Apple, Inc.
ถ้าจำกันได้ ในปี 2020 มีประเด็นระหว่างแอปเปิลกับ Basecamp เมื่อบริษัทเปิดตัวแอปอีเมลแนวคิดใหม่ Hey แต่ถูกแอปเปิลถอดแอปออกจาก App Store โดยตอนนั้นแอปเปิลให้เหตุผลว่าเพราะ Hey เมื่อเปิดแอปมา ไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากให้ล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งผู้ใช้งานต้องไปสมัครกับ Hey ภายนอกโดยตรงก่อน (99 ดอลลาร์ต่อเดือน) ไม่มีปุ่มสมัครหรือจ่ายเงินในแอป ทำให้ David Heinemeier Hansson ผู้ก่อตั้ง (และเป็นคนสร้าง Ruby on Rails) ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ว่าแอปเปิลเลือกปฏิบัติกับเขา สุดท้ายเรื่องจบลงที่การเพิ่มปุ่ม ลองใช้ฟรี 14 วัน ทำให้
The New York Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการสอบสวนประเด็นผูกขาดทางการค้าของแอปเปิลแล้ว โดยน่าจะยื่นฟ้องร้องได้ภายในครึ่งแรกของปี 2024
ประเด็นหลักที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐใช้ในการฟ้องร้องแอปเปิลข้อหาผูกขาดทางธุรกิจ คือการออกแบบการทำงานที่เป็นระบบปิดของแอปเปิล เช่น Apple Watch เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ทำงานได้ดีร่วมกับ iPhone มากกว่าการใช้สมาร์ทวอทช์อื่นหรือไม่ ไปจนถึงประเด็นร้อนล่าสุดอย่าง iMessage, ระบบการจ่ายเงิน Apple Pay, AirTag ทำงานได้ดีบน iPhone เมื่อเทียบกับแทร็กเกอร์อื่น, การปิดไม่ให้ใช้คลาวด์เกมมิ่ง เป็นต้น
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิลสายซัพพลายเชนคนเดิม คราวนี้เขาให้ข้อมูลว่าด้วยกล้องของ iPhone 16 แถมยังยาวไปถึง iPhone 17 เลยด้วย รายละเอียดดังนี้
ถึงแม้จะผ่านปี 2023 ไปแล้ว และคนที่รอมาตลอดก็คงทราบกันดีว่าในปีที่ผ่านมา แอปเปิลไม่ได้ออก iPad รุ่นใหม่มาเลย จากที่ปกติต้องมีอัพเดตบ้างอย่างน้อยสักรุ่นทุกปี ซึ่งถือเป็นปีแรกนับตั้งแต่ iPad รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2010
แม้ไม่มี iPad ใหม่ออกมา แต่ก็มีสินค้าเกี่ยวกับ iPad ที่ออกรุ่นใหม่ในปี 2023 นั่นคือ Apple Pencil พอร์ต USB-C ที่ขายถูกกว่า Pencil ทุกรุ่น ... ซึ่งก็มีแค่นั้นจริง ๆ
Joe Kiani ซีอีโอ Masimo บริษัทผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้สัมภาษณ์กับ WSJ ประเด็นที่บริษัทฟ้องร้องแอปเปิลข้อหาละเมิดสิทธิบัตรเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด จนทำให้คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือ ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch มาขายในอเมริกาช่วงสั้น ๆ แต่ล่าสุดศาลรับคำอุทธรณ์ ทำให้แอปเปิลกลับมาขาย Apple Watch ต่อได้
จากข่าวที่คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือ ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch สองรุ่นมาขายในสหรัฐอเมริกา หลังจากบริษัทพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ Masimo ฟ้องแอปเปิลในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร ก็มีรายงานเพิ่มเติมว่าคดีน่าจะมีจุดเริ่มต้นจากอะไร
Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม ระบุว่าตัวละครสำคัญของคดีฟ้องร้องนี้คือ Marcelo Lamego วิศวกรปริญญาเอกจาก Stanford สัญชาติบราซิล ซึ่งทำงานที่ Masimo ตั้งแต่ปี 2003 ในตำแหน่งนักวิจัยวิทยาศาสตร์ แล้วได้เลื่อนเป็นซีทีโอของ Cercacor บริษัทตั้งใหม่ในเครือของ Masimo ในปี 2014 เขาลาออกจาก Masimo ย้ายไปทำงานที่แอปเปิล เรื่องนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องปกติ
แอปเปิลประกาศเตรียมกลับมาขาย Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 สองรุ่นที่ถูก ITC สั่งแบนห้ามนำเข้ามาขายในสหรัฐอเมริกาก่อนหน้านี้ โดยเริ่มขายผ่านหน้าร้าน Apple Store ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเตรียมกลับมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน
ประกาศของแอปเปิลนี้เป็นผลจากที่ศาลอุทธรณ์ออกคำสั่งหยุดแบน Apple Watch สองรุ่นนี้ชั่วคราวตามที่แอปเปิลยื่นคำขอ ทำให้แอปเปิลสามารถขายสินค้าต่อไปได้ชั่วคราว
ตามที่ ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 มาขายในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากประเด็นละเมิดสิทธิบัตรระบบวัดออกซิเจนในเลือดของ Masimo ทำให้แอปเปิลตัดสินใจหยุดขาย Apple Watch สองรุ่นนี้ก่อนคำสั่งมีผลในวันที่ 26 ธันวาคม
อย่างไรก็ตามแอปเปิลก็ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ระงับคำสั่งนี้ชั่วคราวอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ได้ผล เพราะล่าสุดศาลอุทธรณ์ออกคำสั่งหยุดการแบนสินค้านี้ชั่วคราว โดยให้ ITC ชี้แจงข้อมูลสนับสนุนการออกคำสั่งแบนภายในวันที่ 10 มกราคม 2024 ซึ่งเท่ากับว่าแอปเปิลสามารถขาย Apple Watch สองรุ่นที่มีปัญหานี้ในอเมริกาได้ต่อไปเกือบ 2 สัปดาห์
นักปล่อยข่าวลือ และนักสะสม Prototype ตัวยงอย่าง @KosutamiSan ได้เผยแพร่รูปชิ้นส่วนของ HomePod โค้ดเนม B720 โดยระบุว่า HomePod รุ่นหน้าจะใช้ดีไซน์ และขนาดจอเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือได้หน้าจอโค้งนูน (Convex) บริเวณด้านบนสุดของอุปกรณ์ เจ้าตัวยังบอกว่าสวยงามดีเมื่อประกอบเสร็จแล้ว
ระหว่างที่ Apple เตรียมตัววางขายแว่น Vision Pro อย่างเป็นทางการ (คาดว่าเป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า) ในวันศุกร์ที่ผ่านมา มีข้อมูลจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาของฮ่องกง เผยว่า Apple จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์กว่า 70 รายการ
ทาง Patently Apple ที่เป็นเว็บไซต์นำเสนอข่าวสาร และการจดสิทธิบัตรของ Apple ได้ระบุไว้ว่ารายละเอียดของ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patent) ที่ Apple จดนั้นแตกต่างจากการยื่นสิทธิบัตรทั่วไป ตรงที่ไม่มีข้อกำหนดที่ต้องเผยแพร่ข้อมูลอื่นๆ ของผลิตภัณฑ์ นอกจากหมายเลขของสิทธิบัตรนั้นๆ สู่สาธารณะ
หลังจากที่ EU ผ่านกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) เพื่อป้องกันการกีดกันทางการค้าในสหภาพยุโรป โดยมีผลบังคับใช้ภายในเดือนมีนาคม 2024 ถึงแม้ว่า Apple จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ แต่จากรายงานต่างๆที่ออกมา ทำให้มีการคาดการณ์จากหลายสำนักวิเคราะห์ว่าหน่วยงานกำกับการดูแลในหลายๆประเทศกำลังออกกฎบังคับแบบเดียวนี้ในประเทศของตัวเองเช่นกัน และหนึ่งในนั้นคือประเทศในฝั่งเอเชียอย่างประเทศญี่ปุ่น
ตามรายงานของสำนักข่าว Nikkei Asia หน่วยงานกำกับดูแลในญี่ปุ่นเตรียมออกกฎหมายป้องกันการผูกขาด เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Apple และ Google เปิดให้ผู้ใช้สามารถโหลดแอปจาก Store ภายนอก และจ่ายเงินซื้อคอนเทนต์ผ่านช่องทางเลือกได้
มีรายงานมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ว่าแอปเปิลเตรียมแก้ไข iOS ให้สามารถลงสโตร์ดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางอื่นนอกจาก App Store ได้ ตามข้อกำหนดใหม่ของ EU ที่จะมีผลในปี 2024 แต่คาดว่ามีผลใช้งานได้เฉพาะกลุ่มประเทศ EU เท่านั้น ซึ่งประเทศอื่นก็อาจจะตามแนวทางนี้ด้วย
Nikkei Asia รายงานความคืบหน้า ที่หน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่นก็เตรียมออกคำสั่งให้แอปเปิลและกูเกิล ต้องเปิดให้ผู้ใช้งานลงสโตร์ของผู้พัฒนารายอื่นได้เช่นกัน โดยคาดว่าจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในสภาปีหน้า มี 4 หัวข้อที่จะพิจารณาคือ แอปสโตร์กับวิธีจ่ายเงิน, เสิร์ช, เบราว์เซอร์ และตัวระบบปฏิบัติการ รายละเอียดคาดว่าจะออกมาช่วงต้นปี
ข้อมูลนี้จาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม หลังจากที่มีข่าวว่า Tang Tan รองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล จะลาออกจากบริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อมูลล่าสุดคือเขาจะไปทำงานที่ LoveFrom บริษัทด้านการออกแบบของ Jony Ive อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลนั่นเอง
รายงานบอกว่า Tan จะรับผิดชอบการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้าน AI ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า LoveFrom กำลังทำร่วมกับ OpenAI ผ่านซีอีโอ Sam Altman โดย OpenAI จะดูแลส่วนซอฟต์แวร์ให้
แอปเปิลประเทศญี่ปุ่น ประกาศแคมเปญต้อนรับปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 2-5 มกราคม 2024 ให้บัตรของขวัญ (Gift Card) เมื่อซื้อสินค้าแอปเปิล โดยบัตรมูลค่าเริ่มต้นที่ 4,000 เยน (Apple TV 4K, AirPods, iPhone SE) สูงสุดที่ 30,000 เยน (MacBook Air 15 นิ้ว)
และเหมือนกับปีก่อนคือมี AirTag รุ่นพิเศษสลักลายนักษัตรประจำปี ซึ่งปี 2024 เป็นลายมังกร ให้กับลูกค้า 50,000 คนแรก ที่ซื้อ iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 13 หรือ iPhone SE มีผลเฉพาะการซื้อผ่านเว็บแอปเปิลของญี่ปุ่น หรือผ่าน Apple Store ในญี่ปุ่นเท่านั้น
คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือ ITC ออกแถลงการณ์ห้ามแอปเปิลนำเข้า Apple Watch รุ่นที่มีปัญหาขายในสหรัฐอเมริกา มีผลตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2023 เป็นต้นไป เนื่องจาก ITC พบว่าสินค้าละเมิดสิทธิบัตรของ Masimo สองรายการ ซึ่ง ITC ให้อำนาจรัฐบาลไบเดนเป็นเวลา 60 วัน จนถึง 25 ธันวาคม ในการระงับคำสั่ง แต่ตัวแทนของรัฐบาลไบเดนกล่าวว่าหลังจากปรึกษากับหลายฝ่าย ก็ตัดสินใจไม่ระงับคำสั่งนี้
แอปเปิลได้ตัดสินใจหยุดขาย Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 สองรุ่นที่มีปัญหาในอเมริกาไปแล้ว ไม่กี่วันก่อนที่คำสั่งนี้จะมีผล นอกจากนี้แอปเปิลก็ยื่นอุทธรณ์ขอให้ชะลอคำสั่งแต่ถูกปฏิเสธไป
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สายซัพพลายเชนที่ให้ข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลเป็นประจำ ให้ข้อมูลล่าสุดของเฮดเซต Vision Pro บอกว่าตอนนี้สินค้าเข้าสู่สายการผลิตหลักแล้ว (mass production) จะเริ่มส่งสินค้าในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2024 คาดว่าจะเริ่มขายปลายเดือนมกราคม หรือต้นกุมภาพันธ์ ขึ้นอยู่กับแผนการจัดส่ง
ช่วงเวลาที่ Vision Pro เริ่มขายที่ Kuo ระบุนั้น ใกล้เคียงกับที่ Mark Gurman แห่ง Bloomberg ออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่า แอปเปิลต้องการให้มีเฮดเซตในมือมากพอในเดือนมกราคม ซึ่งน่าจะต้องการเริ่มขายในเดือนกุมภาพันธ์
แอปเปิลเผยแพร่หนังโฆษณาตัวใหม่ความยาว 15 วินาที ที่ต้องการชูจุดขายของ iPhone เกี่ยวกับแบตเตอรี่ว่าใช้งานได้นานมากขึ้น
โฆษณาตัวนี้ชื่อว่า "Miss You" เป็นภาพของเต้าเสียบปลั๊กไฟร้องเพลง Way Too Long ของ Doe Boy เมื่อมองไปที่ iPhone 15 Plus ซึ่งใช้งานได้ยาวนาน จนไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จบ่อย ๆ นั่นเอง
iPhone รุ่น Plus ถูกวางจุดขายเรื่องแบตเตอรี่ใช้งานได้นานมาตั้งแต่ iPhone 14 Plus แล้ว ข้อมูลสเป็กของแอปเปิลระบุว่า iPhone 15 Plus เล่นวิดีโอต่อเนื่องได้นาน 26 ชั่วโมง (20 ชั่วโมงถ้าผ่านสตรีม)
ชมหนังโฆษณานี้ได้ท้ายข่าว
แอปเปิลเผยแพร่ Ferret โมเดล AI ภาษาขนาดใหญ่บนข้อมูลสื่อผสม (Multimodal Large Language Model - MLLM) ใน GitHub ซึ่งพบว่าปล่อยออกมาตั้งแต่ 30 ตุลาคม แต่เพิ่งถูกพบและรายงานข่าวออกมา
Ferret มีจุดเด่นคือความสามารถการแยกข้อมูลภาพในรูปทรง-พื้นที่ใดก็ได้ แล้วให้รายละเอียดเจาะเฉพาะส่วนที่เห็น ตัวอย่างที่นำเสนอ เช่น สามารถระบุพื้นที่หางแมวได้ หรือรูปที่มีสัตว์ 2 ตัวซ้อนกัน ก็แยกตัวที่ 1 กับตัวที่ 2 ได้
แอปเปิลเผยแพร่งานวิจัยสองฉบับผ่าน arXiv ซึ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับเทคนิคการประมวลผล AI ที่อาจถูกนำมาใช้งานกับผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลได้ในอนาคต
งานวิจัยแรกชื่อว่า "LLM in a flash" เป็นวิธีการทำให้อุปกรณ์ซึ่งมีหน่วยความจำจำกัด เช่น สมาร์ทโฟน สามารถรันโมเดล AI LLM ที่มีพารามิเตอร์จำนวนมากได้ โดยใช้สองเทคนิคคือ windowing ใช้งานซ้ำ AI ที่ประมวลผลไปแล้วแทนที่จะต้องใช้ข้อมูลใหม่อีกรอบ และวิธี row-column bundling ใช้การอ่านข้อมูลเป็นส่วน ๆ แทนที่จะอ่านทีละคำ ซึ่งเหมาะสำหรับงาน LLM อยู่แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้สามารถรัน AI LLM ที่ต้องการหน่วยความจำได้สูงถึง 2 เท่า ของหน่วยความจำที่มีอยู่
ข่าวนี้เป็นเรื่องของแอปเปิลกับ AI โดย The New York Times อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า แอปเปิลได้เปิดการเจรจากับสำนักงานและบริษัทสื่อรายใหญ่หลายแห่ง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอสิทธิเข้าถึงเนื้อหาข่าวต่างๆ สำหรับนำมาใช้พัฒนา AI
แอปเปิลเสนอผลประโยชน์ที่อย่างน้อย 50 ล้านดอลลาร์ สำหรับสิทธิใช้งานข่าวเป็นระยะเวลาหลายปี โดยสำนักข่าวหรือบริษัทสื่อที่ระบุว่าแอปเปิลได้พูดคุยแล้วมี Condé Nast (Vogue, The New Yorker), NBC News, IAC (People), The Daily Beast และ Better Homes and Gardens อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลว่าข้อเสนอได้ข้อสรุปออกมาอย่างไร
แอปเปิลเริ่มหยุดขาย Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 ทางออนไลน์มีผลเฉพาะในอเมริกาแล้ว ตามที่บริษัทประกาศก่อนหน้านี้ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งแบนสินค้าของ ITC จากประเด็นละเมิดสิทธิบัตรของ Masimo อย่างไรก็ตามผลกระทบดูจะไปถึงคนที่ซื้อ Apple Watch มาแล้วด้วย
ข้อมูลนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม เขาอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่าแอปเปิลจะเริ่มขายเฮดเซต Vision Pro ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งตอนนี้แอปเปิลได้สั่งเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการแล้ว เป้าหมายคือให้มีสินค้าเพียงพอภายในสิ้นเดือนมกราคม
ก่อนหน้านี้แอปเปิลบอกวันที่เริ่มขาย Vision Pro กว้าง ๆ ว่าเป็นต้นปี 2024 และไม่ได้ระบุเดือน แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นในไตรมาสที่ 1
Vision Pro จะเริ่มขายจำกัดเฉพาะในสหรัฐอเมริกาก่อน มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าแอปเปิลจะส่งมอบสินค้าเฉพาะที่ร้าน Apple Store เท่านั้น ไม่ว่าจะสั่งออนไลน์หรือวอล์กอิน เพื่อทำการปรับแต่งสายรัดศีรษะ และเลนส์ให้เข้ากับผู้ใช้งานก่อน จึงอาจไม่มีการให้บริการใน Apple Store ทุกสาขาในอเมริกาด้วย
มีความคืบหน้าล่าสุด จากประเด็นที่คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือ ITC สั่งแบนการนำเข้า Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra มาขายในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากละเมิดสิทธิบัตรของ Masimo เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งแอปเปิลได้ยื่นขอให้ชะลอการบังคับใช้คำสั่งนี้ทันทีตอนนั้น
ITC แถลงว่าคณะกรรมการได้หารือและลงมติในคำร้องขอของแอปเปิล โดยปฏิเสธคำขอดังกล่าว ฉะนั้นคำสั่งแบนนี้จะยังมีผลตามกำหนดเวลา 26 ธันวาคม เหมือนเดิม เว้นแต่ประธานาธิบดีสหรัฐจะออกคำสั่งยับยั้งภายใน 25 ธันวาคม
ทั้งนี้แอปเปิลได้ประกาศเตรียมหยุดขาย Apple Watch ทั้งสองรุ่นในอเมริกาไปแล้วก่อนหน้านี้
Joe Kiani ซีอีโอ Masimo บริษัทเทคโนโลยีด้านการแพทย์ ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV ในประเด็นที่บริษัทฟ้องแอปเปิลว่า Apple Watch ละเมิดสิทธิบัตร ซึ่งต่อมา ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch มาขายในอเมริกา และแอปเปิลก็ตัดสินใจหยุดขายก่อนที่คำสั่งจะมีผลใช้ตั้งแต่ 25 ธันวาคม
Kiani บอกว่าที่มีข่าวว่าแอปเปิลพยายามแก้ไขซอฟต์แวร์ของ Apple Watch เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องสิทธิบัตร เขามองว่าไม่น่าจะได้ผล เพราะสิทธิบัตรบริษัทไม่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ iOS 17.2.1 สำหรับคนใช้ iPhone ซึ่งน่าจะเป็นอัพเดตย่อยเวอร์ชันสุดท้ายของปีนี้แล้ว สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
iOS 17.2.1 ออกมาเพียงหนึ่งสัปดาห์หลัง iOS 17.2 รายละเอียดนั้นแอปเปิลบอกเพียงแก้ไขบั๊กที่สำคัญ และแนะนำให้ผู้ใช้งานทุกคนอัพเดต
แอปเปิลยังอัพเดต macOS Sonoma 14.2.1 แก้ไขบั๊กและช่องโหว่ความปลอดภัยเกี่ยวกับการแชร์หน้าจอ, iOS 16.7.4 และ iPadOS 16.7.4 สำหรับอุปกรณ์รุ่นเก่า แก้ไขบั๊ก ที่ไม่สามารถลงแอปของแอปเปิลกลับมาได้ หากลบออกไป