หลังจากแอปเปิลแถลงผลประกอบการไตรมาส 3/2017 ออกมาดี ส่งผลให้ราคาหุ้นของแอปเปิลในตลาดสหรัฐวันนี้ (ที่เพิ่งเปิดตลาดตามเวลาท้องถิ่น) ขึ้นไปอยู่ที่ 174.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น (บวก 3.7%) ส่งผลให้มูลค่าบริษัท (market capitalization) ของแอปเปิลขึ้นไปแตะหลัก 900 พันล้านดอลลาร์อยู่ชั่วขณะหนึ่ง (ราคาปิดของวันก่อนหน้าคือ 168 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าบริษัท 885 พันล้านดอลลาร์)
ขณะที่เขียนข่าวนี้ หุ้นของแอปเปิลตกลงมาเล็กน้อย อยู่ที่ประมาณ 171.47 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าน้อยกว่าเส้น 900 พันล้านดอลลาร์อยู่เล็กน้อย ก็ต้องรอดูว่าราคาของวันนี้จะจบลงที่เท่าไรครับ
Bloomberg ประเมินว่าราคาหุ้นของแอปเปิลตอนนี้ ยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมวงการ เพราะอยู่ที่ราคา 19 เท่าต่อกำไรต่อหุ้น (เหตุเพราะแอปเปิลมีกำไรสูงมาก) ในขณะที่ Alphabet อยู่ที่ 31 เท่า, Netflix 200 เท่า และ Amazon 227 เท่า
ตอนนี้แอปเปิลถือเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่ง ที่จะเป็นบริษัทแรกในการฝ่ากำแพง market cap ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ
ที่มา - Bloomberg, ภาพจากแอปเปิล
Comments
900 พันล้าน หรือเรียกเป็นไทยว่า 9 แสนล้านนั่นเอง
+1 ผมชอบคำนี้มากกว่า 900 พันล้านรู้สึกต้องแปล
แต่ไม่ได้ว่าอะไรคนเขียนนะครับ เข้าใจว่า blognone ยอมรับกับหน่วยนี้
เห็นด้วยครับ ไม่รู้ว่าหลักถูกคืออย่างไร แต่ 9แสนล้านเข้าใจง่ายดี
ทะลุแน่นอน กราฟไต่ขึ้นมาตลอดทุกปีแบบนี้
เห็นชอบบอกกันว่าแอปเปิลหมดมุข ไอโฟนไม่มีอะไรใหม่ แอปเปิลกำลังจะตาย สรุป คนทั้งโลกไม่เห็นเป็นอย่างนั้นใช่ไหมอ่ะครับผมเห็นข่าวแต่ล่ะทีบริษัทมีแต่กำไรโตเอาๆ -_-
ผมว่า อีกไม่นานหรอกครับ Andriod กำลังไล่อยู่
samsung และ Brand จีนก็พัฒนาเร็วมากๆ
Apple กำไรส่วนใหญ่มาจาก iPhone นะครับ
ถ้า Andriod แก้ปัญหาที่สู้ ios ได้เมื่อไหร่ ตอนนั้นใครจะซื้อ iPhone
ปัญหาที่ดูแล้วคงไม่ได้ตามได้เร็วๆ นี้ล่ะครับ - -
คุณภาพสูง - Checked
ราคาสูง - Checked
บริการดี - in progress...
Apple เป็นเหมือนศาสนากลาย ๆ
อะไรที่เขาว่าดี สาวกก็ว่าดี เพราะงั้น ยากครับ
ไมว่า Android จะนำหน้าด้านเทคโนโลยีไปมากแค่ไหน
ถ้าไม่ใช่ Apple ก็คือ ไม่ใช่
เรื่องนี้ผมว่าก็คงเป็นไก่กับไข่ สาวกแอนดรอยด์บางคนก็ไม่จะเปิดใจว่า Apple มันมีดีในเรื่องอะไรทำไมคนถึงยังนิยมใช้อยู่และมักจะคิดไปแต่ในแง่ของความเชื่อของตัวเอง ไม่ว่าจะพูดยังไงเขาก็คงจะปักใจเชื่อแบบนั้น
เห็นด้วยครับ ต่อให้ยังไงถ้าคิดไปเองตัวความเชื่อของตัวเอง โดยใช้สินค้าแอปเปิ้ลแปปเดียวหรือไม่ได้ลองใช้เลย ก็จะเป้นตามด้านบนนี้
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ผมว่าเค้าก็พูดถูกนะ Apple เหมือนศาสนากลายๆ ออกอะไรมาก็มีคนด่า ดีไม่ดี ใช้ไม่ใช้ ยังไม่รู้ ถ้าเป็น Apple ก็ด่าไว้ก่อน
แล้วก็จะมีคนมาด่าคนที่ใช้ว่าเป็นสาวกโง่ๆตลอด ตัวเองฉลาดหลุดพ้นจากบ่วงกรรมแล้ว
คือผมก็มองแล้วเหมือนสงครามศาสนาจริงๆแหละ แต่มันก็จะมีทั้งสองฝ่ายทั้งคนที่ด่าตลอดและคนที่ชื่นชมเว่อร์จนน่าหมั่นไส้
การคอมเม้นหรือตำหนิ มันเป็นสิ่งที่พึงกระทำอยู่แล้วครับ ยิ่งถ้าถูกพูดถึงในวงกว้างมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นการกดดันให้บริษัทใส่ใจกับความเห็นของผู้ใช้และปรับปรุงสินค้า ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคครับ รวมถึงถ้าพูดกันแบบมีเหตุผล มันยิ่งจะช่วยให้คนที่ไม่เข้าใจบางเรื่องมีความรู้และเห็นข้อดีข้อเสียเพิ่มมากขึ้น แต่มันกลายเป็นสงครามสาวกที่คนใช้เอามาเบ่งทับกัน อีโก้ว่าของฉันดีกว่ารสนิยมดีกว่าฉลาดกว่า แทนที่จะช่วยกันเป็นกระบอกเสียงต่อรองกับบริษัทเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองดันออกมาปกป้องแทนบริษัทสะงั้น
การวิจารณ์ด้วยเหตุผลสำคัญจริง ๆ สำหรับการพัฒนา และผมก็บ่น iPhone บ่อยนะครับ เพราะมันก็ยังมีจุดเสียอยู่จริง เช่น สายชาร์จ ควรจะเป็น USB C ได้แล้ว เพราะ MacBook Pro เนี่ย เปลี่ยนมาใช้ Port USB C ได้สองปีแล้ว ของบริษัทเดียวกันแท้ ๆ ทำไมประสบการณ์การใช้ถึงเหมือนไม่ได้วางแผนกันมา (บ่นหนักมาก)
ผมกลับมองว่า หัวแบบ lightning ที่ใช้กันเป็นหลัก 500 ล้านเครื่อง จะมาเปลี่ยนเพื่อ Macbook Pro ที่ขายไปถึงล้านเครื่องหรือยังก็ไม่รู้ ไม่น่าจะได้การตอบรับดีๆ หรอกครับ เพราะคนส่วนใหญ่ คอมยังไม่มี usb c มากพอ ต้องมองเครื่องคอมทั้งโลก ไม่ใช่มองแค่รุ่น 2 รุ่น นะ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป ก็อย่างว่า สินค้าเทคโนโลยี ใช้ก่อนจ่ายแพงก่อนเป็นปกติ
ปัญหามันไม่ใช่คอมมัน C หรือไม่ C ครับ คอมใช้ A สายมันก็เสียบ C ได้ แต่ปัญหามันคือซื้อ iPhone มาเสียบอะไรร่วมกับ MacBook ไม่ได้สักอย่างเดียวไม่ว่าสายชาร์จหรือกระทั่งหูฟังก็ตาม
อแดปเตอร์ช่วยท่านได้ เพียง 2,900 บาท ไอ้ฆาตกร...
เรื่องราคานี่จริงๆ ไม่เท่าไหร่ครับ (เพราะ USB มันมาตรฐานอยู่ ซื้อของเจ้าไหนก็ได้ ยิ่งหัวแปลง C -> A นี่ราคาถูกมาก) แต่ประเด็นคือมันต้องพกนี่แหละครับ
คือมันก็ยั้วเยี้ยอยู่แล้ว orz แต่ถ้าอยู่ๆ เปลี่ยนตอนนี้คงลำบากกันไปถึง Apple Pen แน่ๆ
พูดอีกก็ถูกอีกครับ ทำได้แค่รอสินะ แต่จริง ๆ มันก็ไม่ได้ลำบากชีวิตนักหรอกครับ USB A ที่เขาให้มากับ iPhone X เพราะซื้อตัว convertor มาแล้วตั้งแต่วันแรกเลยที่ซื้อ MacBook (ราคาไม่ถึง 300 ครับ lol)
555 ใช่ครับ ผมก็พกเจ้า A -> C ตัวละไม่กี่บาทนั่นไว้นี่แล
ซื้อสายเป็น type c ใหม่ครับ Apple ก็มีขายไม่ต้องพกเยอะ ติดแค่ว่ามันไม่แถม แต่ adapter สำหรับคนที่ไม่ใช้ Macbook ซึ่งเยอะกว่ามากมันหา type a ในตลาดหรือค้นอันเก่าๆที่มีอยู่เดิมที่บ้านง่ายกว่า
เดี๋ยว ๆ ครับ ถ้าผมซื้อสาย USB C to USB A มา 1 สาย เวลาผมจะชาร์จแบต iPhone ผมก็ไม่มีที่ชาร์จหัว USB C เหมือนเดิมสิครับ (ที่ผมว่าเปลี่ยนเป็นหัว USB C นี่คือ แถมสายชาร์จ USB C to Lightning + ที่ชาร์จหัว USB C ครับ) แต่สุดท้าย ตลาดคงยังไม่พร้อมแหละเนอะ เขาถึงยังไม่ทำออกมาพร้อม iPhone X
ที่ว่าก็ซื้อได้หมดครับเค้าทำขายอยู่ แต่มันไม่แถม หลักๆผมซื้อ usb c to lightening ครับ ไม่ซื้อตัว adapter type c เวลาพกไปจิ้ม adapter macbook เอาเวลาไม่ได้หยิบคอมออกมา
ไม่รู้ลดต้นทุนหรือเปล่ายังพอเชื่อได้บ้างว่าอาจวิเคราะห์จากเหตุผลทีผมเขียนถึงยังแถมเป็น type a อยู่ หรืออาจบวกๆกัน
แต่ก็คือต้องพกสายสองเส้นแทนที่จะพกเส้นเดียวน่ะนะครับ?
พกเส้นเดียวคืออะไรครับ จะพกเส้นเดียวใช้ทั้ง notebook กับ iphone เลยหรอ งั้นก็เสียบพร้อมกันไม่ได้
ใช่ครับ แบตมือถือจะหมดก็สลับมาเสียบโทรศัพท์สักพักนึงก็เพียงพอแล้วก็สลับกลับไปชาร์จคอม มันชาร์จเร็วกว่าใช้ทั้งคอมทั้งโทรศัพท์อยู่แล้วครับ ผมก็ใช้แบบนี้อยู่แม้ว่าตอนนี้จะต้องพก Micro -> C เป็นตัวแปลงเล็กๆ เพิ่มตัวนึงก็ตามเพราะโทรศัพท์นำไปแล้วแต่คอมยังชาร์จด้วย Micro อยู่
อันนี้คงทำไม่ได้ครับ ไม่เคยอยู่ในหัวเลยช่องกระเป๋าผมไม่ได้จำกัดขนาดซุกสายอีกเส้นไว้ไม่ได้ขนาดนั้น ไม่ชอบถอดๆเสียบๆกลัวลืมแบบว่าถอดไว้แบตจะหมดแล้วต้องเอาโนตบุคไปทำอะไรด่วนๆ
ผมใช้ iPhone มาตลอดหลายปี จนล่าสุดหันมาลองใช้ Android ดูบ้าง (เลือก Sony XZP) เพราะเพื่อนๆ+คนรอบตัวบอกว่าตอนนี้มันล้ำหน้ากว่า iOS ไปแล้ว จากที่ได้ใช้งานมาพักใหญ่ๆก็พบว่า มันมีอะไรสนุกๆให้ทำเยอะดีนะ มีอะไรแปลกๆให้ลองเล่นเยอะมาก(พึ่งใช้ใหม่ๆมันก็ตื่นตาตื่นใจดี) แต่พอใช้งานจริงๆไประยะนึงแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าประสบการณ์การใช้งาน มันสู้ตอนใช้ iPhone ไม่ได้เลย นี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ Android หรือ Rom ของโซนี่นะครับ แต่มันทำให้ผมตัดสินใจได้ว่า เครื่องใหม่ความหน้า ผมต้องกลับไปใช้ iPhone เหมือนเดิมแน่ๆ
ทุกวันนี้ผมเลยต้องไปซื้อ iPad มาใช้เป็นหลักแทน ส่วนมือถือแค่เอาไว้โทร กับ ถ่ายรูปซะมากกว่า (ชอบกล้องของโซนี่มาก)
ถ้าใช้แรกๆก็แบบนี้เรื่องปกติครับ UX UI ออกแบบมาต่างกัน ขอแชร์ประสบการณ์ฝั่ง Apple บ้าง เคยเอา ipad mini ของพี่มาใช้อยู่พักนึงเพราะจำเป็น ใช้ยากจนหงุดหงิด เหมือนเอามาไว้เล่น facebook กับ line เพราะอย่างอื่นที่ใช้ทำเป็นประจำใน android ipad ทำไม่ได้สักอย่าง ไม่ตอบโจทย์ lifestyle อย่างรุนแรงครับ
คนที่ลักษณะคล้ายๆกันพอคุยกันเยอะๆก็คิดว่าเป็นคนหมู่มากไงครับก็เลยคิดว่าตัวเองมีสถิติที่น่าจะถูก จริงๆแล้วข้อมูลที่เอามาคิดเป็นตัวแทนของข้อมูลไม่ได้เลย ส่วนคนทั่วไปที่จำนวนมากไม่ได้ออกมาพูดอะไร
บอกแล้ว ค้ากำไรเกินควร
แอปเปิ้ลไม่เคยขายของถูกครับ ธุรกิจก็ต้องการกำไรไม่ใช่การกุศล
บริการหลายๆ อย่าง รวม R&D คุณคิดว่าพวกนี้ได้มาฟรีหรอครับ อันนี้ไม่ได้เข้าข้าง Apple นะ ผมเห็นด้วยว่รมือถือแพงขึ้นมาก
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
R&D นี่คือในส่วนที่ถ้าลูกเล่นใครเอามาใช้แล้วรุ่งก็ใช้ตามบ้างใช่ไหมครับ ฮาาาาาา
ถ้าคนยอมจ่ายราคานี้ และไม่ประท้วงจนถึงขั้นแบนไม่ยอมซื้อ จะโง่ตั้งราคาขายถูกๆทำไม กำไรต้องมาก่อนทุกสิ่ง
ผมว่าพวกโง่คือพวกที่พัฒนาของออกมาล่ะคุณภาพพอๆกัน แต่ดันต้องจ่ายมากกว่าอีกเจ้าหนึ่งต่างหาก มือถือ 2 ค่ายมีคุณภาพพอๆกันอีกเจ้านึงขายแพงกว่าเราเรียกเจ้านั้นว่าอะไรครับ แล้วคุณเรียกคนซื้อเจ้าที่แพงกว่าว่าอะไร
ไม่มีใครโง่หรอกครับ ในประเด็นนี้ เพราะราคาขายเขาตั้งให้เห็นชัดชัด ประกาศให้รู้โดยทั่วกัน ดังนั้น เราเรียกคนซื้อเจ้าที่ราคาสูงกว่าว่า "ผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อเพียงพอ และเห็นว่าเงินที่จ่ายไปคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่จ่ายไป" และเราเรียกเจ้าที่ขายแพงกว่านั้นว่า "ผู้ค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ในระดับที่น่าพอใจ" แต่ผมก็อยากให้ราคา iPhone มันถูกลงนะ ถ้าสินค้าที่อุปมานั้น คือ iPhone และ บริษัทนั้นคือ Apple :)
คุณจะใช้คำว่าอะไรกำกับคำว่าโง่มันก็เป็นเรื่องของคุณ ไม่มีใครถนัดไปทุกเรื่อง ผมยอมรับว่าหลายๆเรื่องผมก็โง่ แต่ถ้าจะใช้คำอื่นเพื่อปลอบใจตัวเอง ผมแค่ไม่อยากทำ เพราะคำว่าโง่มันชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว แค่บางทีคนยอมรับกันไม่ได้ ต้องขออภัยที่อาจจะใช้คำแรง แต่นั่นก็เป็นความคิดของผม
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ แต่ ผมว่า (เอามุมมองผมบ้างนะ) แทนที่จะพูดถึงคนซื้อของที่เราคิดว่าแพง ด้วยคำนั้น มามองว่า 1. เขาหาเงินอย่างไร ถึงสามารถซื้อสินค้าตัวนั้นได้ โดยไม่ลำบาก (คนที่ได้มาโดยลำบาก เลิกเถอะครับ ใช้เท่าที่เรามีดีกว่า) และ 2. มองว่า สินค้าตัวนั้นมันมีดีอะไรนะ คนถึงยังคงซื้อกันอยู่ ทั้งที่ตั้งราคาซะสูง หรือมันมีดีอะไรที่เรายังไม่รู้ ... คิดบวกดูนะครับ จะได้มุมมองใหม่ ๆ อีกเยอะเลยครับ
คนที่คิดว่าตัวเองยังโง่มักจะเป็นคนฉลาด ส่วนคนที่บอกว่าตัวเองว่าเป็นคนฉลาดมักจะเป็นตรงกันข้ามครับ
ถถถถถถูกต้องนะครับ พอดีในกระทู้นี้ผมไม่ได้เป็นคนใช่คำว่า โง่ คนแรกซะด้วย รอดตัวไป ที่ใส่ประโยคคำถามไว้
ผมว่าความคิดเห็นนี้ควรถูกตักเตือนหรือแบนนะ
คนอื่นจะซื้อของด้วยเหตุผลอะไร มันก็เรื่องของเขา มันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล และคนอื่นไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะไปก้าวล่วงพวกเขาด้วยถ้อยคำดูถูกสติปัญญาแบบนี้
ทุกวันนี้คุณกินกาแฟ Starbucks ไหม ? กาแฟชงเองบางคนก็บอกว่าอร่อยกว่า Starbucks ทำไมคุณเสียเงินไปกิน ?
ทุกวันนี้คุณใส่เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา เข็มขัด ใช้กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ brandname ราคาแพงบ้างไหม ? ถ้าใช้หรือใส่ ทำไมคุณไม่ใส่เสื้อผ้าตลาดนัด เสื้อผ้ามือสอง กระเป๋า no name ล่ะ ทั้ง ๆ ที่ function การใช้งานมันเหมือนกัน ?
ทุกวันนี้คุณขับรถยนต์ ขี่มอเตอร์ไซค์ จักรยานรุ่นไหน ? ถ้าขับรถยุโรปทำไมไม่ใช้รถญี่ปุ่น ถ้าขับรถญี่ปุ่นทำไมไม่ใช้ eco car ถ้าขับ big bike ทำไมไม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ cc ต่ำที่ราคาถูกกว่ามาก ถ้าขี่จักรยานทำไมต้องใช้ frame แพง ?
ยิ่งพิมพ์ยิ่งเพลียกับคนที่มีความคิดแบบนี้ อายุเท่าไรแล้วครับ ? สมควรถูกแบนเพื่อสั่งสมประสบการณ์ในการแสดงความคิดเห็นต่อที่สาธารณะนะ เลิกหัดดูถูกคนอื่นได้แล้ว
ดีไม่ดีกลับไปที่บ้านเจอคุณพ่อคุณแม่ญาติพี่น้องใช้ iPhone ก็ไม่รู้จะกล้าพูดแบบนี้ "ต่อหน้า" อยู่อีกหรือเปล่า หรือว่ากร่างเกรี้ยวได้เฉพาะหลังหน้าจอคอมพิวเตอร์
That is the way things are.
อ้าว...ผมไม่ได้บอกว่าคนซื้อโง่นี่ครับ อ่านดีๆสิ
ผมหมายถึงถ้าคนพอใจยอมจ่ายราคานี้แอปเปิ้ลจะไปตั้งราคาขายถูกๆให้ได้กำไรน้อยๆทำไม มันเป็นความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย
ผม reply คุณ indyend นะครับ
That is the way things are.
อ่อ โทษที คอมเม้นซ้อนๆกันหลายชั้น ตาลายมากครับ @_@
อ่านลายเซ็นผมครับ แล้วคุณจะเข้าใจ
ปล.1.สตาร์บ๊องไม่เคยได้เงินผม
ปล.2.จะแบนผมเพราะผมเอาคำว่าโง่มาใช้กำกับความโง่ก็แบนเถอะ
ปล.3.เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของผมและครอบครัว(ทำไมต้องลากครอบครัวมาฮึ)
ปล.4.ที่บ้านผมมีสินค้าแอปเปิ้ล ถ้าเค้าถามผมก็มักจะพูดตรงๆเสมอ
ปล.5.ผมปั่นจักรยานเป็นส่วนใหญ่ นาฬิกาไม่ได้ใส่กระเป๋าตังทำเอง อายุ 37 เปิดบริษ้ทเล็กๆทำเว็บกับเพื่อน และไม่ได้ชอบดูถูกคน แค่พูดความจริงแล้วบางคนรับไม่ได้ก็มักจะพาล
มีอะไรสงสัยอีกมั๊ยทิด?
น่าจะยังแยกแยะไม่ได้ระหว่างการพูดความจริงกับการดูถูกคนอื่นนะครับ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจเหมือนกัน อายุก็ไม่น้อยแล้ว
รู้จักคำว่า "สิทธิส่วนบุคคล" ของผู้อื่นไหมครับ ? ตัวเองไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลนะครับที่จะไปก้าวล่วงการตัดสินใจของคนอื่นได้ จะด่าตัวเองว่า "โง่" ก็รอบมันมันก็เรื่องของคุณครับ แต่นั่นไม่ได้อนุญาตให้คุณไปพูดแบบนั้นกับคนอื่นได้
ส่วนเรื่องคำถาม คำถามที่ถามไปก็ไม่ได้ตอบครบ อย่าทำมาเป็นทวงให้ผมถามอะไรเพิ่มเลยครับ มันตลก ทำเป็นตอบเยอะแต่แท้จริงก็ตอบแค่บางส่วน บางส่วนก็เลี่ยง ๆ อ่านดูก็เห็นแล้วครับ ตอบเรื่องกระเป๋า ตอบเรื่องจักรยาน แต่ไม่พูดถึงเรื่องเสื้อผ้าสักคำ
frame จักรยานราคาเท่าไรครับ frame ที่ถูกกว่าคุณภาพพอกันมีไหมครับ ? เสื้อผ้าใส่ brand name ไหมครับ ? ที่พูดเรื่องครอบครัวเพราะอยากรู้ว่าในชีวิตจริงกล้าเรียกครอบครัวตัวเองคนที่ใช้ iPhone ด้วยถ้อยคำเชิงดูถูกสติปัญญาแบบที่พิมพ์ในนี้ไหมครับ ? เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของคุณ แล้วคุณคิดว่ามันเป็นปัญหาของคนที่ซื้อ iPhone ทุกคนเลยเหรอครับ ถึงได้ไปเรียกเหมารวมแบบนั้น ?
ถ้าแมนจริงก็จะรู้ครับว่าตอบตรงเป็นอย่างไร เบี่ยงเบนประเด็นตอบอ้อม ๆ เป็นอย่างไร ทุกอย่างรู้อยู่แก่ใจ ช่วยใช้ตรรกะอย่างที่คุณเขียนในลายเซ็นคุณด้วยเถอะครับ
That is the way things are.
ไปไกลมากเลยนะครับทิดzerocool เรื่องส่วนตัวของผม ผมเอามาพูดเพราะแค่อยากให้ทิดเข้าใจว่าไม่ได้คุยกับคนบ้าอยู่เฉยๆ จะอยากรู้อะไรนักหนา มันไม่ใช่หน้าที่ผมที่ต้องอธิบายให้ทิดฟังต่อและมันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ >> หลังจากนี้อ่านให้เข้าใจนะ
ผมยกตัวอย่าง RnD ของสองบริษัทว่าถ้าบริษัทแอปเปิ้ลใช้เงินมากกว่าบริษัทอื่นในการทำ แปลว่าโง่กว่า "ผมว่าพวกโง่คือพวกที่พัฒนาของออกมาล่ะคุณภาพพอๆกัน แต่ดันต้องจ่ายมากกว่าอีกเจ้าหนึ่งต่างหาก" คำถามของผมคือ "มือถือ 2 ค่ายมีคุณภาพพอๆกันอีกเจ้านึงขายแพงกว่าคุณเรียกเจ้านั้นว่าอะไร" เป็นประโยคคำถามทิด อ่านเข้าใจมั๊ย
"แล้วคุณเรียกคนซื้อเจ้าที่แพงกว่าว่าอะไร" เป็นประโยคคำถาม จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่คุณ ไม่ได้บอกว่าผมเรียกว่าอะไร ผมจะตอบให้ว่าผมเรียกคนกลุ่มนี้ว่าอะไร "คนที่พอใจในดีไซน์และมีปัญญาซื้อ" ไม่ได้มีคำว่าโ่ง่ กำกับเลยซักคำเดียว อ่านเข้าใจมั๊ยทิดzerocool
แล้วมองตัวทิดzerocool ถามผมบวกกับร้องให้แบนผม หาว่าผม "ก้าวล่วงพวกเขาด้วยถ้อยคำดูถูกสติปัญญาแบบนี้" คำไหนครับที่ดูถูก ยกเอาคำพูดของผมมาลงให้ดูหน่อย
"อายุเท่าไรแล้วครับ ? สมควรถูกแบนเพื่อสั่งสมประสบการณ์ในการแสดงความคิดเห็นต่อที่สาธารณะนะ เลิกหัดดูถูกคนอื่นได้แล้ว"
"กร่างเกรี้ยวได้เฉพาะหลังหน้าจอคอมพิวเตอร์"
"น่าจะยังแยกแยะไม่ได้ระหว่างการพูดความจริงกับการดูถูกคนอื่นนะครับ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจเหมือนกัน อายุก็ไม่น้อยแล้ว"
"รู้จักคำว่า "สิทธิส่วนบุคคล" ของผู้อื่นไหมครับ ?"
"เรียกเหมารวมแบบนั้น ?" เหมาอะไรครับ ประธานเหมาเหรอ โธ่ อะไรของคุณ
"ถ้าแมนจริงก็จะรู้ครับว่าตอบตรงเป็นอย่างไร" ต้องให้เขียนประวัติส่งให้มั๊ย เป็น ปปช. รึเปล่าหรือสรรพากร
"ทุกอย่างรู้อยู่แก่ใจ" รู้อะไรของคุณ คุณคุยกับผมแค่สองสามประโยคก็ตัดสินไปไกล ตลกสิ้นดี
ปล. เฟรมจักรยานของผมมีคนให้มา ไอ้หนุ่ม โตซะที คุยอะไรที่เอาทีละประเด็น อย่าเหมารวม
โอ๊ย ตลกคนเจ็บสีข้าง
ใช้งบ R&D มากกว่าแปลว่าโง่กว่า คือมันผิดตั้งแต่แรกแล้วแต่ยังไม่รู้ตัว ผมไม่อยากจะยุ่งกับประเด็นนี้เพราะมันเป็นเรื่องของการคิดของคุณ ตลกดี โลกนี้มีบริษัทไหนใช้งบ R&D "เท่ากัน" ด้วยเหรอ ;)
ข้อนี้สีข้างถลอกเต็ม ๆ คิดสรรหาคำมาแก้ตัวนานไหมครับ ในหลักภาษาจะมีลักษณะรูปประโยคที่เขียนให้ผู้อ่านเข้าใจโดยอ้างอิงกับประโยคก่อนหน้าในเรื่องเดียวกัน ความหมายใคร ๆ ก็อ่านออก ให้พ่อแม่คุณอ่านท่านก็เข้าใจ ให้ครูอาจารย์สอนภาษาอ่านก็เข้าใจ อันนี้รู้อยู่แก่ใจครับ เอาที่สบายใจเลย
ผมสั่งสอนคุณ เพราะคุณก้าวล่วงสิทธิ์ของคนอื่นก่อน ถ้าคุณแสดงความคิดเห็นแบบรู้จักเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น ผมคงไม่ไปยุ่งกับคุณ ถ้ามีตาก็พอจะเห็นว่าผมไม่ได้ reply ทุก comment นะ ถ้าแยกแยะความแตกต่างไม่ได้ผมก็ขอแสดงความเสียใจด้วย คงอธิบายได้เท่านี้ล่ะ
คุณยังคงเลี่ยงไม่ตอบเรื่องเสื้อผ้า brand name อยู่ล่ะนะ ประเด็นคือเรื่องเดียวเรื่องเดิม คนอื่นจะใช้เงินมากแค่ไหนในการซื้อโทรศัพท์มันก็เรื่องของเขา แม้แต่ตัวคุณเองในชีวิตคุณก็ต้องเคยซื้อสิ่งของหรืออาหารเครื่องดื่มที่ราคาแพงกว่าเหมือนกัน ดังนั้นคุณน่าจะละอายบ้างที่ไป comment ดูถูกคนอื่นแบบนั้น
น่าจะรู้จักสุภาษิตไทยนี้นะ "ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง" ;)
That is the way things are.
เสื้อผ้าผมมันก็ธรรมดาเนี้ยแหละ ไม่มีแบรน ตัวไม่เกินสามร้อยห้าร้อย แปลกที่ทิดจะอยากรู้ขนาดนี้ RnD ผมยกตัวอย่างง่ายๆ แบบ 1+1=2 ไม่เคยอธิบายใครเยอะขนาดนี้เลย เหนื่อย ผมว่าเลิกดีกว่า ยกตัวอย่างแค่สั่นๆ สาวกดันอยากรู้เรื่องผมยาวมาก งงกะทิดจริงแล้วคราวนี้ สั่งสอนผมอีกด้วยนะแหม นึกว่าคุยกับพวกหัวรุนแรงอยู่เหอะ พอๆๆๆ ไม่เห็นมีใครเข้าใจอะไรยากแบบคุณเลย
300-500 นี่ผมซื้อเสื้อโปโลแบรนด์ได้สบายเลยนะครับช่วงนี้ลดกันทั้งปี ทำไมต้องเสียตังตั้ง 300-500 ซื้อเสื้อไม่มีแบรนด์ด้วย
"พ่อแม่คุณอ่านท่านก็เข้าใจ" ลากพ่อแม่ผมมาเกี่ยวด้วยอีก นี่มันคนพาลชัดๆ ไม่มีวัวปน พอดีกว่า เปลืองตัว ยูสเซอร์อื่นไม่เห็นเค้าจะติดใจอะไร คิดไปโน้นว่าผมจะคิดแบบที่ตัวทิดเองมโน พออธิบายก็ว่าแถ หนักนะคุณ ประโยคไหนที่ผมไปล้ำเส้นสิทธิชาวบ้านบอกให้ยกมาก็ไม่ยก จะด่าอย่างเดียวสาระไม่มี
ข้อความจากข้างบนนะครับ >>> "ผมว่าพวกโง่คือพวกที่พัฒนาของออกมาล่ะคุณภาพพอๆกัน แต่ดันต้องจ่ายมากกว่าอีกเจ้าหนึ่งต่างหาก มือถือ 2 ค่ายมีคุณภาพพอๆกันอีกเจ้านึงขายแพงกว่าเราเรียกเจ้านั้นว่าอะไรครับ แล้วคุณเรียกคนซื้อเจ้าที่แพงกว่าว่าอะไร" เมื่อผมตอบ โดยใช้คำอื่นแทนคำนั้น คุณกลับตอบมาว่า "คุณจะใช้คำว่าอะไรกำกับคำว่าโง่มันก็เป็นเรื่องของคุณ" จากสองประโยคข้างต้น คำที่คุณต้องการสื่อคือคำว่า "โง่" ถูกต้องไหมครับ อันนี้เรียกว่าล้ำเส้นสิทธิชาวบ้านไหมครับ
สิ่งที่คุณมองว่า คุณภาพมันพอพอกัน มันคือสิ่งที่คุณมอง (กรอบการรับรู้ของคุณ) โดยคุณไม่มีสิทธิ์ไปบังคับ หรือ กล่าวแทนทุกคนได้ ว่ามันมีคุณภาพพอพอกัน ในทุกมุมมองของทุกคน เช่น ผมอาจมองว่า นอกจากตัวสินค้าแล้ว ยังต้องดูเรื่องค่าแรง ค่าบริการหลังการขายอีก ที่ได้รับจากแบรนด์นี้ ดังนั้น เมื่อสินค้าตัวนี้ประกาศขาย แล้วผมซื้อ คุณจะมาตราหน้าผม ว่าผมโง่ อันนี้ไม่เหมาะสมหรือเปล่าครับ ... นี่เป็นที่สาธารณะ การจะกล่าวถึงใครด้วยคำว่า โง่ หรืออื่น ๆ มันเหมาะสมแล้วหรือเปล่า ด้วยความเคารพ แม้จะเป็นการเลี่ยงบาลี ด้วยการกล่าวเชิงเป็นประโยคคำถาม ก็ไม่ได้ทำให้ใจความหลักที่ต้องการสื่อเปลี่ยนแปลงไป กรุณาไตร่ตรอง ขอบคุณครับ
ส่วนคอมเม้นข้างบนที่กล่าวถึงบุพการีบุคคลอื่น แม้จะเป็นแค่การยกตัวอย่าง ผมก็ไม่เห็นสมควรนะครับ โดยรวมเหมือนใช้อารมณ์กันแล้วครับ
หรือนี่จะเป็นสัญญาณ .... แห่งงการเติบโต
เห็นพูดตั้งแต่จ็อบส์ไม่อยู่ว่า ไม่เกิน 5 ปี apple ล่มสลายแน่ๆ
นี่ก็เลยมา 2 ปี แล้ว คนที่พูดจะไม่รับผิดชอบคำพูดตัวเองบ้างหรือ?
จะยอมรับเฉพาะตอนทายถูกเท่านั้นครับ
55 แต่น่าจะไม่ทันช่วงชีวิตนี้ เพราะคนพูดคงตายก่อน น่าเศร้านัก
ปล.พอเป็นข่าวด้านดี กองแช่งหายหมด
ว่าแต่จะให้รับผิดชอบยังไงหรอ ขอโทษขอโพยหรือยังไง ขอโทษนะที่พูดแล้วมันไม่เป็นไปตามที่พูด ต้องตามขอโทษทุกเรื่องถึงจะถูกต้องอย่างนั้นเหรอ หรือว่ากราบ iPhone กูดี hahaha
นี่ขนาดยังไม่รวมกำไร iPhone รุ่นกากบาทอีกนะใช่ป่ะ
ใช่ครับ และถ้ารวมก็จะยิ่งต่ำลงไปอีก (ตามย่อหน้าสาม) แต่ถึงตอนนั้นราคาหุ้นก็คงเพิ่มขึ้นไปเอง