รู้จัก Sustainability Yearbook การจัดอันดับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG จาก S&P Global

Brand Inside - 30 June 2023 - 14:23

ในช่วงหลายปีมานี้ เทรนด์การดำเนินธุรกิจไม่ได้คำนึงถึงแต่กำไรและผลประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคิดถึงผลกระทบทั้งต่อความยั่งยืนทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงเรื่องความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราจะเห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับคีย์เวิร์ดคำว่า ESG มากขึ้น

ESG คือ แนวคิดการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาลหรือพูดง่าย ๆ ก็คือความโปร่งใสของธุรกิจ (Governance) แนวคิดนี้เชื่อว่า การใส่ใจกับความยั่งยืนไม่เฉพาะแค่หวังผลกำไรจะทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในระยะยาว

มีรางวัลและการจัดอันดับมากมายที่ช่วยส่งเสริมการทำธุรกิจภายใต้แนวคิด ESG อย่างการจัดอันดับบริษัทใน Sustainability Yearbook ประจำปีของ S&P Global ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยการันตีว่าธุรกิจนั้น ๆ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักความยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพ

Sustainability Yearbook คืออะไร

ในทุก ๆ ปี S&P Global จะมีการประเมินผลด้านความยั่งยืนของธุรกิจที่เรียกว่า Corporate Sustainability Assessment (CSA) รวมรายชื่อบริษัทกว่า 7,000 บริษัททั่วโลกในกว่า 60 อุตสาหกรรม

การประเมินผลจะนำมาสู่การจัดอันดับองค์กรที่รักษาความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดใน Sustainability Yearbook 

ผลการประเมินจะออกมาในรูปแบบของการจัดอันดับบริษัทที่อยู่ภายในอุตสาหกรรมเดียวกันแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้

  • Top 1% หรือ Gold Class
  • Top 5% หรือ Silver Class
  • Top 10% หรือ Blonze Class 
  • Industry Mover กลุ่มบริษัทที่อยู่ภายในกลุ่ม 15% ที่ดำเนินธุรกิจได้ดีที่สุดและมีพัฒนาเรื่องความยั่งยืนอย่างก้าวกระโดดในการประเมินปี 2022 เทียบกับปีก่อนหน้า
  • Sustainability Yearbook Member

การประเมินผล CSA ในปี 2022 นำมาจัดอันดับรายชื่อบริษัทใน Sustainability Yearbook 2023 ครอบคลุมบริษัททั้งหมด 7,822 บริษัททั่วโลก ใน 61 อุตสาหกรรม 

บริษัทไทยใน Sustainability Yearbook 2023

ในปีนี้ มีบริษัทจำนวน 710 บริษัทจากทั้งหมด 7,822 บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับใน Sustainability Yearbook 2023 โดยมีบริษัทสัญชาติไทยที่ได้รับการจัดอันดับ Gold Class ทั้งหมด 12 บริษัท นับว่าเป็นประเทศที่มีบริษัทถูกจัดอันดับอยู่ใน Gold Class มากที่สุด รองลงมาเป็นสหรัฐอเมริกา 11 ประเทศ ตามด้วยไต้หวันและอิตาลี 7 บริษัทเท่ากัน

บริษัทสัญชาติไทยที่ได้รับการจัดอันดับ Gold Class ได้แก่ 

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) – AWC
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) – BJC
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) – BTS
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) – HMPRO
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) – PTTGC
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) – SCC
บริษัท บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) – SCGP
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) – TOP
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน – TRUE
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) – TU
บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) – VGI
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) – ThaiBev

นอกจากนี้ ไทยยังมีบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับรวมประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจาก Gold Class รวมทั้งหมด 37 บริษัท ถือว่ามีมากเป็นอันดับ 5 ของโลกด้วย

ที่มา – SET, S&P Global

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post รู้จัก Sustainability Yearbook การจัดอันดับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG จาก S&P Global first appeared on Brand Inside.

UPS สหรัฐฯ จัดซื้อรถขนส่งพัสดุที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศโรงงาน หลังถูกพนักงานท้วงติงว่าร้อน

Brand Inside - 30 June 2023 - 10:47

United Parcel Service หรือ UPS ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจจัดส่งพัสดุ สาขาสหรัฐอเมริกา ประกาศจัดซื้อรถขนส่งพัสดุขนาดเล็กที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาจากโรงงาน หลังกลุ่มพนักงานร้องขอ เพราะรถบางคันยังไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทำให้ร้อน และไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

UPS

UPS สหรัฐอเมริกา จัดซื้อรถขนส่งที่มีเครื่องปรับอากาศ

UPS แจ้งอย่างเป็นทางการว่า หลังจากหารือกับ Teamster หรือกลุ่มพนักงานจัดส่งของบริษัท ทำให้รับรู้ถึงปัญหาการทำงานเมื่ออากาศร้อน เพราะรถจัดส่งพัสดุบางคันในสหรัฐอเมริกายังไม่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จนพนักงานบางคนไม่รู้สึกปลอดภัย และทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

จุดนี้เอง UPS สหรัฐอเมริกา จึงประกาศการจัดซื้อรถจัดส่งพัสดุขนาดเล็กคันใหม่ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาจากโรงงานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2024 เป็นต้นไป และจะนำรถดังกล่าวไปให้พนักงานที่อยู่ในพื้นที่อุณหภูมิสูงของประเทศไปใช้งานเป็นกลุ่มแรก

นอกจากนี้ UPS ยังติดตั้งพัดลมเพิ่มเติมในรถจัดส่งพัสดุที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาจากโรงงานภายใน 30 วัน หลังจากการเจรจากับ Teamster เสร็จสิ้น และจะติดตั้งพัดลมตัวที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2024 ควบคู่กับแผงกันความร้อนที่ช่วยลดอุณหภูมิจากเครื่องยนต์มายังห้องโดยสารได้ราว 8 องศาเซลเซียส

ทั้งตัวรถจัดส่งพัสดุขนาดเล็กที่เตรียมจะจัดซื้อหลังจากนี้จะมาพร้อมกับตัวดักอากาศเพื่อให้อากาศจากภายนอกเข้ามาหมุนเวียนในห้องโดยสาร ช่วยให้การขับขี่ไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป และจะทยอยติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวในรถขนส่งพัสดุที่ใช้ในปัจจุบันด้วย

ปัจจุบัน UPS มีการจ้างงานทั่วโลกกว่า 5.3 แสนคน โดยมี Teamster อยู่กว่า 3.3 แสนคน และทั้งสองฝ่ายต่างมีการหารือเรื่องต่าง ๆ กันตลอดเวลา เพื่อทำให้ฝั่งบริษัท และพนักงานมีความสุขในการดำเนินงานที่สุด พร้อมคงกิจการเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาเมื่อปี 1907 ให้เดินหน้าต่อไปได้

อ้างอิง // UPS

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post UPS สหรัฐฯ จัดซื้อรถขนส่งพัสดุที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศโรงงาน หลังถูกพนักงานท้วงติงว่าร้อน first appeared on Brand Inside.

Apple ปิดประตูดาวน์เกรด iOS 16.5 แล้ว!

iPhonemod - 30 June 2023 - 10:29

Apple ปิดไม่ให้ติดตั้ง iOS 16.5 แล้ว โดยผู้ใช้จะไม่สามา […] More

The post Apple ปิดประตูดาวน์เกรด iOS 16.5 แล้ว! appeared first on iMoD.

รีวิว Mac Pro: ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือมี MacBook เป็นคู่แข่ง!

MacThai - 30 June 2023 - 10:00

หลังจากแอปเปิลได้ประกาศเปิดตัว Mac Pro ชิป M2 Ultra เป็นผลิตภัณฑ์ที่จัดในไลน์อันดับต้น ๆ สำหรับนักสร้างสรรค์มีเดียทั้งหลาย เพราะมีราคา และประสิทธิภาพในการทำงานต่างจากพีซีทั่วไป แต่เหล่าสาวกแอปเปิลกลับพบว่า MacBook ดันทำหน้าที่ได้ดีกว่า?!

โดย Mac Pro นั้นมีจำนวนพอร์ต และ ช่องเสียบ PCI Express กับช่องระบายอากาศที่มากกว่า แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถให้ผู้ใช้เติมการ์ดจออัปสเป็กเองได้แล้ว เพราะชิป Apple Silicon ใหม่ยังไม่รองรับ ทำให้มีรีวิวเปรียบเทียบกับ MacBook มากขึ้น

อย่างเหล่าสาวก Mac Pro ที่ใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่รุ่นแรกที่มีทรงกลม สำหรับตัดต่อสารคดี ภาพยนตร์ และแอนิเมชัน พร้อมทำเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ก็ยังเริ่มลังเลว่าจะกลับไปใช้อยู่อีกไหม เนื่องจาก MacBook Pro 16 นิ้วที่มากับชิป M1 Max ก็สามารถทำงานได้ประสิทธิภาพเหมือนกัน แถมสะดวกกว่าด้วย

นอกจากนี้ยังตัดต่อวิดีโอแบบ 4K และ 6K พร้อมเกรดสีได้ถูกต้อง ต่อให้จะเป็นงานที่ทำลงสตรีมมิงอย่าง Netflix ก็ตาม หากใช้ Mac Pro ทำก็อาจจะไม่สะดวกขนาดนี้ ถ้ามีการเปลี่ยนสถานที่ในการทำงาน หรือมีงานด่วนเข้ามา ซึ่งต่อให้มีแค่ MacBook Pro ก็เพียงพอแล้ว

กลายเป็นว่าผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมเทคโนโลยีที่แอปเปิลออกแบบมาให้กับ MacBook นั้นมีประสิทธิภาพ จน Mac Pro อาจไม่จำเป็นสำหรับคนบางกลุ่มไปแล้ว แต่ก็อาจสำคัญกับคนบางกลุ่มเช่นกัน อย่างสถาปนิก หรือวิศวกรซอฟต์แวร์ ที่ต้องใช้การเรนเดอร์ 3 มิติแบบงานละเอียด

โดยคาดว่า Mac Pro น่าจะตอบโจทย์กับธุรกิจขนาดเล็กมากกว่า อย่างศิลปินอิสระที่ต้องเน้นทำงานกับกราฟิกหนัก ๆ แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่จ่ายมากกว่าเช่นกัน

ซึ่งต่อไปแอปเปิลคงต้องปรับให้ Mac Pro สามารถแข่งกับตลาดอื่น ๆ ในด้านราคามากขึ้น และแก้ไขประสิทธิภาพเพื่อเติมความเชื่อใจด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากกว่าเดิม เพราะความไว้วางใจในแบรนด์จะทำให้องค์กรอยู่ต่อไปได้

ที่มา – The Verge

The post รีวิว Mac Pro: ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือมี MacBook เป็นคู่แข่ง! appeared first on Macthai.com.

เพื่อนกิน (เหล้า) หาง่าย เพื่อนรู้ใจหายาก ถ้าไม่มีเพื่อนสนิทที่ทำงาน จะเป็นอะไรไหม

Brand Inside - 29 June 2023 - 18:44

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
แต่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเข้าสังคมเก่งซะที่ไหน
 

การสังสรรค์ไม่ใช่ทาง แค่ลำพังทำงานให้ผ่านไปแต่ละวันก็เหนื่อยจะขาดใจ เลิกงานแล้วรีบกลับบ้านไปดูหนัง เล่นกับหมาแมว พูดคุยกับคนรู้ใจดีกว่า… ในที่ทำงาน แม้ทุกคนต่างมีภารกิจร่วมกันคือการหาเงิน แต่ออฟฟิศอาจเป็นแค่สถานที่รวมตัวชั่วคราวของมนุษย์เงินเดือนเพราะความจำเป็นก่อนจะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตที่ชอบหลังเลิกงาน รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าไม่มีเพื่อนสนิทซะแล้ว

ถ้ากำลังรู้สึกโดดเดี่ยว หวิว ๆ ในใจเพราะไร้เพื่อนสนิทในที่ทำงาน? คุณอาจไม่ใช่คนเดียวที่กำลังมีปัญหานี้ ลองมาดูตัวอย่างจากสหรัฐอเมริกากันบ้าง ข้อมูลจาก Survey Center ในหัวข้อ American Life เผยว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนเราใช้เวลา 81,396 ชั่วโมงหรือเทียบเท่ากับ 9 ปีในที่ทำงาน ออฟฟิศจึงน่าจะเป็นที่ที่เราพัฒนาความสัมพันธ์ได้มากที่สุด แต่ผลกลับตรงกันข้าม

 

นักวิจัยจาก Olivet Nazarene University ได้สำรวจชาวอเมริกัน 3,000 คนที่ทำงานประจำ พบว่ามีเพียง 15% เท่านั้นที่มองว่าเพื่อนร่วมงานเป็นเพื่อนที่แท้จริง แต่มีคนถึง 83% ที่มองว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นเพื่อนกันเฉพาะเวลางานแต่จะไม่พัฒนาความสัมพันธ์และเป็นคนแปลกหน้า ส่วนอีก 2% มองเพื่อนร่วมงานเป็นศัตรู

นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก Gallup เผยว่า มีพนักงานเพียง 3 ใน 10 เท่านั้นที่มองว่าตนเองมีเพื่อนสนิทในที่ทำงาน และการเข้าสังคมเป็นสิ่งที่บริษัทลงทุนให้กับพนักงานน้อยที่สุด

แม้การไร้เพื่อนรู้ใจในที่ทำงานจะเป็นปัญหาของใครหลายคนไม่ใช่เฉพาะตัวเรา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีคนที่สบายใจจะคุยด้วยในสถานที่ที่เราใช้เวลา 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมดในแต่ละวันนับเป็นเรื่องสำคัญทั้งต่องานและสุขภาพจิต

เพื่อนสนิท (ในที่ทำงาน) นั้นสำคัญแค่ไหน

นักวิจัยจาก University of Pennsylvania และ University of Minnesota เผยว่า การมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานไม่ได้แค่ช่วยเพิ่ม Productivity เท่านั้น แต่เพื่อนยังเป็นตัวแปรที่ทำให้การสื่อสารเรื่องงานราบรื่นและมีคนช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกัน

การศึกษาการทำงานทั่วโลกของ International Social Survey Program (ISSP) ยังให้ผลไปในทิศทางเดียวกันว่า การมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน และถือเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดในคุณลักษณะ 12 ข้อที่ทำให้พนักงานมีความสุขกับการทำงาน 

นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก Gallup พบว่ายิ่งถ้าหากคุณต้องทำงานทางไกลหรือทำงานที่บ้านสลับกับการเข้าออฟฟิศ เพื่อนสนิทในที่ทำงานจะช่วยเพิ่มความรู้สึกเชื่อมต่อกับทีม ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และการสนับสนุนกันในช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง

เพื่อนสนิทสร้างได้ แต่ถ้าไม่ถนัดสร้างจะเป็นไรไหม

สาเหตุที่ต้องมีคำว่า ‘เพื่อนร่วมงาน’ อาจเพราะเราไม่ได้มองคนที่ทำงานเป็น ‘เพื่อน’ หรือ ‘เพื่อนสนิท’ แต่เป็นคนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ใช่คนที่เราอยากจะเล่าเรื่องกำลังหนักใจหรือโทรไปร้องไห้ด้วยได้เวลาที่มีปัญหา แล้วจะทำอย่างไรถ้าไม่อยากทำตัวสนิทเกินไปกับ ‘เพื่อนร่วมงาน’ หรือไม่ถนัดสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิด

มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องสนิทกับทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หากไม่ถนัดที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นหรือพึงพอใจจะรักษาระยะห่างมากกว่า ก็เพียงเลือกที่จะทำตัวให้น่าคบหากับทุกคนเท่านั้นเอง

“คุณไม่จำเป็นต้องเป็นบัดดี้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด คุณแค่ต้องมีน้ำใจ เป็นมืออาชีพ และทำดีกับคนอื่น”

Amy Cooper Hakim นักจิตวิทยาองค์กรและผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานเผยว่า การเป็นเพื่อน (Friend) กับการทำตัวเป็นมิตรที่หมายถึงการแสดงนิสัยน่าคบหา (Friendly) เป็นคนละอย่างกัน เพราะฉะนั้นแทนที่จะต้องทำให้เพื่อนร่วมงานกลายเป็นเพื่อนสนิทด้วยการแชร์เรื่องส่วนตัว บอกความลับเพื่อแสดงความจริงใจ เราอาจวางตัวง่าย ๆ เพียงแค่ทำตัวน่าคบหาแต่รักษาขอบเขตความเป็นส่วนตัวเอาไว้เหมือนเดิม

บางคนอาจต้องการรักษาระยะห่างจากเพื่อนร่วมงานเพื่อป้องกันการเผชิญกับสถานการณ์กระอักกระอ่วน อย่างเช่น เราอาจรู้สึกกังวลกับงานและบอกความลับให้เพื่อนร่วมงานรู้ว่าเราคิดจะลาออกและกำลังหางานใหม่อยู่ ในจังหวะนั้น หัวหน้าอาจเลื่อนตำแหน่งหรือเพิ่มเงินเดือนให้ ทำให้เราตัดสินใจว่าจะไม่ลาออกแล้ว เหตุการณ์แบบนี้อาจทำให้เพื่อนสนิทรู้สึกขุ่นเคืองและไม่พอใจโดยเฉพาะเมื่อเขาหรือเธอคนนั้นไม่ได้รับเงินเดือนเท่าเราหรือไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเหมือนกัน

หรือหากเพื่อนสนิทของเราเป็นหัวหน้างานที่มีอำนาจในการประเมิน Performance ก็อาจทำให้เป็นที่เพ่งเล็งของเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่ตั้งคำถามว่าความสำเร็จของเรามาจากคุณภาพในการทำงานจริง ๆ หรือมาจากที่เป็น ‘คนโปรด’ ของหัวหน้า 

แถมถ้าในออฟฟิศมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เราอาจจะเข้าไปเกี่ยวกับดราม่าเลือกข้างโดยไม่ทันตั้งตัว การรักษาขอบเขตชัดเจนว่าเราจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันก็จะช่วยลดปัญหาความเข้าใจผิดตรงนี้ลงได้ การทำตัวเป็นมิตรและพร้อมช่วยเหลือทุกคน แต่ก็กำหนดขอบเขตไว้ชัดเจนว่าสนิทสนมกันได้แค่ไหนก็ถือเป็นคำตอบที่ดีในสมการปัญหาการทำงานข้อนี้ 

ทั้งนี้ เราทุกคนมีสิทธิ์ขาด 100% ว่าจะออกแบบชีวิตตัวเองในรูปแบบไหน หากตัวเราเองรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่สบายใจที่หันไปในออฟฟิศแล้วไม่มีเพื่อนสนิทซักคน เราอาจต้องมองหาวิธีเมคเฟรนด์ที่เริ่มด้วยการใส่ใจในสิ่งที่คนอื่นสนใจเพื่อหาจุดสนใจร่วมกันเพื่อพูดคุยก่อน แต่ถ้าเรารู้สึกสบายใจ และไม่ได้รู้สึกว่างานมีปัญหาจากการแยกพื้นที่ชัดเจนระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวอยู่แล้ว ก็อาจไม่ต้องพยายามทำตัวสนิทกับใคร ขอแค่ดีต่อทุกคนเท่านั้นเอง

ความสัมพันธ์ของคนในออฟฟิศมีได้หลายรูปแบบ ทั้งสนิทมาก สนิทน้อยแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายอย่างทั้งนิสัยของแต่ละคน ความสนใจที่อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกัน ความสนิทไม่ได้เป็นปัญหาขอเพียงแค่เราทำดีและร่วมงานได้กับทุกคนในที่ทำงาน

ที่มา – weforum, cnn, cnn 2, HBR

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post เพื่อนกิน (เหล้า) หาง่าย เพื่อนรู้ใจหายาก ถ้าไม่มีเพื่อนสนิทที่ทำงาน จะเป็นอะไรไหม first appeared on Brand Inside.

ตื่น ทำงาน กลับบ้าน วนไป: ทำไมยิ่งโตยิ่งเหงา โดยเฉพาะยิ่งเมื่อเข้าใกล้วัยเลข 3

Brand Inside - 29 June 2023 - 16:52

ช่วงชีวิตที่สนุกที่สุดชองคุณคือช่วงเวลาไหน? ช่วงมัธยมปลาย ที่ได้สนุกสนานกับเพื่อน ช่วงมหาวิทยาลัย ได้ชีวิตอิสระ หรือช่วงวัยทำงานตอนต้น ที่เปี่ยมไปทั้งเงิน แรง และเวลา กิน เที่ยว ดื่ม สุดเหวี่ยง ช่วงเวลาเหล่านั้นของคุณได้ผ่านไปหรือยัง? 

หลายคนอาจกำลังรู้สึกว่าตัวเองยังอยู่ในช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของชีวิต แต่หลายคนกำลังรู้สึกห่างหายไปจากช่วงเวลาเหล่านั้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ขวบปีของชีวิตจวนเจียนจะแตะเลข 3 เข้าไปทุกที แม้จะมีเพื่อนร่วมงานนั่งอยู่เต็มออฟฟิศ ผู้คนขนัดแน่นเต็มรถไฟฟ้า ระหว่างทาง เจอร้านอาหาร บาร์ เต็มไปด้วยผู้คนหัวเราะสนุกสนานกับบทสนทนา 

แต่เรามุ่งหน้ากลับที่พัก กว่าจะถึงก็หมดแรง ใช้ชีวิตวนลูป ตื่น ทำงาน กลับบ้าน วนไปแบบนี้ ยิ่งทวีความเหงาเข้าไปทุกที ทั้งที่ช่วงชีวิตแห่งความสนุกสนานเหมือนเพิ่งผ่านไปไม่นานมานี้เอง ทำไมความเหงามันถึงมาพีคเอาในช่วง 30 กันนะ

ความสัมพันธ์ที่หล่นหายไปตามวัย

เรามาเริ่มที่คำจำกัดความทางจิตวิทยาของ ‘ความเหงา’ กันก่อน ซึ่งมัน คือ ความรู้สึกที่เป็นผลมาจากการรับรู้ความแตกต่างระหว่างระดับความสัมพันธ์ทางสังคมที่ต้องการและความสำเร็จ แล้วเจ้าช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ทางสังคมที่คาดหวังกับความเป็นจริงอาจถือเป็นกลไกหลักของความเหงาที่เกิดขึ้นในใจเราเลยก็ได้

แต่ช้าก่อน ความเหงานั้นไม่เท่ากับความโดดเดี่ยวทางสังคม ลองนึกภาพตามกันง่าย ๆ เราอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนน้อย แต่เราไม่รู้สึกเหงาเลย กับอีกสถานการณ์หนึ่ง เราอยู่ในที่ที่คนพลุกพล่าน แต่เรากลับรู้สึกเหงา สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน

ความเหงาเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของมนุษย์ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ว่าถ้าเรามีความเหงามากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน

งานวิจัยหัวข้อ ‘Understanding and Addressing Older Adults’ Loneliness: The Social Relationship Expectations Framework’ ตีพิมพ์บน Perspectives on Psychological Science ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเหงาและอายุที่เพิ่มขึ้น ว่าทำไมกันนะ คนเราถึงรู้สึกเหงาเมื่ออายุมากขึ้น

พบว่า ยิ่งผู้คนอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีความคาดหวังในความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้พวกเขามักจะรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่คนเดียวก็ตาม

ความคาดหวังที่ว่านั้น แบ่งเป็น มิติทางสังคม คือ ความคาดหวังเกี่ยวกับปริมาณของความสัมพันธ์ จำนวนความสัมพันธ์ทางสังคมที่พึ่งพาและสนับสนุนได้ ให้เห็นภาพง่ายขึ้นหน่อย เรามีเพื่อนมากแค่ไหน มีคอนเน็กชั่นมากแค่ไหน และ มิติทางอารมณ์ คือ ความคาดหวังเกี่ยวกับคุณภาพของความสัมพันธ์ เช่น ระดับความใกล้ชิด ความเข้าใจ และความสนใจที่มีร่วมกับผู้อื่น 

และยิ่งเราโตขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งใส่ใจกับมิติทางอารมณ์มากเท่านั้น เราอาจจะยินดีที่มีเพื่อนสนิท ที่เป็นที่ปรึกษาให้เราได้ มีความเข้าอกเข้าใจเรา ในจำนวนน้อย มากกว่าเพื่อนทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์สนิทสนมกันในจำนวนมาก

สรุปง่าย ๆ คืองานวิจัยบอกว่า ยิ่งเราโตขึ้น เรายิ่งคาดหวังความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ต่างออกไป ในตอนอายุยังน้อย เราต้องการผู้คนรายล้อม อยากมีเพื่อนจำนวนมาก อยากมีคอนเน็กชั่น แต่พออายุมากขึ้น เราคาดหวังความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ เราต้องการความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ไว้วางใจได้ ทำให้เราเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็นออกไป  จนสุดท้าย พอเราสังเกตเห็นถึงความแตกต่างของความสัมพันธ์ในช่วงนี้กับช่วงก่อนหน้า อาจยิ่งทวีความเหงาในใจเรามากขึ้น 

True Mid-Life Crisis

อีกประเด็นคือ ความสำเร็จของชีวิตที่ถูกสังคมกำหนดเส้นชัยไว้ที่ราวๆ เลข 3 ทำให้ยิ่งใกล้เลข 3 เข้าไปเท่าไหร่ ทำให้ยิ่งกดดันตัวเองมากเท่านั้น ว่าเราได้มีทุกสิ่งอย่างที่สังคมรอบข้างต้องการหรือยัง มีบ้านหรือคอนโด รถยนต์ แต่งงาน สร้างครอบครัว คีย์เวิร์ดเหล่านี้ใกล้ตัวเราเข้าไปทุกที 

ผลการสำรวจจาก Relate องค์กรการกุศลเกี่ยวกับการให้คำแนะนำด้านความสัมพันธ์ ได้สอบถามกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนในอังกฤษ พบว่า ผู้คนในช่วงอายุ 35 ถึง 44 บอกว่าพวกเขารู้สึกเหงาและเศร้ามากกว่าช่วงวัยอื่น จากปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน 

Claire Tyler ผู้บริหารระดับสูงของ Relate ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ปกติแล้ว Mid-Life Crisis มักจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 40-50 แต่การสอบถามที่ได้ ทำให้เห็นว่ามันเกิดขึ้นกับคนอายุน้อยลงกว่าที่คาดไว้ 

ไม่แปลกที่เราจะหันมากดดันตัวเอง ให้ทำงานหนักเข้าไว้ จนต้องใช้ชีวิตเหมือนหนูแฮมสเตอร์ในวงล้อ ที่วิ่งวน ๆ ไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว เพื่อความสำเร็จในทั้งความเครียดจากความคาดหวังของสังคมรอบข้าง ความเครียดจากการทำงานให้ประความสำเร็จ ใน coming of age อีกช่วงของชีวิต 

การโฟกัสกับความสำเร็จเหล่านี้มากเกินไป ผลักให้เราห่างจากวงสังคมที่เคยมี และเหลือไว้เพียงความสัมพันธ์ที่ยังเหนียวแน่นเท่านั้น จนทำให้ความเหงากัดกินเราจากภายใน เพราะเราอาจพบว่าในท้ายที่สุดแล้ว เราไม่ได้เหลือความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นไว้มากอย่างที่เราคาดหวังไว้

เริ่มต้นหาเพื่อนใหม่ยังทันไหมในวัย 30 ?

ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองก่อนว่า เราต้องการหาเพื่อนใหม่จริง ๆ หรือเปล่า หากความเหงาที่มีนั้น ไม่ใช่ความเหงาที่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เราสามารถให้เวลาตัวเองทำกิจกรรมที่ไม่เคยได้ลองทำ งานอดิเรกที่หลงลืมไป ก็ได้เช่นกัน อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ว่าการรายล้อมไปด้วยผู้คน อาจไม่ได้ช่วยให้เราหายเหงา

แต่ถ้าเรามั่นใจว่าความเหงาของเรา เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตวนลูป ขาดความสัมพันธ์ใหม่ ๆ แล้วเราเองก็พร้อมที่จะสร้างความสัมพันธ์เหล่านั้น Gill Hasson ผู้เขียนหนังสือ ‘Lonely Less: How to Connect with Others, Make Friends and Feel Less Lonely’ แนะนำว่า ความสัมพันธ์มันจะไม่เดินมาหาเราเอง เราต้องเป็นคนที่ออกไปหาอะไรใหม่ ๆ สามารถเริ่มต้นจากกิจกรรมที่เราชื่นชอบ ได้พบผู้คนที่ชอบอะไรเหมือนกัน จะยิ่งช่วยให้การสานสัมพันธ์เริ่มต้นได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายแล้ว ความเหงาเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นกับเราได้ทุกช่วงเวลา แต่มันอาจมากเป็นพิเศษ ในช่วงเวลาที่เราตั้งหน้าตั้งตาโฟกัสกับชีวิตมากเกินไปอย่างในวัย 30

อย่าลืมความเป็นเด็กในใจที่เคยมี อย่าลืมความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง อย่าลืมงานอดิเรกที่เราอาจหลงลืมไป สิ่งเหล่านี้อาจช่วยเติมไฟให้เรากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในวันที่ Mid-Life Crisis เล่นงานเราเข้าอย่างจัง

 

อ้างอิง

https://www.bbc.com/news/health-11429993 

https://journals.sagepub.com/doi/10.1177/17456916221127218 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ตื่น ทำงาน กลับบ้าน วนไป: ทำไมยิ่งโตยิ่งเหงา โดยเฉพาะยิ่งเมื่อเข้าใกล้วัยเลข 3 first appeared on Brand Inside.

สื่อเก่าแก่ปลดพนักงานอีก! National Geographic ประกาศปลดทีมฝั่งนักเขียน ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด

Brand Inside - 29 June 2023 - 15:39

สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากอดีตพนักงานของ National Geographic ว่า นิตยสารสารคดีเก่าแก่กว่า 100 ปี ประกาศปลดพนักงานฝั่งนักเขียนภายในสัปดาห์นี้

National Geographicภาพจาก National Geographic ธุรกิจสื่อเก่าแก่เตรียมปลดพนักงานอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า ยังไม่มีตัวเลขอย่างชัดเจนว่าจะมีพนักงานกี่คนที่ถูกปลดในรอบนี้ แต่การปลดพนักงานดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ Walt Disney บริษัทแม่ของ National Geographic ที่อยู่ระหว่างปลดพนักงานในฝ่ายต่าง ๆ ในปี 2023 อย่างต่อเนื่อง

โฆษกของนิตยสารให้ข้อมูลว่า ถึงมีการเปลี่ยนไปของพนักงาน แต่ไม่มีผลกับความสามารถในการทำงานของบริษัท กลับช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการสร้างเรื่องราวให้หลากหลาย และตอบโจทย์กลุ่มผู้อ่านในหลากหลายแพลตฟอร์มได้ดีขึ้น โดยสิ้นปี 2022 ทางนิตยสารมีผู้สมัครสมาชิกราว 1.7 ล้านราย และยังยืนยันตีพิมพ์เป็นรายเดือนต่อไป

การปลดพนักงานของนิตยสาร National Geographic เริ่มถูกพูดถึงเมื่ออดีตพนักงานหลายคนเริ่มออกมาโพสต์บนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าถูกปลดออกกลางอากาศตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) บางคนเป็นนักเขียนด้านวิทยาศาสตร์ และบางคนเป็นนักเขียนระดับอาวุโส

ปัจจุบัน National Geographic ไม่ใช่แค่นิตยสาร แต่คือ Nat Geo Media ที่วางตัวเป็นสื่อสารคดีผ่านช่องทางนิตยสาร, ดิจิทัล และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยให้บริการมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และหากรวมผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มจะมีมากกว่า 500 ล้านบัญชีผู้ใช้

สำหรับในประเทศไทย นิตยสาร National Geographic ฉบับภาษาไทย ปัจจุบันมี บมจ. อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ และมีกองบรรณาธิการเป็นคนไทยจำนวนหนึ่งเพื่อสื่อสารเรื่องราวในประเทศไทยนอกจากการแปลบทความภาษาอังกฤษจากเล่มต้นฉบับ

อ้างอิง // CNN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post สื่อเก่าแก่ปลดพนักงานอีก! National Geographic ประกาศปลดทีมฝั่งนักเขียน ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด first appeared on Brand Inside.

5 วัน 1,500 คัน! มาสด้า ประเทศไทย อวดยอด New Mazda2 ตอกย้ำเบอร์ 1 ตลาดรถเล็ก 3 ปีซ้อน

Brand Inside - 29 June 2023 - 12:57

มาสด้า เผยกระแสตอบรับรถยนต์ซับคอมแพ็ค New Mazda2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึงสัปดาห์ มีลูกค้าหลั่งไหลเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากและกวาดยอดจองไปแล้วกว่า 1,500 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 5 วัน โดยได้รับความนิยมสูงสุดทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮชท์แบค 5 ประตู

Mazda2

New Mazda2 5 วัน จอง 1,500 คัน

ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า หลังจากที่มาสด้าเปิดตัว New Mazda2 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2023 ณ ใจกลางสยามสแควร์แลนด์มาร์คแห่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมเปิดตัวที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องจนถึงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา

New Mazda2 ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ยอดจองซื้อไปแล้วกว่า 1,500 คัน ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ โดยลูกค้าที่จองไปแล้วนั้นทางมาสด้าก็พร้อมส่งมอบรถใหม่ให้กับลูกค้าทันที เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์มาสด้าได้อย่างเร็วที่สุด

“วันนี้ กระแสตอบรับอย่างร้อนแรงของ New Mazda2 ที่กำลังเกิดขึ้น ถือเป็นการกลับมาสร้างปรากฏการณ์ด้านการขายของรถยนต์รุ่นนี้อีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างปาฏิหาริย์เหนือความคาดหมายด้วยการก้าวขึ้นอันดับหนึ่งด้านยอดขายมาแล้วถึง 3 ปีติดต่อกัน”

New Mazda2 มีความพิเศษของดีไซน์ที่หลากหลายที่มีให้เลือกถึง 83 ดีไซน์ ทั้งรูปลักษณ์ การเลือกใช้สีภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่งในแต่ละรุ่น เพื่อตอบโจทย์ตัวตนที่แตกต่างของลูกค้ายุคใหม่เจเนอเรชั่น Z ที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนและคุณค่าของผู้ขับขี่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า New Mazda 2 มีการปรับดีไซน์ด้านหน้า และการตกแต่งบริเวณอื่น ๆ ถือเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 2 หลังเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 และมีการปรับโฉมไปครั้งหนึ่งเมื่อปี 2019 ปัจจุบัน Mazda 2 มีส่วนแบ่งในตลาด 10% เล็งเป้าหมายไปที่กลุ่มวัยรุ่น ราคาเริ่ม 5.99 แสนบาท สูงสุดที่ 6.47 แสนบาท

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post 5 วัน 1,500 คัน! มาสด้า ประเทศไทย อวดยอด New Mazda2 ตอกย้ำเบอร์ 1 ตลาดรถเล็ก 3 ปีซ้อน first appeared on Brand Inside.

คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ ภรรยาประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ถึงแก่อนิจกรรม

Brand Inside - 29 June 2023 - 12:48

เว็บไซต์ We are CP แสดงความอาลัยต่อการจากไปของคุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ และร่วมแสดงความเสียใจอย่างเป็นที่สุดต่อท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์และครอบครัวเจียรวนนท์ ทุกท่าน

CP-Tawee-Chearavanont

คุณหญิงเทวี วัฒนลิขิต สมรสกับธนินท์ เจียรวนนท์ มีทายาทรวมกัน 5 คน ชาย 3 คน หญิง 2 คน ดังนี้

นางวรรณี เจียรวนนท์ รอสส์
นายสุภกิต เจียรวนนท์
นายณรงค์ เจียรวนนท์
นายศุภชัย เจียรวนนท์
นางทิพาภรณ์ อริยวรารมย์

กำหนดการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและบำเพ็ญกุศล 7 วัน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ คุณหญิง เทวี เจียรวนนท์

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด

กำหนดการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และบำเพ็ญพระราชกุศล ณ บ้านพักในหมู่บ้านวินด์มิลล์ บางนา

วันพฤหัสที่ 29 มิถุนายน 2566
เวลา 17.00 น. พระราชทานน้ำหลวง
เวลา 18.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม

วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566
เวลา 18.00 น. แสดงธรรมเทศนา
เวลา 18.30 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม

กำหนดการบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน

วันพฤหัสดบดีที่ 6 กรกฎาคม 2566
เวลา 09.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบ
มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1
แล้วพระสงฆ์ทั้งนั้นถวายพรพระ
รับพระราชทานปิ่นโตภัตตาหารและบังสกุล

หมายเหตุ ร่วมบำเพ็ญกุศลสมทบทุนเพื่อโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ที่มา – We are CP

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post คุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ ภรรยาประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ถึงแก่อนิจกรรม first appeared on Brand Inside.

Gevity ผลิตภัณฑ์เสริม​อาหารน้องใหม่ ทางเลือกใหม่ของการลงทุนด้านสุขภาพ คุณภาพ​ระดับสากล จากเครือ BDMS

Brand Inside - 29 June 2023 - 12:30

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society เพราะอัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สุขภาพกลายเป็นเรื่องที่คนไทยใส่ใจกว่าเดิม เพื่อดูแลร่างกายให้แข็งแรง จุดนี้เองกลายเป็นโอกาสธุรกิจสำคัญของสินค้า และบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่ง บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS ผู้นำของอุตสาหกรรมนี้มีการทำตลาดเกี่ยวกับสุขภาพในทุกมิติ เล็งเห็นโอกาส บุกตลาด Vitamins และ Dietary Supplements ผ่านการเปิดตัวแบรนด์ Gevity ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนด้านสุขภาพในประเทศไทย

Gevity จะเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนด้านสุขภาพได้อย่างไร แผนในการทำตลาดของ BDMS จะเข้มข้นแค่ไหน และจะเขย่าตลาดอาหารเสริมในไทยกว่า 70,000 ล้านบาท ได้หรือไม่

Gevity

Gevity แบรนด์น้องใหม่ แต่คุณภาพระดับสากล

บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS คือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพครบวงจรในระดับโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ผ่านการมีโรงพยาบาล 57 แห่ง รวมจำนวนเตียงกว่า 8,400 เตียง (ข้อมูลสิ้นเดือน ก.พ. 2023) และมีธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น โรงงานผลิตยา, คลินิกเฉพาะทาง รวมถึงสินค้าที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีร่างกายที่แข็งแรงมากมาย

แต่เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และกระแสสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น BDMS จึงส่ง Gevity แบรนด์สินค้า Vitamins และ Dietary Supplements ที่ดูแลการผลิตโดย Medicpharma หรือ บริษัท สหแพทย์เภสัช จำกัด หนึ่งในองค์กรของเครือ BDMS ทำให้ถึงจะเป็นน้องใหม่ในตลาด แต่การันตีคุณภาพด้วยชื่อ BDMS ได้

พันตรีสมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ รองประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจที่นอกเหนือจากโรงพยาบาล (Non Hospital) บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า ผลิตภัณฑ์ของ Gevity มุ่งเน้นการดูแล และเสริมสร้างสุขภาพให้มีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ผ่านผู้เชี่ยวชาญ และเภสัชกรที่ใช้เทคโนโลยี และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานระดับสากล

Gevityพันตรีสมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ รองประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจที่นอกเหนือจากโรงพยาบาล (Non Hospital) บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ทางเลือกใหม่ในการลงทุนด้านสุขภาพ

ในทางกลับกัน การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ผ่านการออกกำลังกาย, การรักษาพยาบาล รวมถึงการทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองเหตุร้าย ซึ่ง Gevity ต้องการเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนด้านสุขภาพเช่นกัน

เนื่องจากการรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ ย่อมช่วยให้ร่างกายแข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพในหน้าที่การงานมากขึ้น ยิ่งการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ กลายเป็นที่สนใจของผู้บริโภคเพื่อสร้างความมั่งคั่ง สุขภาพที่ดีในอนาคตก็ต้องได้รับการลงทุนอย่างถูกต้องด้วย

ดังนั้นการที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น EuroMonitor จึงคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และวิตามินของประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 74,247 ล้านบาท ในปี 2021 และมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ เพราะพวกเขาต้องการลงทุนเรื่องสุขภาพมากกว่าเดิม

Gevity

เริ่มด้วย 3 สินค้า ครอบคลุมทุกเพศ ทุกช่วงวัย

สำหรับสินค้าที่ Gevity จะเริ่มทำตลาดจะประกอบด้วย 3 สินค้าด้วยกันคือ

  • VITRUM วิตามิน และแร่ธาตุรวมบำรุงร่างกายสำหรับคนทั่วไปวัย 22-49 ปี ราคา 350 บาท
  • VITRUM SILVER M+ วิตามิน และแร่ธาตุรวมบำรุงร่างกายสำหรับผู้ชายอายุ 50 ปี ขึ้นไป ราคา 390 บาท
  • VITRUM SILVER W+ วิตามิน และแร่ธาตุรวมบำรุงร่างกายสำหรับผู้หญิงอายุ 50 ปี ขึ้นไป ราคา 390 บาท

แสดงให้เห็นว่า Gevity มีสินค้าที่ครอบคลุมตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงวัยเก๋า หรือผู้สูงอายุที่ต้องการมีร่างกายแข็งแรงเพื่ออยู่ในตลาดงาน และใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทำราคาออกมาให้เข้าถึงได้ทุกคน และจำหน่ายในร้าน Save Drug ของเครือ BDMS, ร้านขายยาชั้นนำ และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Lazada ,  Shopee , BeDee แอปพลิเคชัน เป็นต้น

ทั้งสองเรื่องข้างต้นทำให้ Gevity กลายเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนด้านสุขภาพที่น่าสนใจ ผ่านการการันตีคุณภาพด้วยชื่อของ BDMS มีราคาที่เข้าถึงได้ทุกคน และยังหาซื้อได้ง่ายผ่านช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย เพราะไม่ว่าจะอายุเท่าไร ถ้าอยู่ในยุคนี้ ความพร้อมของสุขภาพต้องสำคัญเป็นอันดับแรก

BDMS

เจาะลึกรายละเอียดคุณสมบัติของ VITRUM

หากเจาะลึกรายละเอียดไปที่สินค้าแต่ละตัวของ Gevity เริ่มต้นที่ VITRUM วิตามิน และแร่ธาตุรวม 21 ชนิด พร้อมลูทีน, เบต้า แคโรทีน และไลโคปีน เหมาะกับวัยเรียน วัยทำงาน และผู้ที่พักผ่อนน้อย

ส่วน VITRUM SILVER M+ วิตามิน และแร่ธาตุรวม 22 ชนิด พร้อมสารสกัดสำหรับดูแลสุขภาพผู้ชายโดยเฉพาะ เช่น สารสกัด LactoMato, ไลโคปีน, สารสกัดจากถั่งเช่า และสารสกัดจากเมล็ดฟักทอง ช่วยดูแลสุขภาพสำหรับชายอายุ 50 ปี ขึ้นไปโดยเฉพาะ

ปิดท้ายที่ VITRUM SILVER W+ วิตามิน และแร่ธาตุรวม 23 ชนิด พร้อมสารสกัดสำหรับดูแลสุขภาพผู้หญิงโดยเฉพาะ เช่น สารสกัดจากถั่วเหลือง, สารสกัดจากแครนเบอร์รี่ และ Inositol ช่วยดูแลสุขภาพสำหรับหญิงอายุ 50 ปี ขึ้นไปโดยเฉพาะ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Gevity ผลิตภัณฑ์เสริม​อาหารน้องใหม่ ทางเลือกใหม่ของการลงทุนด้านสุขภาพ คุณภาพ​ระดับสากล จากเครือ BDMS first appeared on Brand Inside.

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค คาดยอดขายที่พักอาศัยสิ้นปีแตะ 75% ต่างชาติซื้อ 35% ราคาเริ่ม 16 ล้านบาท

Brand Inside - 29 June 2023 - 12:22

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการมิกซ์หัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 ตั้งเป้ายอดขายที่พักอาศัยสิ้นปีแตะ 75% หลังครึ่งปีทำได้ 60% เป็นชาวไทย 85% และต่างชาติ 15% เชื่อจบปีต่างชาติเพิ่มสัดส่วนเป็น 35% โดยตัวโครงการมีราคาเริ่มต้น 1 ห้องนอน 55 ตร.ม. 16 ล้านบาท สูงสุดที่เพ้นต์เฮาส์ 395 ตร.ม. 188 ล้านบาท

Dusit

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เผย ยอดขายที่พักอาศัยเกิน 60%

ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เล่าให้ฟังว่า ดุสิต เรสซิเดนเซส ประกอบด้วยสองลิฟวิ่งคอนเซ็ปต์ คือ ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายเกินกว่า 60% และคาดการณ์ภายในสิ้นปี 2023 จะมียอดขายราว 70-75% จากลูกค้าทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 85% ต่างชาติ 15% คาดว่าสัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะขยับเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์เดิมที่ 35% และกลุ่มดุสิตธานี ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ และเอเจนท์ในหลายประเทศ รวมถึงได้มีการทำโรดโชว์สำหรับกลุ่มลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธในหลายประเทศ เพื่อเจาะตลาดสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน ไต้หวัน รวมถึงสหรัฐอเมริกา และยุโรป

ดุสิต เรสซิเดนเซส และดุสิต พาร์คไซด์ ออกแบบที่อยู่อาศัยด้วยการคำนึงถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตั้งแต่ช่วงการออกแบบก่อนการก่อสร้าง ที่ประกอบด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ โดย Richmont’s Thailand แจ้งราคาเริ่มต้น 1 ห้องนอน 55 ตร.ม. 16 ล้านบาท สูงสุดที่เพ้นต์เฮาส์ 395 ตร.ม. 188 ล้านบาท

ทั้งนี้รายละเอียดของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ประกอบด้วย

  • โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ระดับ 6 ดาว จะพร้อมเปิดให้บริการเป็นเฟสแรกในเดือน มิ.ย. 2024 บนตึกความสูง 39 ชั้น ด้วยจำนวน 257 ห้องพัก ที่ออกแบบให้ทันสมัยและใหญ่ขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งงความเป็น ดุสิตธานี ดั้งเดิม
  • อาคารสำนักงานเซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค ที่อาศัยความเชี่ยวชาญจากเซ็นทรัลพัฒนา จะเปิดให้บริการเป็นเฟสที่สองในช่วงปลายปี 2024
  • โครงการที่พักอาศัย ดุสิต เรสซิเดนเซส จะทยอยเริ่มโอนในช่วงปลายปี 2025

“เราเชื่อมั่นในทีมงาน และคัดสรรทีมงานมือดีที่สุดเพื่อโครงการนี้ ที่สำคัญที่ตั้งตรงนี้เป็นแหล่งของดุสิตธานีเดิม ตั้งแต่ปี 1970 สู่เรสซิเดนส์ และโครงการแบบมิกซ์ยูส ที่เราเสริมเทคโนโลยีให้ทันสมัยขึ้น เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเราอยากให้ตรงนี้เป็นสถานที่พิเศษยิ่งกว่าเดิม เพื่อเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของคนกรุงเทพ”

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมทุนระหว่าง บมจ. ดุสิตธานี และ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการบนพื้นที่ 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลม ตรงข้ามสวนลุมพินี ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการประมาณปี 2025

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค คาดยอดขายที่พักอาศัยสิ้นปีแตะ 75% ต่างชาติซื้อ 35% ราคาเริ่ม 16 ล้านบาท first appeared on Brand Inside.

Canva Design School เว็บเรียน Canva ฟรี!

iPhonemod - 29 June 2023 - 12:08

วันนี้ทีมงานจะพามาแนะนำคอร์สเรียน Canva ที่ฟรีและสามารถ […] More

The post Canva Design School เว็บเรียน Canva ฟรี! appeared first on iMoD.

เศรษฐกิจจีนไม่ดี ไทยกระทบหนัก คาดไทยรับนักท่องเที่ยวน้อยกว่าที่คาดไว้ เพราะนักท่องเที่ยวจีนลด

Brand Inside - 29 June 2023 - 11:52

จากจีนเดือดร้อนมาถึงไทย ธนาคารของมาเลเซียคาดการณ์ว่า ไทยจะรับนักท่องเที่ยวจีนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ จากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง

Barnabas Gan นักเศรษฐศาสตร์ระดับอาวุโสของ RHB Bank Berhad ธนาคารพาณิชย์ในประเทศมาเลเซียคาดว่า ในปี 2023 นี้ ไทยจะรับนักท่องเที่ยวน้อยกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ที่ 30 ล้านคน โดยคาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 26-28 ล้านคนซึ่งยังนับว่าเป็น 2 เท่าของจำนวนนักท่องเที่ยวในปีที่แล้วที่มีอยู่ 11.2 ล้านคน

สาเหตุที่น่าจะมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าคาดการณ์มาจากที่นักท่องเที่ยวจีนต้องการเดินทางออกนอกประเทศน้อยลงจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงในครึ่งปีหลัง โดยคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยปีนี้จะต่ำกว่า 5 ล้านคน จากที่รัฐบาลไทยคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนไว้ที่ 7 ล้านคน 

นอกจากนี้ Gan ยังกล่าวถึงสาเหตุอื่นอย่างการที่ไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านที่พากันดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงความไม่มั่นคงของการเมืองภายในที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยลดลง

สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ยังสะท้อนปัญหาที่ทำให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนต่ำกว่า 5 ล้านคนว่ามาจากปัญหาเรื่องการขอวีซ่าและประเด็นเรื่องความปลอดภัย จากรายงานเรื่องการขู่กรรโชกทรัพย์และทำร้ายนักท่องเที่ยวทำให้นักท่องเที่ยวจีนสูญเสียความเชื่อมั่น

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนเพราะเร่งฟื้นฟูธุรกิจการท่องเที่ยว

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 25 มิถุนายน มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยแล้ว 12.5 ล้านคน ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ ไทยรับนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนในแต่ละเดือน

ในช่วงก่อนโควิด-19 ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวราว 40 ล้านคน โดยมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 

ที่มา – Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post เศรษฐกิจจีนไม่ดี ไทยกระทบหนัก คาดไทยรับนักท่องเที่ยวน้อยกว่าที่คาดไว้ เพราะนักท่องเที่ยวจีนลด first appeared on Brand Inside.

สื่อนอกรายงาน Elon Musk ใช้ยาเค (เคตามีน) เล็กน้อยเพื่อรักษาอาการซึมเศร้า ใช้เต็มโดสเพื่อปาร์ตี้

Brand Inside - 29 June 2023 - 11:17

Insider รายงานข่าวโดยอ้างบทความจาก Wall Street Journal เนื้อหาระบุว่า Elon Musk ใช้ยาเค (เคตามีน) ในปริมาณเล็กน้อยมากๆ (Microdosing) เพื่อรักษาอาการจากโรคซึมเศร้า แต่แหล่งข่าวอีกแห่งบอก Musk จะใช้แบบเต็มโดสเพื่อความสนุกเมื่อสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้เล็กน้อยเพื่อรักษาอาการซึมเศร้า แต่ถ้าต้องการปาร์ตี้เมื่อไร เขาจะใช้แบบเต็มโดส

Insider สอบถามความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว หลังจากที่เขาทั้งทวีตข้อความและแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อใน YouTube พูดถึงการใช้ยาต้านเศร้าที่มากเกินไปในสังคมอเมริกันและผลบวกจากการใช้เคตามีน รวมถึงเห็ดขี้ควาย หรือเห็ดเมา เห็ดวิเศษ แต่ทางฝั่ง Musk ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้

Elon Musk

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Musk ตอบทวีตข้อความเกี่ยวกับประเด็นโรคซึมเศร้าไว้ว่า “ภาวะซึมเศร้าได้รับการวินิจฉัยมากเกินไปในสหรัฐอเมริกา สำหรับบางคนก็มีปัญหาเกี่ยวกับสารเคมีในสมองจริงๆ แต่การทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ด้วย SSRIs (SSRIs หรือ Selective Serotonin Reuptake Inhibitors ยาต้านเศร้าเอสเอสอาร์ไอ ยาที่รักษาโรคซึมเศร้าที่ออกฤทธิ์เพิ่มระดับสารเซโรโทนินในสมอง) มันเป็นสถานการณ์ที่มีให้เห็นมากเกินไป เขาเองก็เห็นตัวอย่างจากเพื่อนๆ ของเขาเองที่ใช้ยาเคตามีนแล้ว บางทีก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า” [อ่านเรื่อง SSRIs ที่นี่ https://shorturl.at/nEK28] ทาง Insider ได้สอบถามไปทางตัวแทนของ Musk เกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่ไม่มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ กับเรื่องนี้

ยาเค หรือเคตามีน สำหรับในไทยคือยาเสพติด

ข้อมูลจากกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า เคตามีนหรือที่รู้จักกันในหมู่ผู้ใช้ยาเสพติดว่า “ยาเค” กระทรวงสาธารณสุขของไทยควบคุม เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภท 2

เคตามีนถูกใช้ในทางการแพทย์เพื่อเป็นยาสลบ หรือนำสลบ ใช้ในรูปยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือทางหลอดเลือดดำ ซึ่งออกฤทธิ์เร็ว มีสูตรคล้าย LSD [นี่ก็คือยาเสพติดเช่นกัน] มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาเหมือนกับ Phencyclidine (pcp) คือมีฤทธิ์ระงับปวด ทำให้เกิดภาวะ Dissociative Anesthesia จะทำให้ไม่รู้สึกตัวแต่ยังสามารถลืมตา ขยับแขนขาได้

จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า มีข้อมูลการทบทวนหลักฐานเชิงประจักษ์การใช้ยาเคตามีนสำหรับวิสัญญีแพทย์ เมื่อปี 2021 ระบุว่า ยาเคตามีน เป็นยาที่ใช้ระงับความรู้สึกที่นำมาใช้ทางคลินิกอย่างยาวนาน มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากยาระงับความรู้สึกตัวอื่นตรงที่มีฤทธิ์แก้ปวด ไม่กดระบบหัวใจ หลอดลือด และระบบหายใจ

แต่มีผลข้างเคียงชัดเจนคือ*

ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนได้ เคตามีนเป็นยาในกลุ่ม Phencyclidines นำมาใช้ทางคลินิกตั้งแต่ปี 1970 และมีการใช้นอกข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาภาวะซึมเศร้าและการระงับปวดอย่างแพร่หลาย

ข้อควรระวังในการใช้ยาเคคือ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ต้องระมัดระวังในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจรวมถึงผู้ป่วยที่มีการเจ็บบริเวณดวงตา [สามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมที่นี่: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/anesthai/article/download/252820/171731/908128]

Depression is overdiagnosed in the US, but for some people it really is a brain chemistry issue.

But zombifying people with SSRIs for sure happens way too much. From what I’ve seen with friends, ketamine taken occasionally is a better option.

— Elon Musk (@elonmusk) June 27, 2023

ก่อนหน้านี้ ช่วงที่โลกต้องลุ้นกับสถานการณ์ที่ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ก็เคยมีทีมแพทย์ใช้ยาเคตามีนเพื่อช่วยให้ทีมหมูป่าออกจากถ้ำและมีการเขียนรายงานบันทึกไว้ด้วย

เหตุผลที่พวกเขาใช้ยาดังกล่าวก็เพื่อให้เด็กหลับและสามารถให้ยาเพื่อนำสลบได้ เนื่องจากไม่กดการหายใจและทำให้ความดันลดลง ไม่ทำให้หัวใจเต้นช้าจนหยุดเต้น ซึ่งก็เป็นการใช้ยาตามปริมาณที่แพทย์กำหนดตามภาวะร่างกายของเด็กๆ เป็นการใช้ยาในปริมาณที่จำกัดและอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์โดยผ่านการวิเคราะห์มาแล้วทั้งกระบวนการ [ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=Wrct-YCYwfQ]

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ [https://www.livescience.com/65150-thailand-cave-rescue-boys-medical-treatment.html]

Insider ระบุว่า Elon Musk ก็คือหนึ่งในบรรดาผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ที่ใช้ยาหลอนประสาท ซึ่งก็เคยมีรายงานระบุว่า ผู้ร่วมก่อตั้ง Google อย่าง Sergey Brin ก็ใช้ Psilocybin Mushroom หรือ Magic Mushroom หรือเห็ดขี้ควาย/ เห็ดวิเศษเหมือนกัน

ไม่ใช่ Insider เท่านั้นที่รายงานการใช้ยาของ Elon Musk มีทั้ง The Telegraph, Forbes, Daily Mail, WION, Wall Street Journal ต่างรายงานแบบเดียวกัน

เห็ดขี้ควายหรือเห็ดวิเศษ ไทยก็จัดให้เป็นยาเสพติด

สำหรับในไทย ได้จัดให้เห็ดขี้ควายเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ข้อมูลจากกองควบคุมวัตถุเสพติดระบุว่า เป็นเห็ดที่มีสารเคมี 2 ชนิด ไม่มีประโยชน์ทางการแพทย์ มีขึ้นอยู่ทั่วแทบทุกภาคของไทย รับประทานแล้วมึนเมา คนทั่วไปมักทราบกันว่าเป็นเห็ดพิษ เมื่อรับประทานเข้าไปจะมีอาการเมา เคลิบเคลิ้มและบ้าคลั่ง มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง

รายงานระบุว่า Sergey Brin ร่วมปาร์ตี้เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ที่ลอสแอนเจลิส แขกเหรื่อในงานก็มีการเสพเห็ดชนิดนี้อย่างเปิดเผย ด้านโฆษกของ Brin ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ กับเรื่องนี้เช่นเดียวกับทีมของ Muskประเด็นเรื่องความนิยมใช้ยาหลอนประสาท ซึ่งในไทยมักกำหนดให้เป็นยาเสพติดนี้ ไม่ได้เพิ่งมีการใช้ในหมู่เศรษฐีหรือนักคิดผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ไม่ได้มีแค่ Elon Musk หรือ Sergey Brin แต่ยังมีอีกมาก และมีการรายงานประเด็นนี้เนิ่นนานหลายปีแล้ว

Fortune ระบุว่า CEO บางคนจากบริษัทเทคก็เปิดเผยว่าเขาพอใจที่จะใช้ยาหลอนประสาทเหล่านี้ในปริมาณที่เล็กน้อยมากๆ และยังพูดถึงผลลัพทธ์จากการใช้ยาในแง่บวก และยังได้ประเมินมูลค่าตลาดยาหลอนประสาทนี้ไว้ในปี 2021 ที่ผ่านมาว่า มูลค่ารวมของตลาดยาหลอนประสาททั่วทุกมุมโลกโตอยู่ที่ 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.03 แสนล้านบาท คาดว่าภายในปี 2029 จะโตมากขึ้นถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.84 แสนล้านบาท

ที่มา – Business Insider, Elon Musk, กองควบคุมวัตถุเสพติด (1), (2), พบแพทย์, YouTube (1), (2), (3), Fortune, Daily Mail, Forbes

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post สื่อนอกรายงาน Elon Musk ใช้ยาเค (เคตามีน) เล็กน้อยเพื่อรักษาอาการซึมเศร้า ใช้เต็มโดสเพื่อปาร์ตี้ first appeared on Brand Inside.

Visual Lookup ใน iOS 17 ตรวจจับสัญลักษณ์ซักรีดได้

iPhonemod - 29 June 2023 - 10:22

ดูเหมือนว่าฟีเจอร์ Visual Lookup ใน iOS 17 จะมีความสามา […] More

The post Visual Lookup ใน iOS 17 ตรวจจับสัญลักษณ์ซักรีดได้ appeared first on iMoD.

Apple ปล่อยอัปเดต iOS 16.6 และ iPadOS 16.6 ให้นักพัฒนาแล้ว

MacThai - 29 June 2023 - 10:00

วันนี้แอปเปิลได้ปล่อยอัปเดตซฟอต์แวร์เวอร์ชันเบต้าที่ 4 ของ iOS 16.6 และ iPadOS 16.6 ให้กับนักพัฒนาได้ทดสอบแล้ว โดยนักพัฒนาที่ลงทะเบียนสามารถเข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ได้เลย

โดยเปิดแอปตั้งค่า แล้วเลือกไปที่การอัปเดตซอฟต์แวร์ แท็บที่ “อัปเดตเบต้า” สลับเป็น iOS 16 Developer Beta แต่จะทำแบบนี้ได้ต้องมี Apple ID ที่เชื่อมกับบัญชีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ก่อน เพื่อดาวน์โหลด และติดตั้งซอฟต์แวร์รุ่นเบต้า

ซึ่งครั้งนี้ iOS 16.6 และ iPadOS 16.6 จะมีความสามารถในการตรวจสอบผู้ส่งข้อความบน iMessage หรือ ‘iMessage Contact Key Verification’ เพิ่มเติม เพื่อป้องกันการถูกเข้าแฮกข้อความ หรือส่งข้อความไปหาบุคคลอื่นที่แฝงมาในแชตเพื่อดักฟังการสนทนา เป็นการอัปเดตที่แอปเปิลตั้งใจลดภัยคุกคามดิจิทัลกับผู้ใช้นั่นเอง

เป็นฟังก์ชันที่เหมาะกับนักข่าว นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย หรือกำลังโดนโจมตีทางดิจิทัลจากผู้ประสงค์ร้ายเป็นอย่างมาก โดยฟังก์ชันนี้จะพร้อมใช้งานบนไอโฟน และอุปกรณ์อื่น ๆ ของแอปเปิลในช่วงปี 2023 ด้วย

ที่มา – MacRumors

The post Apple ปล่อยอัปเดต iOS 16.6 และ iPadOS 16.6 ให้นักพัฒนาแล้ว appeared first on Macthai.com.

Pages