คดีฟ้องร้องระหว่างออราเคิลและกูเกิลที่ออราเคิลฟ้องกูเกิลว่าละเมิดสิทธิ์ API ของจาวามาถึงศาลชั้นต้นรอบที่สอง และรอบนี้กูเกิลชนะอีกครั้งเมื่อคณะลูกขุนตัดสินว่าการใช้ API จาวาเป็นการใช้งานโดยธรรม (fair use)
คดีนี้จบรอบแรกไปตั้งแต่ปี 2012 เมื่อผู้พิพากษา William Alsup พิพากษาว่า API ไม่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ ทำให้คดีจบในศาลชั้นต้นไปโดยกูเกิลชนะ แต่ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสินโดยระบุว่า API มีลิขสิทธิ์ ทำให้คดีต้องกลับมาที่ศาลชั้นต้นอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าหาก API มีลิขสิทธิ์แล้ว การใช้งานแบบที่กูเกิลใช้นั้นเป็นการใช้งานโดยธรรมหรือไม่
คณะลูกขุนทั้งสิบคนระบุว่าการใช้งานของกูเกิลเป็นการใช้งานโดยธรรม (ลูกขุนชุดแรกในคดีนี้เสียงแตกในประเด็นนี้)
Larry Ellison ประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ Oracle ออกมาเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับ Steve Jobs ในช่วงที่ Jobs มาขอคำปรึกษาถึงเรื่องการฟื้นฟูกิจการ Apple โดยเป็นการพูดต่อหน้าบัณฑิตที่จบใหม่ของมหาวิทยาลัย University of Southern California โดยระบุว่าเขาคุยเรื่องนี้กับ Jobs ระหว่างการปีนเขาที่อุทยาน Castle Rock มลรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1995
Oracle ออกไล่ซื้อกิจการอีกแล้ว รอบนี้เหมาซื้อ 2 บริษัทในรอบ 3 วัน รวมเป็นข่าวเดียวเลยนะครับ
บริษัทแรกคือ Textura บริการคลาวด์สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง ตัวซอฟต์แวร์ให้บริการด้านการจัดการโครงการสำหรับผู้รับเหมา ปัจจุบัน Textura มีลูกค้ากว่า 85,000 ราย บริหารโครงการก่อสร้าง 6,000 โครงการต่อเดือน การซื้อกิจการครั้งนี้มีมูลค่า 663 ล้านดอลลาร์ เป้าหมายก็ชัดเจนว่า Oracle ต้องการชิงตลาดคลาวด์เจาะเป็นรายอุตสาหกรรม (vertical) - ZDNet
ยุคนี้ภาคธุรกิจทุกระดับทุกอุตสาหกรรม กำลังตื่นเต้น (และในอีกทางคือหวาดกลัว) กับกระแสการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีดิจิทัล ทุกคนรู้ว่านี่คือเรื่องสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกคนมีความรู้ว่าต้องทำอย่างไร
ผมมีโอกาสสัมภาษณ์คุณ Chin Ying Loong ผู้บริหารระดับสูงของ Oracle ภูมิภาคอาเซียน (ดูแล Oracle Fusion Middleware) ซึ่งมาเล่าประสบการณ์ของ Oracle ที่มีลูกค้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ว่าตกลงแล้วภาคองค์กรควรปรับตัวอย่างไรกับ Digital Disruption ที่กำลังบุกเข้ามาถล่มวิธีการทำธุรกิจแบบเดิมๆ
Oracle มีฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์กลุ่มที่เรียกว่า Engineered System อยู่หลายตัว (ข่าวเก่าเรื่องยุทธศาสตร์ฮาร์ดแวร์) จุดเด่นของฮาร์ดแวร์ตระกูลนี้คือปรับแต่งมาให้ทำงานกับซอฟต์แวร์ของ Oracle ได้เป็นอย่างดี สินค้าตัวหลักในกลุ่มคือ Exadata ที่ออกแบบมาสำหรับรันฐานข้อมูล Oracle Database
Exadata ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาแล้วหลายรุ่น (เฉลี่ยแล้วออกประมาณปีละรุ่น ดูข่าวเก่า Exadata รุ่น X3) ล่าสุดเมื่อต้นเดือนนี้ Oracle เปิดตัว Exadata X6 ถือเป็นรุ่นที่หกในซีรีส์แล้ว
Oracle เรียกร้องเงิน 9.3 พันล้านดอลลาร์ เป็นค่าชดเชยความเสียหายจาก Google ในคดีที่มีการกล่าวหาว่า Google ละเมิดลิขสิทธิ์ซอร์สโค้ด Java โดยเอาไปใช้งานในระบบปฏิบัติการ Android
คดีระหว่าง Oracle กับ Google นี้จะมีการไต่สวนกันอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากที่ศาลฎีกาปฏิเสธที่จะรับคดีเข้าสู่การพิจารณา ส่วนศาลอุทธรณ์ก็ตีเรื่องกลับมาให้ศาลชั้นต้นตัดสินหาข้อสรุปว่าแท้จริงแล้วการที่ Google นำเอา API จำนวน 37 รายการของ Java ไปใช้งานใน Android นั้นถือเป็นการใช้งานโดยชอบธรรม (fair use) หรือไม่
Oracle ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2016-0636 ใน Java SE ส่งผลทั้งการทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ (แต่ไม่กระทบการใช้งานในเซิร์ฟเวอร์หรือรันเป็นแอพบนเดสก์ท็อป) มีผลกับ Java บนทุกแพลตฟอร์ม
ช่องโหว่นี้มีความร้ายแรงระดับ 9.3 เต็ม 10 คะแนน คนที่ใช้ Java 7u97 หรือ Java 8u73/74 ควรอัพเดตเป็น Java 8u77 ทันที (Java 7 ไม่มีอัพเดตสำหรับคนทั่วไปอีกแล้ว)
Business Insider ได้อีเมลภายในของ Oracle ส่งถึงพนักงานทุกคน ระบุว่าบริษัทกำลังปรับเปลี่ยนวิธีการขายบริการผ่านคลาวด์ จากเดิมที่ต้องขายผ่านเซลส์ ซึ่งสร้างความยุ่งยากให้กับลูกค้าที่คาดหวังการสั่งซื้อบริการทั้งหมดจากระบบออนไลน์
วิธีการขายแบบใหม่เรียกว่า Oracle Accelerated Buying Experience สามารถซื้อบริการจากหน้าเว็บออราเคิลได้จากการกดปุ่มครั้งเดียว กระบวนการขาย บริการ และออกราคา จะอยู่บนระบบออนไลน์ทั้งหมด ช่วยให้ Oracle แข่งขันในตลาดคลาวด์ได้ดีกว่าเดิม
เมื่อปลายปีที่แล้ว Larry Ellison ผู้ก่อตั้ง Oracle ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าระบบคลาวด์ของบริษัทจะซื้อได้ง่าย "เพียงแค่รูดบัตรเครดิต" เท่านั้น
Oracle ประกาศเลิกทำ Java Plugin สำหรับรัน Java ผ่านเว็บเบราว์เซอร์แล้ว โดยจะมีผลใน Java 9 รุ่นหน้าเป็นต้นไป (คาดว่า Java 9 จะออกรุ่นจริงได้ภายในปี 2016 นี้)
เหตุผลของ Oracle คือเทคโนโลยีปลั๊กอินกลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว ปลั๊กอินอย่าง Flash, Silverlight, Java ถูกลดความสำคัญลงเรื่อยๆ และเบราว์เซอร์รุ่นใหม่ก็ประกาศเลิกรองรับปลั๊กอินแบบเดิมๆ กันแล้ว
คำแนะนำของ Oracle คือองค์กรที่ยังใช้ Java Applet ควรมองหาเทคโนโลยีอื่นแทน (ทางเลือกของ Oracle เองคือ Java Web Start)
ที่มา - Oracle
เราเห็นข่าวทนายออราเคิล เผยตัวเลขรายได้-กำไรของ Android กันไปแล้ว แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเอกสารของทนายออราเคิลยังบอกว่ากูเกิลยอมจ่ายให้แอปเปิล 1 พันล้านดอลลาร์ (ตัวเลขเฉพาะปี 2014) เพื่อให้กูเกิลยังเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ iPhone ต่อไป
รูปแบบของการจ่ายเงินเป็นการแบ่งรายได้ (revenue-sharing) โดยตัวเลขอยู่ที่ 34% แต่ไม่ระบุชัดว่าเป็นตัวเลขของฝั่งกูเกิลหรือแอปเปิล ส่วนทนายของกูเกิลพยายามขอให้ศาลไม่เปิดเผยตัวเลขนี้ แต่ก็ไม่เป็นผล (แอปเปิลก็ขอต่อศาลแบบเดียวกัน) ส่วนโฆษกของกูเกิลก็ปฏิเสธไม่แสดงความเห็นต่อตัวเลขนี้
ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลว่าสัญญาระหว่างกูเกิลและแอปเปิลมีระยะเวลานานแค่ไหนครับ
ที่ผ่านมากูเกิลไม่เคยเผยตัวเลขรายได้จากธุรกิจ Android แยกเฉพาะ (รวมเป็นก้อนใหญ่ในงบการเงิน ไม่แยกย่อยรายหมวด) แต่ในเอกสารคำฟ้องระหว่างกูเกิลกับออราเคิล ฝั่งของออราเคิลก็เปิดเผยตัวเลขนี้ว่า กูเกิลมีรายได้จาก Android ทั้งหมด 31 พันล้านดอลลาร์ (1.1 ล้านล้านบาท) และมีกำไร 22 พันล้านดอลลาร์ (8 แสนล้านบาท)
ตัวเลขนี้มาจากการที่ทนายของออราเคิลเข้าถึงเอกสารของกูเกิลที่เปิดเผยในชั้นศาล และคำนวณรายได้ด้วยสูตรของออราเคิลเอง เหตุผลคือออราเคิลต้องการแสดงให้เห็นว่า Android สร้างรายได้มหาศาล และออราเคิลควรมีส่วนแบ่งด้วยจากกรณีสิทธิบัตร Java
Oracle ออกแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนมกราคม 2016 ชุดใหญ่ มากถึง 248 แพตช์ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตั้งแต่ Oracle Database, Java SE, Oracle E-Business Suite, Fusion Middleware, PeopleSoft (รายชื่อทั้งหมดอ่านตามลิงก์ที่มา)
แพตช์ชุดนี้เรียกว่า Critical Patch Update (CPU) ซึ่งบริษัทจะออกปีละ 4 ครั้งเป็นปกติตามระยะเวลาที่ประกาศล่วงหน้า
Oracle ยังแนะนำให้ลูกค้าอัพเดตแพตช์ล่าสุดทันที และขอให้ผู้ใช้ Java ดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุด (Java 8u71 ณ เวลาที่เขียนข่าว) เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ใช้เองด้วย
คณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ (FTC) ตกลงยอมความกับออราเคิลในคดีความปลอดภัยของจาวา เนื่องจากการเตือนความปลอดภัยขณะอัพเดตไม่เพียงพอ
FTC ระบุว่าตัวติดตั้งจาวาไม่เตือนผู้ใช้อย่างเพียงพอว่ามีจาวาเวอร์ชั่นเก่าอยู่ในเครื่องและยังเป็นช่องโหว่ความปลอดภัย แต่ถอนการติดตั้งเพียงเวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น
ข้อเสนอของ FTC จะบังคับให้ออราเคิลต้องปรับกระบวนการอัพเดตโดยเตือนผู้ใช้อย่างชัดเจนถึงอันตรายของการติดตั้งเวอร์ชั่นเก่า และมีทางเลือกให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังบังคับให้ออราเคิลประกาศผลการตกลงนี้ทางช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ของบริษัท
ตอนนี้ข้อเสนอผ่านมติ FTC เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อไป
ออราเคิลออก NetBeans IDE 8.1 โดยทิ้งช่วงจากรุ่นก่อนหน้า NetBeans 8.0 ประมาณหนึ่งปีครึ่ง ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
Mark Hurd ซีอีโอร่วมของออราเคิล (ถ้าจำกันได้ เขาเคยเป็นซีอีโอของ HP) ออกมาพยากรณ์ว่าในปี 2025 หรืออีกสิบปีข้างหน้า 80% ของซอฟต์แวร์ด้านการงาน (productivity apps) จะย้ายมาอยู่บนคลาวด์ ในขณะที่ปัจจุบันมีเพียง 25% เท่านั้น
ส่วนการเก็บข้อมูลขององค์กรจะย้ายมาอยู่บนคลาวด์ทั้งหมด และกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์-ทดสอบจะเกิดขึ้นบนคลาวด์ด้วย ยุคสมัยของการมี OS หรือฐานข้อมูลแบบ on premise จะจบลงในอีกสิบปีข้างหน้า
เขายังพยากรณ์ว่าผู้เล่นตลาด Software as a Service (SaaS) สำหรับลูกค้าองค์กร จะเหลือรายใหญ่เพียงแค่ 2 รายที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 80% ซึ่งเขามั่นใจว่าออราเคิลจะเป็นหนึ่งในสองรายนั้น
ออราเคิลหันมาลุยตลาดคลาวด์แบบ Infrastructure as a Service (IaaS) สู้กับ Amazon Web Services ตรงๆ โดยเปิดตัวบริการย่อยใหม่ 5 ตัว
Oracle เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Solaris 11.3 ที่พัฒนาควบคู่มากับซีพียู SPARC M7 ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
ตอนนี้ Solaris 11.3 เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว
งาน Oracle OpenWorld จัดควบคู่กับงาน JavaOne โดยส่วนของ JavaOne 2015 มีเนื้อหาเกี่ยวกับแผนการออกรุ่นของ Java ดังนี้
ช่วงนี้ ออราเคิลจัดงานประจำปี Oracle OpenWorld เลยมีข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเยอะหน่อยนะครับ ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตัวที่น่าสนใจคือ Oracle Cloud Platform for Big Data แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่
Oracle Cloud Platform for Big Data เป็นการจับผลิตภัณฑ์สาย Big Data ของออราเคิลมารวมเป็นชุดเดียวกัน โดยมีของเดิมอยู่แล้ว 2 ตัวคือ Big Data Cloud Service กับ Big Data SQL Cloud Service และเพิ่มของใหม่อีก 4 ตัว
ออราเคิลประกาศแผนการออกซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล Oracle Database 12c Release 2 (หรือเรียกเป็นเลขเวอร์ชันว่า 12.2) โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการทดสอบรุ่นเบต้าแล้ว
ของใหม่ใน Oracle Database 12c Release 2 ได้แก่
ซีพียูตระกูล SPARC เป็นสินค้าที่ออราเคิลได้มาจากการเข้าซื้อซัน สองปีหลังเปิดตัวรุ่น M6 ตอนนี้ทางออราเคิลก็เปิดตัว SPARC M7 พร้อมให้สั่งได้แล้ว
ออราเคิลชูชุดเด่นเรื่องความปลอดภัยของ SPARC M7 โดยเพิ่มฟีเจอร์สองชุดได้แก่ Silicon Secure Memory ป้องกันการเข้าถึงหน่วยความจำในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาต และ Hardware-Assisted Encryption ชุดคำสั่งเร่งความเร็วในการเข้ารหัส 15 อัลกอริธึมหลัก ได้แก่ AES, Camellia, CRC32c, DES, 3DES, DH, DSA, ECC, MD5, RSA, SHA-1, SHA-224, SHA-256, SHA-384, SHA-512
ออราเคิลเขียนบล็อกพูดถึงยอดขายของ Oracle ZFS Storage Appliance ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2009 สมัยยังเป็นบริษัท Sun ระบุว่ายอดขายรวมตอนนี้เกิน 15,000 ชุดสร้างรายได้รวมกว่าพันล้านดอลลาร์ รวมเป็นลูกค้ากว่า 5,000 ราย
ในบล็อกยังรายงานกลุ่มลูกค้า เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์รายหนึ่งใช้ Oracle ZFS Storage Appliance นี้เก็บข้อมูลถึง 200PB, บริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก, บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ 5 บริษัท, สถาบันการเงิน 300 แห่ง, ธนาคาร 4 ใน 5 ของธนาคารที่ใหญ่ที่สุด
แม้ว่าตัวเลขจะน่าประทับใจกับความเร็วในการเติบโตของธุรกิจนี้ แต่เมื่อเทียบกับเจ้าตลาดสตอเรจอย่าง EMC แล้วดูจะเล็กกว่ามาก สินค้าตระกูล XtremIO ของ EMC ทำยอดขายรวมพันล้านในเวลาเพียงปีครึ่ง (80% เป็นลูกค้าเดิมของ EMC อยู่แล้ว)
เข้ามาเล่นในตลาดสตอเรจแฟลชอย่างจริงจังสำหรับ Oracle หลังจากเมื่อต้นปีเพิ่งเปิดตัว FS1 รุ่นไฮบริดไปก่อน ก็ถึงคิวเปิดตัวเวอร์ชันแฟลชล้วนมาบ้างเมื่อปลายเดือนสิงหาคม พร้อมกับเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สเปคตัวคอนโทรลเลอร์ของ FS1 รุ่นแฟลชล้วนจะเท่ากับรุ่นไฮบริดแทบทุกอย่าง ซีพียูเป็น Xeon E5-2620 หกคอร์ความถี่ 2GHz (รวมเป็น 24 คอร์) ใส่แรมได้สูงสุด 384GB รองรับ SSD ความจุสูงสุด 912TB แต่ถ้าใช้ SSD แบบเน้นประสิทธิภาพสูงจะอยู่ที่ 156TB
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ของปีการเงินบริษัท 2016 สิ้นสุดเดือนสิงหาคม มีรายได้รวม 8,448 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้ก็ยังเพิ่มขึ้น 7% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,747 ล้านดอลลาร์ ลดลง 20% แต่ถ้าไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนก็ลดลง 8%
กลุ่มธุรกิจที่ยังเติบโตดีอย่างคลาวด์ซอฟต์แวร์ (SaaS และ PaaS) มีรายได้เพิ่มขึ้น 34% ขณะที่ยอดขายไลเซนส์ลดลง 16%
นักวิเคราะห์จาก FBR Capital Markets ให้ความเห็นว่าธุรกิจดั้งเดิมของออราเคิลนั้นอนาคตยังไม่ชัดเจนนัก แต่คลาวด์ซอฟต์แวร์ยังสดใส ซึ่งออราเคิลสามารถเสริมทัพได้ด้วยการซื้อกิจการที่น่าสนใจ อย่างเช่น Splunk, Tableau, NetSuite หรือ Workday
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ Oracle ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวการปลดพนักงานสาย Java Evangelist ยกทีม ล่าสุด Cameron Purdy ผู้บริหารตำแหน่ง Senior Vice President for Development ที่อยู่กับบริษัทมานาน 8 ปี (และถือเป็น Java Evangelist คนสำคัญอีกคนหนึ่ง) ก็ออกจากบริษัทแล้ว โดยเขาทวีตบอกว่าไม่ได้ลาออกเอง แต่เป็นการตัดสินใจของบริษัท
พนักงานสาย Java คนอื่นๆ ที่ออกจากบริษัทในช่วงเดียวกันได้แก่ Mark Heckler (Developer Evangelist), James Weaver (JavaFX และ IoT), John Clingan (Glassfish คนนี้ย้ายไป Red Hat)
Oracle ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ครับ