By: arjin 
on 12 December 2017 - 09:26
Tags:
Phil Schiller หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์เนเธอร์แลนด์ Bright พูดถึงเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้า Face ID ว่าทำให้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้
นอกจากนี้ Phil ยังพูดถึงเทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้าของสมาร์ทโฟนรายอื่นว่า "ห่วยทั้งนั้น" (They all stink.) โดยอธิบายว่าเทคโนโลยีเหล่านั้น ไม่ได้มีวิธีการทำงานในแบบที่ Face ID ใช้งาน และบอกได้ว่า Face ID เป็นรูปแบบการทำงานที่มีความเฉพาะตัวไม่เหมือนกับของคนอื่น
ถ้าพูดกัน ณ ขณะนี้ ก็อาจจะบอกได้ยากว่าระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าของสมาร์ทโฟนอื่นไม่ดีอย่างที่ Phil บอก เพราะระบบส่วนมากจดจำข้อมูลแบบ 2 มิติ ขณะที่ Face ID จดจำแบบ 3 มิติ จึงไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกัน อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Qualcomm ได้เปิดตัว Snapdragon 845 ที่รองรับการประมวลผลจดจำใบหน้า 3 มิติ ก็น่าจะทำให้เห็นเทคโนโลยีคล้ายกันจากฝั่ง Android ในอนาคต
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
จย้าาาา
หัวเราะทีหลังมันก็ต้องดังกว่าอยู่แล้ว
จากคนใช่ iphone x ผมว่ามันช้ากว่าสแกนนิ้ว ผมดืมน้ำแล้วจะเปิดมือถือ แก้วบังแค่ช่วงปาก สแกนไม่ผ่าน กับตอนนอนผมใส่ eye mask แล้วจะดูมือถือ คือเอา eye mask เลือนมาไว้ที่หน้าผากก็ scan ไม่ผ่าน
ใช่ครับลองเเาของอามาเล่น 3-4 วันผมไปซื้อ iPhone 8+ เหมือนเดิมตามที่ตั้งใจไว้ตอนแรกเลย 555+
อะจ๊า
เหรอ...... ขนาดสาวกมาเอง
ฟังดูแล้วน่าหมั่นไส้ 555
📸
อันนี้ก็จริงของเค้านะ แต่ใช้คำแรงไปหน่อย แสกนหน้าบน Android มีมาก่อนหลายปี แต่ก็จะเป็นระบบเดิมๆ มาตั้งนาน
ของ Apple ตอนเค้าอธิบายหลักการทำงาน ต้องยอมรับเลยว่ามันแลดูปลอดภัยกว่าจริงๆ
ของ Android หลายๆเจ้ามีข่าวว่าแค่เอารูปถ่าย ก็ปลดได้ด้วยซ้ำ
ของ Smart Phone Android นี่ย้ำอยู่กับที่มานาน ไม่พัฒนาเลย ฝั่ง Microsoft จริงก็มีแบบล้ำๆ นะครับ scan หน้าแต่เห็นลงแค่ตัว PC มั้ง มือถือมีแค่ม่านตา
มันต้องใช้เซนเซอร์เยอะเลยไม่ได้ใส่มากันในมือถือ ผมก็อยากรู้นะถ้า iX ใส่ Touch ID มาด้วยจะมีคนใช้แสกนหน้าสักเท่าไร
MS Marketing ไม่เก่งด้วยครับ
ถ้าเทียบแค่ตัวฟีเจอร์สแกนหน้า มันก็ห่วยกว่าทั้งนั้นอะ
สุดท้ายแล้วลูกค้าดูที่ผลลัพธ์สุดท้ายว่าดีแค่ไหน ไม่ได้สนใจว่าคุณสแกน 2มิติ 3 มิติหรอก
ผลลัพธ์จริงๆ คือความปลอดภัยครับ สแกนแบบดั้งเดิมมันแย่ จนคนไม่ใช้กันด้วยซ้ำ
มีข่าวเปิดวอร์แบบนี้นี่เม้นยาวแหง
เทียบมวยแบบนี้ก็ผิดคู่ละ เหมือนอาหารฟูลคอสแล้วเอาอาหารจานที่เด่นกว่าเขาเพื่อนมาเทียบกันโดยไม่สนจานอื่นในคอร์สยังไงยังงั้น เพราะจานนี้เจ้าอื่นเขาทำเป็นของเล่น วัตถุดิบที่ใช้ก็โคตรบ้านๆ แต่พี่ทำเป็นของหลักแถมวัตถุดิบจัดเต็มขนาดนี้ถ้าแพ้เขาก็แย่แล้วครับ
สมมติว่าเป็นสเต๊กมาเทียบกัน ของเขาใช้เนื้อวัวบ้านๆโลละ 300 เครื่องปรุงรสมีแค่เกลือกับพริกไท ย่างบนกะทะ
พี่เอาเนื้อวากิวอย่างดีโลหลายพัน เครื่องปรุงจัดเต็มย่างบนเตาถ่านอย่างดี ถ้าของพี่อร่อยน้อยกว่าก็ไม่รู้จะทำไงละ
สกิลปาก สุดยอดมาก แต่ก็เห็นด้วย
เคยใช้มือถืออื่นนอกจากไอโฟนเหรอครับ
เหมือนรู้จริงเลยครับ
แล้วเคยใช้ iPhone X กันแล้วหรอครับ
เหมือนรู้จริงเลยครับ
เคยครับ
เคยครับ
ปกติเวลาพิมพ์ตอบอะไรในบอร์ดสาธารณะจะตอบโดยใช้ข้อมูลที่มีน่ะครับ
จะได้มีประโยชน์เวลาคนมาอ่าน
ไม่ได้ใช้แค่จินตนาการ
เคยครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
อันนี้ไม่ได้เป็นลูกคู่ของคุณ John dick นะครับ แต่แค่สงสัย เขาถามคุณ dtobelisk แล้วที่เหลือมาตอบว่า "เคย" นี่คือยังไงครับ ขยายความหน่อย เคยแล้วดี เคยแล้วไม่เห็นดี อะไรแบบนี้ครับ ไม่ใช่แค่มาตอบว่าเคย (เอ๊ะ หรือผมสงสัยอยู่คนเดียว ว่าจะมาตอบเคยกันทำไมที่เหลือ? นอกจากคุณ dtobelisk)
"เคยใช้กันแล้ว" ไม่เหมือน "เคยใช้แล้ว" ครับ อันแรกให้ความรู้สึกถามเป็นหมู่คณะ
ก็จริงนะครับ ? ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
เคยใช้แล้ว แม้จะไม่นานพอระดับที่ว่ากินนอนกับมันแรมเดือน แต่ก็พอบอกได้ว่าชอบและไม่ชอบอะไรครับ
สำหรับผม ไม่มี perfect product ทุกอย่างมันก็มีเรื่องน่ารำคาญน่าปวดหัวของมันครับ ไม่มีค่ายใดค่ายหนึ่งที่ดีที่สุด อยู่ที่ว่าจุดเน้นของแต่ละคนเป็นยังไง
ืที่แน่ๆ Face ID ผมไม่ชอบเพราะมันช้าครับ ผิดกับ Touch ID อย่างสิ้นเชิง ตอนใช้ดู magic แต่พอลองไปสองสามครัั้ง ยังไงก็รู้สึกว่า Touch ID เร็วกว่า
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ตอนแรกใช้แล้วหงุดหงิดมากสแกนไม่ติดบ่อย พอหลังๆใช้เป็นก็รู้แล้วว่ามันอยู่ใกล้หน้าเกินไปไม่ได้เลยไว้ห่างๆหน่อยทีนี้สแกนติดตลอดมีพลาดบ้าง สัก 1 ครั้งใน 10 ครั้ง แต่ก็ยังไม่รวดเร็วทันใจขนาดนั้น
สกิลปากสมเป็น Apple
เพราะคนไม่นิยมใช้ไง ก็เลยไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องสานต่อ
แอปเปิลเองเหอะ ไม่นานก็ไม่แคล้าวกลับมาใช้แสกนลายนิ้วมืออีกเหมือนกัน
ผมว่าไม่จริง
กลับกัน ผมคิดว่า แอนดรอยด์เกือบทุกค่ายในอนาคต จะมุ่งมาที่สแกนใบหน้าแบบสามมิติ หมด ไม่เกินปีหน้า (รวมทั้งจอแหว่ง)
ใบหน้าสามมิติน่ะเห็นด้วยครับ แต่จอแหว่งนี่ขอไว้เลยนะ ขอให้หยุดที่รุ่นนี้รุ่นเดียวเห็นแล้วปวดจิดปวดใจปวดลูกกะตา
แสกนหน้าเห็นด้วยครับ ต่อให้ทำมาแล้วไม่มีคนใช้ก็ต้องทำ มันเป็นเหตุผลทางการตลาด
แต่จอแหว่งนี่คงไม่มีใครทำตามละครับ ดูจากยอดขายที่ขนาดปะชื่อไอโฟนยังเหลือของ คงไม่กระตุ้นการทำตามเท่าไหร่
ผมรอดูสแกนหน้าชนกับสแกนนิ้วใต้จออยู่ครับ ถ้าสแกนนิ้วทำได้แบบ สแกนเร็ว แม่นยำ สแกนได้แม้ปิดจอ ไม่กินแบตมาก ผมว่ามาแน่
สกิลปากระดับ Divine
ผมนี่เตรียมป๊อปคอร์นรอเลย
สงสัยว่า ถ้ามีระบบสแกนลายนิ้วมือติดมากับเครื่องด้วย
จะเหลือคนใช้สแกนใบหน้าสักกี่คน
ว่าแต่มันจะไปติดอยู่กับ MacBook เมื่อไหร่นะ
บันเทิงจริงๆ ล่ะงานนี้
The Dream hacker..
แล้วที่ฝาแฝดผลัดกันแสกนใบหน้าได้นี่คืออะไร
ผมว่ากรณีนี้ก็ไม่ได้ขัดกับที่เค้าบอกนะ เพราะแสกนหน้าเจ้าอื่นน่าจะหลงง่ายกว่าด้วยซ้ำ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+10 เทคต่างๆ คงพร้อมนานแล้วแต่ไม่มีไครเอามารวม
ยืนยันครับเจ้าอื่นสู้ไม่ได้จริงๆ
Face ID?
.
.
.
.
ป่าวฮะ....ปากหัวหน้าฝ่ายการตลาดนี่แหละ
จริงป่ะจ๊ะ ....
จะพิมว่า ปากสุนัขจังเลย แต่คิดดูอีกทีไม่ดีกว่า
พี่พิมพ์ไปแล้วครับ!
ถ้าวัด Skill เรื่อง Present สินค้าเทียบกับ Steve Jobs นี่ Phil เก่งได้ไม่ถึง 0.05% เลยครับ
ภาษาก็รุนแรงไป แหม ออกตัวแรง คงอยากให้เป็นข่าวรึเปล่าเนี่ย (แย่งพื้นที่สื่อ เพื่อโฆษณา?)
FYI ใครบ่นว่า Face ID แย่ ผมมีทางออกให้ลองทำดู > อย่าติดฟิล์มบังติ่ง ลองเทสกับเพื่อนแล้ว (ผมซื้อไอโฟนไม่เคยติดฟิล์ม) ความเร็วและความแม่นยำมันรู้สึกได้ว่าต่างกัน
จะว่าไป Face ID มันก็ดีกว่าจริงๆ ถ้าเทียบกับระบบแสกนแบบ 2D ที่เอารูปมาหลอกได้ อย่าง S8 ที่เค้าทำโชว์ในยูทูป อีกอย่าง iris scanner มันทำให้ต้องยกมือถือมาจ่อตา ลักษณะการใช้งานมันก็ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไร ซึ่งเทียบกับ Face ID แล้ว แค่เอียงมือถือขึ้น เหลือบมองก็ปลดล็อคออกได้เลย
ถ้า Iris Scanner มีองศากว้างกว่านี้จะดีครับ นี่รู้สึกว่าองศามันจำกัดไปหน่อย อยากให้สแกนได้กว้างขึ้นอีกสักเท่าตัว แต่ไม่ต้องกว้างเกินไป ไม่งั้นแค่ชำเลืองมองก็จะกลายเป็นปลอดล็อก.
สกิลปากสมเป็นตา Phill เกลียด 555
ถ้าพูดในแง่ Security ถือว่าจริง
แต่ผมก็ยัง Prefer Touch ID มากกว่า
หัวข่าวเรียกแขกสุดๆ
Hello world.
มีคนกล่าวไว้ว่า ไอโฟนเปิดตัว 2 ชม. แต่เขียนข่าวได้ทั้งปี
ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อนะ แต่ตอนนี้เชื่อล่ะ
ปล.อยากได้เม้นเยอะๆ ต้องเขียนข่าว apple
ผมว่าถ้าค่ายอื่นมีผู้บริหารสกิลปากแบบเดียวกันก็น่าจะเขียนได้ทั้งปีเหมือนกันนะครับ
อันนี้มันไม่ใช่ข่าวจากการเปิดตัวซะหน่อย มันเป็นข่าวจากการให้สัมภาษณ์นะครับ .. ใจเย็นๆ เนอะ
my blog
ลำบากตอนปลดล๊อก จะต้องยกขึ้นตลอดเลย อีกอย่างนึกคือ ถ้าไม่มองจอ มันหรี่จอแล้วดับ เฉยเลย(ปิดฟีเจอร์นี้ได้) บางทีเราอัพโหลดรูป คลิบไรงี้ พอปิดหน้าจอ ก็จบเลย
อย่างอื่น โอเคหมด
อ่อ อีกอย่างนึงเธอ rov ยังไม่เต็มจอ แล้วเล่นๆไป กะตุกยับ
อยากให้พวกเกม อัพเดตเต็มจอไวไวเหมือนกันครับ แต่ ... ROV ผมไม่กระตุกนะ ?
ผมลองเล่นเครื่องคนรู้จักมา FACE ID ไม่ค่อยว้าวเท่าที่โฆษณาเลยครับ
ว้าย ขายของ
เดี๋ยวก็รู้ว่าจะเห็น face id ไปอีกกี่รุ่น ออกตัวแรงขนาดนี้ ไปให้ตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน ส่วนผมรอเชียร์สแกนนิ้วใต้จอของ samsung ดีกว่า 555
ส่วนตัวชอบ FaceID นะ มันตอบโจทย์คนมือมันง่ายอย่างผมมาก เกิดปัญหา touch id สแกนไม่ติดบ่อยมากจนหงุดหงิด พอมาเป็น FaceID ก็ถือว่าแก้ปัญหาตรงนั้นไปได้เลย
Touch ID ผมไม่ติดเฉพาะตอนนิ้วเปียกๆนะ อาจจะตอยตั้งค่า SCAN ได้ไม่ทั่วนิ้ว พอวางนิ้วเหลื่อมๆก็เลยไม่ผ่าน
เป็นข้อเสียของระบบแสกนนิ้วมือครับถ้านิ้วเปียกจะแสกนไม่ได้ (เดาเอาว่าเพราะน้ำมันไปแทรกตรงลายนิ้วมือทำให้แสกนแล้วผิดพลาด) ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีที่แสกนลายนิ้วมือขณะที่นิ้วเปียกได้ในตลาดระดับ Consumer หรือยัง
ไหนๆก็จะดันเรื่องกันฝุ่นกันฝนทั้งที ข้อเสียอันนี้เป็นสิ่งที่ควรแก้ครับ ซึ่งแสกนหน้าก็เป็นหนึ่งในทางเลือกวิธีแก้ (แล้วก็ไปเจอปัญหาอื่นแทน)
จริงๆผมเห็นด้วยนะ แม้ผมจะเป็น apple hater ก็ตามจริงๆ ไม่เชิง hater หรอกแต่หมั่นไส้มัน วันก่อนได้ไปลอง ก็รู้สึก wow นะ
แต่ไม่ต้องบอกมันเท่กว่านะฮะ ให้คนใช้มันบอกกันเองดีกว่า ความขลังมันหมดตรงที่ออกมากร่างนี่แหละ
สแกนใบหน้าของซัมซุงไม่ปลอดภัยจริงๆ ครับ ผมเอารูปถ่ายมาสแกนก็ผ่านเข้าไปได้ เขาเลยไม่ให้ใช้ทำธุรกรรมอะไรนอกจากปลดล็อคหน้าจอ
เดี๋ยวเทคโนโลยีค่ายอื่นก็ตามทัน แต่ผมคิดว่าคงใช้เวลาเป็นปี เพราะ Apple วิจัยมาหลายปีกว่าจะได้เป็น Touch ID ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้
ขัดใจตรง Phil ออกมาพูดนี่หล่ะ ส่ง paper มาก็จบแล้ววววว
ทำออกมาที่หลัง ก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว
ถ้าทำออกมาที่หลัง แล้วมันแย่กว่า จะทำออกมาทำไม
ยกหาง
แหม่ ของพี่จัดเต็ม เซ็นเซอร์เรียงเป็นแถบ ของคนอื่นนี่ใช้กล้องหน้าสแกนง่อยๆจนแทบจะเลิกใช้ มันต้องดีกว่าอยู่แล้วดิครับพี่!!!
ดีกว่าอย่างเดียวก็โม้ได้
ส่วนตัวผมใช้มาเกือบ 2 อาทิตย์ ลักษณะการใช้งานถือว่าดีนะครับ
-วางมือถือเอียงข้างพิงไว้หน้าจอคอมพร้อมเสียบสายชาร์จจากคอม (ที่ทำงาน55+)
เวลามี Noti.มาผมก็แค่เอียงคอมอง มันก็ปลดล็อกพร้อมกับเห็นข้อความต่างๆ
(ปกติในเวลางานผมไม่ค่อยพกมือถือติดตัวเวลาเดินไปไหน)
แต่สายชาร์จแอปเปิ้ลนี่ ห่วยที่สุดในสามโลกแล้วครับ -.-
ทั้งยับ ทั้งย่น ทั้งดำง่าย สุดท้ายขาด ซื้อเส้น 199 ใช้มาสองปีละครับ
ผมเห็นแค่ซอร์ฟแวร์ตะหากที่พวกเขาเหนือจริง นอกนั้นเป็นรองหมด
ดำจริง (เอาน้ำยาล้างจานขัด จะขาวขึ้น อันนี้ทำจริง ๆ) ย่นบ้าง แต่ขาดกับพังนี่ขึ้นกับการใช้งานครับ สายชาร์จผมที่ใช้กับเครื่องใหม่ตอนนี้ คือสายเดิมของเครื่องที่แล้ว (5s) อายุราว 4 ปี / คิดถึงวัสดุที่ใช้ด้วยครับ ลองหาอ่านดู ว่าเขาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วย
ผมไม่คิดว่าการที่สายพังจนต้องซื้อใหม่กันขนาดนี้จะทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นนะครับ อย่างเดียวที่นึกออกคือทำให้ภาพลักษณ์บริษัทดูดี
ผมอยากรู้สถานการณ์ที่ประเทศอื่นครับ สายเขาพังแบบเราไหมนะ เพื่อนรอบตัวเท่าที่สังเกต สายก็อยู่ได้นานนะครับ คนที่สายพังไว ทุกคนมีพฤติกรรมเหมือนกัน คือ มักจะเล่นมือถือไปด้วยชาร์จแบตไปด้วย หรือ เสียบสายคาไว้กับตัว adapter โดยไม่ถอดออกตอนเก็บ ทำให้ข้อต่อหักระหว่างการเก็บ / ในจุดนี้ ยอมรับครับ ว่าวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย มันทนไม่สู้พลาสติก ... รึจริง ๆ เป็นเรื่องการตลาดล้วน ๆ นะ เพื่อที่จะได้ลดต้นทุน และลูกค้าจะได้ซื้อสายใหม่
เรื่องสิ่งแวดล้อมอะไรนี่ ทุกค่ายเอามาใช้พูดในเชิง CSR กันหมดแหละครับ คำพูดการตลาดเชื่อถืออะไรไม่ได้หรอก
แต่สายชาร์จผมไม่เคยทำพังนะ ของไอโฟนเคยใช้มา 2 รุ่น ไอพอดอีก 2 รุ่น ไม่เคยทำขาดสักเส้น (แต่สายแมคบุคดันขาด T T) ส่วนใหญ่คนที่ทำขาดคือพวกโยนๆเก็บใส่กระเป๋า เวลาจะใช้ก็ดึงๆออกมาใช้ จะซื้อสายยี่ห้อนู่นนี่นั่นที่ว่าทนทานยงไงมันก็พังอยู่ดี
ประเทศอื่นก็พังครับ ใน twitter, 9gag ล้อกันสนุกสนาน
ผมเป็นคนใช้ถนอมนะ สาย lightning ใช้ไปประมาณ 2-3 ปี ถึงจะพัง มันฟังดูนานนะ แต่เมื่อเทียบกับสายอื่นๆ ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกทั่วๆไป มันคนละเรื่องเลย เมื่อเดือนก่อนผมรื้อชั้นเก็บของที่บ้าน ของบางชิ้นอายุเกินสิบปีแล้ว ไม่ว่าจะกล้องคอมแพ็ค Cybershot, PSP, NDS, Nokia รุ่นอะไรจำไม่ได้ และอื่นๆ สายยังดีอยู่เลย เอามาชาร์จก็ยังติด
อยากให้เค้าได้ดูคลิปที่ droidsans ทำจังเลย ว่า2ปีผ่านไปจากเทคโนโลยีเดิมที่ค่ายอื่นทำมาก่อน เค้าทำได้ดีกว่าแค่นี้หรอ ดีกว่ามั้ยไปดูในคลิป
แล้วนี่ถ้าhuaweiที่เอามาโชว์ว่าดีกว่าทำเสร็จออกมา ก็ต้องออกมาพูดแบบนี้ใช่มั้ยว่า face id apple ห่วย
ผมศึกษาเรื่อง Face Recognition อะไรมาบ้างนะ ไม่มั่นใจว่าเคลมที่ว่าจำแบบ 3มิติ นี่ทำได้จริง กล้องหน้าไม่หน้าจะสร้างภาพสามมิติได้จากการถ่ายรูปไม่กี่มุม
อีกอย่างแค่ Dataset 2มิติ ก็ใหญ่มากแล้ว... โอเคเป็นไปได้อาจจะมีการเดามิติความลึกจาก contrast แต่ก็รู้สึกว่าแปลกๆ อยู่ดี
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ﾉ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ﾉ
มันก็หมุนๆ ผ่านแบบเดียวกับสแกนเนอร์สามมิติ แบบของโซนี่นี่ครับ?
มันไม่ได้ใช้แค่กล้องหน้าในการเก็บข้อมูลแบบ 3 มิติไงครับ มันมีเซนเซอร์อีกมากมายเพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลแบบ 3 มิติ ก็คล้ายๆกับยัด Kinect ลงในกล้องหน้านั่นแหละครับ
แต่ต่อให้ไม่ใช้เซนเซอร์ ใช้แค่กล้องอย่างเดียวก็สามารถสร้างภาพ 3 มิติได้ โดยภาพถ่ายหลายมุม และ Image Processing (แบบเดียวกับที่ Sony ทำ) แต่ก็ไม่ได้รวดเร็วเท่าใช้เซนเซอร์อื่นๆช่วยวัดความลึกครับ (ต้องหมุนกล้องหลายมุม)