จากกรณี Huawei P10/P10 Plus ที่โด่งดังทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด Richard Yu ประธานฝ่ายอุปกรณ์พกพาของ Huawei ได้ยอมรับผิดด้วยการส่งจดหมายถึงพนักงาน และโพสต์จดหมายนั้นขึ้นบัญชี Weibo ของเขา
Yu ระบุว่าเหตุการณ์ใช้ชิ้นส่วนหน่วยความจำหลายสเปกใน P10/P10 Plus ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของบริษัท โดยเขายอมรับว่าตอนที่เขาออกมาแถลงตอบโต้ครั้งแรกนั้น "ไม่เหมาะสม" และท่าทีในตอนแรกของ Huawei ก็ถือว่า "หยิ่งยโส"
นอกจากนี้ Yu ยังประกาศว่าเขาได้ตั้งหน่วยงานสำหรับฟังเสียงผู้ใช้ขึ้นมาโดยเฉพาะ และจะให้เหล่าผู้บริหารที่ดูแลด้านผู้บริโภคไปลงพื้นที่ร้านค้าและศูนย์บริการเพื่อใช้เวลากับลูกค้าโดยตรง อีกทั้งยังบอกว่าบริษัทจะพยายามเข้าใจความรู้สึกของลูกค้ามากขึ้น โดย Yu ถึงกับไตร่ตรองว่าที่ผ่านมา Huawei เติบโตเร็วเกินไป หรือลืมวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของบริษัทไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์สได้ติดต่อไปยัง Huawei ว่าจะมีมาตรการชดเชยให้ลูกค้าอย่างไรหรือไม่ แต่ Huawei บอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรในขณะนี้
สุดท้าย ขณะนี้เว็บไซต์ของ Mate 9 ทั่วโลกได้นำคำว่า UFS 2.1 กลับมาเหมือนเดิมแล้ว หลังตรวจสอบจนแน่ใจว่าโทรศัพท์รุ่นนี้ทุกเครื่องใช้หน่วยความจำ UFS 2.1 จริง
หลังจากนี้คงต้องติดตามดูกันว่าระดับประธานส่งสารแสดงความจริงใจแบบนี้ออกมาแล้ว เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างไรกันบ้างครับ
ที่มา - Android Authority
Comments
กว่าจะรู้เดียงสา...
15 หยกๆ 16 หย่อนๆ
มันมีความไม่เกี่ยวเนื่องและความเกี่ยวเนื่องกันอย่างมีนัยยะสำคัญ
บทเรียนสำคัญ... ทำธุรกิจยุคนี้อย่าคิดจะเอาเปรียบลูกค้าไม่เช่นนั่นคุณจะถูกลงโทษอย่างสม... ลูกผู้ชายดีแต่ต้องตัดสินใจเรื่องชดเชยโดยเร็ว...
Huawei ไม่มีธุระกิจใหญ่หนุนแบบ Samsung
จะเรียกคืนมาเช็คทั้งหมดก็คงไม่ใหว ยอด p10 หดแบบนี้คงปวดหัวแทน แต่ก็สมควรจะเดาได้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สินค้าอื่นๆ เช่นของ Enterprise มีอยู่นะครับ
มันไม่ใหญ่แบบ Samsung นิครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
รายได้จาก Enterpeise นี่มหาศาลกว่า Consumer เยอะครับ
โดยเฉพาะการเป็นอันดับต้นของ Infrastructure ด้าน Telecom
ป.ล. เท่าที่ผมทราบ Revenue ปี 2016 ของ Huawei ประมาณ 50-55 Billion USD ส่วน Samsung Electronics ทั้งเครือประมาณ 45-47 Billion USD
แล้วส่วนอื่นๆของ Samsung หละครับ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เอาเป็นว่าจากข้อมูลของคุณที่พยายามยกมาตามความเห็นของคุณพอจะสรุปได้ว่า ขนาดธุรกิจที่มี "Revenue ปี 2016 ที่ประมาณ 50-55 Billion อย่างเช่น Huawei" หรือต่ำกว่า จะไม่มีความสามารถในการเรียกคืนสินค้าใดๆ ได้ ประมาณนั้นใช่ไหมครับ
ครับ ต้องระดับ Samsung เท่านั้นที่มีศักยภาพมากพอ ผมบอกว่า Samsung เท่านั่นนะครับ ไม่ใช่ Samsung ขึ้นไป
ถ้าต้องรวมส่วนอื่นๆทั้งประกันภัย, ก่อสร้าง, อุตสาหกรรมหนัก ถึงจะ recall สินค้าได้นี่ผมว่าไม่ใช่ละครับ
อ่าน blognone มาก็พอรู้นะครับว่าคุณเป็นคนไม่ค่อยรับฟังความเห็นคนอื่น
แต่อยากให้โต้แย้งกันบนฐานความจริงสักนิดครับ
มีครับ ถึงไม่ทำมือถือมันก็เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางด้านเครือข่ายและโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก -__-
5555555
เพลียสินะ
หัวเว่ยไม่มีธุรกิจใหญ่หนุนแบบซัมซุง ... ผมเพลียเลยครับ
มีแล้วใหญ่ไม่เท่าซัมซุงก็เหมือนไม่มีนั่นแหละครับ :p
;_ ;
ก็ช่วยไม่ได้นะครับ
ตอนแรกเผลออ่านเป็น "มีแล้วไม่ใหญ่เท่าซุงก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ" เลยครับ
/me ยอมมมม
เอาที่สบายใจ
คิดว่าขายดีแล้วจะเอาอะไรมาขายก็ได้ ขนาด Apple, Samsung ยังไม่กล้าเลยนะครับ
I need healing.
Apple ก็ทำนะครับ ความเร็วของ ROM ไม่ได้เท่ากันทุกเครื่อง แต่รายนั้นแยกค่อนข้างชัดเจนเรื่องความเร็ว โดยแบ่งเป็น 32 64 128 256 ซึ่งคนที่อยากได้ความเร็ว ROM สูงๆก็เลือกได้ แต่ของ Huawei พี่แกดันคละกันมาใน ROM ขนาดเดียวกันแบบกะไม่รู้ผู้บริโภครู้ตัวเลย
อันนั้นมันเกิดจากการ parallel ของหน่วยความจำครับ มองง่ายๆ ก็เป็น RAID-0 น่ะครับ ตัว 256 นั่นมันก็มี 32 อยู่ 8 ตัว กระจายงานกันออกไปความเร็วมันเลยต่างกัน 8 เท่าครับ ไม่ได้เกิดจากการคละสเปคของหน่วยความจำหรือ controller
ประเด็นที่เรื่องคละ ROM ตามความข้างต้นที่ผมพูดถึงคือ Huawei ครับ ส่วน Apple ผมไม่ได้บอกว่าเค้าคละกันมา แต่มีประเด็นเรื่อง ROM ต่างขนาด ต่างความเร็ว
คือคุณ hisoft เค้าก็มาอธิบายไงครับ ว่ามันควรจะต่างอยู่แล้ว ตามหลักการของ flash storage มันไม่ใช่เรื่องหมกเม็ดอะไร ไม่น่าเอามาเทียบ
ทำไมจะเทียบไม่ได้ครับ มุมมองของผู้บริโภคเค้าไม่ได้มองลึกถึงขนาด flash storage นี่ครับ ความเร็วของ storage ต่างไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพราะชนิดของ storage หรือหลักการทำงานของ storage ถ้าความเร็วการทำงานต่างกัน ก็คือต่างกัน ลองถ้า Huawei แยก eMMC 5.1 มาใส่เฉพาะรุ่น 16 GB UFS 2.0 ใส่ใน 32 GB UFS 2.1 ใส่ใน 64 GB เหตุการณ์ก็จะคลี่คลายลงไปได้ในระดับหนึ่ง ผมเลยยกเคส Apple มาเป็นตัวอย่างเรื่องระดับความเร็วที่ต่างกันแต่ละ segment ของ storage ซึ่งการแบ่งแยกแบบนี้ผู้บริโภคจะยังคงรับได้ ไม่ได้ให้มองที่ว่าหลักการงานของ storage นั้นทำงานอย่างไรนี่ครับ
มุมมองผู้บริโภคมองต่างกันครับ ขึ้นอยู่กับว่าไปโฆษณาอะไรไว้
เรื่องดราม่าของ Huawei เกิดขึ้นกับ P10 ก่อน ซึ่งเค้าก็ไม่ได้โม้หรือโฆษณาอะไรไว้เลยนะ แต่เรื่องมันเกิดจากการที่ผู้บริโภคตอนแรกๆเอาผลเทสความเร็ว storage มาเทียบกันและได้ไม่เท่ากันแต่เค้าจ่ายเงินเท่ากัน ปัญหาจึงเป็นไฟลามทุ่ง (ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะสรุปได้แล้วนะว่าผู้บริโภคสนใจเรื่องของความเร็วมาก่อนอันดับหนึ่งและไม่ได้สนใจชนิด storage แต่แรก) ซึ่งช่วงนั้นเค้ายังไม่สนใจกันด้วยซ้ำว่า storage เป็นแบบไหนประเภทไหนนะครับ
ตราบใดที่ P10 ยังระบุว่าใช้ K960 อยู่ คนก็เข้าใจว่ามันเร็วตามที่โฆษณาไว้ตอนเปิดตัวอยู่ดีครับ
อันนี้แซะ หรือเข้าใจแบบนี้จริงๆ ครับ / ทำทั้งคู่นะครับ แต่ไม่ร้ายแรงเท่า
May the Force Close be with you. || @nuttyi
จริงๆ แล้วทำกันหมดนะครับ พวกที่ผลิตจำนวนมากๆ โดยเฉพาะสินค้า technology / fashion ที่ลักษณะการขายช่วงแรกจะยอดสูงแล้วค่อยๆ ลดลง มารอใช้ชิ้นส่วนแบบเดียวกันเป๊ะๆ หมดผลิตไม่ทันแน่นอน ทั้ง notebook และโทรศัพท์เลย แต่อย่าง Apple ไม่ค่อยโฆษณาเรื่อง spec เลยไม่ไรเท่าไหร่ มีแมคบางรุ่นทดสอบความเร็วออกมา SSD ที่ใช้ความเร็วต่างกันเยอะๆ ก็มี แต่เกินที่เค้าโฆษณาไว้หมด อย่าง Samsung เองก็มีรุ่นที่มี sensor กล้องทั้ง sony และของ samsung เองมาปนกันเหมือนกัน
สำคัญคือต้องสื่อสารให้ถูก และคุมคุณภาพไม่ให้ต่างกันมากเกินไป
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Apple นี่ทำบ่อยนะครับ แต่ต้องโฆษณาโดยวางตัวสเปคต่ำสุดไป ใครได้ตัวแรงกว่าก็โชคดีไป
Huawei พลาดตรงไปโฆษณาตัวแรงแต่มาใส่ตัวต่ำไปด้วย
ผมว่าไม่เชิงนะครับ ของแอปเปิลมักจะไม่ค่อยระบุรายละเอียดพวกสเป็คในเชิงลึกสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ระบุก็จะได้ตามที่บอกไว้
ทำทุกเจ้าแหล่ะครับ เรื่องเอาอะไรมาขาย หรือคละอะไรก็ได้เนี่ย
เพียงแต่ว่ามันจะมีส่วนที่ Commit กับลูกค้า(ผ่านทางโบรชัวร์ โฆษณาทางตรง โฆษณาทางอ้อม สื่อการตลาดอย่างเป็นทางการ) ของหัวเหว่ย พลาดตรงที่รับปากแล้วทำไม่ได้อย่างที่พูดไว้ กระแสเลยเป็นลบค่อนข้างมาก
อีกอย่างมันเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ supply chain ด้วย เพราะว่าสินค้าระดับล้านชิ้น ผู้ผลิตชิ้นส่วนย่อยบางครั้งไม่ได้มาจากเจ้าเดียวกัน ... ของแอปเปิ้ลถึงจะมีเรื่องแรมเร็วไม่เท่า รอมเร็วไม่เท่า แต่ฝั่งนั้นเค้าใช้วิธี commit เป็นรุ่นๆ ไป / แยกสินค้าต่างเกรด ไปใช้กับของต่างระดับราคากันด้วย ลูกค้าเลยอาจจะรับได้มากกว่า .. ซัมซุงก็เช่นกัน
คือคล้ายๆคือๆเหมือนๆผลิต CPU จาก silicon wafer แหล่ะครับ (สมัยก่อนนะ สมัยนี้ยังเหมือนเดิมป่าวไม่มั่นใจ) ทำครั้งนึงมันจะได้ CPU มาเยอะแยะไปหมดเลยคละๆกัน แต่ตัวที่ผ่าน full test ก็จะออกมาเป็นรุ่น full function ส่วนตัวที่ผ่านไม่ครบพังเป็นบางคอร์ ก็จะโดน disable ส่วนที่เสียเอาแล้วลดรุ่นมาเป็นรุ่น 6 4 2 core แทน
เหมือนที่ออกมายอมรับไม่ได้ยอมรับที่ผิดพลาดเรื่องยัด ROM หลายแบบนะ แต่ยอมรับผิดเรื่องที่ตัวเองโพสต์ความเห็นโดยไม่คิดให้ดีก่อน
บริษัทแม่ออกมายอมรับแล้ว บริษัทลูกในไทยก็ยังสีถลอกกับกสทชต่อไป แต่งานนี้น่าคิดว่าใครจะถลอกกว่าใคร?
ณ จุดนี้แล้วแต่เลย ตามสบาย
ไม่ยอมได้ไง ยอดขายคงลดฮวบไปเยอะสิท่า
ไม่ยอมได้ไง Samsung S8 มาแล้วนี่ ยอมเพราะยอมจากใจ หรือ ยอมเพราะคู่แข่งลงเวทีแล้ว
ยอดขายรุ่นนี้ หรือรุ่นต่อ ๆ ไปขายไม่ออกคงไม่ต้องโทษใครให้เหนื่อยแล้ว ตัวการอยู่นี่เอง
แค่ออกมายอมรับผิดว่าโพสไม่เหมาะสม แต่เรื่องROM นั้นก็ยังไม่ได้ออกมารับผิด หรือแก้ไขอะไร เห้อน่าเสียดายแบรนด์
ต้องลาออกหรือไม่ กับความผิดระดับนี้?
ถ้าเป็นญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้คงต้องออก ถ้าอยู่ต่อนี่ก็หนาแล้ว เมืองจีนไม่รู้
พี่แค่ออกมายอมรับว่าโพสไม่เหมาะสม แล้วพี่ก็แค่ว่าตั้งหน่วยงาน 'รับฟัง' นะฮะ คือ No Action Talk Only
จริงไม่ใช่เลยครับ พี่ยังไม่ได้แก้ปัญหาเลยครับ แล้วจะแก้ปัญหาลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์รุ่นกาชาพี่อย่างไร
ทำไมต้องตรวจสอบนานขนาดนั้น?
พอดีจำไม่ได้ฮะ เลยต้องไปสุ่มตรวจสอบของที่ค้างอยู่ในสต็อคก่อน
(กระซิบ) หา..อะไรนะ ส่งออกไปจากโรงงานเยอะแล้ว แล้วเป็นกาชาด้วย เฮ้ยๆ เดี๋ยวบอกให้ทีมงานเอากลับขึ้นไปก่อน คืนนี้เลย
แต่ก็ไม่เยียวยาสักที
เอาไว้แก้ตัวตอน mate 10, P11 ก็ยังไม่สาย เชื่อได้เลยว่า กลับมาขายดีเหมือนเดิมแน่นอน เดี๋ยวคนก็ลืม ก็แค่ข้ามรุ่นไปก่อน
ยังมีคนอ้างเรื่องแอปเปิ้ลอีกเหรอเนี่ย
ใส่อะไรก็ใส่มาเลยแต่ "อย่าโฆษณาโกหก" แค่นั้นเอง
ที่ออกมานี่ไม่ใช่เพราะสำนึกได้เองหรอก น่าจะเป็นเพราะกระทบยอดขายชัดเจน หรือไม่ก็โดนบอร์ดบริหารสั่งให้ออกมาขอโทษเพราะกลัวยอดตกไปกว่านี้
ของไทยน่าจะโยนเยอะเหมือนกันประกาศลดราคา P9 P10 กันใหญ่
ดีมาก...คิดได้ดีแล้ว คนเราเมื่อยอมรับความผิด..ก็ให้อภัย..อย่าแสดงนิสัยเสียอีก ไม่ว่าใครก็ตาม
เราว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าจะเยียวยาแบบไหนมากกว่า
แต่ดูท่าแล้วคง
เงียบๆ จบกันไป แล้วล่ะ
คุณไม่ได้ลืมครับคุณ Yu
ที่แถลงคราวก่อนนั่นล่ะวิสัยทัศน์เดิมของบริษัทคุณ
อยากรู้ว่าจะทำยังไงต่อไปมากกว่า จะให้ส่วนลด คืนเงินบางส่วน คืนเครื่อง เปลี่ยนเครื่อง บลาบลาบลา
แต่คงคิดว่าไม่ทำอะไร อาจจะออกไปตั้งบูท ใครสงสัยหรือมีปัญหาก็ใช้แต่ปากแก้ปัญหาปรับทัศนคติพอ จบ
จัดทีมไว้สำหรับปรับทุกข์สินะครับ รับฟังแต่ไม่เยียวยา อืมมม..
จริงจังกับเรื่องอนาคตทียังไม่เกิด แต่กรณีที่เกิดขึ้นแล้วไม่เห็นจะแก้ไขอะไรคล้ายๆจะบอกลืมๆมันไปนะครับ โอกาศหน้าเชิญใหม่
ผมบอกเพื่อนว่าอย่าซื้อเลยและส่งข่าวให้เขาอ่าน เพราะเขาเคยบอกว่าจะซื้อตอนนี้คงเบรคไม่ซื้อแล้วมั้ง
เสียดายที่ตอนนี้ แบรนด์ ตัวเองกำลังมาแรง กำลังจะเป็นที่เชื่อมั่นไว้วางใจได้ ถึงจะไม่เท่า SS SONY ก็เหอะ ไม่น่าทำตัวเองแบบนี้เลย ทีนี้ก็ต้องมาสร้างกันใหม่ ไอ้ความไว้เนื้อเชื่อใจนี่มันต้องใช้เวลานะ ผมว่ากรณีนี้มันแย่กว่า Note 7 มากมายนัก