JerryRigEverything ยูทูบเบอร์ชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านการแงะ และทดสอบความทนทานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ทำวิดีโอทดสอบความทน iPad Pro M4 ทั้งการใช้มีดคัทเตอร์กรีดลงบนหน้าจอด้วยความแรงระดับต่าง ๆ หรือการกรีดลงฝาหลังเครื่อง และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ของ iPad รุ่นนี้

จุดสำคัญของวิดีโอตัวนี้คงหนีไม่พ้นการจับ iPad Pro M4 มาบิดงอเนื่องจาก Apple บอกว่าเป็นอุปกรณ์ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยสร้าง และใน iPad Pro รุ่นก่อน ๆ เคยตกเป็นจำเลยสังคมในประเด็นที่ใช้งานไปได้สักพักตัว iPad จะเกิดการงอขึ้นเล็กน้อยแบบเห็นได้ชัด

มีรายงานจากผู้ใช้งาน iPhone ที่อัปเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชันล่าสุด iOS 17.5 ซึ่งออกมาเมื่อวันอังคาร พบปัญหารูปภาพที่เคยลบไปหลายปีก่อน กลับมาปรากฎใน Photos อีกครั้งหลังจากอัปเดต และพบรูปเหล่านี้กลับมาปรากฎใน iPad ด้วยเช่นกัน

แอปเปิลประกาศเพิ่มคุณสมบัติช่วยเหลือการเข้าถึง (Accessibility) ทั้ง Eye Tracking หรือการติดตามด้วยดวงตา, Music Haptics ช่วยให้เพลงเข้าถึงได้มากขึ้น และ Vocal Shortcuts สร้างทางลัดด้วยเสียงพูด รายละเอียดทั้งหมดดังนี้

• Eye Tracking ใช้เพียงดวงตาในการควบคุมส่วนต่าง ๆ ใน iPhone หรือ iPad โดยอาศัยกล้องหน้าในการติดตามดวงตา แล้วใช้ตัวควบคุมการอยู่นิ่งเพื่อเรียกเปิดใช้งานแต่ละส่วนที่ต้องการ
• Music Haptics เป็นความสามารถให้คนที่มีมีปัญหาการได้ยิน สามารถเข้าถึงเพลงได้ โดยตัวสั่น Taptic Engine ใน iPhone สามารถสั่นปรับแต่งให้เข้ากับเพลงใน Apple Music

มีข้อมูลยืนยันจาก iCulture ว่า iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่ ได้เพิ่มเมนู Battery Health หรือสุขภาพแบตเตอรีใน Settings แล้ว ซึ่งไม่เคยมีข้อมูลนี้ใน iPad รุ่นก่อนหน้า และฟีเจอร์นี้น่าจะจำกัดไว้เฉพาะ iPad รุ่นใหม่

โดยในหน้า Battery Health จะมีข้อมูลเพิ่มเติมได้แก่ ความจุสูงสุด (Maximum Capacity), จำนวนรอบการชาร์จ (Cycle Count) รวมถึงการตั้งค่าให้ชาร์จจำกัดที่ 80% รวมทั้งข้อมูลวันที่ผลิตของแบตเตอรีและการชาร์จครั้งแรก ในแบบเดียวกับข้อมูลแบตเตอรีของ iPhone 15

แอปเปิลและกูเกิลประกาศความก้าวหน้า ของความร่วมมือเพื่อพัฒนามาตรฐานอุปกรณ์ติดตามด้วยบลูทูธหรือแทร็กเกอร์ เพื่อป้องกันปัญหาการนำอุปกรณ์นี้ไปใช้ติดตามคนอื่นอย่างไม่เหมาะสม ให้รองรับข้ามแพลตฟอร์มทั้ง iOS และ Android

โดยล่าสุดแอปเปิลได้เพิ่มความสามารถแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากพบอุปกรณ์บลูทูธที่ไม่รู้จักพยายามติดตาม มีผลใน iOS 17.5 ที่เพิ่งออกอัปเดตมา ส่วนกูเกิลได้เพิ่มความสามารถนี้รองรับใน Android 6.0 ขึ้นไป

สื่อได้เริ่มเผยแพร่รีวิว iPad Pro รุ่นใหม่ชิป M4 กันออกมาแล้ว ก่อนสินค้าจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าทั่วไปในอเมริกาวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เช่นเดียวกับ iPad Air ซึ่งมีความเห็นถึงความโดดเด่นของประสิทธิภาพชิป M4 หน้าจอ OLED ตลอดจนความบางและน้ำหนักที่เบา

iPad Air รุ่นใหม่ชิป M2 จะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าในอเมริกาตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ซึ่งมีสื่อได้รับเครื่องไปทดสอบใช้งานและเผยแพร่รีวิวกันออกมาแล้ว

ในภาพรวมนั้น iPad Air มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือมี 2 รุ่นย่อยตามขนาดหน้าจอคือ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ได้ชิป M2 ส่วนหน้าจอเป็น Liquid Retina แบ็คไลท์แบบ LED ไม่ได้เป็น OLED แบบ iPad Pro

แอปเปิลออกอัปเดต iOS 17.5 และ iPadOS 17.5 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone และ iPad เวอร์ชันล่าสุด สองเดือนหลังจากอัปเดตใหญ่เวอร์ชัน 17.4 ออกมาในเดือนมีนาคม ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตแบบ OTA ได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update

ในอัปเดตนี้แอปเปิลได้เพิ่มการแจ้งเตือนหากพบอุปกรณ์แทร็กเกอร์บลูทูธที่ติดตามตัว แม้จะลงทะเบียนด้วยระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างแอปเปิลและกูเกิลที่ประกาศเมื่อปีที่แล้ว

iPad Pro รุ่นใหม่ชิป M4 มาพร้อมจุดขายเรื่องความบางของเครื่องเพียง 5.1 มิลลิเมตร (ไม่รวมส่วนกล้อง) สำหรับรุ่น 13 นิ้ว และ 5.3 มิลลิเมตร สำหรับรุ่น 11 นิ้ว แต่ก็มาพร้อมคำถามว่าแล้วเครื่องจะงอได้ง่ายหรือไม่?

ความกังวลนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่คิดมากเกินไปแน่นอน iPad Pro เคยออกแบบเครื่องใหม่ในปี 2018 ที่มีจุดขายเรื่องความบางเช่นกัน และผลทดสอบก็คือเครื่องงอง่ายมาก แม้แต่แอปเปิลเองก็ต้องออกคำแนะนำอย่างเป็นทางการถึง 2 ครั้ง ว่าอาจงอได้เล็กน้อย แต่ไม่มีผลกระทบต่อการใช้งาน

มีประเด็นต่อเนื่องจากรายงานเรื่อง Siri จะปรับปรุงความสามารถด้วย Generative AI ซึ่งแอปเปิลมีสองแนวทางคือ ใช้ AI พัฒนาเองที่ชื่อ Ajax และร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ภายนอกซึ่งมีทั้ง OpenAI และกูเกิล

โดยรายงานล่าสุดของ Mark Gurman แห่ง Bloomberg บอกว่าตอนนี้การเจรจาของแอปเปิลกับ OpenAI มีความคืบหน้ามาก ใกล้ได้ข้อสรุปเพื่อนำ ChatGPT มาเป็นฟีเจอร์หนึ่งใน iOS 18 แล้ว ส่วนการเจรจากูเกิลเพื่อนำ Gemini มาใช้งาน ก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าไปถึงระดับไหน

มีรายงานจาก The New York Times อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ถึงโครงการด้าน Generative AI ของแอปเปิล ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะเปิดเผยรายละเอียดมากขึ้นในงาน WWDC เดือนมิถุนายนนี้ โดยจะมาในรูปของ Siri ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะเวอร์ชันใหม่ ที่ใช้ Generative AI เป็นโครงสร้างหลัก

รายงานบอกว่าแอปเปิลเลือกปรับปรุง Siri ให้รองรับการสนทนาต่อเนื่อง ทำความเข้าใจคำร้องขอแบบใหม่ได้มากขึ้น โดยใช้ Generative AI มาช่วย ไม่ได้เปิดตัวแชทบอตที่ทำได้ทุกอย่างแบบ ChatGPT โดยแอปเปิลได้ตัดสินใจพัฒนา Generative AI ในแนวทางดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นปี 2023 เรียกว่าการผ่าเปลี่ยนสมอง Siri

Mark Gurman แห่ง Bloomberg มีรายงานพิเศษเกี่ยวกับประเด็นผู้สืบทอดตำแหน่งซีอีโอคนถัดไปของแอปเปิลต่อจาก Tim Cook ซึ่งแม้ยังไม่น่าจะเห็นเรื่องนี้ในเวลาอันใกล้ แต่แอปเปิลก็มีแผนวางไว้อยู่

โดยแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในแอปเปิลบอกว่า ถ้าต้องมีซีอีโอคนใหม่ขึ้นมาทันทีตอนนี้ คนที่เหมาะสมที่สุดก็คือ Jeff Williams ซีโอโอคนปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไรนัก เพราะ Gurman ก็เคยรายงานเรื่องราวเดียวกันเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งก็เป็นชื่อ Jeff Williams เหมือนกัน

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าแอปเปิลมีโครงการภายในชื่อ ACDC เพื่อออกแบบชิปสำหรับใช้งานในศูนย์ข้อมูล รองรับงานประมวลผลด้าน AI ล่าสุด Mark Gurman แห่ง Bloomberg มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าชิปดังกล่าวคือ M2 Ultra

แนวทางการออกแบบงานประมวลผล AI นั้น แอปเปิลจะให้งานที่ไม่ซับซ้อนสามารถทำได้ที่ระดับอุปกรณ์ แต่กรณีเป็นคำสั่งที่ซับซ้อนมาก จะเชื่อมต่อมาที่เซิร์ฟเวอร์และประมวลผลด้วย M2 Ultra นี้ ซึ่งการออกแบบของ ACDC ปัจจุบันรองรับทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานที่แอปเปิลต้องการใช้เป็นจุดขายแล้ว

จากประเด็นโฆษณา iPad Pro รุ่นใหม่ชิป M4 ของแอปเปิล "Crush" ที่มีฉากนำอุปกรณ์ศิลปะและงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ มากดทับแล้วออกมาเป็น iPad Pro ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ล่าสุดแอปเปิลออกแถลงการณ์ขอโทษในเรื่องนี้แล้ว

Tor Myhren รองประธานฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่าน Ad Age โดยบอกว่าความคิดสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่อยู่ในดีเอ็นเอของแอปเปิล และเป็นเรื่องสำคัญที่แอปเปิลจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความคิดสร้างสรรค์ให้ทุกคนในโลก เป้าหมายของเราคือส่งเสริมไอเดียต่าง ๆ ให้สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ใน iPad เราทำพลาดจากการนำเสนอในวิดีโอนี้ และเราขอโทษ

แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ชิป M4 พร้อมจุดขายหนึ่งคือการเป็นสินค้าแอปเปิลที่บางที่สุดเท่าที่แอปเปิลทำมา โดยสินค้าบางที่สุดก่อนหน้านี้ที่แอปเปิลผลิตคือ iPod nano

เพื่อตอกย้ำจุดขายนี้ แอปเปิลเลยออกหนังโฆษณาเผยแพร่ผ่าน TikTok จับ iPod nano มาวางเทียบกัน โดย iPad Pro ใหม่ หนา 5.1 มิลลิเมตร ขณะที่ iPod nano หนา 5.4 มิลลิเมตร

แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ ชิป M4 ซึ่งมาพร้อมกับหนังโฆษณาเปิดตัว แต่ดูเหมือนโฆษณาจะถูกวิจารณ์มาก เนื่องจากวิธีการนำเสนอทำให้มองได้หลายมุม

โฆษณาตัวที่ว่านี้ชื่อ Crush ซึ่งเปิดตัวในงานแถลงข่าว Let Loose โดยนำเสนอว่า iPad Pro อันเดียว เป็นอุปกรณ์รวบรวมเครื่องมือสำหรับงานศิลปะความคิดสร้างสรรค์

โดยโฆษณาเป็นฉากเครื่องบีบอัดไฮดรอลิก บดอุปกรณ์ศิลปะหลายอย่าง ทั้งเครื่องดนตรี เปียโน กีต้าร์ อุปกรณ์วาดภาพ จานสี ตู้เกม จนถึงงานศิลปะ โดยตอนท้าย ก็เปิดเผยว่าทุกอย่างรวมอยู่ใน iPad Pro ใหม่นี้

แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ใช้ชิป M4 และมาพร้อมความบางที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยผลิตสินค้ามา แต่นั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แอปเปิลต้องตัดทอนบางอย่างออกไปจาก iPad Pro รุ่นก่อนหน้านี้ สิ่งนั้นก็คือกล้องอัลตร้าไวด์

โดยในรายละเอียดสเป็กนั้น iPad Pro รุ่นใหม่ ได้ตัดกล้องหลังอัลตร้าไวด์ออกไป ทำให้ตอนนี้ iPad Pro มีกล้องหลังเพียงตัวเดียวคือกล้องไวด์ 12MP พร้อมสแกนเนอร์ LiDAR และแฟลช โดยช่องของกล้องอัลตร้าไวด์เดิม แทนที่ด้วยจุดสีดำขนาดใหญ่

มีข้อมูลน่าสนใจเพิ่มเติมจากการเปิดตัว iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่ ที่แอปเปิลไม่ได้บอกในงานแถลงข่าว แต่อธิบายในหน้าข้อมูลสเป็กสินค้า ซึ่ง iPad ใหม่ทั้งสองรุ่นไม่มีถาดใส่ซิมแล้ว สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular

วิธีการเดียวที่จะเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้ก็คือการลงทะเบียน eSIM เท่านั้น

คาดเดาว่าเหตุผลหนึ่งสำหรับ iPad Pro ที่ต้องนำถาดใส่ซิมออกไป ก็คือความบางของเครื่อง จึงต้องตัดส่วนนี้ออกไป อย่างไรก็ตามประเด็นการนำถาดใส่ซิมออกไปนี้ น่าจะสร้างความกวนใจสำหรับคนใช้ iPad สายสลับซิมใส่ไปมาแน่นอน

ถึงแม้เมื่อคืนแอปเปิลจะเปิดตัว iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่ เพียงสองรุ่นนี้เท่านั้น แต่ iPad รุ่นปกติ entry level ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรก็มีผลกระทบด้วย โดยแอปเปิลได้หยุดขาย iPad 9th Gen ผ่านช่องทางออนไลน์และ Apple Store แล้ว เหลือเฉพาะ iPad 10th Gen ใครที่ยังต้องการซื้อ iPad 9th Gen ให้ตรวจสอบดูจากตัวแทนจำหน่ายที่ยังมีของ

Apple เปิดตัวโปรมแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Final Cut Pro เวอร์ชัน 10.8 สำหรับ Mac เพิ่มความฟีเจอร์ AI ใช้ประโยชน์จาก Neural Engine ในชิป Apple Silicon ได้มากขึ้น และเวอร์ชัน 2 สำหรับ iPad ที่มีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Live Multicam แถมยังรองรับ Apple Pencil Pro เต็มรูปแบบ

แอปเปิลเปิดตัว Logic Pro เครื่องมือสำหรับการวิศวกรรมเสียงเวอร์ชันใหม่ แบ่งเป็น Logic Pro for iPad 2 และ Logic Pro for Mac 11 ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด มาพร้อมกับ Studio Assistant คุณสมบัติด้าน AI ซึ่งแอปเปิลบอกว่าช่วยยกระดับการทำเพลงและช่วยเหลือ แต่ศิลปินยังควบคุมงานสร้างสรรค์ได้เต็มที่

ฟีเจอร์ใหม่ได้แก่ Session Players เสียงวงแบ็กอัปที่สร้างด้วย AI, Stem Splitter นำผลงานเพลงเก่ามาแยกเสียงเป็น 4 ส่วน (กลอง เบส เสียงร้อง อื่น ๆ), ChromaGlow เครื่องมือปรับหาโทนเสียงที่ดีที่สุด

แอปเปิลเปิดตัวอุปกรณ์เสริม Magic Keyboard รุ่นใหม่ สำหรับ iPad Pro M4 ใหม่ โดยมีการปรับปรุงให้บางและเบาลง ขณะที่ดีไซน์การใช้งานเหมือนเดิม

Magic Keyboard ใหม่ ราคา 11,990 บาท สำหรับ iPad Pro จอ 11 นิ้ว และ 13,990 บาท สำหรับ iPad Pro จอ 13 นิ้ว มีตัวเลือก 2 สี ขาวและดำ ให้จับคู่กับสีของ iPad Pro ได้

ที่มา: MacRumors

แอปเปิลเปิดตัวชิปตระกูล Apple Silicon รุ่นใหม่ M4 ซึ่งคราวนี้เลือกเปิดตัวพร้อมกับ iPad Pro ก่อน จากปกติเริ่มที่ Mac

ชิป M4 ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 มี Display Engine ซึ่งเป็นเอ็นจิ้นในชิปตัวใหม่ สำหรับการแสดงผลจอภาพ ให้สีที่แม่นยำมากขึ้น เพื่อรองรับความสามารถของ iPad Pro ที่เน้นจอภาพ, ซีพียู 4 คอร์ performance และ 6 คอร์ efficiency, จีพียู 10 คอร์, Neural Engine 16 คอร์, 28,000 ล้านทรานซิสเตอร์

พร้อมๆ กับ iPad Pro แอปเปิลเปิดตัว Apple Pencil Pro รุ่นใหม่ (ตอนนี้มี Apple Pencil 2 รุ่นคือธรรมดากับ Pro) ดีไซน์เดิม แต่เพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ เข้ามาจากเซ็นเซอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา

อย่างแรกคือการเพิ่ม Haptic Engine เข้ามา เพื่อรองรับการบีบปากกาสำหรับฟังก์ชันใหม่ๆ รวมถึงเพิ่ม Gyroscope ทำให้การใช้งาน Apple Pencil Pro สามารถหมุน (barrel roll) เพื่อเปลี่ยนองศาของฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่ เช่น หมุนหัวแปรง (brush) ใน Procreate หรือควบคุมแอนิเมชันของวัตถุให้หมุนใน Procreate Dream

นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์ hover นำหัวปากกาไปลอยอยู่เหนือจอ สำหรับฟังก์ชันใหม่ๆ ของแต่ละแอป พร้อมรองรับ Find My ในตัว (แต่ไม่มีลำโพงเล่นเสียง) ราคา 4,990 บาท

Apple เปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่มีหน้าจอ 2 ขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว บางเพียง 5.3 มม. และ 5.1 มม. ตามลำดับ ซึ่ง Apple บอกว่าเป็นสินค้าที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยสร้าง และบางกว่า iPod Nano ซะอีก

หน้าจอใช้พาเนล Tandem OLED แต่ Apple เรียกหน้าจอนี้ว่า Ultra Retina XDR รองรับความสว่างสูงสุด 1,600 nit เลือกเปลี่ยนกระจกหน้าจอมาใช้ Nano-Texture glass ได้

จุดเด่นของ iPad Pro รุ่นใหม่คือเป็นสินค้าตัวแรกที่ได้ใช้ชิป M4 ซึ่งปกติชิปตระกูล Apple Silicon จะใช้ในสินค้าตระกูล Mac ก่อนที่จะใช้กับ iPad ซึ่ง Apple เคลมว่าเร็วกว่า M2 ถึง 50%