เจาะแคมเปญ เดอะแบก ของ พรูเด็นเชียล กับการใช้โฆษณาชุดเพื่อสื่อสารแบรนด์ให้เคียงข้างเสาหลักทุกคน

Brand Inside - 27 July 2023 - 10:22

โฆษณาชุดยังเป็นอีกทางเลือกในการทำตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ เพราะสามารถสื่อสารข้อมูลได้มาก และผู้บริโภคเข้าใจได้ง่าย ซึ่ง พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เป็นอีกแบรนด์ที่เลือกใช้วิธีนี้เพื่อสื่อสารข้อมูลสำคัญว่าแบรนด์พร้อมยืนเคียงข้างเสาหลักของบ้านทุกคนภายใต้ชื่อแคมเปญ เดอะแบก

จุดเริ่มต้นของแคมเปญนี้มาจากประเทศไทยช่วงนี้มี เดอะแบก อยู่ในทุกครอบครัว และทุกอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้ย่อมมีความกังวล และเครียดกว่าคนกลุ่มอื่น ซึ่งน่าจะดีกว่าที่จะมีใครสักคนมาช่วยรับผิดชอบบางเรื่องได้บ้าง หนึ่งในนั้นคือเรื่องสุขภาพ และความเป็นอยู่ของคนในครอบครัว

แคมเปญ เดอะแบก มีรายละเอียดเชิงลึกอย่างไร และทำไมต้องดึง เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังมาควบคุมการผลิตโฆษณาชุดนี้ บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) อธิบายให้ฟังดังนี้

Prudential

พรูเด็นเชียล กับการขอช่วย เดอะแบก

บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ เดอะแบก หรือเสาหลักของบ้าน กำลังกระจายไปอยู่ในหลายครอบครัว ยิ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้การดำเนินชีวิตของ เดอะแบก ทุกคนยากขึ้น

จากการสำรวจความเห็นของ เดอะแบก พบว่า พวกเขากังวลของเสาหลักของบ้านที่ต้องดูแลครอบครัว 30.17% รองลงมาคือ กลัวใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่ และเงินไม่พร้อม 21.23% ตามด้วยภาระหนี้สิน 15.64% สุดท้ายคือความต้องการที่จะเติบโตในหน้าที่การงาน 12.29%

“ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความกดดันของ เดอะแบก ที่ต้องรับมือกับเรื่องต่าง ๆ ทำให้ พรูเด็นเชียล อยากเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา เหมือนกับที่เราทำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น การจ่ายสินไหม 5 ล้านปอนด์ เพื่อครอบคลุมทหารอังกฤษราว 1 ใน 3 ของจำนวนทหารที่เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 1”

ต่อยอดแคมเปญเดิมสู่ Empowering Life Together

การเข้าไปช่วยเหลือ เดอะแบก ทาง พรูเด็นเชียล ต่อยอดจากแคมเปญเมื่อปี 2022 Made For Every Family ดูแลความสุขให้ทุกความต่าง โดยในปี 2023 ตัว เดอะแบก จะอยู่ภายใต้แคมเปญสื่อสารแบรนด์ ชีวิตมีกัน…ทุกวันดีกว่า Empowering Life Together ที่ต้องการสนับสนุนทุกคนไปสู่จุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิต

ปัจจุบัน พรูเด็นเชียล มีแผนประกันรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเข้าไปช่วย เดอะแบก ให้รู้สึกสบายใจ และไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ ผ่านแผนประกันชีวิตเพื่อความอุ่นใจ, แผนการออม และแผนการลงทุน รวมถึงแผนประกันสุขภาพ ครอบคลุมทุกช่วงอายุ และการใช้ชีวิต

ทั้งหมดถูกเล่าโดย เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

ล่าสุดแคมเปญดังกล่าวถูกเล่าผ่านโฆษณาชุดในรูปแบบหนังสั้นจาก เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่สะท้อนมุมมอง และบทบาทที่สำคัญที่นอกเหนือจากเดอะแบก แต่รวมสมาชิกในครอบครัวที่คอยช่วยดูแลกันและกัน เป็นเสมือนทีมงานเบื้องหลังที่คอยสนับสนุนดูแลผู้ที่เป็นเสาหลักของบ้าน และเป็นพลังชีวิตพลังใจที่ดีให้กับเดอะแบกของครอบครัวมีพลังเดินหน้าต่อไป ในขณะที่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อมีชีวิตที่มีความสุขไปด้วยกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post เจาะแคมเปญ เดอะแบก ของ พรูเด็นเชียล กับการใช้โฆษณาชุดเพื่อสื่อสารแบรนด์ให้เคียงข้างเสาหลักทุกคน first appeared on Brand Inside.

พบเบาะแส “ปุ่ม Action” ของ iPhone 15 Pro ใน iOS 17 Beta 4

iPhonemod - 27 July 2023 - 10:14

iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max มีข่าวลือว่าจะเปลี่ยนป […] More

The post พบเบาะแส “ปุ่ม Action” ของ iPhone 15 Pro ใน iOS 17 Beta 4 appeared first on iMoD.

[ลือ] iPhone 15 Pro จะมาพร้อมปุ่ม Action ที่คล้ายกับ Apple Watch Ultra

MacThai - 27 July 2023 - 10:00

เมื่อแอปเปิลได้ปล่อย iOS 17 รุ่นเบต้าที่ 4 ให้กับนักพัฒนาเมื่อวานนี้ ก็ได้มีข้อมูลล่าสุดออกมาเป็นโค้ดใหม่ว่า iPhone 15 Pro จะเพิ่มฟังก์ชันการทำงานด้วยปุ่ม Action ที่คล้ายกับปุ่มบน Apple Watch Ultra ด้วย

หรือที่มีชื่อเรียกว่า ‘Action Button’ โดยจะมาแทนที่ปุ่ม Ring/Silent แบบเดิมของแอปเปิล เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการตั้งค่า และฟังก์ชันต่าง ๆ ในเครื่องง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องปลดล็อกอุปกรณ์หรือไปที่แอปการตั้งค่า ซึ่งจะมีช่วยเข้าถึง ตามนี้

  • Accessibility: ช่วยให้เข้าถึง VoiceOver, Zoom และ AssistiveTouch ได้
  • Shortcuts: เหมือนกับ Apple Watch Ultra‌ ช่วยให้เรียกใช้ทางลัดที่สร้างเองได้เป็นทางลัดการเข้าแอป เช่น ส่งข้อความ เพลย์ลิสต์เพลง และศูนย์ควบคุม Home Device
  • Silent Mode: สลับเปิดหรือปิดโหมดเงียบได้ ซึ่งจะปิดหรือเปิดเสียงเรียกเข้าและเสียงเตือนก็ได้เช่นกัน
  • Camera: เปิดแอป Camera เพื่อถ่ายรูปหรือวิดีโอด้วยการกดเพียงแค่ปุ่ม Action ครั้งเดียว
  • Flashlight: เปิดหรือปิดไฟฉายที่ด้านหลังอุปกรณ์ได้
  • Focus: เปิดใช้งานแอปแว่นขยายผ่านกล้องของไอโฟน ซูมเข้าที่ข้อความหรือวัตถุขนาดเล็กได้
  • Translate: เปิดแอปแปลภาษา และเริ่มการสนทนา หรือแปลข้อความได้ด้วยการกดปุ่ม Action เพียงครั้งเดียว
  • Voice Memos: เริ่มหรือหยุดการบันทึกเสียงด้วยแอปนี้ได้

จากคุณสมบัติทั้งหมดนี้ แม้แอปเปิลจะยังไม่ได้เปิดตัว iPhone 15 Pro แต่คาดว่าจะมีประกาศเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนตามที่ลือกันมา ซึ่งหากข่าวลือตรงก็นับว่าปุ่ม Action เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าจับตามองมาก เพราะทำให้ iPhone 15 Pro มีความโดดเด่นกว่ารุ่นก่อน

ที่มา – MacRumors

The post [ลือ] iPhone 15 Pro จะมาพร้อมปุ่ม Action ที่คล้ายกับ Apple Watch Ultra appeared first on Macthai.com.

Samsung เปิดตัว Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 สมาร์ทโฟนจอพับ เปิดจอง 26 ก.ค. ขายจริง 11 ส.ค. 66

Brand Inside - 26 July 2023 - 19:41

ซัมซุง เปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชั่นที่ 5 ทั้ง Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 มีบานพับแบบ Flex Hinge ดีกว่าเดิม ใช้หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดและแบตเตอรี่ทรงประสิทธิภาพ เปิดพรีออเดอร์แล้วผ่าน Samsung.com และจำหน่ายทั่วไป 11 ส.ค. 66

samsung

samsung

Galaxy Z Flip5

Galaxy Z Flip5 จะวางจำหน่ายในสี Mint, Graphite, Cream และ Lavender และสีพิเศษ ได้แก่ Gray, Blue, Green, Yellow วางขายเฉพาะที่ samsung.com ตลอดจนอุปกรณ์เสริมต่างๆ มากมาย ทั้งเคสใส, เคส Flap วัสดุหนัง Eco-Leather, เคส Flipsuit และเคสซิลิโคนพร้อมห่วงที่ช่วยให้พกพาได้ง่าย เพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างลุคเฉพาะตัวได้มากขึ้น วางขายในราคา

  • 8+256GB – 39,900 บาท
  • 8+512GB – 45,900 บาท
samsung Galaxy Z Fold5

Galaxy Z Fold5 จะวางจำหน่ายในสี Icy Blue, Phantom Black และ Cream และสีพิเศษ ได้แก่ Gray, Blue วางขายเฉพาะที่ samsung.com พร้อมด้วยเคสหลากหลายแบบที่ให้ทั้งประโยชน์ในการใช้งานและสไตล์ที่ดูดี อาทิเคส S Pen แบบบาง, เคสใส, เคสหนัง Eco-Leather และเคสแบบวางตั้งพร้อมสายคล้อง วางขายในราคา

  • 12+256GB – 59,900 บาท
  • 12+512GB – 65,900 บาท
  • 12+1TB – 75,900 บาท

samsung

โปรโมชั่น สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. – 10 ส.ค. 66 ผ่าน samsung.com, Samsung Experience Store และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ รับสิทธิพิเศษ 4 ต่อทันที ได้แก่

  • ฟรี! อัพเกรดความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท
  • รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 5,000.- เมื่อนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเครื่องเก่ามาแลก
  • ฟรี Samsung Care+ ประกันจอแตก และ อุบัติเหตุ 2 ปี มูลค่าสูงสุด 19,990 บาท (เฉพาะผู้ลงทะเบียนรับโค้ดสิทธิพิเศษล่วงหน้า)
  • ส่วนลด Galaxy Watch6 Series 30% เมื่อซื้อพร้อมกัน

สำหรับ Galaxy Watch6 Series ที่ประกอบด้วย Galaxy Watch6 และ Galaxy Watch6 Classic และยังมี Galaxy Tab S9 Series ประกอบด้วย Galaxy Tab S9, S9+ และ S9 Ultra โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Samsung เปิดตัว Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 สมาร์ทโฟนจอพับ เปิดจอง 26 ก.ค. ขายจริง 11 ส.ค. 66 first appeared on Brand Inside.

True X GSMA พัฒนา API เครือข่ายแบบเปิด หรือ Mobile Network Open APIs ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย 31 รายทั่วโลก

Brand Inside - 26 July 2023 - 19:23

ทรู ร่วมมือกับ สมาคมจีเอสเอ็ม (GSM Association หรือ GSMA) ขึ้นแท่นผู้ให้บริการรายแรกในประเทศไทย ที่เป็นพันธมิตร GSMA Open Gateway พัฒนา API เครือข่ายแบบเปิด หรือ Mobile Network Open APIs ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย 31 รายทั่วโลก พร้อมต่อยอดนวัตกรรมบริการดิจิทัลอีกหลากหลาย ที่จะเป็นโอกาสสร้างรายได้ใหม่ของธุรกิจโทรคมนาคม ปูทางความร่วมมือในการทำงานและร่วมพัฒนาบริการดิจิทัล กับสตาร์ทอัพและนักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันทั่วทุกมุมโลก

true

จูเลียน กอร์แมน หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สมาคมจีเอสเอ็ม กล่าวว่า ความร่วมมือ GSMA Open Gateway กรอบความร่วมมือระดับโลกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริการดิจิทัลและโมบายล์แอปพลิเคชันต่างๆ (Mobile apps) โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก การผสานความร่วมมือของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภูมิภาคเอเชียกับพันธมิตรรายอื่นๆ ทั่วโลก จะยกระดับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมให้สามารถพัฒนาและส่งมอบบริการดิจิทัลใหม่ๆ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงฐานผู้ใช้บริการได้กว้างมากขึ้นทั่วโลก อีกทั้งยังปลดล็อกการสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต จากการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการลงทุนในอนาคต และส่งต่อประโยชน์ใหม่ๆออกไปในวงกว้างอย่างทั่วถึง

true

มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า นวัตกรรม Mobile Network Open APIs เป็นระบบเครือข่ายยุคใหม่ที่จะพลิกมิติอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือสามารถยกระดับเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นำไปสู่โอกาสการสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากการให้บริการโทรคมนาคมในปัจจุบัน

ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างสมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) และ ทรู ในการพัฒนา Mobile Network Open APIs ร่วมกับ 31 ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือระดับโลก จึงเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจและเป็นก้าวที่สำคัญสะท้อนวิสัยทัศน์ของทรู ผู้นำเทเลคอม-เทคคอมปานี (Telecom-Tech Company) ที่จะเป็นมากกว่าผู้ให้บริการเครือข่าย และต้องขอบคุณสมาคมจีเอสเอ็มที่ต้อนรับทรูในฐานะพันธมิตร GSMA Open Gateway รายแรกในประเทศไทย ด้วยความเชื่อมั่นในโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดิจิทัลที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพในการยกระดับความสามารถของเครือข่ายเทียบชั้นระดับสากล ควบคู่กับการสร้างระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) จากการผสานความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เครือข่ายสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการธุรกิจเทค และเหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน   เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลล้ำสมัย และส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

Mobile Network Open APIs จะช่วยให้สตาร์ทอัพและเหล่านักพัฒนาฯทั้งไทยและต่างประเทศ สามารถเชื่อมต่อฟังก์ชัน แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มต่างๆกับเครือข่ายทรู ด้วย API มาตรฐานเดียวกันกับผู้ให้บริการเครือข่ายอื่นๆ ทั่วโลก  เอื้อต่อการเติบโตขยายธุรกิจในประเทศต่างๆได้อย่างรวดเร็ว  อีกทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพองค์กรธุรกิจให้สามารถพัฒนาแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และตรงใจมากยิ่งขึ้นด้วย

true

รู้จัก API เครือข่ายแบบเปิด  โอกาสสร้างรายได้รูปแบบใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

API เครือข่ายแบบเปิด (Mobile Network Open APIs) ภายใต้กรอบความร่วมมือ GSMA Open Gateway  เกิดจากพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือชั้นนำทั่วโลก ที่เปิดให้นักพัฒนาฯ หรือองค์กรต่างๆ เข้าถึงและโต้ตอบกับฟังก์ชันและข้อมูลของเครือข่ายผู้ให้บริการได้ด้วย APIs เดียวกัน  สามารถเชื่อมต่อและรองรับนวัตกรรมบริการดิจิทัลที่หลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก จึงเป็นโอกาสสร้างรายได้ใหม่สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม อีกทั้งยังสร้างประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมในยุคดิจิทัล

• ส่งเสริมนักพัฒนาฯ  และอำนวยความสะดวกในการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆ  ที่สามารถทำงานได้ราบรื่นบนเครือข่ายมือถือต่างๆ ทั่วโลก ด้วย Open APIs ที่เป็นสากล  และช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้แอปพลิเคชันได้ดียิ่งขึ้น

• สนับสนุนนวัตกรรมและการเติบโตของระบบนิเวศดิจิทัล จากการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือและเหล่านักพัฒนาหรือองค์กรธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมบริการดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และยังเป็นโอกาสของผู้ให้บริการเครือข่ายในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากข้อมูลเชิงลึก

8 Network APIs ภายใต้กรอบความร่วมมือ GSMA Open Gateway Network Open APIs ที่มีการคิดค้นและพัฒนาภายใต้ความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรของ GSMA มีการเริ่มใช้งานแล้ว 8 Network APIs ได้แก่ SIM Swap, Quality on Demand, Device Status, Number Verification, Simply Edge Discovery, One Time Password SMS, Carrier Billing – Check Out และ Device Location โดยทรูจะนำ Network Open APIs ระดับโลกเหล่านี้มาให้บริการในประเทศไทย เพื่อให้องค์กรธุรกิจและนักพัฒนาฯสามารถเชื่อมต่อและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของทรูได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ ยังจะร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำทั่วโลก ในการพัฒนา Network Open APIs ใหม่ๆ เพื่อร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของโลกให้สามารถตอบสนองต่อการใช้งานของลูกค้าและสร้างอนาคตของธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post True X GSMA พัฒนา API เครือข่ายแบบเปิด หรือ Mobile Network Open APIs ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย 31 รายทั่วโลก first appeared on Brand Inside.

Spotify ขึ้นราคาสมาชิกครั้งแรก แพ็กเกจละ 10 บาท เริ่มใช้งานแล้ว ตัดรอบบิลหน้า

Brand Inside - 26 July 2023 - 19:14

สตรีมมิ่งเจ้าดัง Spotify ขึ้นราคาสมาชิกเป็นครั้งแรก จากที่เพิ่มครั้งล่าสุดเมื่อปี 2011 ดังนี้

  • Duo ใช้งานได้ 2 บัญชี จาก 169 บาท/เดือน เป็น 189 บาท/เดือน เพิ่มขึ้น 20 บาท
  • Family ใช้งานได้ 6 บัญชี จาก 209 บาท/เดือน เป็น 219 บาท/เดือน เพิ่มขึ้น 10 บาท
  • Individual ใช้งาน 1 บัญชี ปรับเพิ่มจาก 129-139 บาท/เดือน (แล้วแต่เงื่อนไข) เป็น 139 บาท/เดือน
  • Mini ใช้งาน 1 บัญชีแบบจ่ายต่อวัน คงราคาเดิมที่ 7 บาท/วัน
  • นักเรียนนักศึกษาราคาเดิม

โดยทาง Spotify ให้เหตุผลว่า การขึ้นราคาเพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับบริษัท และเพิ่มคุณค่าให้กับงานของศิลปิน พร้อมเน้นย้ำว่า การขึ้นราคาครั้งนี้จะพัฒนาการบริการด้วย 

Spotify กล่าวว่ามีผู้ใช้ที่ใช้งานเพิ่มขึ้น 36 ล้านคนต่อเดือน ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน รวมเป็น 551 ล้านคน โดยเป็นสมาชิก(ที่เสียเงิน)กว่า 220 ล้านคน Daniel Ek หัวหน้าฝั่งบริหารของ Spotify บอกว่านี่เป็นช่วงที่แข็งแกร่งมาก ๆ แม้หุ้นจะตกไปกว่า 11% ก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมีการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีก่อน เช่น การยกเลิกสัญญากับบุคคลชื่อดัง การลดจำนวนพนักงานลง เป็นต้น การขึ้นราคาครั้งนี้ จะมีการยกเว้นไปก่อน 1 เดือน แล้วเก็บในราคาที่เพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป ส่วนการใช้งานฟรีแบบมีโฆษณา จะยังคงมีต่อไป

อ้างอิง

https://www.bbc.com/news/business-66297120 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Spotify ขึ้นราคาสมาชิกครั้งแรก แพ็กเกจละ 10 บาท เริ่มใช้งานแล้ว ตัดรอบบิลหน้า first appeared on Brand Inside.

ทำไมกองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลายในอีก 30 ปี? ​กับหนึ่งมรดกการแต่งตั้งของ คสช.

Brand Inside - 26 July 2023 - 18:42

ช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจเห็นข่าวความกังวลของประชาชนหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย (สส.) หลายพรรคตั้งข้อสงสัย เรื่องกองทุนประกันสังคม โดยเฉพาะความ ‘เสี่ยงการล้มละลายในอนาคต’ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเมื่อย้อนดูในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีหลายหน่วยงานออกมาตั้งคำถามนี้กันมากมาย อย่างปี 2557 ก็เห็นข่าวว่า TDRI มองถึงปัญหานี้เช่นกัน

วันนี้ Brandinside อยากชวนคุณมาอ่านภาพรวม ความเป็นไปได้ ข้อสงสัย และอีกหลากหลายคำถามที่กองทุนประกันสังคมต้องเริ่มเปลี่ยนแปลง เพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตนอย่างแท้จริง 

ประกันสังคม

สถานการณ์ปัจจุบันของกองทุนประกันสังคมเป็นอย่างไรหลายคนอาจสงสัยแล้วว่า หากเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นกับกองทุนประกันสังคมจะกระทบกับประชาชนมากแค่ไหน โดยข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ระบุว่า ณ มิ.ย. 2023 นี้มีผู้ประกันตนรวม 24.51 ล้านคน แบ่งเป็น 

  • ผู้ประกันตน ม.33 อยู่ที่ 11.72 ล้านคน 
  • ผู้ประกันตน ม.39 อยู่ที่ 1.85 ล้านคน 
  • ผู้ประกันตน ม.40 อยู่ที่ 10.93 ล้านคน
ภาพจาก สปส.

ขณะที่ บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดผลการดำเนินงานการบริหารการลงทุนกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน ณ 31 พ.ค. 2566 ว่า 

  • กองทุนประกันสังคม มีเงินลงทุนสะสมทั้งสิ้น 2.31 ล้านล้านบาท โดยลงทุนหลักทรัพย์ที่มีความมั่งคงสูง 1.74 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 75.22% ซึ่งผลตอบแทน 5 เดือนแรกอยู่ที่ 23,191 ล้านบาท 
  • กองทุนเงินทดแทน มีเงินลงทุนสะสม 76,118 ล้านบาท โดยลงทุนหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง 61,886 ล้านบาท คิดเป็น 81.30% ทั้งนี้ผลตอบแทน 5 เดือนแรกอยู่ที่ 851 ล้านบาท
    (รวมทั้ง 2 กองทุนมีผลตอบแทนที่ 24,042 ล้านบาท) 


3 ประเด็นที่สังคมสงสัยต่อกองทุน ทำไมเสี่ยงล้มละลาย – ทำไมต้องเพิ่มเงินสบทบฯ – เงินลงทุนในกองฯ ล้านล้านนี้ใครมีสิทธิ์ตัดสินใจ?

ความกังวลว่า ‘กองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลาย’ ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยพบว่าเมื่อปี 2014 ทาง มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เคยตั้งสมมติฐานไว้ว่า กองทุนประกันสังคมอาจขาดสภาพคล่องหรือล้มละลายภายใน 30 ปี (ราวปี 2044 / 2587) หากปล่อยให้สัดส่วนการจ่ายเงินบำนาญชราภาพมากกว่าการเก็บเงินสมทบเข้ากองทุน และด้วยพอร์ตการลงทุนของกองทุนฯ ที่เน้นสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ (เช่น พันธบัตรรัฐบาล ฯลฯ) ในสัดส่วน 60% จึงเป็นไปได้ยากที่จะทำกำไรได้ถึง 10% หากเป็นเช่นนี้ ในอีก 25 ปีข้างหน้าเงินในกองทุนจะลดลงอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี กองทุนจะติดลบและล้มลงในที่สุด

ทั้งนี้ปี 2557 เป็นปีที่กองทุนประกันสังคมครบกำหนด และเริ่มต้นจ่ายเงินบำนาญกรณีชราภาพให้ผู้ประกันตน (แรงงานที่จ่ายเงินสมทบเข้ามาในกองทุน)

ขณะเดียวกัน องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) เคยประเมินไว้ว่า หากกองทุนชราภาพไม่มีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของกองทุน จะมีความเป็นไปได้สูงที่ภายในปี 2597 เงินของกองทุนชราภาพจะหมดลง  เนื่องจากผู้ประกันตนรุ่นหลังมีอายุขัยยืนยาวขึ้น 

ประกันสังคม

แน่นอนว่า หากคิดแบบเร็วๆ ทางแก้ไขเบื้องต้น คือ เงินในกองทุนต้องเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะจากการลงทุน การเพิ่มจำนวนผู้ประกันตน หรือ การเพิ่มเงินสมทบในแต่ละเดือน…

จนกระทั่งช่วงต้นปี 2566 นี้เอง กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กำลังพิจารณาที่จะปรับขึ้นอัตราเงินสมทบ โดยได้นำร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณ เงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. … มาเปิดรับฟังความคิดเห็นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าอาจจะเริ่มใช้จริงตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กำหนดเพดานเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท ผู้ประกันตน (ม. 33 จะส่งเงินสมทบเดือนละ 750 บาท โดยการปรับขึ้นจะแบ่งเป็น 3 ระยะ (ปรับเงินสมทบและวงเงินสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วย) ได้แก่

  • ม.ค. ปี 2567–2569 กำหนดเพดานเงินเดือนที่ 17,500 บาท ส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาท/เดือน
  • ม.ค. ปี 2570–2572 กำหนดเพดานเงินเดือนที่ 20,000 บาท ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาท/เดือน
  • ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป ม.ค. ปี 2567–2569 กำหนดเพดานเงินเดือนที่ 23,000 บาท ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาท/เดือน
ประกันสังคมภาพจาก สปส.

นอกจากการปรับเพิ่มเงินสมทบแล้ว ช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ในสภาผู้แทนราษฎร ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับ เกี่ยวกับความโปร่งใส และความมั่นคงของกองทุนประกันสังคม เช่น 

  • ความกังวลต่อความมั่นคงของกองทุนประกันสังคม ว่าอาจล้มละลายหากไม่ปรับแผนการดำเนินงาน เนื่องจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ (ในระยะสั้นเกิดจากผลกระทบด้าน COVID-19 ที่ลดเงินสมทบและมีรายจ่ายค่อนข้างสูง)
  • ความโปร่งใสในการบริหารพอร์ตการลงทุน 
  • การเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคมที่เหมือนถูกแช่แข็งมาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก 8 พ.ย. 2558 ที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการประกันสังคมชุดใหม่ (ถึงปัจจุบันราว 8 ปีแล้ว)
  • ความเสี่ยงหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญ ที่เกิดมาตลอด และกองทุนประกันสังคมไม่สามารถเรียกเก็บจากนายจ้างได้ (นาทีที่ 2.20.00 เป็นต้นไป)
  • ข้อสงสัยถึงความสามารถของคณะกรรมการในการบริหารจัดการพอร์ตลงทุนของประกันสังคมที่มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท

นอกจากปัญหาเชิงโครงสร้างของกองทุนประกันสังคมเหล่านี้แล้ว  ผู้ประกันตนต่างต้องเผชิญกับความลำบากในการเข้าถึงบริการของประกันสังคม เช่น การรอคิวเพื่อพบแพทย์ การปรับลดขอบเขตในการรักษา (ปรับลดยา- ความครอบคุลมในการรักษาโรคต่างๆ น้อยลง)


คำชี้แจงจากกองทุนประกันสังคม

ด้าน เธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในด้านการลงทุน ผลตอบแทนการลงทุนกองทุนประกันสังคมในปี 2564 นั้นอยู่ที่ 4.91% คิดเป็นจำนวนเงิน 79,438 ล้านบาท หากรวมรายได้จากการเก็บเงินสมทบและรายได้อื่นๆ กองทุนมีรายได้รวมอยู่ที่ 2.31 แสนล้านบาท

ขณะเดียวกัน ช่วงที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 มีการจ่ายประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตน (กรณีเจ็บป่วย 1.04 แสนล้านบาท, กรณีว่างงาน 26,725 ล้านบาท ) ลดเงินสมทบฯ 3 ครั้ง (64,246 ล้านบาท) และการช่วยเหลืออื่นๆ ทำให้มีรายจ่ายมากกว่ารายรับเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ปัจจุบันกองทุนประกันสังคมมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะยาว ณ 30 มิ.ย. 2566 มีเงินลงทุนสะสมอยู่ที่ 2.34 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.24 % เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปีก่อน (ณ 31 ธ.ค. 2565 มีเงินลงทุนสะสมอยู่ที่ 2.27 ล้านล้านบาท) และจากการประมาณการสถานะกองทุนประกันสังคม ในปี 2570 คาดว่าจะมีเงินลงทุนสะสมคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านล้านบาท

ประกันสังคมภาพจาก สปส.

นอกจากนี้ยังยืนยันว่า กองทุนประกันสังคมเป็นกองทุนที่มีเสถียรภาพ มั่นคง สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องผู้ประกันตนทุกท่านมั่นใจได้ว่า ในอนาคตกองทุนไม่มีทางล้มละลายและจะสามารถจ่ายสิทธิประโยชน์ในระยะยาวให้กับผู้ประกันตนในทุกกรณีได้อย่างแน่นอน (ในระหว่างหารประชุมสภาฯ ผู้ชี้แจงจากกองทุนประกันสังคมระบุว่า จะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการฯ ภายในปีนี้)

อย่างไรก็ตามในระยะยาวประกันสังคมยังต้องเผชิญความท้าทายอีกหลายด้าน 

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกองทุนประกันสังคม

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาปัจจัยที่เร่งให้สถานะของกองทุนประกันสังคมน่าเป็นห่วงมากขึ้น คือ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่งผลต่อตัวผู้ประกันตนโดยตรง รวมถึงส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินที่ทำให้การผลตอบแทนของประกันสังคมยากยิ่งขึ้น

แต่หากมองถึงภาพรวมและพื้นฐานแล้วจะพบว่า ประกันสังคมต้องเผชิญกับ ปัจจัยใหญ่ๆ ที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาทั้งการหาทางออกที่เหมาะสม และแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างได้แก่

  • ปัญหาสังคมสูงวัย เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ Aging Society ที่มีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในสัดส่วนที่สูง และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นต่อเนื่อง ย่อมส่งผลจำนวนแรงงานในระบบน้อยลง และส่งผลต่อเนื่องไปยังให้จำนวนเงินสมทบของผู้ประกันตนที่จะเข้ามาในกองทุน อาจลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางจุดอาจทำให้ รายจ่ายของกองทุนฯ สูงกว่ารายรับ 
  • การสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่ 60-70% อยู่ในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ ฯลฯ จึงส่งผลให้ผลตอบแทนอาจไม่สามารถสูงกว่า แนวโน้มรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น (ในกรณีที่เงินสมทบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ)

แต่ปัญหาที่สำคัญและถูกตั้งคำถามมากที่สุดในช่วงเร็วๆ นี้ คือ ความโปร่งใสของการทำงานคณะกรรมการกองทุนประกันสังคม ซึ่งยังไม่มีคำตอบและความชัดเจนว่า ผู้ประกันตนจะได้เลือกตั้งคณะกรรมฯ นี้เมื่อไร

ในมุมมองของนักวิชาการกองทุนประกันสังคมควรรับมือปัญหาต่างๆ อย่างไร?

ทั้งนี้มีข้อเสนอแนะจาก สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนประกันสังคม และกองทุนชราภาพของไทย ได้แก่ 

  1. การออกแบบระบบการจัดการรายได้ยามขราภาพของภาครัฐต้องคิดอย่างบูรณาการ และมองรายได้รวมจากทุกระบบ รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบคอบ
  2. ไทยต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมในเรื่องนโยบายระบบรายได้ผู้สูงอายุ เช่น การตั้งคณะกรรมการเพื่อวิเคราะห์ภาพใหญ่ของระบบบำเหน็จบำนาญ
  3. ทุกระบบรายได้ผู้สูงอายุของประเทศไทย ไม่ได้มีแนวคิดเกี่ยวกับมูลค่าของเงินที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทน เพดานเงินสมทบ และเงินร่วมสมทบ การปรับตัวแปรเหล่านี้ให้เป็นมูลค่าจริง (indexation) เป็นสิ่งจำเป็น และเป็นคุณลักษณะของระบบรายได้ยามชราภาพทั่วโลก
  4. ควรจะมีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์อีกหลายข้อของระบบประกันสังคมภาคบังคับเพื่อให้ตัวระบบมีความยั่งยืนทางการคลังเงินบำนาญเพียงพอ
  5. การออกแบบระบบรายได้ยามชราภาพจำเป็นต้องเข้าใจตลาดแรงงานของประเทศนั้น ๆ
  6. ควรมีการปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขึ้นแต่อาจจะมีการพิจารณาว่า ระดับที่เหมาะสมควรเป็นเท่าใด ทั้งนี้ เพื่อช่วยครัวเรือนสูงวัยที่ยากจนในรุ่นปัจจุบัน แต่สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุในอนาคต ระบบประกันสังคมและการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุควรเชื่อมโยงกัน เพื่อกลั่นกรองเงินช่วยเหลือให้ไปสู่เฉพาะผู้ที่ยังได้รับบำนาญไม่เพียงพอ 

สุดท้ายนี้ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายรอบด้านและพัฒนาการของกองทุนประกันสังคมควรให้ความสำคัญกับความโปร่งใส และการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงควรพัฒนาการบริการในทุกด้านให้ครอบคลุม และคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ประกันตนอยู่เสมอ

ที่มา สำนักงานประกันสังคม, ไตรมาสที่ 1 ปี 2023, ธนาคารแห่งประเทศไทย (1), (2)

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ทำไมกองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลายในอีก 30 ปี? ​กับหนึ่งมรดกการแต่งตั้งของ คสช. first appeared on Brand Inside.

ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อแทนคุณ” วงเงิน 20,000 ล้านบาท ให้ทายาทกู้ปิดหนี้จากรุ่นใหญ่ แก้ปัญหาผู้กู้สูงวัย

Brand Inside - 26 July 2023 - 18:33

วันนี้ (25 ก.ค.) มีการแถลงข่าวเพื่อหามาตรการแก้หนี้ครัวเรือนระหว่างสมาคมสถาบันการเงินของรัฐและสมาคมธนาคารไทย ล่าสุดด้าน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นอกจากจะมีนโยบายการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนผ่านการให้ความรู้ทางการเงิน และเพิ่มแนวทางการแก้หนี้แล้ว ยังมีโครงการ ‘สินเชื่อแทนคุณ” เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกหนี้อีกด้วย 

ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ด้านปัญหา Aging ของลูกค้า (ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) ธ.ก.ส. ซึ่งปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้ราว 35% ของลูกค้าทั้งหมด จึงได้จัดทำ โครงการสินเชื่อแทนคุณ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท โดยให้ลูกค้าเกษตรกรที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่มีหนี้และมีความประสงค์จะโอนทรัพย์สินและหนี้สินให้กับทายาท โดย ธ.ก.ส. จะจ่ายสินเชื่อให้ทายาทที่มารับช่วงประกอบอาชีพ เพื่อปิดชำระหนี้เดิมของผู้สูงอายุ แบ่งเป็น

  1. สัญญาต้นเงิน (รวมต้นเงินเดิม) กำหนดชำระคืนภายใน 15 ปี พิเศษไม่เกิน 20 ปี มีอัตราดอกเบี้ยดังนี้ (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.975%) 
  • อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 5 เท่ากับ MRR 
  • ปีที่ 6 – 10 เท่ากับ MRR-1 
  • ปีที่ 11 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR-2 
  1. สัญญาต้นเงิน (รวมดอกเบี้ยเดิม) กำหนดชำระคืนภายใน 15 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0%

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ตั้งเป้าทายาทเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 42,000 คน ขณะที่โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอื่นๆ ยังสอดคล้องกับนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยแบ่งกลุ่มลูกหนี้ตามศักยภาพเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มลูกหนี้ปกติ กลุ่มลูกหนี้ Hybrid และกลุ่มลูกหนี้ NPL 

โดย ธ.ก.ส. มีการจัดทำเครื่องมือหรือวิธีการแก้ไขหนี้ตามปัญหาที่แท้จริงของลูกหนี้เฉพาะกลุ่ม การปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงการวางแนวทางป้องกันไม่ให้หนี้ดีกลายเป็นหนี้เสียผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น

  • โครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ยในอัตรา 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง วงเงินดอกเบี้ยที่จ่ายคืนไปแล้ว 2,840 ล้านบาท มีลูกค้าได้รับประโยชน์ 2.58 ล้านราย
  • แนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีภาระหนัก ผ่านโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบยั่งยืน

ทั้งนี้ การดำเนินงานตามแนวทางและมาตรการต่าง ๆ ดังกล่าวช่วยแก้ปัญหาหนี้ NPL ภาคการเกษตร ลดลงจาก 14.6% ไปอยู่ที่ 7.68% ณ 31 มี.ค. 2023

นอกจากนี้ ส่วนของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยทั้งระบบ ตั้งแต่งวด เม.ย. 2020 ถึงงวด มี.ค. 2021 เป็นระยะเวลา 1 ปี มีผู้เข้าร่วมโครงการ 3 ล้านราย ต้นเงิน 938,466 ล้านบาท โครงการพักชำระหนี้โควิดภาคสมัครใจ และการจ่ายสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น วงเงินรายละ ไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งมีผู้ได้รับสินเชื่อไปแล้วทั้งสิ้น 913,548 ราย วงเงิน 9,086 บาท โดยในปัจจุบันยังมีหนี้คงค้างในกลุ่มดังกล่าว จำนวน 336,486 ราย จำนวนเงินคงค้าง 2,193 ล้านบาท

​ที่มา – ธ.ก.ส.

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อแทนคุณ” วงเงิน 20,000 ล้านบาท ให้ทายาทกู้ปิดหนี้จากรุ่นใหญ่ แก้ปัญหาผู้กู้สูงวัย first appeared on Brand Inside.

จับตา Mitsubishi หลังส่งกระบะ Triton โฉมใหม่ เริ่ม 6.99 แสนบาท กับเป้าแชร์ตัวเลขสองหลักในไทย

Brand Inside - 26 July 2023 - 16:50

ตลาดกระบะระอุอีก Mitsubishi Motors ส่ง All-new Triton รถกระบะโฉมใหม่ รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อเริ่ม 6.99 แสนบาท รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ เริ่ม 1.016 ล้านบาท หวังกินแชร์ตลาดกระบะในไทยเป็นตัวเลข 2 หลัก อาจขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตลาด

Triton

Mitsubishi Motors เร่งทำตลาด Triton โฉมใหม่

ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า Triton โฉมใหม่ถือเป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมดในรอบ 9 ปี ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จหลังจากเปิดตัวรถกระบะครั้งแรกในปี 1978 จำหน่ายไปทั้งหมด 5.6 ล้านคัน ใน 150 ทั่วโลก ผ่านกระบะทั้งหมด 5 เจนเนอเรชัน

ขณะเดียวกันการเปิดตัว Triton โฉมใหม่ครั้งนี้ ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตหลักเช่นเดิม โดยบริษัทตั้งเป้าผลิตกว่า 2 แสนคัน เพื่อจำหน่ายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และถูกวางเป็นรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกรุ่นแรกของบริษัท ผ่านการมีส่วนแบ่งยอดขายกว่า 20% จากยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของบริษัท

ทั้งนี้ Triton โฉมใหม่จะเริ่มทำตลาดในประเทศไทยก่อน เบื้องต้นมี 3 รุ่นย่อยคือ

  • รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 699,000 บาท
  • รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 820,000 บาท
  • รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,016,000 บาท

การเปิดตัวครั้งนี้มีผู้บริโภคชาวไทยแสดงความสนใจกว่า 10,000 ราย ทำให้บริษัทตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งในตลาดรถกระบะเป็นตัวเลขมากกว่า 2 หลักภายในปี 2024 และนอกจากนี้จะมีรุ่นย่อยอื่น ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมเพื่อเสริมความเป็นไปได้ของเป้าหมายดังกล่าว

“ตอนนี้ขอรุกตลาดซิงเกิล กับดับเบิ้ลแค็บก่อน และภายในปีงบประมาณนี้ (สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2024) จะมีการจำหน่ายรุ่น เมก้าแค็บ (กระบะตอนครึ่ง) เพิ่มเติม เพื่อช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายมีส่วนแบ่งในตลาดรถกระบะเป็นตัวเลข 2 หลักให้ได้”

Mitsubishi Motors

ทั้งนี้การผลิตรถกระบะ Triton โฉมใหม่ในประเทศไทยจะทำเพื่อส่งออกกว่า 80% และที่เหลือเป็นการจำหน่ายในประเทศไทย โดยการผลิตทั้งหมดใช้วิศวกร และการออกแบบโดยทีมงานของ Mitsubishi Motors ทั้งหมด ไม่มีการช่วยเหลือจากกลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan และไม่มีแผนแบ่งปันการออกแบบให้พันธมิตรเช่นกัน

นอกจากนี้ตลาดอาเซียนยังถือเป็นพื้นที่สำคัญของ Mitsubishi เพราะคิดเป็นสัดส่วนยอดขายกว่า 30% จากยอดขายทั้งหมดทั่วโลก ทำให้หลังจากนี้เตรียมเปิดตัวรถยนต์ Compact SUV และ Xpander เครื่องยนต์ไฮบริดอย่างเร็วที่สุดในปี 2024 เพื่อคงความแข็งแกร่งในตลาดนี้ไว้ให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากอ้างอิงข้อมูลจาก Toyota ทาง Mitsubishi Motors มีส่วนแบ่งตลาดรถกระบะในปี 2022 ที่ 5.6% ผ่านการจำหน่ายได้ 21,573 คัน ตามหลัง Ford ที่มีส่วนแบ่ง 8.7% ผ่านการจำหน่ายได้ 33,817 คัน ส่วนผู้นำในตลาดนี้ในปี 2022 คือ Isuzu จำหน่ายได้ 175,425 คัน รองมาเป็น Toyota 148,101 คัน

อ้างอิง // Mitsubishi Motors

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post จับตา Mitsubishi หลังส่งกระบะ Triton โฉมใหม่ เริ่ม 6.99 แสนบาท กับเป้าแชร์ตัวเลขสองหลักในไทย first appeared on Brand Inside.

แอป Remini เป็นบาร์บี้ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ AI Filters

iPhonemod - 26 July 2023 - 16:47

ใครที่ชอบบาร์บี้ แล้วอยากจะเป็นบาร์บี้นั้น ทีมงานจะมาแน […] More

The post แอป Remini เป็นบาร์บี้ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ AI Filters appeared first on iMoD.

Unilever เจ้าของไอศกรีม Wall’s เผย อากาศร้อนในยุโรปไม่ได้ทำให้ยอดขายไอศกรีมดีขึ้น

Brand Inside - 26 July 2023 - 14:38

Unilever เบอร์ต้นในตลาดไอศกรีมโลก ชี้วิกฤติคลื่นความร้อนในพื้นที่ยุโรปไม่ส่งผลให้ยอดขายไอศกรีมเติบโต เหตุผู้บริโภคหันไปบริโภคเครื่องดื่มเย็นมากกว่า และถึงรายได้ครึ่งแรกปี 2023 จะเติบโต แต่มากจากการปรับขึ้นราคาของสินค้า ผ่านวิกฤติเงินเฟ้อ และวัตถุดิบขึ้นราคาจากสงครามรัสเซียยูเครน

Wall's

Unilever ชี้ไอศกรีมไม่ได้โตตามคลื่นความร้อน

Graeme Pitkethly ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน Unilever แจ้งว่า หลายฝ่ายอาจมองเรื่องคลื่นความร้อนในกลุ่มประเทศยุโรปจะส่งผลดีต่อยอดขายไอศกรีมของบริษัท แต่จริง ๆ แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่ออากาศร้อนอย่างหนัก ผู้บริโภคจะเลือกซื้อเครื่องดื่มเย็น ๆ มากกว่าไอศกรีม

“อัตราการเลือกซื้อไอศกรีมเพื่อไปรับประทานที่บ้านหดตัวอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ผ่านการมีตัวแปรเรื่องเงินเฟ้อ และการคุมค่าใช้จ่ายของลูกค้า นอกจากเรื่องการเลือกดื่มเครื่องดื่มเย็น” โดยในครึ่งแรกของปี 2023 บริษัทมียอดขายไอศกรีมเพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อน แต่มาจากการขึ้นราคาเป็นหลัก เพราะจำนวนนั้นปรับตัวลดลง

ยอดขายไอศกรีมจากช่องทางเพื่อรับประทานนอกบ้าน เช่น ร้านอาหาร และงานจัดเลี้ยงต่าง ๆ เริ่มเติบโตขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย. และ พ.ค. 2023 เพราะอากาศเย็นเริ่มหายไป และอบอุ่นขึ้นชัดเจนในเดือน มิ.ย. 2023 แต่ด้วยอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือน ก.ค. 2023 ทำให้พวกเขาไม่เลือกรับประทานไอศกรีม และหันไปดื่มน้ำเย็นแทน

Wall's

หากเจาะไปที่ยอดขายธุรกิจไอศกรีมในครึ่งแรกปี 2023 ของ Unilever จะพบว่าภาพรวมยอดขายเติบโต 5.7% โดยมีการปรับขึ้นราคาสินค้าราว 11.5% แต่ในแง่จำนวนชิ้นสินค้าที่ขายออกไปกลับลดลง 5.2 โดยยอดขายไอศกรีมเพื่อรับประทานที่บ้านเติบโตเพียงอัตราตัวเลข 1 หลัก เนื่องจากผู้บริโภคควบคุมค่าใช้จ่ายผ่านภาวะเงินเฟ้อ

Hein Schumacher ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Unilever แจ้งว่า สงครามยูเครนรัสเซียที่ส่งผลกับต้นทุนข้าวสาลี และความร้อนในยุโรปใต้ จะส่งผลต่อภาพรวมสินค้าเกษตรในตลาดโลก และทำให้ต้นทุนอาหารนั้นสูงขึ้น ส่วนปัจจุบัน Unilever มีส่วนแบ่ง 5 อันดับแรกของตลาดไอศกรีมโลก ผ่านการถือแบรนด์ Wall’s และ Ben & Jerry’s

อ้างอิง // CNN, Unilever

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Unilever เจ้าของไอศกรีม Wall’s เผย อากาศร้อนในยุโรปไม่ได้ทำให้ยอดขายไอศกรีมดีขึ้น first appeared on Brand Inside.

TikTok เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Add Yours !

iPhonemod - 26 July 2023 - 13:28

ในตอนนี้ TikTok ได้เพิ่มฟีเจอร์เข้ามาก็คือ Add Yours ซึ […] More

The post TikTok เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Add Yours ! appeared first on iMoD.

Pages