New Mazda 2 เปิดตัวแล้ว เปลี่ยนหน้าใหม่ หวังรักษาส่วนแบ่งในตลาด 10% แม้ทำตลาดโฉมนี้มา 8 ปี

Brand Inside - 26 June 2023 - 11:43

มาสด้า ประเทศไทย เปิดตัว New Mazda 2 ที่ปรับดีไซน์ด้านหน้า และการตกแต่งบริเวณอื่น ๆ ถือเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 2 หลังเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 และมีการปรับโฉมไปครั้งหนึ่งเมื่อปี 2019 โดยปัจจุบัน Mazda 2 มีส่วนแบ่งในตลาด 10% โดยเล็งเป้าหมายไปที่กลุ่มวัยรุ่น ราคาเริ่ม 5.99 แสนบาท

Mazda 2

มาสด้า กับแผนการทำตลาด Mazda 2

ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า Mazda 2 คือหนึ่งในรถยนต์ที่สร้างยอดขายให้บริษัทอย่างต่อเนื่องจนเป็นหนึ่งในรุ่นหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ และได้รับความนิยมผ่านการออกแบบ, สมรรถนะ รวมถึงการประหยัดน้ำมัน ทำให้ Mazda 2 ยังรักษาส่วนแบ่งในตลาดที่ประมาณ 10%

เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง บริษัทจึงเปิดตัว New Mazda 2 หรือการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ให้กับรุ่นนี้ พร้อมชูจุดแข็งเอกลักษณ์ในการเป็นซับคอมแพ็คคาร์ที่ดีที่สุดในตลาด และเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบในรถรุ่นนี้ให้เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น โดยเจาะไปที่กลุ่ม Gen Z หรือประชากรกลุ่มใหญ่ของประเทศ และกำลังมีอำนาจตัดสินใจมากขึ้น

เบื้องต้นการปรับโฉมครั้งนี้จะเน้นที่การออกแบบภายนอก และภายในใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ความแตกต่างของลูกค้ากลุ่มนี้ หรือตั้งแต่กระจังหน้า ล้อหลังคา และกระจกมองข้าง พร้อมกับจัดงานเปิดตัวที่สยามสแควร์เพื่อจัดแสดงรถยนต์ทั้งหมด 11 คัน สามารถให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ประสบการณ์ของ New Mazda 2 ได้มากขึ้น

เจาะลึกการเปลี่ยนแปลงของ New Mazda 2

New Mazda2 มาพร้อมกับ 2 ดีไซน์ใหม่ ประกอบด้วย Sport Design ที่ปรับกันชนหน้า พร้อมกระจังหน้าแบบ Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ พร้อมกระจกมองข้าง และหลังคาสีดำ และมาพร้อมกับล้อ ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ส่วนภายในใช้ด้วยเบาะหนังสีดำสลับกับผ้า ตกแต่งสีแดงที่กรอบช่องแอร์ และเบาะนั่งเดินตะเข็บสีแดง

New Wave Design ให้ภาพลักษณ์สดใสมีชีวิตชีวา มากับกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้าใหม่ และล้อลายใหม่ ที่เน้นความสดใสแตกต่าง พร้อมมอบความพิเศษด้วยการใช้แผงคอนโซลด้านในหลากสี ไม่ว่าจะเป็น สี Pure While สี Mirror Black และ สี Gross Light Blue ที่ถูกจับคู่กับสีภายนอก และดีไซน์ของล้อที่แตกต่างหลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น คือ Rookie Drive และ Clap Pop ที่มีการตกแต่งแบบพิเศษให้แตกต่างจากรุ่นปกติ โดยทั้งหมดนี้ยังมากับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร และคลีนดีเซล 1.5 ลิตร มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮทช์แบค 5 ประตู มีราคาดังนี้

รายละเอียด รุ่น เครื่องยนต์ ราคาจำหน่าย 1.3 C SKYACTIV-G 599,000 รุ่นย่อยใหม่ 1.3 S SKYACTIV-G 680,000 1.3 SP SKYACTIV-G 730,000 รุ่นย่อยใหม่ XD SKYACTIV-D 720,000 XDL SKYACTIV-D 830,000 รุ่นพิเศษ Rookie Drive Sports SKYACTIV-G 662,000 รุ่นพิเศษ Clap Pop Sports SKYACTIV-G 647,000

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post New Mazda 2 เปิดตัวแล้ว เปลี่ยนหน้าใหม่ หวังรักษาส่วนแบ่งในตลาด 10% แม้ทำตลาดโฉมนี้มา 8 ปี first appeared on Brand Inside.

ทรู 5G จัด 4 เวทีแข่งขันอีสปอร์ต เปิดพื้นที่ให้สายเกมปล่อยของทั้งมือโปรและมือใหม่ ลุ้นรางวัลรวม 2.5 ล้านบาท

Brand Inside - 26 June 2023 - 11:43

ถึงเวลาปล่อยของของเกมเมอร์และผู้ที่หลงใหลในการเล่มเกมแล้ว ทรูเปิดรับสมัครสายเกมหน้าใหม่ เตรียมเปิด 4 เวทีแข่งขันอีสปอร์ตให้คนมีของได้ประลองฝีมือในสนามจริง อ้าแขนต้อนรับยุคเทคโนโลยีเต็มขั้นให้การเล่นเกมบนหน้าจอไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่พร้อมผลักดันให้กลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ เชิดหน้าชูตาผู้มีความสามารถในประเทศไทยสู่ระดับภูมิภาค

พลอย จาตุกัญญาประทีป หัวหน้าสายงาน Customer Segments & Experience บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ทรูได้เป็นเจ้าภาพจัดเวทีการแข่งขันอีสปอร์ต 3 รายการ คือ การแข่งขันระดับชาติอย่าง True 5G AfreecaTV MASTER Challenger โดยร่วมมือกับ AfreecaTV รวมทั้งเวทีภายในประเทศอย่าง True 5G Young Master และ True 5G Thailand Master 

การแข่งขันทั้ง 3 รายการได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 15,365 คน จาก 3,073 ทีมซึ่งเป็นตัวแทนจาก 243 โรงเรียนทั่วประเทศ

พลอย จาตุกัญญาประทีป ยังได้เน้นย้ำเป้าหมายว่า ในฐานะ Telecom-Tech Company ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดการแข่งขันขึ้นเพื่อนำศักยภาพเทคโนโลยี 5G ของทรูมาผลักดันวงการอีสปอร์ตไทยสู่ระดับสากล ตอบโจทย์ความฝันของเด็กไทยหลายคน ให้การเล่นเกมไม่ใช่แค่ความบันเทิงที่เสียเวลา แต่เป็นการค้นหาอาชีพที่สร้างรายได้

เวทีแข่งขันอีสปอร์ตสร้างโอกาส สร้างรายได้ ให้พื้นที่พัฒนา

การจัดเวทีแข่งขันอีสปอร์ตเป็นการขยายโอกาสและสร้างพื้นที่ทั้งเกมเมอร์และบุคคลทั่วไปได้เข้ามาโชว์ศักยภาพที่มีได้ ไม่จำกัดในประเทศไทยแต่ผลักดันไปสู่ระดับภูมิภาค

เกมเมอร์ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันอีสปอร์ตบนเวทีของทรู 5G จะได้รับการเทรนเพื่อพัฒนาศักยภาพและความถนัดจากคำแนะนำและการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ไปพร้อม ๆ กับกความสนุกจากการเล่นเกม เมื่อทักษะและความชอบมีอยู่คู่กัน ผู้เล่นก็สามารถนำอีสปอร์ตไปสร้างรายได้ในอนาคต 

ผู้ที่เคยแข่งขันในปีที่ผ่านมา กล่าวว่า เวทีการแข่งขันของทรูเป็นพื้นที่ที่ทำให้โค้ชและผู้เชี่ยวชาญในวงการอีสปอร์ตสามารถเฟ้นหาผู้เล่นที่มีทั้งศักยภาพที่ดีและทัศนคติที่ดีเพื่อที่จะนำไปพัฒนาต่อไป จึงเป็นโอกาสให้ผู้เล่นได้โชว์ศักยภาพให้เข้าตากรรมการ พร้อมแนะนำให้ผู้ที่สนใจลงสมัครเข้าแข่งขันในปี 2023 นี้

สำหรับบุคคลทั่วไป เวทีนี้เรียกได้ว่าเป็นการเปิดประตูเข้าสู่เส้นทางการเป็นเกมเมอร์ในระดับมืออาชีพในอนาคตเพราะเป็นการส่งเสริมการลองผิดลองถูกและการเรียนรู้จากโค้ช ผู้เล่นมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญในวงการ ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ผ่านผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ด้วยเพื่อพัฒนาฝีมือไปอีกขั้น

นอกจากนี้ โอกาสไม่ได้อยู่เฉพาะในประเทศไทย การแข่งขัน True 5G AfreecaTV MASTER Challenger ที่เป็นการแข่งขันระดับภูมิภาคระหว่างตัวแทนจากประเทศไทยที่เป็นผู้ชนะจาก True5G Thailand Master และตัวแทนจากเวียดนามยังเพิ่มพื้นที่โอกาสออกสู่ระดับภูมิภาคและอาจขยายไปสู่ระดับโลก ทำผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทยได้รับความสนใจจากระดับนานาชาติซึ่งเป็นตลาดอีสปอร์ตที่กว้างและมีศักยภาพมาก

ทรู 5G เปิดเวทีอีสปอร์ตประจำปี 2023 อ้าแขนรับทั้งมือใหม่และมือโปร

ในปี 2023 ทรู 5G ยังเดินหน้ารับสมัครเกมเมอร์หน้าใหม่ที่ต้องการโชว์ศักยภาพในการแข่งขันอีสปอร์ต โดยจัดเวทีประลงทั้งหมด 4 รายการ ประกอบด้วย 3 แข่งขันที่จัดต่อเนื่องจากปีที่ผ่าน คือ 

  •  True5G Young Master เปิดให้ผู้เข้าแข่งขันทั่วไปที่ยังไม่เคยเป็นผู้เล่นในระดับอาชีพมาก่อน (Non-Pro Player) 
  • True 5G Thailand Master เปิดให้ผู้เข้าแข่งขันทั่วไปที่เคยเป็นผู้เล่นในระดับอาชีพมาก่อน (Pro Player)
  • True5G AfreecaTV MASTER Challenger การแข่งขันระดับภูมิภาคประชันฝีมือระหว่างตัวแทนจากประเทศไทย (แชมป์ True5G Thailand Master) และตัวแทนจากประเทศเวียดนามผ่านการร่วมมือกับ AfreecaTV

ความพิเศษในปีนี้ ทรูได้เพิ่มเวทีโชว์ศักยภาพของเยาวชนไทยที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี เพิ่มความเป็นไปได้ให้เยาวชนไทยเข้าใกล้ความสำเร็จที่มีพื้นฐานมาจากความชอบในการเล่นเกม โดยเพิ่มการแข่งขัน

  • True5G U-18 Master เปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันอายุระหว่าง 13-18 ปี

ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 รายการจะได้โชว์ศักยภาพใน 4 เกมยอดนิยมอย่าง ROV, PUBG, Free Fire และ eFootball ผ่านเครือข่าย True5G ที่เร็วและรองรับการเชื่อมต่อจำนวนมากได้ พร้อมทั้งได้ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 2,500,000 บาท

เกมเมอร์ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้เพื่อรับโค้ดที่ใช้สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน True5G eSports ผ่าน 2 วิธี คือ เปิดบริการซิมเติมเงิน True5G eSports แล้วซื้อแพ็คเกจที่ร่วมรายการ 200 บาทขึ้นไป หรือหากเป็นลูกค้าปัจจุบันของทรูทั้งแบบเติมเงินและรายเดือน กด *900*7513# เพื่อสมัครแพ็คเกจ UP2U PROHUB ในราคา 200 บาท ส่วนลูกค้าดีแทค จะเริ่มเปิดรับสมัคร 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป 

เกมเมอร์ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ https://true5g-esports.myarenaonline.com/ 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทรู 5G จัด 4 เวทีแข่งขันอีสปอร์ต เปิดพื้นที่ให้สายเกมปล่อยของทั้งมือโปรและมือใหม่ ลุ้นรางวัลรวม 2.5 ล้านบาท first appeared on Brand Inside.

ลือ! Apple เริ่มพัฒนา iMac จอใหญ่เกิน 30″ แล้ว

iPhonemod - 26 June 2023 - 11:14

iMac รุ่นจอใหญ่กว่า 30 นิ้ว เป็นหนึ่งใน Roadmap สินค้าใ […] More

The post ลือ! Apple เริ่มพัฒนา iMac จอใหญ่เกิน 30″ แล้ว appeared first on iMoD.

ชิป A17 Bionic ของ iPhone 15 Pro อาจเป็นชิป N3B?

iPhonemod - 26 June 2023 - 10:58

ลือ! Apple อาจพิจารณาเปลี่ยนรูปแบบเทคโนโลยีผลิตชิป A17 […] More

The post ชิป A17 Bionic ของ iPhone 15 Pro อาจเป็นชิป N3B? appeared first on iMoD.

[ลือ] รวมสิ่งที่ iPhone 15 มี และคุ้มค่าแก่การรอ ! (โดยเฉพาะสายกล้อง)

MacThai - 26 June 2023 - 10:00

แม้ใครยังไม่แน่ใจว่าเดือนกันยานี้ควรจัด iPhone 15 มาเป็นเจ้าของดีไหม บอกเลยว่าสายดีเทลกล้องต้องคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน เพราะมีสิ่งนี้!

นั่นก็คือการผสมกันระหว่างฟีเจอร์เด็ด ๆ บน iPhone 14 Pro และราคาที่พอจะจับต้องได้ของ iPhone 14 เพราะ iPhone 15 จะมีทั้งสองอย่างนี้ตามข่าวลือ

ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์เกาะหรรษาอย่าง Dynamic Island ที่จะมีใน 4 รุ่น และไม่ได้จำกัดเฉพาะรุ่นโปรเหมือนอย่างเคย แถม iPhone 15 และ iPhone 15 Plus อาจมีการอัปเกรดเป็นกล้อง 48 MP ซึ่งเป็นกล้องหลักใน iPhone 14 Pro ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วด้วย

แต่เหนือสิ่งอื่นใด iPhone 15 จะเน้นเรื่องกล้องมากที่สุด โดยเฉพาะ iPhone 15 Pro Max อาจจะน่าสนใจสำหรับสายชอบถ่ายเป็นพิเศษ เพราะจะมีเลนส์ Periscope มาใช้กับการซูมออปติคอลมากขึ้น

ส่วน iPhone 14 Plus ที่จอใหญ่แต่น้ำหนักเบา และราคาประหยัด ปีนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก็น่าจะเบาลงไปอีก เพราะเปลี่ยนวัสดุในการดีไซน์เครื่อง โดยรุ่นโปรจะเปลี่ยนจากสแตนเลสเป็นไทเทเนียม เลยทำให้เครื่องเบากว่า

แถมรุ่นโปรยังคาดว่าอาจจะเปลี่ยนปุ่ม Mute ให้สามารถปรับแต่งได้ และอาจจะมีปุ่มที่เปิดใช้งานแอปกล้องได้เลยก็เป็นได้

แต่ที่น่าห่วงอย่างเรื่องพอร์ตของไอโฟนที่ผูกติดมากับพอร์ต Lightning มาตลอด ก็คาดว่าจะเปลี่ยนเป็นพอร์ต USB-C ใน iPhone 15 เพื่อชาร์จกับอุปกรณ์อื่นง่ายขึ้น เว้นแต่ใครชอบพอร์ต Lightning ก็ตัดสินใจยากหน่อย

นอกจากนี้ยังมีโอกาสสูงด้วยที่ iPhone 15 Pro จะมีราคาสูงกว่า iPhone 14 Pro (แม้จะแพงขึ้นอยู่แล้วทุกปีก็ตาม) ส่วน iPhone 14 Pro ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเลิกผลิต เพราะผลพวงจากความนิยมลดลง หลังประกาศเปิดตัว iPhone 15 ช่วงเดือนกันยานนี้

ที่มา – 9To5Mac

The post [ลือ] รวมสิ่งที่ iPhone 15 มี และคุ้มค่าแก่การรอ ! (โดยเฉพาะสายกล้อง) appeared first on Macthai.com.

ทางรอดเกษตรกร ขายเชอร์รี่ให้ได้กล่องละ 5 แสนเยนหรือประมาณ 1.2 แสนบาท

Brand Inside - 25 June 2023 - 13:29

แค่เป็นประเทศที่ในน้ำมีปลา ในนามีข้าวก็ยังไม่พอ แต่ต้องพลิกให้ผลผลิตกลายเป็นสินค้าเกรดพรีเมียมให้ได้ด้วย 

ฤดูประมูลเชอร์รี่รอบแรกของญี่ปุ่นมาถึงแล้ว! ล่าสุด ที่ตลาดค้าส่งในทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการจัดประมูลเชอร์รี่ระดับพรีเมียม ราคาสูงถึง 5 แสนเยนหรือประมาณ 1.2 แสนบาท

Cherry

เชอร์รี่เกรดพรีเมียมที่ว่านี้เป็นเชอร์รี่ระดับไฮเอนด์ เพิ่งจัดประมูลที่ตลาดค้าส่ง จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น สายพันธุ์สุดหรูที่ว่านี้ เรียกว่าพันธุ์ “Juno Heart” กล่องหนึ่งจะบรรจุเชอร์รี่ 15 ผล เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่และมีคุณภาพดีที่สุด จัดประมูลในราคา 5 แสนเยนหรือประมาณ 1.2 แสนบาท แม้จะมีราคาที่ต่ำกว่าปีก่อนที่ประมูลอยู่ที่ 6 แสนเยน หรือประมาณ 1.47 แสนบาท แต่ก็ยังเป็นผลไม้ที่มีราคาสูงมาก

เชอร์รี่สายพันธุ์ Juno Heart เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โด่งดังมากในการนำมาทำเป็นของขวัญมอบให้กัน เพราะเป็นเชอร์รี่ที่มีรูปทรงคล้ายหัวใจ มีรสชาติที่อร่อย การขนส่งเชอร์รี่สุดพิเศษนี้เพิ่งเริ่มมีเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมานี้เอง จากนั้นก็เริ่มมีการผลิตเชอร์รี่สายพันธุ์นี้มากขึ้น สำหรับปีนี้มีการจัดประมูลรวม 114 กล่อง มากกว่าปีที่แล้วถึง 2 เท่า

เชอร์รี่สายพันธุ์นี้จะถูกซื้อโดยบรรดาร้านขายขนมหวานผ่านพ่อค้าคนกลาง ร้านที่ต้องใช้เชอร์รี่เพื่อตกแต่งหน้าเค้ก แต่ละชิ้นมีราคาตั้งแต่ 1,500 เยนไปจนถึง 8,000 เยน หรือประมาณ 300 กว่าบาทไปจนถึง 1,900 กว่าบาท (นี่คือราคาโดยประเมิน ยังไม่ได้บวกกำไรเพิ่ม) 

Juno Heart คิดค้นและพัฒนาสายพันธุ์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งจังหวัดอาโอโมริเขาต้องใช้เวลาคิดค้นและพัฒนาวิจัยสายพันธุ์ยาวนานกว่า 24 ปี เพื่อทำให้เชอร์รี่สายพันธุ์นี้มีขนาดและรูปทรงที่เหนือกว่าเชอร์รี่สายพันธุ์อื่นๆ เป็นผลเชอร์รี่ที่มีสีแดงสดใส มีขนาดใหญ่ราว 28 มิลลิเมตรหรือประมาณ 2.8 เซนติเมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าเชอร์รี่สายพันธุ์ Sato Nishiki ที่ถือว่าเป็นราชาแห่งเชอร์รี่ของญี่ปุ่นอีก 

ว่ากันว่าเชอร์รี่สายพันธุ์ Juno Heart มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “เชอร์รี่นำโชค” หรือ Lucky Cherries ที่ได้ชื่อนี้มาก็เพราะว่า เมื่อปี 2005 หรือประมาณเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุไฟป่าในบริเวณที่ใกล้กับศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมจังหวัดอาโอโมริ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังเพาะพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์นี้อยู่

แต่ความโชคดีก็คือ แม้ว่าไฟจะไหม้ลุกลามใกล้บริเวณที่ปลูกต้นเชอร์รี่สายพันธุ์นี้อยู่ แต่เชอร์รี่สายพันธุ์นี้ก็รอดชีวิตมาได้ ทำให้เป็นที่มาของชื่อ เชอร์รี่นำโชค ซึ่งที่มาของชื่อก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังรวมถึงชื่อที่นำมาจากเทพธิดา Juno หรือเทพที่เป็นผู้ควบคุมความสุขในครอบครัวของญี่ปุ่น รวมทั้งมาจากรูปทรงหัวใจของผลเชอร์รี่ด้วย

ที่มา – Japan Today, Mainichi, Visithachinohe

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทางรอดเกษตรกร ขายเชอร์รี่ให้ได้กล่องละ 5 แสนเยนหรือประมาณ 1.2 แสนบาท first appeared on Brand Inside.

iOS 17 เวอร์ชันเบเต้าล่าสุด จะมี Haptic Touch เร็วขึ้น

MacThai - 25 June 2023 - 11:00

ดูเหมือนว่า iOS 17 เวอร์ชันเบต้าที่ปล่อยให้นักพัฒนาได้ทดลองไปเมื่อวานนี้ จะมีการอัปเดตให้การตอบสนองแบบสัมผัส หรือ Haptic Touch มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น เหมาะกับผู้ใช้บางคนที่อาจจะชอบ

โดยสามารถไปตั้งค่า Haptic Touch ใหม่ได้ตามนี้

  1. ตัวช่วยการเข้าถึง (Accessibility option)
  2. เลือก Haptic Touch
  3. จากนั้นเลือกปรับระดับความเร็วเองได้เลย โดยจะมี 3 ตัวเลือก คือ Fast, Default, Slow

และสามารถทดสอบความเร็วที่พอใจได้ โดยใช้การแตะ หรือลากรูปภาพตามช่อง ‘TOUCH DURATION TEST’ ได้เลย

แต่ก่อนหน้านี้ Haptic Touch จะมีความเร็วเทียบเท่ากับตัวเลือกเริ่มต้นในอินเทอร์เฟซใหม่ แต่นี่จะเป็นความเร็วขึ้นอีกขั้น โดยเมนู Quick Haptic จะปรากฏขึ้นใต้นิ้วเมื่อกดไอคอนหรือหน้าจอค้างไว้ ซึ่งจะใกล้เคียง 3D Touch ที่เปิดตัวในปี 2015

ซึ่ง Haptic Touch อาจรองรับแรงกดเพียงระดับเดียวสำหรับการกดแบบค้างนาน ๆ เลยอาจทำให้‌Haptic Touch‌ ทำงานช้ากว่า ‌3D Touch‌ ที่รองรับการกดแบบหลายระดับ

แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมแอปเปิลถึงเลิกใช้ ‌3D Touch‌ แต่มีการคาดคะเนกันว่าเลิกใช้เพื่อให้ไอโฟน และไอแพดมีความเท่าเทียมกันในการใช้ 3D Touch‌ เป็นฟีเจอร์เฉพาะของไอโฟนเสมอ แต่ Haptic Touch‌ จะมีให้ใช้งานทั้งบนไอโฟน และไอแพด

ที่มา – MacRumors

The post iOS 17 เวอร์ชันเบเต้าล่าสุด จะมี Haptic Touch เร็วขึ้น appeared first on Macthai.com.

รู้สึกอย่างไร? เมื่อได้ยินข่าว พนักงานเซเว่นฯ เสียชีวิตปริศนาหลังร้าน เพื่อนร่วมงานบอก เขาเพิ่งบ่นว่าเหนื่อย

Brand Inside - 24 June 2023 - 18:32

วานนี้ สำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกัน ทั้งประชาไท, Nation TV, แนวหน้า, กรุงเทพธุรกิจ, เพจโหนกระแส, Amarin News ฯลฯ และเพจที่มีเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับจังหวัดปทุมธานี รายงานข่าวเรื่อง “พนักงานเซเว่นฯ เสียชีวิตคาร้าน เพื่อนเผยเจ้าตัวบ่นเหนื่อย ทั้งคิดเงิน-ส่งของก่อนเสียชีวิต” 

เนื้อหาข่าว ระบุว่า พ.ต.ท. วัชรพงศ์ เทียนประถัมภ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ. สามโคก ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีผู้เสียชีวิตภายในร้านสะดวกซื้อถนนปทุม-สามโคก ตำบลบางเตย จังหวัดปทุมธานี

ผู้เสียชีวิตคือชายวัย 43 ปี ชื่อประภา โหมดแจ่ม เสียชีวิตหลังร้าน ใส่ชุดพนักงานร้านสะดวกซื้อ สวมถุงมือ เพื่อนร่วมงานให้ความเห็นว่า ผู้เสียชีวิตทำงานทั้งในส่วนของพนักงานคิดเงินและขับรถส่งสินค้า ก่อนหน้านี้เคยบ่นว่าเหนื่อย หลังจากที่ผู้เสียชีวิตเดินหายไปหลังร้านนาน จนเพื่อนเดินตามไปและพบว่า เพื่อนเสียชีวิตข้างประตูหลังร้าน

7-Eleven


รู้สึกอย่างไร เมื่อได้รับทราบข่าวคราวเช่นนี้?


เรื่องนี้ สส. บัญชีรายชื่อ เซีย จำปาทอง เครือข่ายผู้ใช้รายงาน พรรคก้าวไกล แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และมองว่า “ไม่ควรมีใครต้องตายจากการทำงานหนัก” พร้อมแสดงความกังวลเรื่องการจ้างงาน และเตรียมผลักดันร่าง พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ของพรรคก้าวไกล เพื่อสวัสดิการการจ้างงาน ตลอดจนการรวตัวต่อรองสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ ในการทำงาน

เซียระบุว่า การทำงานควบตำแหน่งของพนักงานดังกล่าว ควรมีการตรวจสอบว่า การทำงานหลายหน้าที่นั้น ส่งผลต่อความกดดันและความเหนื่อยล้าทางร่างกาย จนเกิดผลกระทบต่อลูกจ้างเพียงใด

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลเตรียมยื่น พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์หลังเปิดสภาฯ เพื่อยกระดับให้การพูดคุย ต่อรองและการรวมกลุ่มของพี่น้องแรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

[ ไม่ควรมีใครต้องตายจากการทำงานหนัก พรรคก้าวไกลเตรียมดัน พ.ร.บ.แรงงานฯ ฉบับใหม่เข้าสภาทันทีที่สภาเปิด ]

วันที่ 23 มิถุนายน 2566 เซีย จำปาทอง @SiaJampathong ส.ส.บัญชีรายชื่อ เครือข่ายผู้ใช้แรงงาน พรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต… pic.twitter.com/VvOGLacLYR

— พรรคก้าวไกล – Move Forward Party (@MFPThailand) June 23, 2023

ที่มา – ประชาไท, Nation TV, Twitter, Google 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post รู้สึกอย่างไร? เมื่อได้ยินข่าว พนักงานเซเว่นฯ เสียชีวิตปริศนาหลังร้าน เพื่อนร่วมงานบอก เขาเพิ่งบ่นว่าเหนื่อย first appeared on Brand Inside.

แก้เกมด้วยรีแบรนด์! อาคเนย์ประกันชีวิต เปลี่ยนใช้ชื่อ SE Life ปรับอายุกิจการให้วัยรุ่นขึ้น

Brand Inside - 24 June 2023 - 16:16

จากปัญหาของธุรกิจประกันในชื่อคล้าย ๆ กัน ทำให้ อาคเนย์ประกันชีวิต ตัดสินใจรีแบรนด์ครั้งสำคัญผ่านการเปลี่ยนไปใช้ชื่อ SE Life เพื่อทำตลาดหลังจากนี้ พร้อมกางกลยุทธ์ลดอายุกิจการให้วัยรุ่นขึ้น หลังตัวแทน และลูกค้ามีอายุเยอะ อาจไม่ตอบโจทย์ในยุคคนรุ่นใหม่มีกำลังตัดสินใจมากขึ้น

SE Life

จาก อาคเนย์ ประกันชีวิต สู่ SE Life

ภฤตยา สัจจศิลา กรรมการผู้จัดการ บมจ. อาคเนย์ประกันชีวิต เล่าให้ฟังว่า หลังจากนี้การทำตลาดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของบริษัทจะถูกทำในชื่อ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต เนื่องจากบริษัทได้เดินหน้าแผนรีแบรนด์ครั้งสำคัญ เน้นความทันสมัย พร้อมสีสัน และการสื่อสารที่เข้าใจง่าย แม้จะให้บริการในประเทศไทยมาถึง 77 ปี

“เป้าหมายของ SE Life เราต้องการให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ และมีความสุขในทุกวันธรรมดาเหมือนที่เคย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตก็ตาม เราจะเป็นเพื่อนที่เข้าใจ เคียงข้าง ให้คำปรึกษา พร้อมร่วมออกแบบวางแผนชีวิตที่ดีให้ลูกค้าทุกคนของ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต ทั้งทำให้ทุกอย่างมันชัดเจนมากขึ้น”

SE Life เป็นตัวย่อที่มาจาก SE หรือ Southeast ซึ่งมีความหมายเดียวกับ อาคเนย์ ส่วน Life หมายถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต โดยทั้งหมดอยู่บนโลโก้สีเขียว ส่วนเอกลักษณ์เดิมของแบรนด์ อาคเนย์ประกันชีวิต เช่น ตราพระปรางค์วัดอรุณฯ จะไม่ได้ปรากฏอยู่บนโลโก้ใหม่ที่รีแบรนด์

แก้ไขผลิตภัณฑ์ให้ตรงโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

นอกจากการเปลี่ยนโลโก้ อาคเนย์ประกันชีวิต บริษัทยังปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เช่น เปลี่ยนจากการอ้างอิงความเสี่ยงแล้วมากำหนดราคา เป็นการไม่ได้ยึดที่ความเสี่ยงอย่างเดียว แต่จะมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาช่วยคำนวณ นอกจากนี้ยังเปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกแผนการคุ้มครอง และจ่ายเบี้ยได้ตามต้องการ

ขณะเดียวกัน SE Life ยังนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยยกระดับในการทำตลาด เพื่อตอบโจทย์ทั้งลูกค้า และตัวแทน โดยกลุ่มตัวแทนจะมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้การทำอนุมัติในเรื่องต่าง ๆ สามารถทำได้ใน 10 นาที ลดระยะเวลาในการปิดการขายกรมธรรม์

“ตอนนี้ประกันต้องเร็ว ง่าย และสะดวก แต่ถึงเราจะปรับไปเยอะ ผลิตภัณฑ์เก่า ๆ ที่เราเชี่ยวชาญ และลูกค้าเชื่อใจก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ที่สำคัญเราไม่ได้ทำหนังโฆษณาเป็นร้อย ๆ ล้าน แต่เราใช้การส่งผ่านเรื่องราวไปที่ลูกค้าโดยตรงมากกว่า ถามว่ามีการใช้เงินไหม ก็ใช้ แต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้น และใช้เพื่อทำให้คนรู้จักเรามากกว่า”

ลดอายุแบรนด์ให้ดูวัยรุ่นมากกว่าเดิม

ทั้งนี้ SE Life จะทยอยทำกิจกรรมทางการตลาดในช่วง 18 เดือน หลังจากนี้ โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และการลดอายุแบรนด์ เพราะก่อนหน้านี้อายุฝ่ายขายของบริษัทอยู่ราว 40 ปี ขึ้นไป และมีกลุ่มหนึ่งอายุมากกว่า 95 ปี ซึ่งพวกเขายังต่ออายุต่อเนื่อง

“พวกเขาคือส่วนสำคัญของเรา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาท ทำให้ 5 ปีที่ผ่านมาเราสามารถลดอายุเฉลี่ยฝ่ายขายลงมาเหลือ 35 ปี รวมถึงมีการทำตลาด Digital Agent ด้วย โดยปัจจุบันเรามีฝ่ายขายที่ลงทะเบียน 3,000 คน แอคทีฟต่อเนื่อง 1,700 คน ส่วนลูกค้าทั่วไปมี 7.5 แสน ถ้ารวมประกันกลุ่มจะเป็น 1.2 ล้านคน”

หากเจาะไปที่ค่าเบี้ยเฉลี่ยจะพบว่า ในช่องทางตัวแทนจะเฉลี่ยที่ 30,000-35,000 บาท ส่วนถ้าเป็นกลุ่ม Wealth Manger จะอยู่ที่ราว 3 แสนบาท ซึ่งหลังจากนี้กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่จะมีมากขึ้น เพราะลูกค้าหลักของ SE Life ยังเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงอยู่ แต่ SE Life ยังไม่มีแผนทำตลาดผลิตภัณฑ์ Unit Linked ในตอนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2022 มีเพิกถอนใบอนุญาต อาคเนย์ประกันภัย และไทยประกันภัย เนื่องจากทั้งสองบริษัทยื่นเรื่องขอปิดกิจการหลังเจอกับการเคลมประกันโควิด-19 เป็นมูลค่ามหาศาล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบถึงความเชื่อมั่นของ อาคเนย์ประกันชีวิต เพราะมีชื่อคล้ายกัน แต่ดำเนินคนละกิจการกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post แก้เกมด้วยรีแบรนด์! อาคเนย์ประกันชีวิต เปลี่ยนใช้ชื่อ SE Life ปรับอายุกิจการให้วัยรุ่นขึ้น first appeared on Brand Inside.

คุยกับไรเดอร์ เดลิเวอรี่สัญชาติจีน “โกคู” ย่านห้วยขวาง: งานอิสระ ออเดอร์ถี่ ลูกค้าจีนทิปเยอะ

Brand Inside - 24 June 2023 - 12:30

บทความโดยพิชญา แขวงสุคนธ์ทิพย์ และปาริชาติ โชคเกิด 

หลังจากที่สำรวจทุนจีนในรูปแบบธุรกิจมาบ้างแล้ว วันนี้เรามาดูกันว่า คนไทยที่ทำงานกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่สัญชาติจีนอย่าง “โกคู” เขารู้สึกอย่างไรกับงานที่ทำ งานเป็นยังไงบ้าง ลูกค้าจีนเป็นแบบไหน มาดูกัน

ธนกร นพเก้า (มังกร หรือ น็อต) อายุ 21 ปี ไรเดอร์หนุ่มที่ทำงานมาแล้วสารพัดอย่าง ทั้งเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านเหล้า เป็นพนักงานห้าง เป็นนักร้องในร้านเหล้า เป็นเด็กดริงค์ ทำความสะอาดเซเว่นฯ ที่เพิ่งเปิดใหม่ เช่น เช็ดกระจก ขัดคราบกาว เป็นแม่บ้าน เป็นพนักงานขนของ ตอกเสาเข็ม สร้างบ้าน ฯลฯ 

Gokoo Rider

จากนั้น เขาก็ไปทำงานที่สุกี้แบรนด์ดังแห่งหนึ่ง ตอนเข้าไปแนะนำว่า ค่าจ้างระดับหมื่นต้นๆ มีเบี้ยขยัน มีสวัสดิการดีหมด แต่พอทำไปได้ 1 เดือน ไม่ได้ทั้งสวัสดิการ เบี้ยขยันก็ไม่ได้ ถ้ามาสาย 1 นาที หรือสายเพียง 1 วินาทีก็ไม่ได้ หัวหน้างานไม่รู้ว่าลูกน้องทำงานอะไรบ้าง ซ้ำยังชอบตั้งข้อกล่าวหากับลูกทีมบ่อยๆ แถมนายจ้างเน้นหักเงินเป็นหลัก แค่คิดจะนั่งพักยังไม่ได้ เขารู้สึกว่าเป็นระบบการทำงานที่ขูดรีดมากเกินไป จึงมุ่งหน้าไปสู่งานที่เขาคิดว่าให้อิสระมากกว่า

นี่คือสาเหตุให้เขาหันมาทำงานเป็นไรเดอร์เต็มตัว เพราะเขาเห็นว่ามันเป็นงานอิสระ ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ทำมาก ได้มาก ทำน้อย ได้น้อย ขึ้นอยู่กับความขยันของตัวเอง

มังกรเล่าว่า เขาเคยเป็นไรเดอร์ของแพนด้า ของ Bolt (โบลต์) และ Shopee ปัจจุบันเขาก็ยังเป็นไรเดอร์ขับรถส่งอาหารให้หลายแอปพลิเคชัน ถ้าขับ Bolt ไม่มีขั้นต่ำให้ แต่ถ้าวิ่งหลักๆ เขาเลือกขับให้ “โกคู” แค่เพียงยื่นใบสมัครโดยใช้บัตรประชาชนกับใบขับขี่ก็สมัครที่บริษัทที่ตั้งอยู่แถวประชาราษฎร์ได้แล้ว ส่วนแอปฯ Bolt ใช้ใบขับขี่ บัตรประชาชน และหลักฐานความเป็นเจ้าของรถ เขารู้สึกว่าวิ่งแอปฯ Bolt ไม่ต้องรออาหารนาน

สาเหตุที่เขาเลือกทำงานกับแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ของโกคูเป็นหลัก ก็เพราะค่าแรงขั้นต่ำดี เริ่มต้นที่ 45 บาท ช่วงนี้ร้านจีนก็เปิดให้บริการเยอะ เปิดกระจายอยู่ทุกที่ มีร้านอาหารจีนอยู่ย่านนี้เยอะกว่าร้านอาหารไทย ก็เลยเลือกค่ายนี้เพราะมีเครือข่ายใกล้บ้านเขามากกว่า

มังกรเริ่มทำงานที่นี่ได้เดือนนิดๆ สำหรับรายได้เดือนที่แล้ว แม้เขาจะวิ่งให้บริการบ้าง หยุดบ้าง เขาก็สามารถสร้างรายได้ภายในสัปดาห์เดียว ทำเงินได้ราว 1,800 บาทแล้ว ขณะที่เดือนนี้ทำได้สัปดาห์เดียวก็ได้มา 2,300 บาทแล้ว แต่เมื่อไรที่แอปฯ โกคูไม่มีลูกค้าเรียกใช้บริการ เขาก็วิ่งรถให้บริการแอปฯ Bolt

รูปแบบการให้บริการก็คือดูแลอาหารลูกค้า ส่งอาหาร พอถึงจุดหมายก็โทรหาลูกค้า ถ้าลูกค้าจ่ายเงินสดก็ต้องรอให้ลงมารับอาหารและจ่ายเงินสด เขาส่งอาหารอย่างเดียว ไม่ได้รับส่งคนหรือรับส่งเอกสารเพิ่ม เวลาวิ่งส่งอาหารก็วิ่งบริการเฉพาะย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง ไกลสุดก็คือบางนา 

ห้วยขวาง

เมื่อถามว่า แอปฯ โกคู แตกต่างจากแอปฯ อื่นอย่างไร?

มังกรบอกว่า เขารู้สึกว่าแอปฯ นี้มีร้านอาหารเยอะ ลูกค้าจีนให้เงินเยอะ ค่าแรงดี ขั้นต่ำ 45 บาท เขาวิ่งย่านประชาราษฎร์จากปากซอยถึงท้ายซอย บ้านเขาอยู่แถวรัชดา 36 ซึ่งเอาจริงๆ โกคูก็เปิดให้วิ่งทั่วทุกที่ แต่เขาเลือกให้บริการย่านนี้เพราะรู้จักดีและอยู่ใกล้บ้าน เขายอมรับว่าคู่แข่งก็เยอะ มีการแย่งงานกัน มีคนสมัครเยอะ แล้วแต่ออเดอร์จะยิงให้

แพลตฟอร์มของโกคู เขาสามารถเลือกรับออเดอร์เองได้ และจะมี AI ยิงออเดอร์ให้เองด้วย

บางครั้งก็มีร้านอาหารที่เขาสั่งอาหารจากร้านตัวเองไปกินเอง เพราะเจ้าของร้านไม่ให้พนักงานในร้านกินอาหารในร้านเขา ต้องสั่งอาหารให้เดลิเวอรี่จากร้านเท่านั้น เช่น ร้าน 101 สั่งอาหารจากร้าน 101 ก็ต้องเดลิเวอรี่เข้าไปกินเพราะไม่อย่างนั้นจะดูเหมือนพนักงานในร้านยักยอก

สิ่งสำคัญสำหรับแอปจีน ที่มีลูกค้าจีนใช้บริการเยอะก็คือลูกค้าให้ทิปเยอะ เช่น ค่าอาหาร 500 บาท ลูกค้าบางคนให้แบงก์ 1,000 บาท ก็ไม่รับเงินทอนบ่อยๆ บางทีออเดอร์ 900 ก็ให้เงินและไม่รับเงินทอนที่เหลือ แต่บางทีก็เอาเงินทอนครบทุกบาททุกสตางค์ เรียกได้ว่ามีลูกค้าหลายประเภท แอปฯ นี้มีทั้งลูกค้าจีนและไทยแต่ถ้าเทียบสัดส่วน คนจีนสั่ง 90% คนไทยสั่ง 10%

ห้วยขวาง

ภาษาจีนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการสื่อสาร

ต้องบอกว่าภาษาจีนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพูดคุยกับลูกค้าเลย เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าชาวจีนจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับไรเดอร์ มังกรบอกว่า เขาก็ใช้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือเพื่อแปลงภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษและนำมาพูดคุยกับลูกค้าแทน มังกรบอกแอปโกคูใช้งานไม่ยาก ลูกค้าสั่งอาหารเยอะ เยอะในที่นี้มีทั้งสั่งถี่และสั่งราคาสูง ลูกค้าจีนมักจะสั่งอาหารหลายรอบ ไม่ค่อยสั่งครั้งเดียว ตัวอย่างที่เขาเคยเจอคือ ลูกค้าคนจีนสั่งอาหาร 4 เที่ยวจากร้านเดิม โดยคนสั่งคนเดิม ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงสั่งออเดอร์จากร้านเดิมหลายรอบ

ตอนที่เขาไปสมัครที่โกคู ก็คิดว่าพนักงานที่นั่นเป็นคนไทย เพราะเขาเคยเป็นไรเดอร์เคยขับรถให้บริการส่งอาหารแอปฯ อื่นมาก่อนเหมือนกัน สำหรับปัญหาที่เขาเคยเจอก็มีบ้าง เช่น ลืมปิดระบบรับออร์เดอร์ไว้ขณะชาร์จแบต ทำให้มีออเดอร์เด้งเข้ามาโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งแอดมินโทรมาตาม และบอกว่า “ลูกค้าโทรตามอาหารหลายรอบแล้วพี่ ให้ไปรับอาหารหน่อย” เขาก็รีบขับรถไปรับอาหารแม้เหลือเวลาเพียง 1 นาที และยังส่งอาหารทัน แต่ลูกค้าไม่รับอาหารแล้ว ทำให้เขาต้องรับผิดชอบออเดอร์นั้น ก็ต้องกินอาหารแทน เพราะโกคูจะหักจากเครดิตที่เคยวิ่งรถบริการมาก่อนหน้า

วิธีจ่ายเงินของแอปฯ โกคู

เขาจะได้รับเงินได้ภายใน 3 สัปดาห์ สัปดาห์แรกทำเครดิตเต็มทั้งสัปดาห์ สัปดาห์ที่สองรับเงินสดได้ แต่ถ้ายังทำได้ไม่ครบเครดิต สัปดาห์ที่ 3 ถึงจะรับเงินได้ เช่น มีเครดิตอยู่ 4,000 บาท รับเงินสดได้แค่ 2,000 บาท ค้างอยู่ 2,000 บาท สัปดาห์ต่อมาจะได้รับเลย 2,000 บาท ซึ่งเขาจะมีเบี้ยขยันให้ด้วยหากทำงานครบชั่วโมงตามที่กำหนด เช่น ทำงานภายใน 26 วัน ทำงานติดต่อกัน 11 ชั่วโมงก็จะได้รับเบี้ยขยัน เหมือนทำงานและไม่หยุดเลย ก็จะได้เบี้ยขยัน มังกรคิดว่าไรเดอร์น่าจะมีทั้งคนจีนและคนไทย เวลาเดินทางก็ใช้ Google Map ถ้าเป็นคนจีนจะรู้ภาษาจีนอยู่แล้ว ซึ่งไรเดอร์ที่รู้ภาษาจีนก็จะมีรายได้พิเศษให้ 

สำหรับการทำงานที่นี่ เขาตั้งใจจะทำต่อไป ถ้าเงินดีก็จะทำต่อ ที่นี่ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีประกันสังคมให้ ส่วนยูนิฟอร์มก็ต้องเช่าเอา ทั้งเสื้อและกระเป๋าแต่ก็สามารถใช้กระเป๋าของค่ายอื่นได้ ส่วนใหญ่โกคูจะให้บริการย่านนี้ ตั้งแต่หน้าซอยยันท้ายซอยก็เป็นคนจีนทั้งนั้น ลูกค้าจะสั่งอาหารถี่ ถ้าฝนตกจะบวกออเดอร์ละ 10 บาท ถ้าภายในเที่ยงคืนจะบวกออเดอร์ละ 5 บาท ถ้าหลังเที่ยงคืนบวกออเดอร์ละ 20 บาท

ส่วนขั้นต่ำสำหรับการออเดอร์อาหารนั้น เท่าที่เคยให้บริการมา พบว่าโดยมากมักไม่ต่ำกว่า 500 บาท บางออเดอร์ก็สั่งน้อย บางออเดอร์ก็สั่งอย่างเดียว 800 บาท อย่างต่ำคือ 150 บาท บางออเดอร์ถ้าไกลๆ 1,050 บาท ค่าส่ง 150 กว่าบาท ระยะทาง 18 กม. ถ้ารู้ทางก็ไปได้เร็วขึ้น 

เขาบอกว่าโกคูให้อิสระเต็มที่ ถ้าขยันทำ เดือนเดียวก็ทำรายได้ราว 1,000 บาทต่อวันแล้ว

งานอยู่ที่ตัวเรา ถ้าขยันทำ ก็จะได้ทุกอย่างมาเอง

เขาอยากฝากถึงไรเดอร์ด้วยกันว่า “งานมันอยู่ที่ตัวเราทำ ความขยันขึ้นอยู่กับตัวเรา คุณอย่าไปมองว่าคนอื่นมีดีกว่า ขอแค่ขยันทำ ก็จะได้ทุกอย่างมาเอง”

ส่วนข้อคิดสำหรับคนที่ยังหาตัวตนไม่เจอ มังกรบอกว่า “ให้ลงมือทำไปเรื่อยๆ ทำทั้งสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่ไม่ชอบ ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็เจอตัวตนเอง”

หมายเหตุ: Brand Inside เป็นเว็บไซต์ในเครือ LINE MAN Wongnai

อ่านซีรีส์สำรวจ “ทุนจีนรุกตลาดไทยย่านห้วยขวาง” เพิ่มเติมได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post คุยกับไรเดอร์ เดลิเวอรี่สัญชาติจีน “โกคู” ย่านห้วยขวาง: งานอิสระ ออเดอร์ถี่ ลูกค้าจีนทิปเยอะ first appeared on Brand Inside.

[ลือ] Apple กำลังวางแผนจะเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนชิป A17 ปีหน้า

MacThai - 24 June 2023 - 11:00

มีข่าวลือมาว่าชิป A17 Bionic ที่ใช้ครั้งแรกใน iPhone 15 Pro และ ‌iPhone 15 Pro‌ Max ช่วงปลายปีนี้ จะแตกต่างจากชิปที่ผลิตในปี 2024 อย่างสิ้นเชิง!

โดยชิป A17 Bionic คาดว่าจะเป็นชิปตัวแรกของแอปเปิลที่ผลิตด้วยกระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งดีกว่าเทคนิค 5 นาโนเมตรที่ใช้กับชิป A14, A15 และ A16 ด้วย

เพราะชิป A17 Bionic เวอร์ชันเริ่มต้นจะผลิตโดยใช้กระบวนการ N3B ของ TSMC แต่แอปเปิลกำลังวางแผนที่จะเปลี่ยน A17 ไปเป็น N3E ในปีหน้าเช่นกันเพื่อลดต้นทุน เลยอาจทำให้ประสิทธิภาพของชิปลดลง

ซึ่ง N3B เป็นโหนด ‌3nm‌ ดั้งเดิมของ TSMC ที่สร้างขึ้นกับแอปเปิล โดยเป็นโหนดที่มีความเรียบง่าย และมีเลเยอร์ EUV น้อยกว่า แต่ความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ต่ำกว่า N3B

โดย N3B ได้รับการออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นโหนดทดลองใช้งาน แต่ไม่รองรับกระบวนการที่รับช่วงต่อของ TSMC รวมถึง N3P, N3X และ N3S ด้วย ทำให้แอปเปิลอาจจะต้องออกแบบชิปในอนาคตใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของ TSMC แทน

จากเดิมที่หวังจะใช้ N3B สำหรับชิป A16 Bionic แต่ต้องเปลี่ยนกลับไปใช้ N4 เพราะยังพัฒนาไม่ทันเวลาเปิดตัว ทำให้ชิป A17 Bionic เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในระหว่างรอบผลิตภัณฑ์ของ ‌iPhone 15 Pro‌ และ ‌iPhone 15 Pro‌ Max และมีชิปรุ่น N3E เป็นชิปที่กำหนดให้กับ iPhone 16 และ ‌iPhone 16 Plus ปีต่อไป

ที่มา – MacRumors

The post [ลือ] Apple กำลังวางแผนจะเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนชิป A17 ปีหน้า appeared first on Macthai.com.

เศรษฐกิจจีนโตช้า โครงสร้างเปราะบาง แม้อัดฉีดเงินกระตุ้นก็ไม่ดีขึ้นเหมือนเก่า: ไทยต้องเตรียมตัวรับมือ

Brand Inside - 23 June 2023 - 21:37

อย่าผูกติดจีน เศรษฐกิจจีนเริ่มอ่อนแอ ไทยกำลังได้รับผลกระทบตาม

KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่าภาพรวมเศรษฐกิจจีนปีนี้และระยะต่อไปกำลังเผชิญความท้าทายมาก จะไม่เติบโตแข็งแกร่งเหมือนทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจที่โตช้าดังกล่าวมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งเรื่องความเสี่ยงด้านอสังหาริมทรัพย์ การส่งออกที่ถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก และอัตราว่างงานที่เพิ่มมากขึ้น

China, Chinese

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน กระจุกตัวแค่เฉพาะภาคบริการเท่านั้น

1) เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา “ค้าปลีก” จีน ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 12% แต่ไม่ได้ฟื้นตัวดีมาก เนื่องจากการเติบโตดังกล่าวมาจากผลของฐานในปีที่แล้ว ที่การเติบโตต่ำลงมาจากผลกระทบของการปิดเมือง หากเทียบยอดค้าปลีกกับสองปีก่อนที่ยังไม่กลับมาปิดเมืองอีกรอบ (ปี 2021) พบว่าอัตราการเติบโตอยู่ที่ 2.6% ต่อปีเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่า ภาคการบริโภคในส่วนของสินค้าไม่ได้ฟื้นตัวดีมากเทียบระดับปกติในอดีต

2) การผลิตในภาคอุตสาหกรรม ตัวเลขการผลิตจีนเดือนพฤษภาคมเติบโต 3.5% เทียบกับปีก่อนหน้า หากเทียบสองปีก่อน การเติบโตของการผลิตชะลอตัวเหลือเพียง 2.1% ต่อปี สะท้อนการฟื้นตัวไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คาด

3) ดัชนีการลงทุน ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเริ่มชะลอตัวแม้เทียบกับฐานที่ต่ำจากปีที่แล้ว การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว

4) ภาคบริการ เป็นภาคเศรษฐกิจเดียวของจีนที่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนโดยดัชนี PMI (Purchasing Manager Index) ภาคบริการมีแนวโน้มขยายตัวสวนทางภาคการผลิตที่เริ่มชะลอลง เช่น จำนวนการบินภายในประเทศเริ่มกลับมาอยู่ในระดับปกติ การบินต่างประเทศก็ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องด้วย

ความเปราะบางเชิงโครงสร้างเริ่มส่งผลกระทบ

1) ความเสี่ยงภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนกำลังประสบปัญหา

ปัญหามาจากความเสี่ยงที่โครงการอสังหาฯ หลายแห่งไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างจนเสร็จสิ้นได้ เนื่องจากหลายบริษัทกำลังประสบปัญหาด้านสภาพคล่องและประสบปัญหาล้มละลาย ไม่สามารถชำระหนี้สินได้ ปัญหานี้เป็นประเด็นมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว

สาเหตุสำคัญมาจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในจีนมีการใช้รายรับจากยอด pre-sale หรือยอดขายก่อนที่โครงการจะสำเร็จ นำมาใช้จ่ายในโปรเจคอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ดังนั้น เมื่อยอด pre-sale จีนชะลอตัวลงจากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ จึงส่งผลให้โครงการอสังหาฯ ที่กำลังสร้างอยู่จำเป็นต้องชะงักลง กระทบต่อความสามารถในการดำเนินงานและการชำระหนี้จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์

2) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มสั่นคลอน

ความเสี่ยงจากอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของครัวเรือน โดยเฉพาะผู้ผ่อนบ้านในโครงการที่มีความเสี่ยงไม่ส่งมอบตามสัญญา อัตราการออมในครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ชี้ให้เห็นว่าครัวเรือนมีการลดสัดส่วนของการบริโภคและเพิ่มสัดส่วนการออมมากขึ้น

3) ภาคการส่งออกกำลังถูกกดดัน

ตัวเลขส่งออกจีนหลายเดือนที่ผ่านมาหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วจากการชะลอตัวของอุปสงค์โลก การส่งออกที่หดตัวลงยังเป็นผลมาจากการแยกกัน (decoupling) ระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน ที่เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกมากขึ้น การส่งออกของจีนไปตลาดสหรัฐฯ หดตัวในอัตราที่สูงกว่าตลาดอื่นค่อนข้างมาก

4) อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้น

กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนเริ่มกลับมาหลังจีนเปิดเมือง แต่ตลาดแรงงานในจีนยังอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างซบเซาโดยเฉพาะแรงงานในกลุ่มอายุระหว่าง 16-24 ปีที่เผชิญกับอัตราว่างงานสูงถึง 20.4% ในเดือนเมษายน

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมหลักที่รองรับการจ้างงานกลุ่มแรงงานจบใหม่ ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ภาคอสังหาริมทรัพย์ หรืออุตสาหกรรมที่เผชิญนโยบายภาครัฐควบคุมธุรกิจมากขึ้น เช่น ภาคเทคโนโลยี ภาคการศึกษา ทำให้แรงงานกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบทางลบมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากขึ้นและช่วยทำให้เศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวต่อเนื่องได้ KKP Research เชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าด้วยการอัดฉีดสภาพคล่อง การลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จะรักษาสภาพคล่องให้เอกชนเท่านั้น แต่ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างในอดีตได้

ไทยเตรียมรับมือผลกระทบที่ตามมา

เศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้าลงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยค่อนข้างมาก จากการที่เศรษฐกิจไทยพึ่งพาจีนในสัดส่วนที่สูง แม้นักท่องเที่ยวจากจีนจะทยอยกลับมา แต่ยังฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดและยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงปี 2019 อยู่ค่อนข้างมาก หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวต่อเนื่อง อาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ประมาณ 5 ล้านคน

แม้การส่งออกของไทยไปจีนจะฟื้นตัวได้ดีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่สินค้าส่งออกไปจีนที่ฟื้นตัวได้ดีมีเพียงแค่กลุ่มผลไม้เป็นหลัก สะท้อนการฟื้นตัวของจีนกระจุกตัวแค่ภาคอุปโภคบริโภค ส่วนส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทยยับซบเซาตามการะลอตัวของภาคการลงทุนและส่งออกของจีน

ที่มา – KKPFG

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post เศรษฐกิจจีนโตช้า โครงสร้างเปราะบาง แม้อัดฉีดเงินกระตุ้นก็ไม่ดีขึ้นเหมือนเก่า: ไทยต้องเตรียมตัวรับมือ first appeared on Brand Inside.

ละมุน เบบี้ กางแผนงานชูแคมเปญ “1,000 วันรักแท้แม่ละมุน” ตั้งเป้าคว้ารายได้เพิ่ม 240 ล้านบาท

Brand Inside - 23 June 2023 - 18:35

ละมุน เบบี้ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสำหรับแม่และเด็ก ฉลองก้าวสู่ปีที่ 13 ดันยอดขายโตเพิ่ม 20% ครึ่งปีหลัง พร้อมอัดงบการตลาดกว่า 40 ล้านบาท ผุดแคมเปญ “1,000 วันรักแท้แม่ละมุน” กลุ่มผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากธรรมชาติ 100% เพื่อสนับสนุนทุกพัฒนาการลูกน้อย เผยกลยุทธ์เจาะลูกค้า ออนไลน์ – ออฟไลน์ และสมาชิก Lamoon Baby Club พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ถุงเก็บน้ำนม และวิตามินเสริมสำหรับเด็ก “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน” ร่วมแชร์ประสบการณ์จากตัวแทนคุณแม่ละมุนผู้ใช้จริง

เนตรนพิศ รุ่งธนเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและผู้ก่อตั้ง บริษัท ละมุน เบบี้ จำกัด กล่าวว่า ละมุน เบบี้ เกิดจากความรักของตัวเอง ที่ต้องการให้ลูกที่แพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กได้เติบโตอย่างมีคุณภาพและความสุขในทุกช่วงวัย จึงเป็นที่มาของละมุน เบบี้ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากธรรมชาติ 100% ที่มุ่งมั่นคัดสรรทุกวัตถุดิบด้วยตัวเอง รวมทั้งการพัฒนาวิจัยพร้อมการรับรองมาตรฐานสากล เพื่อเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของคุณแม่ดูแล 1,000 วันแรกของลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพในทุกช่วงวัยมาตลอด 13 ปี

ละมุน ให้ความสำคัญกับ 1,000 วันแรกของลูก ตั้งแต่วันแรกถึง 1 ขวบขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เซลล์สมองของลูกจะมีพัฒนาการสูงสุด และมีผลต่อสุขภาพ โภชนาการ พัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก โดยเด็กทารกที่เกิดใหม่จะมีภูมิคุ้มกันน้อย การให้ลูกทานนมแม่โดยเฉพาะน้ำนมสีเหลืองในช่วง 1-3 วันแรกจึงเหมือนเป็นวัคซีนหยดแรก สำหรับเด็กทารก น้ำนมแม่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การเจริญเติบโตของสมอง การมองเห็นของลูก ความฉลาดทางอารมณ์และระบบขับถ่าย รวมทั้งลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น คุณแม่ที่มีน้ำนมปริมาณมากหรือต้องการเก็บน้ำนมให้ลูกได้ทานนานที่สุด ละมุน ถุงเก็บน้ำนมจึงเป็นผู้ช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่ ด้วยถุงหนามาตรฐานฟู้ดเกรด ซิปล็อคหนา 2 ชั้นปิดสนิทพร้อมมาตรฐานการรับรองระดับสากลว่า สามารถคงคุณค่าสารอาหารและไม่มีกลิ่นหืน ปราศจากสารตกค้างและสารอันตราย และ Indicator บอกอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการทานของทารก ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าลูกจะทานนมในอุณหภูมิที่เหมาะ สม

เมื่อลูกอายุ 1 ขวบปีขึ้นไป เริ่มทานนมน้อยลง เริ่มเรียนรู้โลกภายนอกเตรียมพร้อมสู่วัยเรียน โดยเฉพาะในยุคที่มีแต่เชื้อโรค ฝุ่น ควัน มลภาวะอยู่รอบตัวทั้งในและนอกบ้าน  การให้ลูกทานอาหารครบ 5 หมู่ หรือวิตามินจากผักผลไม้อาจไม่เพียงพอ ละมุน จึงเป็นผู้ช่วยดูแลลูกด้วย อิมมูชิ วิตามินซีเข้มข้นสกัดจากธรรมชาติ จากละมุน ไวต้า ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ลูกไม่เป็นหวัดง่าย เป็นหวัดหรือไม่สบายจะหายป่วยเร็วขึ้น ด้วยเบต้ากลูแคนจากเห็ดชิตาเกะ จับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้ดีกว่าเบต้ากลูแคนทั่วไป พร้อมรางวัล Best Practice Award จากนอร์เวย์

เนตรนพิศเปิดเผยว่า ละมุนเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีแม้ในช่วงโควิดที่ผ่านมา โดยในปีนี้ละมุนตั้งเป้ายอดขาย 240 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครึ่งปีแรกแล้วถึง 2 ผลิตภัณฑ์  ได้แก่ Lamoon 2in1 Natural Sunscreen ปกป้องแสง ลดอุณหภูมิผิวจากสารสกัดธรรมชาติ และ Lamoon Freshii Nozz น้ำมันหอมระเหยจากหอมแดง เคลียร์ทุกลมหายใจ จากสารสกัดธรรมชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากเหล่าคุณแม่และคู่ค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่วิกฤติโรคระบาดเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เหล่าคุณแม่เปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงช่องทางออนไลน์ของละมุนเองทั้ง Facebook, Instagram, TikTok, Website , E-Commerce ทั้ง Lazada และ Shopee คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 20% ในปีนี้ ด้วยงบการตลาดมากกว่า 20% พร้อมเปิดตัว ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน ตัวแทนคุณแม่ละมุนผู้ใช้จริง ทั้งละมุน ถุงเก็บน้ำนมใช้มาตั้งแต่คนแรกจนถึงน้องดีออน และอิมมูชิ จากละมุน ไวต้าที่ให้น้องเดมีทานเสริมภูมิทุกวันมากว่า 2 ปีแล้ว ลิเดียจึงมั่นใจตอบรับเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับละมุนทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการบอกต่อของเหล่าคุณแม่บนโลกโซเชียลอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่องทางการจัดหน่ายทั้งในและต่างประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ละมุน เบบี้ กางแผนงานชูแคมเปญ “1,000 วันรักแท้แม่ละมุน” ตั้งเป้าคว้ารายได้เพิ่ม 240 ล้านบาท first appeared on Brand Inside.

สยามพิวรรธน์ สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปี คว้า 3 รางวัลใหญ่จาก Retail Asia Awards 2023 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาแลนด์มาร์คระดับโลก

Brand Inside - 23 June 2023 - 18:32

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ คว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติจาก Retail Asia Awards 2023

siam paragon

สยามพารากอน ได้รับรางวัล Mall of the Year สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปีของประเทศไทยที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ รางวัล Marketing Initiative of the year จาก ONESIAM Siam Smiley Campaign แคมเปญสร้างปรากฏการณ์ความสุขในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีและรางวัล Customer Service Initiative of the year จากการให้บริการ Luxury Chat and Shop สะท้อนความเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก (Global Admiration) พร้อมเดินหน้าสู่การสร้างแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกอนาคตได้ทุกมิติ

สรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งที่กลุ่มสยามพิวรรธน์ได้รับ 3 รางวัล Retail Asia Awards 2023 จาก Retail Asia สื่อด้านธุรกิจรีเทลชั้นนำในเอเชีย ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราที่นำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อยกระดับศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ครองใจนักช้อปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก และเป็นการยกระดับให้เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นสุดยอดในหลากหลายวงการ ผนึกกำลังกับแบรนด์ดังทั่วโลกและผู้ประกอบการไทย มาร่วมกัน Co-create สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้กลุ่มสยามพิวรรธน์สามารถได้รับการยอมรับในเวทีโลก รวมทั้งรางวัลในด้านแคมเปญการตลาด และการให้บริการลูกค้ากลุ่มลักซ์ซูรีอีกด้วย

siam paragon

รางวัล Mall of the Year – Thailand สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยสยามพารากอน ประสบความสำเร็จทั้งในด้านแทรฟฟิค และยอดขาย โดยเฉพาะกลุ่มลักซ์ซูรีแบรนด์ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดติดอันดับต้นๆ ของโลก จนทำให้แบรนด์ระดับโลกต่างขยายพื้นที่พร้อมสร้างประสบการณ์ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างต่อเนื่อง สยามพารากอนอยู่ระหว่างการทรานสฟอร์มครั้งสำคัญที่จะปรับโฉมให้เป็นที่สุดของความเลิศล้ำ เป็นแพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (Global Prototype) ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน

siam paragon

รางวัลสุดยอดแคมเปญการตลาด Marketing Initiative of the year จาก ONESIAM Siam Smiley Celebration: Infinite Happiness แคมเปญสร้างมหาปรากฏการณ์แห่งความสุขในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2565 ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกับแบรนด์ระดับโลก Smiley ที่มีสัญลักษณ์รูปรอยยิ้มที่ผู้คน ทั่วโลกรู้จัก และในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของ Smiley โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้ร่วมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์โลกในรูปแบบ Global Collaboration อย่างแท้จริง

siam paragon

รางวัลสุดยอดบริการลูกค้า Customer Service Initiative of the year จากการเปิดให้บริการ Luxury Chat & Shop ของสยามพิวรรธน์ในปี 2564 มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้ขีดจำกัด สะดวกทุกที่ทุกเวลา ลูกค้าสามารถแชตและช้อปสินค้าแบรนด์เนมระดับโลกจากร้านค้าในสยามพารากอนและไอคอนสยาม ผ่านช่องทางออมนิชาแนล ถือเป็นบริการที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นและสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด  ทำให้สยามพิวรรธน์ครองความเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในประเทศไทย และได้ต่อยอดบริการ Luxury Chat & Shop ผ่านแอปพลิเคชัน ONESIAM SuperApp แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงประสบการณ์ในโลกออนไลน์และออฟไลน์ไว้ในที่เดียว

รางวัลเหล่านี้แสดงถึงความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์มที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงศูนย์การค้า แต่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้คนในทุกเจนเนอเรชั่น ที่มีความพร้อมมอบประสบการณ์แปลกใหม่และสร้างแรงบันดาลใจในระดับโลก สร้างชื่อเสียงของบริษัทไทยบนเวทีโลก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post สยามพิวรรธน์ สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปี คว้า 3 รางวัลใหญ่จาก Retail Asia Awards 2023 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาแลนด์มาร์คระดับโลก first appeared on Brand Inside.

ตัวอย่างสภาพแวดล้อม ที่เราเลือกใช้งานได้บน Vision Pro

iPhonemod - 23 June 2023 - 14:41

Vision Pro มีฟีเจอร์ในการเปิดใช้งานสภาพแวดล้อม เพื่อให้ […] More

The post ตัวอย่างสภาพแวดล้อม ที่เราเลือกใช้งานได้บน Vision Pro appeared first on iMoD.

KBTG ตั้งสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม เป็นสาขาที่ 3 ในเอเชีย ผลักดันไปสู่ IT Hub ในภูมิภาค

Brand Inside - 23 June 2023 - 14:00

KBTG ประกาศจัดตั้งบริษัท KBTG Vietnam พร้อมเปิดสำนักงานใหญ่ที่นครโฮจิมินห์ นับเป็นสาขาที่ 3 ในทวีปเอเชีย ตั้งเป้าเสาะหาบุคคลากรคุณภาพสายไอทีที่มีทักษะเทคโนโลยีสำคัญร่วมเสริมทีม เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของ KBank ที่มีกลยุทธ์ขยายตลาดการให้บริการทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค AEC+3 ในรูปแบบธนาคารดิจิทัล และผลักดัน KBTG ให้เป็นที่หนึ่งด้านเทคฯ ในภูมิภาค พร้อมสนับสนุนธนาคารกสิกรไทยสู่เป้าหมายการเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนาม ภายในปี 2570 

KBTG

ทางธนาคารกสิกรไทยมีการขยายออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนมาซักพักแล้ว ทั้งลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย และเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่ล่าสุดบริษัทเทคในเครืออย่าง KBTG จะตามไปตั้งสำนักงานใหญ่ที่นครโฮจิมินห์ด้วย นับเป็นสาขาที่ 3 ในเอเชีย ต่อจากสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพ สำนักงาน KTech ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าเศรษฐกิจใน AEC+3 มีความสำคัญในการเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยประชากรวัยหนุ่มสาว และมีการขยายตัวของดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตต่อไปได้ในระยะข้างหน้า ธนาคารจึงเดินหน้าขยายบริการในภูมิภาคเพื่อเชื่อมต่อโอกาสให้แก่ธุรกิจไทย และส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการในประเทศท้องถิ่น ด้วยการใช้กลยุทธ์การขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในรูปแบบธนาคารดิจิทัล (Regional Digital Expansion) ที่เน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เสริมทัพทีมงาน การลงทุนในสตาร์ทอัพ และกิจการในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจและเทคโนโลยี ส่งมอบบริการบนดิจิทัลสู่ผู้ใช้งานในท้องถิ่นได้อย่างคล่องตัวสูง ซึ่งจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3  พร้อมเป้าหมายการเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนามได้ภายในปี 2570 

ขณะที่ในมุมของ KBTG ก็มีการพัฒนาการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองกลยุทธ์ของธนาคารกสิกรไทยในการขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในรูปแบบธนาคารดิจิทัล พร้อมรับมือกับความท้าทายในสถานการณ์ Talent War ในประเทศไทย KBTG จึงดำเนินการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อสรรหาบุคคลากรที่มีศักยภาพตรงความต้องการ เพื่อมารองรับธุรกิจของธนาคารทั้งในไทยและระดับภูมิภาค

ข้อได้เปรียบในการไปจัดตั้งสำนักงานในเวียดนาม เนื่องจากบุคลากรทางด้านไอทีและมีนักศึกษาสาขา STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นอันดับต้น ๆ ของอาเซียน รวมถึงมีวัฒนธรรมการทำงานที่คล้ายคลึงกันกับประเทศไทย โดยนางวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman ของ KBTG คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนบุคลากรที่ต้องเข้ามาเสริมทีมเพิ่มขึ้น รวมกว่า 500 ตำแหน่งในอีก 3 ปีข้างหน้า และจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับภูมิภาค (Regional Tech Company) ภายในปี 2568 ตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ การที่ KBTG มีฐานทัพและบุคลากรมากฝีมือทั้งในประเทศไทย ประเทศจีน และประเทศเวียดนาม จะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของทั้ง 3 ประเทศ สามารถดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญในแต่ละส่วนมาประกอบกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคนิค รวมถึงทักษะด้านต่างๆ ที่สำคัญ เช่น AI, Blockchain, Supply Chain, Coding Methodology ของ KBTG ให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบให้กับลูกค้าทั้งในไทย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ทั่วภูมิภาค  

นายธนุสศักดิ์ ธัญญสิริ Managing Director บริษัท KBTG Vietnam เผยว่าในปี 2566 มุ่งเป้าไปที่การสรรหาบุคคลากรไอทีกลุ่มแรกจำนวน 200 คน เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับธนาคารกสิกรไทยและธุรกิจต่างประเทศ ร่วมสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam ซึ่งเป็นบริการเรือธง (Flagship Product) ของธนาคารกสิกรไทย มีผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วจำนวนกว่า 600,000 คน และจะเป็นแพลตฟอร์มบริการสำคัญที่ใช้รองรับการขยายฐานลูกค้าของธนาคารในประเทศด้วยเป้าหมายในปี 2566 กว่า 1.3 ล้านคน

นอกจากนี้ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการขยาย K PLUS ไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ส่งเสริมให้ KBTG Vietnam มีพื้นฐานในการส่งมอบซอฟต์แวร์ ด้วยหลักการ 3S คือ รวดเร็ว (Speed) เพิ่มขนาด (Scale) และยั่งยืน (Sustain) โดยมี Software Methodology ระดับโลกและ Tech Capability ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับ KBTG ที่ไทย โดยนำกรณีศึกษาทั่วโลกมาประยุกต์ใช้ อีกทั้งยังจัดตั้งออฟฟิศ KBTG Vietnam สาขากรุงฮานอย เพื่อรองรับพนักงานที่อยู่ต่างเมืองและไม่สะดวกย้ายมาทำงานที่นครโฮจิมินห์ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง Tech Talents มากยิ่งขึ้น 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post KBTG ตั้งสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม เป็นสาขาที่ 3 ในเอเชีย ผลักดันไปสู่ IT Hub ในภูมิภาค first appeared on Brand Inside.

รวมคำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับ Apple Back to School 2566 (2023)

iPhonemod - 23 June 2023 - 11:15

เมื่อ 22 มิถุนายน Apple เปิดตัวเคมเปญ Back to School ใน […] More

The post รวมคำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับ Apple Back to School 2566 (2023) appeared first on iMoD.

Pages