Tags:
Node Thumbnail

4 โอเปอเรเตอร์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาได้แก่ AT&T, Verizon, T-Mobile, Sprint ประกาศตั้งกลุ่ม Mobile Authentication Taskforce เพื่อวางมาตรฐานการยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์พกพา

เป้าหมายของกลุ่มคือพัฒนาระบบยืนยันตัวตนด้วยอุปกรณ์พกพาที่ใช้แทน SMS (ซึ่ง NIST หน่วยงานด้านมาตรฐานอุตสาหกรรมของสหรัฐ แนะนำให้เลิกใช้) โดยแนวทางที่จะนำมาใช้แทนมีทั้งการตรวจสอบซิมการ์ด, พิกัดเครื่อง, การเชื่อมต่อกับโครงข่าย

ตอนนี้ทางกลุ่มยังไม่มีผลงานออกมา (เพิ่งประกาศตั้งกลุ่ม) โดยตั้งเป้าว่าจะออกผลงานในปี 2018

ที่มา - AT&T, Engadget, ภาพจาก Pexels

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 9 September 2017 - 16:12 #1006503
tekkasit's picture

สงสัยนะ ที่เข้าใจว่าเค้าไม่แนะนำ SMS เพราะมันน่าจะถูกลักลอบสวมรอยดักได้ แล้วบรรดาผู้ให้บริการสหรัฐฯยังจะสรรหาวิธีการที่ยังไปผูกกับบริการของตัวเอง (พิกัด,โครงข่าย,ฯลฯ) มันก็ไม่น่าจะปลอดภัย ยิ่งเจอแบบโลว์เทคแบบบ้านเรา โดนสวมรอมซิมหายแจ้งขอซิมใหม่ เจ้าของตัวจริงซิมดับไป เจอแบบนี้มันจะแก้ได้รึ

two-factor authentication มันก็มีหลายวิธีนิแบบ Google Authenticator นั่นก็ได้ จบไปเลย

By: PH41
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 9 September 2017 - 19:35 #1006530 Reply to:1006503
PH41's picture

ผมอ่านแล้วงงครับ

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 9 September 2017 - 20:49 #1006543 Reply to:1006530
tekkasit's picture

คือมันมีวิธีการยืนยันตัวตนได้หลายวิธี พวกที่เป็นซอฟท์โทเคนไปเลยก็มี อย่าง Google Authenticator, Facebook Authenticator ข้อดีกว่าที่เห็นได้ชัดคือมันจะไม่ยึดโยงกับโครงข่ายมือถือที่ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อความปลอดภัยขนาดนั้น

ก็เลยงงว่าบรรดาโอเปอเรเตอร์คิดจะขวางโลกอะไรกันขึ้นมา

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 11 September 2017 - 09:17 #1006656 Reply to:1006543
Holy's picture

ปัญหาคือถ้าทุกคนคิดจะทำ soft token กันหมด อีกหน่อยเราจะมีแอพ Authen เป็นสิบๆ แอพ ที่อาจจะน๊านนานใช้ทีกองอยู่ในเครื่องก็เป็นได้ครับ ซึ่งมันก็เป็นปัญหากับผู้ใช้เหมือนกันนะ

แต่ก็ไม่ได้บอกว่า Operator ทำแล้วดีนะครับ แต่เขาอาจจะมีความสามารถทำได้แค่นั้น (คือทำในส่วนที่ตัวเองมีส่วนร่วมได้)

By: akira on 9 September 2017 - 21:54 #1006553 Reply to:1006503

เห็นด้วยครับ ยังไง two-factor authentication ดีกว่าแน่นอน ออกแบบดีแค่ไหน ถ้าปัจจัยอยู่ภายนอกก็ควรต้องมีปัจจัยจากตัวผู้ใช้ยืนยันด้วย เช่น ลายน้ิวมือ , ม่านต, โครงหน้า,PIN ฯลฯ ถึงจะไม่ 100% ก็ยังดีกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ผมว่าก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ SMS + ปัจจัยจากตัวผู้ใช้เลยนะ

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 11 September 2017 - 09:26 #1006657 Reply to:1006503
nessuchan's picture

ต้องอย่าลืมว่าซิมการ์ดมันไม่ได้ใช้กับแค่ iOS หรือ Android นะครับ การใช้ Authenticator มันต้องใช้แอพในการทำงาน แล้วแอพมันก็ไม่ได้มีทุกแพลตฟอร์ม

ยกตัวอย่าง สมมุติบัตรเครดิตต้องการยืนยันตัวตนเราโดยใช้ 2fa จากที่เมื่อก่อนใช้ SMS ส่ง รหัส 6 หลักมาให้เรากรอก ถ้าไปใช้แอพแบบ Google Authenticator ก็เท่ากับว่า เอาความปลอดภัยไปฝากไว้กับบริษัทอื่น หรือไม่งั้นก็ต้องทำโปรแกรม Authen ขึ้นมาเอง แต่ก็ต้องทำให้ครบทุกแพลตฟอร์ม ที่มีลูกค้าใช้งานไม่งั้นเค้าก็ใช้งานไม่ได้ แล้วลองคิดสภาพลูกค้าใช้ Symbian หรือมือถือปุ่มกดที่ไม่มีแอพจะทำยังไง ไม่ต้องใช้เลยมันก็ดูจะโหดร้ายกับผู้ใช้บริการเกินไปหน่อย

กลับกันมามองที่ลูกค้า เราต้องลงแอพ Authenticator ของทุกบริษัทที่เราใช้ สมมุติถ้ามีบัตรเครดิตของ 3 บริษัท และอื่น ๆ อีกที่ต้องการการ Authen เช่น สมัครเป็นสมาชิกเวบไซต์ต่าง ๆ สมมุติ Lazada ต้องไปโหลดแอพ Lazada มาก่อนแล้วยังไงต่อดีผมนึกไม่ออก - - เพราะเราจะสมัครสมาชิก เพื่อจะยืนยันตัวตนเรา แต่เราก็ยืนยันไม่ได้ผ่านแอพที่เราพึ่งโหลดมา - -* ถ้าเป็น SMS ก็ง่ายดี แต่ถ้าใช้ SMS ไม่ได้เค้าก็ต้องหาวิธีการใหม่ให้ได้โดยที่ต้องใช้ได้ทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข