มันก็เปลี่ยนไป

โหกำลังจะบอกว่าผู้ใช้ Android เป็นตัวสร้าง noise?

เป็นถึงระดับบริหารแต่วิสัยทัศน์เท่ากับ End user

มันnoiseมาสักพักตั่งแต่ก่อนลงandroidแล้วหล่ะครับ ตั่งแต่เอามาอัพรูปบ้าไรกันไม่รู้ ข้อความมั่ง รูปเบลอๆ รูปแต่งจากโปรแกรมจีน

แถมพอลงandroid(ต้องยอมรับก่อนว่า ยังมีหลายรุ่นมากๆที่กล้องไม่ได้ดีเหมือนiPhone) มันก็ยิ่งเข้าไปใหญ่ครับ

แต่จริงๆมันไม่น่าเป็นปัญหานะ เห็นบางคนเอาDSLRถ่ายแล้วอัพเยอะแยะ~

ใช่ครับ มันมีมาซักพักก่อนจะลง Android แล้ว แต่เมื่อคนใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันยิ่งไปเร่งอัตรา signal to noise ครับ

คุณเข้าใจคนละแบบกับผมแล้วครับ

สมมุติก่อนจะเปิดใช้บน Android

อัตราส่วนของ ภาพทั้งหมด ต่อ ภาพห่วยๆ คือ 10:2

แต่เมื่อเปิดใช้บน Android

อัตราส่วนของ ภาพทั้งหมด ต่อ ภาพห่วยๆ ได้เปลี่ยนเป็น 10:4

แสดงว่าเขากำลังบอกว่า คนใช้ Android ส่วนใหญ่ชอบ upload ภาพห่วยๆ ครับ

ขนาดผมไม่ได้ใช้ Instagram ผมยังเคืองเลยโดนว่าแบบนี้

ที่ผมจะบอกคือ iOS ก็มีคนอัพรูปห่วยๆ อยู่แล้ว เปิดให้แอนดรอยใช้เท่ากับผู้เล่นเยอะขึ้น โอกาสที่เจอรูปห่วยๆมากขึ้น เพราะ "ผู้ใช้งานมากขึ้น" ก็เท่านั้นเองครับ

จริงๆแล้วผมไม่อยากจะบอกว่า signal to noise มันคือภาพห่วยนะครับ เพราะศิลปะมันขึ้นกับความชอบของแต่ละคนมากกว่า แต่ผมมองว่าสิ่งรบกวนหรือสิ่งทีเราไม่ต้องการมันจะมากขึ้น เหมือนกับที่ผมโพสไว้ที่ด้านล่างครับ

เขาบอกว่า "signal to noise ratio" ครับไม่ใช่ "noise amount"

ถึงผู้ใช้จะมากขึ้น แต่โอกาสจะพบภาพห่วยๆ ต้องเท่าเดิมครับครับ ถ้า ratio เท่าเดิม

คุณกำลังสับสนระหว่างคำว่า จำนวน กับ อัตราส่วน และ โอกาส/ความน่าจะเป็น นะครับ

แค่ผู้บริหารของ Apple จะเลิกใช้แอพสักแอพ แล้วพูดออกมาด้วยความเห็นส่วนตัว ทำไมต้องเอามาเป็นประเด็นกัน คนที่เอามาเป็นประเด็นผมมองว่าไร้สาระที่สุด คุณก็ไม่ได้ต่างจากพวก iOS ที่ดูถูก Android สักเท่าไรหรอกครับ แค่เรื่องเล็ก ๆ ก็เอามาทำซะใหญ่โต

เพราะเป็น"ผู้บริหาร"ครับ การรับผิดชอบคำพูดที่ส่งผลต่อองค์กรเป็นหน้าที่อย่างนึง
อย่าว่าแต่ผู้บริหาร สมัยนี้แค่พนักงานระดับล่างยังต้องรักษาภาพลักษณ์ให้องค์กรเลย

ต่อให้เขาเป็นผู้บริหารก็เถอะ ผมก็มองว่านี่แค่เรื่องเล็ก ๆ ที่พวกชอบเสพติดดราม่านำมาเป็นประเด็นได้ ทั้ง ๆ ที่ผมมองว่าไม่มีอะไรในกอไผ่เลย หลาย ๆ คนก็ด่า แทนที่จะพูดวิเคราะห์แบบคนอื่น ๆ

มีกระแสวิเคราะห์ (เล็กๆ) มองไปในทางอื่นด้วยครับ เช่น

เนื่องจาก Instagram ถูกขึ้นโชว์เคส (หมวด Features) บ่อยบน App Store และได้รางวัลถึง "App of The Year" และดู Phil Schiller จะชอบแอพนี้เป็นพิเศษ ทีนี้พอมาบวกกับข่าว (ลือ) ที่ว่า Mark Zuckerberg ใช้เวลาเพียง 2 วันในการซื้อ Instagram โดยไม่ปรึกษาใครเลย และด้วยราคาขนาดนี้ อาจเป็นไปได้ว่ามาร์คจะตัดหน้าใครรึเปล่า?

ตอนนี้มีการวิเคราะห์กัน (เล่นๆ?) ว่าแอปเปิลอาจกำลังเล็งจะซื้อ Instagram พอมาร์ครู้เข้าจึงรีบตัดหน้าก่อน

ทำให้ Phil Schiller ยิ่งไม่พอใจ (จากเดิมไม่พอใจที่ขยายไป Android อยู่แล้ว) ก็ลบ Instagram ไปเลย

แต่ทั้งหมดนี้คือวิเคราะห์กันเล่นๆ นะครับ ฮา

ผมว่าก็ตรงไปตรงมาดีนะครับ ผมคิดว่าจะไปติดความว่า signal to noise หมายถึงว่ามีภาพแย่ๆมากขึ้น มันก็ไม่ถูกซะทีเดียว แต่ผมกลับคิดว่าเมื่อสังคมมันใหญ่ขึ้นแบบรวดเร็วมันทำให้จำนวนภาพที่อัพโหลดมากขึ้น noise มันก็เลยมากขึ้นตามปกติ

เทียบง่ายๆกับร้านอาหาร ถ้ามีนั่งกัน 4-5 โต๊ะมันก็ไม่วุ่นวายดี แต่ถ้าคนเต็มร้านคุยกันเสียงดัง คนเดินเบียดเสียด บรรยากาศเริ่มไม่น่าอยู่

จะว่าใจแคบก็ไม่ผิดอะไร แต่ผมไม่ได้อยากให้เราไปด่าเขาว่า ต่ำ สถุน เหยียดชนชั้น อะไรแบบนี้ผมรู้สึกว่ามันเกินไปนิด เพราะการที่แค่เลิกเล่น Instagram มันก็เป็นเรื่องของเขา เหมือนกับผมเองก็เลิกเล่น hi5 หรือ MSN มันก็เป็นเรื่องปกติ

+1 จริงด้วย เปรียบเทียบกับ hi5 หรือ MSN ก็เห็นภาพได้ดีนะครับ คือ มันไม่เหมาะกับเราแล้ว เราก็เลยเลิกเล่น แค่นั้นเอง คนชอบ คนทนได้ก็เล่นกันต่อไป :)

ใช่เลย พอมันใหญ่ไปแล้วมันรู้สึกไม่กันเอง มันห่างเหิน มันไม่อบอุ่น (ถ้ารู้สึกแบบนี้มาก่อนแต่แรกจะเข้าใจ feel) ที่ทำงาน, ห้องเรียน, โรงหนัง, ร้านหนังสือ ก็เหมือนกัน คนเยอะไม่ชอบ

ผมขอถกเฉพาะประเด็นการตีความเรื่อง signal to noise ratio ละกัน(ในต้นฉบับอีเมลมีคำว่า ratio) ผมมองว่า คำพูดนี้ถึงแม้เจ้าตัวจะแกจะรักษามารยาทด้วยการพูดต่อว่า "ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี" แต่ผมว่าลึกๆมันก็คงจะเป็นการเจตนาดูถูก ผู้ใช้ android นั่นแหล่ะครับเพราะใช้คำว่า "signal to noise ratio is different" คำว่า different ก็คงไม่ได้หมายความว่า noise มันน้อยลงอย่างแน่นอน เห็นด้วยมั๊ยครับ

ทีนี้นัยยะของคำว่า ratio หรือ อัตราส่วน สมมติผมบอกว่าเดิมอัตราส่วนภาพดีต่อภาพห่วยคือ 10:2 แต่ปัจจุบันมันเปลี่ยนเป็น 10:4 ที่นี้ลองเปรียบเทียบ กับสิ่งที่คุณตีความคือ คุณพยายามจะบอกว่า จำนวนภาพมากขึ้นภาพเสียก็มากขึ้นมันควรจะหมายถึงว่า ถ้าคนโพส 100 ภาพห่วยเสีย 20 แต่พอคนโพสรวม android ด้วยกลายเป็น 1000 ภาพ ห่วยซะ 200 ภาพ มีภาพเสียเยอะขึ้นแต่ สัดส่วนมันก็ยังเป็น 10:2 ใช่มั๊ยครับ

แต่คำว่า ratio นี่แหล่ะทำให้มันเปลี่ยนไป 10:4 หรือเท่าไหร่ก็ตาม นั่นคงหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกว่าจริงๆแล้วเขาหมายถึง user android มีโอกาสโพสภาพห่วยมากกว่า ซึ่งก็คือการดูถูกเหยียดหยามฝ่ายตรงข้ามนั่นเองแบบสุภาพๆ

คิดเห็นยังงัย ถกกันได้ครับ :-)

ผมกลับไปนั่งคิดดูหลังจากอ่านของคุณ rattananen กับ ineng รวมกันแล้ว ผมติดความผิดตรงคำว่า ratio จริงๆ

แต่ที่ผมอยากให้ลองคิดดูคือ noise มันจะเป็นไหมที่จะต้องหมายถึง "ภาพห่วย" มันอาจจะหมายถึงสิ่งไม่เพิ่งประสงค์หรือสิ่งที่ไม่ตรงกับความชอบ-ความแนวของเราก็ได้นะครับ

ผมคิดว่าเขาต้องการจะแขวะทางแอนดรอยอยู่เรื่อยไปอยู่แล้วแหล่ะครับ อันนี้ไม่เถียง

ผมมองงี้ครับ ยกตัวอย่างแบบที่คุณว่า เราไปนั่งร้านอาหารแห่งนึงกับเพื่อนฝูงหรือคนที่รสนิยม มารยาททางสังคมใกล้เคียงกัน นั่งอยู่ 3-4 โต๊ะก็ยังเกรงใจกันคุยกันเบาๆ แต่ต่อมาพอคนมันเยอะมันเริ่มครื้นเครงเกินพอดีในความรู้สึกของเรา เราอาจจะเลือกออกมาจากที่แห่งนั้นโดยไม่ได้ต่อว่าใครสักคนก็ได้ แต่ในความรู้สึกเราก็คงจะแนวๆว่าไม่ชอบมารยาทของคนส่วนใหญ่พวกนี้ ที่เอะอะเสียงดังรบกวนผู้อื่น จริงๆความไม่ชอบนี้ลึกๆผมคิดว่ามันก็เป็นการดูถูกแบบไม่แสดงออกมาครับ แต่สังคมจะตัดสินว่าใครดูถูกคนอื่นจากสิ่งที่แสดงออกมา ผมมองอย่างนั้นครับ(อาจจะผิดก็ได้นะ)

ผมเห็นด้วยว่าคำว่า noise มันอาจจะไม่สื่อถึงเรื่องภาพห่วยๆอย่างเดียว แต่พูดภาษาบ้านๆง่ายๆมันอาจจะแย่กว่านั้นอีกครับอาจจะพูดได้ว่า "มีสังคมกากๆเพิ่มขึ้น" เลยแหล่ะ ผมคงไม่มองเค้าแย่เกินไปใช่มั๊ยเนี่ย 555

woohoo Fri, 04/20/2012 - 15:45

In reply to by ineng

noise มันสื่อความหมายไปในทางลบอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายถึงเป็นสิ่งที่กากหรือสิ่งทีแย่ก็ได้ครับ
สมมติว่าคุณชอบเพลงร็อค แต่ไปงานคอนเสิร์ตที่มีการบรรเลงเพลงคลาสสิก คุณอาจจะเรียกเพลงคลาสสิกว่า noise ก็ได้ครับ เพราะว่าคุณไม่ชอบ แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นกากเป็นอะไรที่แย่ๆนะครับ ผมมองแบบนี้

คำว่า noise

ใน Telecommucation หมายถึง สัญญาณรบกวน

ใน Statistic หมายถึง vector ที่มัน error ที่ทำให้ไม่สามารถลากเป็นเส้นกราฟได้

ใน Raster image (bitmap image) หมายถึง pixel ที่มันเสียๆ ไม่เข้าพวกบนภาพ (จุดๆ บนภาพถ่ายทั้งหลาย)

แล้วใน Instagram จะให้ผมใช้อะไรดีล่ะครับ

ถ้าตีความว่า noise ในที่นี้ คือ สิ่งที่คนพูดไม่ชอบ ได้มั้ยครับ? แล้วถ้าจะตีความว่า noise ในที่นี้ ส่วนนึงเกิดจาก คุณภาพของ hardware กล้องของมือถือบางบางรุ่นด้วย ได้หรือไม่ เพราะกล้อง android นั้นหลากหลาย แต่ละตัวก็ให้คุณภาพไม่เหมือนกันด้วย รวมไปถึงผู้ใช้ Instagram จาก iPhone เองก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ก็ทำให้เกิด noise ที่เพิ่มขึ้นในมุมของคนพูดได้หรือไม่

คือ ผมไม่คิดว่า มันจะหมายถึง คุณภาพของคนใช้ 100% หรือคุณภาพของโทรศัพท์ android 100% นะครับ ถ้าเค้าจะพูดว่า ภาพถ่ายจากกล้องบางตัวมันไม่ดีเหมือนที่เคยเห็นจากกล้องอื่นๆ ทำให้ภาพรวมดูแย่ลง (ความบันเทิงจากการดูภาพ) ได้หรือไม่ ถ้าไม่ ผมก็เห็นด้วยว่า เค้าจงใจด่าคนใช้ android ครับ

หมายเหตุ: แต่เห็นด้วยว่า ไม่พูดน่าจะดีกว่า เพราะจะไม่มีประเด็น :)

ผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับคุณภาพของภาพล้วนๆหรอกครับ เป็นคุณภาพของการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้ใช้หรือ community ด้วย ยิ่งคนมากทำให้โอกาศทำให้เราเจอกับคนที่เป็นคอเดียวกับเราหรือชอบอะไรแบบเดียวกับเรายากขึ้นด้วย ประสบการณ์การเล่นจะไม่เหมือนเดิม แต่สำหรับผมเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับเพราะ คนที่ผม follow ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆทั้งนั้น เพื่อนที่ใช้แอนดรอยก็เยอะ ทำให้เราอยากถ่ายภาพให้ดีๆขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ

อีกอย่างนึงคือไม่อยากไปโทษว่า Hardware ไม่ดีภาพที่ได้ออกมาจะไม่ดีครับ ผมว่าขึ้นอยู่กับผู้ถ่ายภาพจะสื่ออะไรออกมามากกว่า

ผมว่าเจตนาผู้พูดนี่แหล่ะที่เป็นปริศนาสุดๆ ตัวผมเองยอมรับว่าผมอาจจะไปคิดยึดติดกับดราม่าก่อนหน้านี้ที่ user iOS ออกมาแขวะ user android ต่างๆนาๆ เลยอาจจะทำให้ผมมองเค้าไปในมุมเดียวกันในฐานะผู้บริหารเจ้าของ product คู่กรณี

ทีนี้ถ้าวิเคราะห์เจตนาแล้ว สาเหตุหลักและน่าจะเป็นสาเหตุเดียวเลยที่ทำให้เกิดดราม่าก็คือ การขยายฐานไปยัง android นั่นแหล่ะ เมื่อก่อนการโพสรูปผ่าน instagram = เป็นเจ้าของ iOS = ภูมิใจ(*1) แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วตรงนี้อาจจะสร้างความรู้สึกหงุดหงิดจนเป็นที่มาของ วาทะกรรมดราม่าทั้งหลาย ผมจึงมองเจตนาของ ผู้บริหารคนนี้ไปในทิศทางเดียวกับที่ user iOS เคยกล่าวกันไว้มากมายก่อนหน้านี้ครับ

(*1) ความภูมิใจ ในที่นี้อาจจะไม่ได้ถึงความมีอันจะกินเสมอไปนะครับ อาจจะเป็นความภูมิใจในเชิงรสนิยม เพราะ user iOS มักจะคิดอยู่แล้วว่า iphone มันมีความเป็น form lead fuction นิดๆยังงัยก็เท่ห์กว่าเจ๋งกว่า ต่างจาก user android ที่ซื้อกันก็คำนึงเรื่อง fuction เป็นหลัก บางครั้งการใช้เงินซื้อสิ่งที่ไม่คุ้มค่าในเชิง function กลับได้ความคุ้มค่าในเชิงภาพลักษณ์และความรู้สึกแทน อะไรทำนองนั้นอ่ะครับ

:-)

ถ้าผมเปรียบเทียบกับการปายได้ไหมครับ แต่ก่อนปายเป็นเมืองที่สงบ คนที่ไปเที่ยวก็คาดหวังว่าจะเจอบรรยากาศที่สงบ แต่เดี๋ยวนี้ไปบรรยากาศเปลี่ยนไปแล้วเพราะคนมาเที่ยวเยอะขึ้นก็มีคนหลายรูปแบบที่มาเที่ยว คนที่ชอบบรรยากาศแบบเดิมก็เรียกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปายว่า noise

หรืออย่างเชียงคาน ที่แต่ก่อนบรรยากาศสงบๆ มีแต่นักท่องเที่ยวที่แสวงหาความสงบมาเที่ยว แต่เดี๋ยวนี้พอดังขึ้นก็มีนักท่องเที่ยวหลายแบบ บางกลุ่มก็ไม่สนเรื่องความสงบ ความกลุ่มก็สนแต่จะมาถ่ายรูป บางกลุ่มก็อยากมาเที่ยวตามกระแส ทำให้บรรยากาศเชียงคานมันเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวที่อยากอยู่กับความสงบ พอเห็นว่ามันไม่ใช่ก็ย้ายไปเที่ยวที่อื่นแทน เพราะว่ามี noise เยอะขึ้น (noise ในที่นี้คือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาเที่ยวเพราะต้องการความสงบ)

signal to noise ratio คือ SNR เป็นเป็นภาษาไทยได้ว่า "คลื่นแทรก" ครับ
ก็เปรียบเหมือน SNR ที่อยู่ในสัญญาณโทรศัพท์นั่นแหละครับ
SNR มาก ทำให้เน็ตกาก ต้องไม่มากเกินไป ผมว่ามันแรงอยู่นะ

เฉยๆ ครับ เพราะ คิดว่าเป็นการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ ประมาณประกาศสงครามไม่ร่วมโลกกัน ระหว่างหุ่นเขียวกับผลไม้

จะเป็นยังไงไม่รู้ ผมรู้แต่หากไม่สนใจเรื่องแชร์ภาพในตัวโปรแกรม ขอบอกว่า filter ของ Instagram กระจอกมากครับ เมื่อเทียบกับ Camera360 :)

ผมมองว่า น่าเป็นการตอบโต้ ที่เป็นเรื่องปกติของการแข่งขัน คู่แข่ง หรือคู่ปรับ !!! เพราะไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อะไรคงไม่มีใครยอมรับว่า อุปกรณ์อื่นดีกว่าของตนเอง หรืออะไรที่ทำให้การใช้งานส่วนหนึ่งลดลง คงไม่แปลกไม่ใช่เรื่องใจแคบอะไร เพราะหากทาง google ออกมาพูดแบบนี้ ก็จะมีผลลัพท์ไม่ต่างกัน .... ธุรกิจการแข่งขัน นี่ก็คือเกมหนึ่งในการช่วงชิงเอาชนะ .... ก็ประเด็นนี้ไม่ต่างจาก วงการเกมกับพวก Fanboy ที่บอกว่า เกมนี้ Exclusive พอภาคใหม่ทำลง 2 เครื่องต้องพัฒนาเกมที่รองรับด้วยเอนจิ้นที่ใช้งานร่วมกัน....คุณภาพเกมเครื่องที่เคย ex ด้วยลง...สงครามก็เริ่มเกิดขึ้น ..... มันคือการตลาดและการช่วงชิงกันทางธุรกิจครับ

คำว่า "ควันออกหู!" นี่มันชี้นำความรู้สึกผมในตอนแรกในมากทีเดียว

แต่มองด้วยเหตุและผล ก็พอจะเริ่มคิดว่า เขาอาจจะไม่ได้ ควันออกหูจริงๆ หรอก แค่เลิกเล่น เงียบๆ
แล้วบังเอิญมีคนไปถาม ก็เท่านั้น เขาก็บอกตรงๆ ก็ดีแล้ว

raindrop Fri, 04/20/2012 - 15:06

In reply to by meisrame

+1 ผมแอบคิดเหมือนกันว่าพาดหัวข่าวข่าวนี้ชี้นำพอสมควร
คือแบบว่า อ่านแค่พาดหัวก็ปรี๊ดแล้ว (ว่า..อะไร แค่นี้ตาPhilถึงกับทำฉุนขาดควันออกหูรับไม่ได้เลยเรอะ!)

ซึ่งข่าวจริงๆก็ไม่ได้ขนาดนั้น แต่พาดหัวมันพาไป...

เห็นด้วยเลยว่ามัน ควันออกหู ยังไง พาดหัวข่าวเหมือน นสพ.หัวสีเลยทีเดียวรอบนี้

สรุปถ้าผมหรือใครเลิกใช้แอพอะไรนี่ต้องโมโหจนควันออกหูเลยสินะ

nutmos Fri, 04/20/2012 - 15:57

In reply to by raindrop

คือจริง ๆ อ่านเนื้อข่าวแล้วไม่เห็นเกี่ยวเลยครับ ผมเห็นด้วยเลยว่าพาดหัวข่าวมันพาไปจริง ๆ

errin Fri, 04/20/2012 - 16:34

In reply to by raindrop

เห็นด้วยแฮะ เขื่อว่าหลายๆคนไม่ได้อ่านเนื่อข่าวแต่อ่านแค่เนื้อข่าวก็เข้ามาด่าก่อนเลย

ดราม่า ยังคงมีต่อไป ขนาดแค่รูปเฉยๆนะเนี้ยยังมีแบ่งแยกกันล่ะ socialcam เนี้ยจะไม่ ดราม่า กันมันกว่านี้อีกเหรอเนี้ย จะว่าไปสองสาวพริตตี้ที่อยู่ใน socialcam เนี้ย ระวังเจ้เบียบ ตามไปดราม่านะจร้า

การตลาดล้วนๆ สร้างกระแสอีกรอบเพื่อสาวก จริงๆเล่นด้วย user อื่นอยู่ก็เป็นได้ อิอิ

จากเนื้อข่าวจริง ๆ จะเห็นได้ว่า เค้าเลิกใช้เพราะไม่ชอบที่หลัง ๆ มันเปลี่ยนไป
อาจจะด้วยหลายๆ อย่าง ทั้งคนใช้มากขึ้นด้วย รูปภาพที่เปลี่ยนไปด้วย

ยังไม่มีสักคำที่เค้าว่า เพราะ android เลย วิเคราะห์กันเอง แล้วโมโหกันไปใหญ่

ส่วนหนึ่งเลยผมว่า เพราะพาดหัวข่าวนี้ จ้องจะใส่อารมณ์มากไปหน่อย
blognoe เลยจะเป็น drama-addict

ส่วนคนที่บอกว่า signal to noise ratio แล้วมันเกี่ยวอะไร๊กัน
ขอบอกให้ลองใช้ instagram ก่อนครับ
มันจะมีในส่วนของ popular ซึ่งปกติก็เข้าไปดูกัน
เมื่อก่อนภาพงาม ๆ มีความหมาย

หลัง ๆ ก็งามครับ แต่ออกแนวภาพ ดารา อาหาร สวย หล่อ

แต่ผมไม่บังอาจไปคิดแทนเค้าว่า signal to noise ratio ที่เค้าหมายถึงคืออะไร
บางคนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน
ดังนั้นเค้าจะเลิกเล่น ก็คือเลิกเล่นครับ เป็นสิทธิ์ของเค้า

และทัศนคติของเค้าคือ เลิกเพราะไม่ชอบที่คนใช้เยอะแล้วมัน noise เยอะ
ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนเราจะชอบไม่เหมือนกัน

ดังนั้นไม่ควร ดราม่าต่อ หรือว่าใช้อารมณ์ไปใหญ่

เพิ่งจะเห็น blognone มี comment แบบไร้สาระและใช้อารมณ์มาก ๆ แบบนี้

มือถือทำให้เราแบ่งฝ่ายกันหนักกว่าตอน OS PC อีก อะไรกันเนี้ยแค่เลิกเล่นต้องเอามาเป็นข่าว ออกข่าวเพราะเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องของบริษัทกันแน่!!

ผมว่าเขาก็เขียนได้เหมาะสมกับฐานะที่เป็นผู้บริหาร Apple อย่างมีมารยาททางสังคมแล้วนะครับ การที่ application หลักของ smartphone ฝ่ายตัวเองไปเปิดตัวเพิ่ม smartphone ฝ่ายตรงข้ามจนมีผลกระทบกับภาพลักษณ์ของ brand ตัวเอง (ขาดความ exclusive ไปบางอย่าง) คุณจะไม่ให้ผู้บริหารออกมาพูดหรือทำอะไรเลยหรือครับ ? ถ้าให้อยู่เฉย ๆ ก็เท่ากับยอมรับความพ่ายแพ้แล้วครับ มันเป็นไปไม่ได้ในโลกธุรกิจสมัยนี้

Signal-to-noise ratio (often abbreviated SNR or S/N) is a measure used in science and engineering that compares the level of a desired signal to the level of background noise.

อนึ่ง ... ผมไม่คิดว่าสิ่งที่นาย Phil Schiller พูดจะผิดตรงไหนในเมื่อสิ่งที่แต่ละคนมองว่าเป็นคุณค่านั้นต่างกัน (desired) ซึ่งอันที่จริงแค่อ่านข่าวก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอะไรคือ signal ของนาย Phil Schiller อยู่ดี มันอาจจะหมายถึงคุณภาพของรูปถ่าย หรืออาจจะหมายถึงลักษณะแนวทางของภาพ หรืออาจจะหมายถึงอย่างอื่นก็ได้ แต่ในเมื่อไม่มีใครรู้ทำไมจึงไปด่าว่าเขาต่ำสถุลโลกแคบกัน ?

สมมติว่าคุณชอบอ่านนิตยสารฉบับหนึ่งที่เน้นภาพถ่ายแฟชั่นจากนักศึกษาสาวระดับมหาวิทยาลัย แต่แล้ววันหนึ่งนิตยสารนั้นกลับประกาศเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพิ่ม section แฟชั่นสาวมัธยมกับสาวออฟฟิศเข้ามาด้วยในขณะที่จำนวนหน้ากระดาษยังเท่าเดิม ส่งผลให้รูปภาพแฟชั่นนักศึกษาสาวน้อยลง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเปล่าที่คุณจะเลิกซื้อนิตยสารฉบับนี้ เพราะในเมื่อสิ่งที่ตัวเองสนใจมันน้อยลงจนตัวเองไม่รู้สึกตื่นเต้นที่จะอ่านมันอีกต่อไป

Signal to Noise Ration ของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ

แล้วความหมายที่ถูกต้องของคำนี้ในเนื้อหาที่เรากำลัง discuss กันอยู่นี้ คืออะไรครับ ขอรบกวนช่วยขยายความหน่อย คือ จริงๆ สำหรับผมมันเป็น technical term ในหมวด engineering แต่พอเอามาใช้แบบนี้ ผมก็ตีความไม่ถูกเหมือนกันครับว่า จะวัดปริมาณ signal ยังไง วัดระดับ noise ยังไง ถ้าได้ผลลัพธ์ออกมาแล้ว สื่อถึงอะไร ถ้าเป็นพวก Wireless Networking ผมพอเข้าใจ

อันนี้พูดจริงหรือพูดเล่นครับ ?

คุณกำลังบอกว่ามันมี term คำจำกัดความเฉพาะสำหรับ SNR ของ Instagram ว่าวัดจากอะไรเทียบกับอะไรอยู่อย่างนั้นหรือครับ ? ถ้าคิดว่ามีก็ช่วยอธิบายเพิ่มด้วยครับว่ามันมีลักษณะเป็นอย่างไร ไม่ใช่ออกมาพูดอย่างเดียวว่าอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ใช่แต่อธิบายอะไรต่อไม่เป็น

อ่อ ... และช่วยใส่แหล่งอ้างอิงข้อมูลของตัวเองมาด้วยนะครับ หากคุณสามารถอธิบายได้

การนำ technical term มาเปรียบเทียบใช้กับการบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตจริงมันก็คล้ายกับการใช้อุปมาโวหารในภาษาไทย ต้องแปลความหมายของศัพท์ในบริบทนั้นให้ออก ไม่ใช่เปิด dictionary พจนานุกรมแล้วก็ตีความไปตามตัวอักษร ที่ผมบอกว่า SNR ในข่าวที่นายคนนี้พูดถึงนั้นเป็น SNR เฉพาะของเขาเองนั้นหมายถึงมันเป็นมุมมองของเขาต่ออะไรสักอย่างใน Instagram ที่มันเปลี่ยนไปหลังจากมีผู้ใช้จาก Android เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในข่าวก็ไม่ได้อธิบายไว้แต่อย่างใด

ปล. รู้สึกว่าพักหลังนี่คนที่ Blognone จะเถียงอะไรจะแย้งอะไรมักไม่ต้องใช้เหตุผลข้อมูลหลักฐานประกอบกันแล้ว ... ตลกดี

Now that it has grow(n) much larger the signal to noise ratio is different.

งั้นคุณจะบอกว่า signal to noise ratio ที่้เขาบอกมันคือ signal to noise ratio ของผมงั้นเหรอครับ

ถ้าเป็นแบบนั้นผมดีใจจนน้ำตาไหล แทนเคืองเลยนะครับ มีคนระดับนั้นกล่าวถึงผม

ผมเองก็รู้ครับว่ามันเป็นสำนวนการพูดของเขาเอง

ฉะนั้นไม่มีแหล่งอ้างอิงหรอกครับ แต่ถึงอยากไรมันก็มีความหมาย

และมันก็สามารถตีความหมายว่า

"ตอนนี้ Instagram มีจำนวนผู้ใช้มากขึ้น (เนื่องจากผู้ใช้ android) โอกาสที่จะเจอ noise ก็มากขึ้น (เนื่องจากผู้ใช้ android)"

"ตอนนี้ Instagram มีก็โตขึ้น (เนื่องจากผู้ใช้ android) โอกาสที่จะเจอ content ไม่น่าดูก็มากขึ้น (เนื่องจากผู้ใช้ android)"

"ตอนนี้ Instagram ใหญ่ขึ้น (เนื่องจากผู้ใช้ android) อัตราส่วนของภาพทั้งหมด ต่อ ภาพห่วยๆ ก็เปลี่ยนไป (เนื่องจากผู้ใช้ android)"

ผมลองตีความหมายมาหลายอย่างแต่ผมก็ไม่สามารถตีความหมายไม่ให้กระทบผู้ใช้ Android

ถ้าคุณตีความหมายไม่ให้เข้าเค้าเดียวกับผมได้ ก็ขอเชิญตีความหมายประโยคใน blockquote ให้ผมดูด้วยครับ ผมจะได้ตาสว่างสักทีมืดมนกับข่าวนี้มานานล่ะ

และถ้าคุณจะเหน็บแหนบผม กรุณาผมเหน็บแหนบคนเดียวครับ อย่าเหมารวม เพราะคนใน Blognone ไม่ใช่คนๆ เดียว และไม่ใช่จะเหมือนกันทุกคนครับ

ปล. พรุ่งนี้เจอกันใหม่ comment สุดท้ายของผมแล้วล่ะ

ลองแปลคำว่า noise เป็นว่า "สิ่งที่เขาไม่สนใจ" ดูสิครับ

ในการแชร์รูปผ่าน Instagram บน iPhone เดิมมันอาจจะมีวัฒนธรรมสิ่งที่เขาสนใจอยู่เพียงพอที่เขาจะเล่นมัน แต่พอหลังจากที่ Android มี Instagram ทำให้สิ่งที่เขาสนใจนั้นมันหายากขึ้นกว่าเดิม (SNR มากขึ้น) เขาก็เลยเลิกเล่น

ทีนี้มันก็อยู่ที่ตัวเราเองแล้วล่ะครับว่าจะไปตีความสิ่งที่เขาสนใจออกมาในรูปแบบไหน สำหรับคนที่เคยเจอแต่ผู้ใช้ iPhone ที่เหยียดหยาม Android ก็ไม่แปลกที่จะตีความไปในทางลบ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้ตีความไปในแง่ลบก็ได้ ที่สำคัญคือต้องพึงระลึกเสมอว่านั่นคือการตีความของเราเอง ไม่ใช่สิ่งที่เขาพูดออกมาจริง ๆ ซึ่งในความเป็นจริงเขาฉลาดที่จะไม่พูดความในใจออกมาทั้งหมด มันอาจจะลบอย่างที่คุณคิดหรือมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ในเมื่อมันยังมีโอกาสที่มันจะไม่ใช่อยู่ การที่เราไปด่าเขาว่าต่ำสถุลนั้นมันสมควรแล้วหรือ ? เขาตอบคำถามอย่างมีมารยาททางสังคมแล้วเราล่ะวิจารณ์เขาอย่างมีมารยาททางสังคมด้วยหรือเปล่า ?

นี่ต่างหากคือประเด็นหลักที่ผมต้องการจะสื่อ

สมมติว่าเราลองตีความ SNR ที่เพิ่มขึ้นหมายถึง noise ที่เพิ่มขึ้นจากคุณภาพของภาพถ่าย พูดกันแบบตรง ๆ เลยว่าภาพที่ถ่ายจาก Android ห่วย ๆ มีมากทำให้โอกาสเจอภาพห่วย ๆ ใน Instagram มีมากขึ้นตามไปด้วย

เราลองมาวิเคราะห์กันว่าประโยคนี้จริงหรือไม่จริงอย่างไร

จากเดิมกล้องที่ถ่ายรูปขึ้น Instagram ส่วนใหญ่มาจาก iPhone อันเนื่องมาจากความ exclusive เฉพาะ platform iOS และความง่ายในการใช้งานจริง ถ่ายรูปแล้วกด upload share ได้เลย (ขอไม่นับพวกถ่ายรูปด้วยกล้องอื่นแล้วนำมา upload เองแล้วกันเพราะคิดว่าเป็นส่วนน้อยเนื่องจากความยุ่งยากในกระบวนการ) แปลง่าย ๆ น่าจะมาจากล้องบน iPhone 3GS, iPhone 4, และ iPhone 4S เป็นหลัก ซึ่งหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าคุณภาพของกล้องบนโทรศัพท์มือถือพวกนี้มีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน สมมติว่ามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ x/10 ละกัน

ภายหลัง Instagram ลง Android ที่มี hardware หลากหลายรุ่นและยี่ห้อมาก อีกทั้งมีจำนวนมากกว่า iPhone ประมาณ 1.6 เท่า (สถิติ smartphone ในสหรัฐ) smartphone Android ก็มีทั้งรุ่นที่กล้องดีกว่าและแย่กว่า iPhone ทั้ง 3 รุ่นที่ได้กล่าวไปข้างต้น ไม่อยากจะทึกทักเอาเองอย่างไม่มีข้อมูลว่าส่วนใหญ่เป็นแบบไหน อยากให้แต่ละคนลองคิดเอาเองจากข้อมูลที่ได้รับกันมาจะดีกว่าว่าผู้ผลิตรายไหนบ้างมีส่วนแบ่งมากรายไหนมีส่วนแบ่งน้อย จากนั้นลองกระจายส่วนแบ่งของโทรศัพท์แต่ละรุ่นในแต่ละยี่ห้อว่าควรจะเป็นอย่างไรด้วยกราฟการกระจายตัวแบบปกติเชิงสถิติ (ไม่เอียงซ้ายไม่เอียงขวา) คำนวณต่อคร่าว ๆ ดูว่าสุดท้ายแล้วจะมี smartphone Android ที่กล้องดีกว่า iPhone คิดเป็นจำนวนเท่าไรแย่กว่าเป็นจำนวนเท่าไร จากนั้นจึงนำข้อมูลเหล่านี้มาหาค่าเฉลี่ยคุณภาพของภาพใน Instagram ดูใหม่ว่ามากกว่า x หรือน้อยกว่า x ที่เคยคิดเอาไว้

ผมลองคำนวณดูแล้วค่าเฉลี่ยที่ได้จะน้อยกว่า x ดังนั้นสำหรับผมสมมติฐานที่ตั้งไว้เป็นจริง (จากการคำนวณคร่าว ๆ ของผมนะครับ)

ถ้าเป็นดังเช่นกรณีนี้แล้วสมมติฐานเป็นจริง ถามต่อว่าผู้ใช้ Android จะยอมรับความจริงได้หรือไม่ หรือจะบอกว่านายคนนี้ต่ำสถุลโลกแคบอยู่เหมือนเดิม

ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวอย่างของผมเป็นแค่การสมมติเท่านั้น ผมไม่มีทางรู้ว่า Signal to Noise Ratio ในความคิดของนายคนนี้ตามข่าวที่เขาให้ไว้หมายถึงอะไรกันแน่ ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะไม่วิจารณ์เขาในแง่ลบหรือแง่บวกสำหรับเรื่องนี้ครับ

ว่าจะยกตัวอย่างเล่น ๆ สั้น ๆ กลับยาวเสียนี่ ต้องขออภัยคนอ่านทุกท่านไว้ด้วยครับ -..-

ปล. เรื่องการเหน็บนั้นไม่ได้จงใจส่งถึงคุณคนเดียวครับ เป็นประสบการณ์ที่ได้จากการอ่าน comment และตอบโต้หลาย ๆ ครั้งในช่วงหลังมานี้ พอดี threshold มันมาสุดที่ comment ของคุณพอดีเลยรู้สึกว่าอยากเขียนลงไปใน comment ของผมเองนิดนึงครับ

ก่อนหน้านั้นคือ "It "jumped the shark" when it went to android"ครับ
ซึ่งถ้าอ่านครบ จะเห็นว่า SNR มันมาขยายความต้นข่าว jumped the shark เห็นๆอยู่

คือบอกก่อนแล้วว่ามาแอนดรอยด์แล้วมัน"ห่วยแตก" แล้วมาขยายความซ้ำว่าเพราะมันมี SNR มากขึ้น
ซึ่งไม่ว่าจะหมายถึงอะไร มันไม่มีทางแถไปในแง่บวกได้อยู่แล้วครับ

ที่สำคัญที่สุดคือการตีความว่า"คุณภาพของกล้อง"คือ"คุณภาพของรูป" นี่ต้องเป็นคนไม่เล่นกล้องแหงๆ
คนถ่ายเป็นใช้กล้องมือถือตัวละ 5000 ถ่ายดีกว่ามือสมัครเล่นใช้ DSLR ก็มีครับ ยังไม่ต้องนับว่าใช้กล้องมือถือคุณภาพพอๆกันถ่าย แถมใส่ฟิลเตอร์กันให้วุ่นวายทุกรูป

ดังนั้นสมมติฐานของคุณผิดแน่ๆ เพราะไม่ได้ใส่"ฝีมือถ่าย"ลงไปในสมการด้วย

ในตัวอย่างที่สมมตินั้นเขียนเน้นไว้ชัดเจนแล้วครับว่าเป็นแค่ตัวอย่างลอย ๆ ที่เขียนมาเพื่ออธิบายการตีความคำว่า noise ของคนที่คุยกันก่อนหน้าเท่านั้นเองครับ เนื่องจากผมไม่รู้แน่นอนว่านายคนนี้หมายถึงอะไรกันแน่ จึงได้ลองยกตัวอย่างเปรียบเทียบมาสักเรื่องหนึ่งจากหลาย ๆ เรื่องที่เขาได้กล่าวถึงไว้ครับ ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นสมมติฐานจริง ๆ ของนาย Phil Schiller อยู่แล้วครับ เพียงแต่ผมไม่รู้จะยกตัวอย่างอะไรดีที่สามารถเปรียบเทียบได้ชัดเจนทางตัวเลขจึงได้ลองเขียนตัวอย่างนี้ลงไปเพื่อชี้นำวิธีการคิดครับ ซึ่งมันก็จริงอย่างที่คุณว่า มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ค่อยจะดีเอาเสียเลย

อันที่จริงผมอยากจะยกตัวอย่างเรื่องที่เปรียบเทียบว่า noise คือ content เหมือนกันแต่กลัวว่า comment จะยาวและน่าเบื่อเกินไปจึงหยุดไว้แค่ตัวอย่างเดียว ทีนี้พอจะมายกตัวอย่างเรื่องคุณภาพของ content ก็ไม่รู้จะวัดคุณภาพจากอะไรอีกเหมือนกันครับ บางคนชอบภาพวิวสวย ๆ บางคนชอบภาพคนทำท่าน่ารัก ๆ บางคนชอบภาพสัตว์ บางคนชอบภาพดอกไม้ บางคนชอบภาพอาหารราคาแพงในภัตตาคารหรู ๆ บางคนชอบภาพอาร์ต ๆ ของถนนที่เต็มไปด้วยขยะ สิ่งเหล่านี้มันเป็นความชอบส่วนบุคคลที่ยากจะชี้ชัดออกมาว่าอันไหนดีกว่าหรือแย่กว่าได้ เนื่องจากไม่มีดัชนีชี้วัดกลางใด ๆ ที่ชัดเจนขนาดนั้น ดังนั้นมันจึงกลับไปสู่สิ่งที่ผมพูดไว้ตั้งแต่ต้นครับว่าการที่นาย Phil Schiller เลิกเล่นเพราะสิ่งที่ตรงกับความสนใจของเขามันน้อยลงจนเขาไม่รู้สึกดีที่จะใช้ application นั้นอีกต่อไป

อนึ่ง ... คำว่า jump the shark ไม่ได้แปลว่าห่วยแตกนะครับ แต่น่าจะแปลว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงตกต่ำหรือทำอะไรผิดพลาดอย่างแรงอะไรแบบนี้มากกว่าครับ ซึ่งในทีนี้สิ่งที่นายคนนี้บอกว่า Instagram jumps the shark หมายถึงการที่เปลี่ยนจาก community เล็ก ๆ ไปเป็น community ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก SNR เปลี่ยนไป (เจ้าตัวเป็นคนอธิบายต่อคนที่มาถามเองผ่าน e-mail)

  1. a term to indicate the moment in its evolution when a brand, design, or creative effort moves beyond the essential qualities that initially defined its success, beyond relevance or recovery.
  1. a term to describe a moment when somethin that was once great has reached a point where it will now decline in quality and popularity.
  1. The precise moment when you know a program, band, actor, politician, or other public figure has taken a turn for the worse, gone downhill, become irreversibly bad, is unredeemable, etc.; the moment you realize decay has set in.

ถ้าจะให้ยกตัวอย่างที่เปรียบเทียบกัน ผมว่าความรู้สึกมันคงเหมือนผับที่คุณชอบแห่งหนึ่งย่านทองหล่อที่เคยมีคนเที่ยวแต่พอประมาณ มีแต่นักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ มาเที่ยว เล่นดนตรีสดดีเปิดเพลงโดนใจเที่ยวแล้วสนุก อยากไปเที่ยวก็ไปหาโต๊ะไม่ลำบากยากเย็นจนเกินไป แต่ภายหลังผับนี้กลับดังขึ้นคนรู้จักกันมากขึ้น ผู้คนหลากหลายแห่กันมาจนทำให้ผับมีคนหลายจำพวกมากขึ้น มีเสี่ยมาหาเด็กมีเด็กมาหาเสี่ย มีคนวัยทำงานที่เต้นไม่เป็นได้แต่ยืนฟังเพลงมาเที่ยว แทนที่จะมีแต่นักศึกษาวัยคราวเดียวกันเหมือนแต่ก่อน คนก็แน่นมากเดินไปไหนมาไหนก็ลำบากจะเดินไปเข้าห้องน้ำต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 นาที

สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศแบบเดิม ๆ ก็ไม่แปลกที่เขาจะมองว่าการเปลี่ยนแปลงแบบนี้มันทำลายตัวตนทำลายความสนุกของร้านนี้ไป แต่นั่นไม่จำเป็นจะต้องหมายความว่านายคนนี้จะคิดว่าคนจำพวกหลังที่มาผับนี้เพิ่มนี้จะเป็นพวกห่วยแตกเฮงซวยแต่อย่างใด เพียงแค่มันไม่ใช่กลุ่มคนที่เขาคาดหวังว่าจะไปเที่ยวสนุกแล้วเจอก็แค่นั้นเอง ที่สำคัญมันไม่ใช่บรรยากาศการเที่ยวผับแบบที่เขาต้องการ จึงไม่แปลกที่เขาจะเลิกมาเที่ยวร้านนี้และหันไปหาร้านอื่นเที่ยวต่อไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนั่นเป็นมุมมองของเขาเท่านั้น

ไม่รู้ว่าตัวอย่างนี้พอจะอธิบายความรู้สึกที่เรา ๆ ท่าน ๆ พยายามกันอย่างมากที่จะตีความจากคำพูดของนาย Phil Schiller ได้ดีมากน้อยแค่ไหน แต่ในความคิดของผมการที่เขาแสดงความคิดแบบนี้มันไม่ได้ผิดอะไรเลย และห่างไกลกับการที่ใครบางคนเรียกว่าต่ำหรือสถุลมากนัก

Be1con Fri, 04/20/2012 - 20:12

Drama จะเกิดขึ้นอีกครั้ง...........

ผมก็สงสัยประเด็นนี้อยู่ คงไปแทรกใน Populr เยอะพี่แกเลยยั้ว อีกอย่าง fb twitter มันก็ฉลาดเกินลงทะเบียนปุ๊บก็เหวี่ยงแหหาเพื่อนให้เพียบ แต่ก็ว่ารู้ได้ไงว่าภาพไหนไอโฟนภาพไหนไม่ใช่ งง

ที่จริงผมว่าเค้าไม่ได้พูดถึงว่า เพราะแอนดรอยด์ทำให้เกิดมลภาวะหรอก แค่ว่าคนใช้มากขึ้น บางคนก็ถ่ายสวย คนส่วนใหญ่อาจจะถ่ายออกมาแล้วเป็นขยะ พอขยะมากขึ้นเค้าก็เซ็งก็เลยเลิกมากกว่า

ไอโฟนก็ไม่จำเป็นต้องถ่ายออกมาแล้วสวย ตราบใดที่คนอยู่หลังกล้อง(มือถือ)ไม่มีความสามารถก็ถ่ายออกมาห่วยได้ทั้งนั้นแหละ ผมว่านะ ในทางกลับกัน คนที่เก่ง ๆ โดยเฉพาะ คนที่ compose เก่ง ๆ ใช้กล้องอะไรก็ถ่ายออกมาดูดีทั้งนั้น แค่เข้าใจในความสามารถและขีดจำกัดของกล้องเท่านั้นเอง ก็ทำให้ถ่ายออกมาได้สวยได้แล้ว

ที่จริงความคิดของ Phil Schiller ก็ถูกนะครับ

เพราะมันเป็นความคิดของเขาอ่ะ

สำหรับผมก็เฉยๆ เพราะทุกอย่างมันคือธุรกิจ เอิ๊กๆ อยากเติบโตก็ต้องขยายหาหนทาง!

อย่างน้อยมันมีผลต่อการขายiphone แน่ ครับ เพื่อนผมเมื่อก่อนใช้ iphone พอมันมาจับ samsung s2 มันบอกคำแรกเลยว่าเห้ยเจ๋งวะแล้วถามประโยคต่อไปเลยว่ามีปะ Instagram ผมบอกไม่มีมันเลยบอกว่างั้นกุไม่สนล่ะเชื่อเหอะครับ Instagram มันเป็นมากกว่า app ถ่ายรูปแล้ว การที่ Phil Schiller ออกมาพูดแบบนี้ ความคิดผม ว่าพาลวะ= =

ผมกลับกันนะ ผมเริ่มเห็นตอนตีความให้ Phil ผิดแบบด่าหยาบคาย
ผมว่าเขาใช้คำว่า Signal to noise นี่คลุมเครือจนแทบไม่หยาบแล้วนะ -_____-)

incredibles Fri, 04/20/2012 - 23:11

พูดไม่คิด คิดหรืออาจจะคิดแค่สะใจก็แบบนี้แหละ คนอื่นทำอะไรก็ห่วยไปหมด นี่ละ Apple

ผมก็คิดเหมือนเค้านะครับแต่ก่อนเข้าหน้า popular มีแต่รูปสวยๆ ให้ดู แต่พักหลังๆ ยิ่งช่วงที่มี celeb เล่นมากขึ้นๆ เรื่อยๆ รูปใน popular ก็ลดคุณภาพลงอย่างเห็นได้ชัด พักหลังๆ มานี้แทบจะไม่ค่อยได้เข้าไปดูในหน้า popular เลย

ไม่น่าเชื่อว่า กะแค่โปรแกรมบนโทรศัพท์ จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของประเด็นให้เกิดการทะเลาะกันไปทั่ว

ไม่จริงครับ ผมเช็คกระแส ดราม่าเล่นๆ ไม่นึกว่าคนเราจะเอาจริงเอาจังอะไรกันขนาดนั้น เอาไปเล่าให้ใครฟังขำตาย page view เยอะแบบนี้น่าโฆษณา เนอะ

ตอนยังไม่มีก็อยากลองเล่น....
พอเล่นแล้วก็....
ตอนนี้ไม่ค่อยได้เข้าแล้วล่ะ แบบว่า....
และ.... ตอนนี้ก็เล่น hipster อยู่ค่ะ แต่งภาพได้ บอกตำแหน่งบนภาพได้

Apple
public://topics-images/apple_webp.png
SCB10X
public://topics-images/347823389_774095087711602_515970870797767330_n_webp.png
Windows 11
public://topics-images/hero-bloom-logo.jpg
Huawei
public://topics-images/huawei_standard_logo.svg_.png
Google Keep
public://topics-images/google_keep_2020_logo.svg_.png
Instagram
public://topics-images/instagram_logo_2022.svg_.png
SCB
public://topics-images/9crhwyxv_400x400.jpg
Microsoft
public://topics-images/microsoft_logo.svg_.png
Basecamp
public://topics-images/bwpepdi0_400x400.jpg
FTC
public://topics-images/seal_of_the_united_states_federal_trade_commission.svg_.png
Pinterest
public://topics-images/pinterest.png
Palantir
public://topics-images/-nzsuc6w_400x400.png
AIS Business
public://topics-images/logo-business-2021-1.png
PostgreSQL
public://topics-images/images.png
JetBrains
public://topics-images/icx8y2ta_400x400.png
Krungthai
public://topics-images/aam1jxs6_400x400.jpg
Palworld
public://topics-images/mccyhcqf_400x400.jpg
Bill Gates
public://topics-images/bill_gates-september_2024.jpg
VMware
public://topics-images/1nj4i1gp_400x400.jpg
Take-Two Interactive
public://topics-images/0khle7nh_400x400.jpg
OpenAI
public://topics-images/ztsar0jw_400x400.jpg
Thailand
public://topics-images/flag_of_thailand.svg_.png
ServiceNow
public://topics-images/ytnrfphe_400x400.png
Klarna
public://topics-images/urcllpjp_400x400.png
Google Play
public://topics-images/play.png
Drupal
public://topics-images/drupal.png
Virtua Fighter
public://topics-images/virtua_figther_2024_logo.png
Paradox Interactive
public://topics-images/paradox_interactive_logo.svg_.png
Europa Universalis
public://topics-images/europa-icon.png
Nintendo Switch 2
public://topics-images/mainvisual.png
Cloudflare
public://topics-images/cloudflare_logo.svg_.png
Samsung
public://topics-images/samsung.png
Google
public://topics-images/google_2015_logo.svg_.png
Uber
public://topics-images/uber.png
Microsoft 365
public://topics-images/m365.png
USA
public://topics-images/flag_of_the_united_states.svg_.png
GM
public://topics-images/0pe0po-z_400x400.jpg
Perplexity
public://topics-images/perplex.jpg
Xperia
public://topics-images/xperia.png
iOS 18
public://topics-images/ios-18-num-96x96_2x.png
True
public://topics-images/true_logo.png
SoftBank
public://topics-images/softbank.jpg
Pac-Man
public://topics-images/pacman.png
Harry Potter
public://topics-images/harry.png
Marvel
public://topics-images/marvel.png
Skydance
public://topics-images/skydance.png
SEA
public://topics-images/sealogo.png
Find My Device
public://topics-images/find.png
Gemini
public://topics-images/google_gemini_logo.svg__1.png
Accessibility
public://topics-images/accessibility-128x128_2x.png
Material Design
public://topics-images/m3-favicon-apple-touch.png
Android 16
public://topics-images/android16.png
Android
public://topics-images/android_0.png
Firefox
public://topics-images/firefox_logo-2019.svg_.png
Google Messages
public://topics-images/messages.png
Notepad
public://topics-images/notepad.png
Singapore
public://topics-images/flag_of_singapore.svg_.png
Airbnb
public://topics-images/airbnb.png
PS5
public://topics-images/ps5.png
Krafton
public://topics-images/krafton.png
Doom
public://topics-images/doom-game-s_logo.svg_.png
AMD
public://topics-images/amd_logo.svg_.png
GTA
public://topics-images/gta_0.png
DoorDash
public://topics-images/doordash.png
YouTube
public://topics-images/yt.png
YouTube Music
public://topics-images/yt-music.png
Facebook
public://topics-images/fb.png
iQiyi
public://topics-images/iqiyi_0.png
Viu
public://topics-images/viu.png
Amazon Prime Video
public://topics-images/prime-vid.png
Spotify
public://topics-images/spotify.jpg
Apple TV
public://topics-images/apple-tv.png
HBO Max
public://topics-images/max.png
Threads
public://topics-images/threads.png
Alexa
public://topics-images/alexa.png
Kindle App
public://topics-images/kindle.png
Shopee
public://topics-images/shopee.png
Waze
public://topics-images/waze.png
Bilibili
public://topics-images/bili.png
Google Maps
public://topics-images/maps.png
Apple Music
public://topics-images/apple-music.png
Claude
public://topics-images/claude.png
TikTok
public://topics-images/tiktok.png
Xbox
public://topics-images/xbox.png
Tesla
public://topics-images/tesla.png
Chrome
public://topics-images/chrome.png
Google Calendar
public://topics-images/gcal.png
Google Home
public://topics-images/ghome.png
Google Meet
public://topics-images/meet.png
NotebookLM
public://topics-images/notebooklm.png
Reddit
public://topics-images/reddit.png
Assassin’s Creed
public://topics-images/ac.png
Mark Zuckerberg
public://topics-images/zuck.jpg
Meta
public://topics-images/meta.png
Meta AI
public://topics-images/meta-ai.png
Epic Games
public://topics-images/epic_games_logo.svg_.png
Unreal
public://topics-images/unreal_engine_logo-new_typeface-svg.png
Fortnite
public://topics-images/fortnite.png
DeepMind
public://topics-images/deepmind.png
Databricks
public://topics-images/databricks.png
Netflix
public://topics-images/netflix-logo.png
Microsoft Azure
public://topics-images/azure.png
Microsoft Copilot
public://topics-images/microsoft_copilot_icon.svg_.png
Bing
public://topics-images/bing.png
EA
public://topics-images/ea.png
Intel
public://topics-images/intel.png
Amazon
public://topics-images/amazon.png
AWS
public://topics-images/aws.png
Zoom
public://topics-images/zoom.png
Dropbox
public://topics-images/dropbox_0.png
Roblox
public://topics-images/roblox.png
Dell Technologies
public://topics-images/dell-tech.png
Nothing
public://topics-images/nothing.svg_.png
Microsoft Teams
public://topics-images/teams.png
Mojang
public://topics-images/mojang.png
Minecraft
public://topics-images/minecraft.png
Redis
public://topics-images/redis_logo.svg_.png
Ubisoft
public://topics-images/ubisoft_logo.svg_.png
Elden Ring
public://topics-images/elden.png
Brave
public://topics-images/brave.png
Opera
public://topics-images/opera.png
Vivaldi
public://topics-images/vivaldi.png
Microsoft Edge
public://topics-images/edge.png
Duolingo
public://topics-images/duolingo.png
LinkedIn
public://topics-images/linkedin.png
Canva
public://topics-images/canva.png
Realme
public://topics-images/realme.png
NASA
public://topics-images/nasa-logo.png
Booking.com
public://topics-images/booking.png
Agoda
public://topics-images/agoda.png
Bolt
public://topics-images/bolt.png
Grab
public://topics-images/grab.png
Temu
public://topics-images/temnu.png
LINE
public://topics-images/line.png
Facebook Messenger
public://topics-images/messenger.png
WhatsApp
public://topics-images/whatsapp.png
Telegram
public://topics-images/telegram.png
Signal
public://topics-images/signal.png
X.com
public://topics-images/x.png
Grok
public://topics-images/grok.png
xAI
public://topics-images/xai.png
CapCut
public://topics-images/capcut.png
Edits
public://topics-images/edit.png
Google One
public://topics-images/gone.png
Tinder
public://topics-images/tinger.png
Whoscall
public://topics-images/whoscall.png
OneDrive
public://topics-images/onedrive.png
Lightroom
public://topics-images/lr.png
Meitu
public://topics-images/meitu.png
Outlook
public://topics-images/outlook.png
Excel
public://topics-images/excel.png
PowerPoint
public://topics-images/ppt.png
Microsoft Word
public://topics-images/word.png
Phone Link
public://topics-images/phone-link.png
OneNote
public://topics-images/onenote.png
Windows App
public://topics-images/windows-app.png
Notion
public://topics-images/notion.png
Google Drive
public://topics-images/drive.png
YouTube Kids
public://topics-images/yt-kids.png
Gboard
public://topics-images/gboard.png
DeepSeek
public://topics-images/deepseek_logo.svg_.png
Prince of Persia
public://topics-images/prince-persia.png
Sony
public://topics-images/nq0nd2c0_400x400.jpg
Tencent
public://topics-images/z4xi4oyc_400x400.jpg
Cisco
public://topics-images/jmyca1yn_400x400.jpg
Alibaba
public://topics-images/4axflwia_400x400.jpg
Alibaba Cloud
public://topics-images/qm43orjx_400x400_cloud.png
Coinbase
public://topics-images/consumer_wordmark.png
CarPlay
public://topics-images/carplay.png
Rust
public://topics-images/rust-logo-blk.png
Red Hat
public://topics-images/redhat.png
Anthropic
public://topics-images/anthropic.png
Xcode
public://topics-images/xcode.png
Tim Cook
public://topics-images/tim-cook.jpg
Donald Trump
public://topics-images/trump.jpg
Microsoft Surface
public://topics-images/surface.jpg
Copilot+ PC
public://topics-images/copilotpc.png
Stellar Blade
public://topics-images/stellar-blade.jpg
Snapdragon
public://topics-images/snapdragon_chip.png
Qualcomm
public://topics-images/qualcomm-logo.svg_.png
CoreWeave
public://topics-images/coreweave.png
Ford
public://topics-images/ford.png
Xiaomi
public://topics-images/xiaomi.png
Google Cloud
public://topics-images/google_cloud_logo.svg_.png
PlayStation Network
public://topics-images/psn.png
PlayStation Plus
public://topics-images/ps-plus.png
Windsurf
public://topics-images/windsurf.png
Square Enix
public://topics-images/square-enix.png
MIT
public://topics-images/x7hyjl3t_400x400.jpg
Zoox
public://topics-images/zoox.jpg
Evernote
public://topics-images/1neatidg_400x400.jpg
Magic the Gathering
public://topics-images/magic.png
Call of Duty
public://topics-images/cod.png
NVIDIA
public://topics-images/nvidia_logo.svg_.png
Satya Nadella
public://topics-images/nadella.png
Nintendo
public://topics-images/nintendo.png
Japan
public://topics-images/japan_flag.png
China
public://topics-images/china-flag-sq.png
Sam Altman
public://topics-images/sam-altman.png
SNK
public://topics-images/snk_logo.svg_.png