Tags:
Node Thumbnail

Bill Gates เคยเสนอไอเดียให้งานที่ใช้หุ่นยนต์ทำแทนมนุษย์จะต้องเสียภาษี โดยให้เหตุผลว่าช่วยชะลอสังคมที่หุ่นยนต์เป็นแรงงานสำคัญแทนมนุษย์ ไม่ให้มาถึงเร็วเกินไป ให้มนุษย์ได้มีเวลาเตรียมตัว และช่วยให้ผู้ใช้มีเวลามากขึ้นในการทำงานอื่นที่ดีกว่า

ไอเดียที่ว่าสร้างความฮือฮาในสังคมโลกไปช่วงหนึ่ง ล่าสุดไม่เพียง Bill Gates แต่ยังมี Jane Kim นักการเมืองชาวเกาหลีประจำการที่ซานฟรานซิสโกที่อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรหากให้เสียภาษีหุ่นยนต์ จะสามารถเติมเต็มปัญหาความไม่เท่าเทียมกันได้หรือไม่

ในซานฟรานซิสโก มีช่องว่างระหว่างทางรายได้สูงมากเป็นอันดับต้นๆ ในสหรัฐฯ สาเหตุมาจากทุนนิยมสูง เศรษฐกิจพัฒนาแบบก้าวกระโดด Kim ต้องการพิสูจน์ว่าภาษีหุ่นยนต์จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่ Kim วางแผนจะตั้งคณะทำงานเรื่องนี้ โดยอยากให้มีส่วนร่วมของคนในวงการไอที การศึกษา และแรงงาน มาร่วมหาคำตอบว่าคนจะเสียรายได้ไปเท่าไรจากการแทนที่ของหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมไหนจะได้รับผลกระทบบ้าง นอกจากนี้ยังอยากเห็นภาษีหุ่นยนต์ที่จัดเก็บได้ไปลงทุนภาคการศึกษามากขึ้น

Kim ไม่ได้คิดว่าภาษีหุ่นยนต์จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะมันต้องไปพร้อมกันกับการการันตีรายได้ขั้นต่ำ และนโยบายอื่นอีกมาก แต่ Jane Kim ถือเป็นนักการเมืองคนแรกที่ออกมาสนับสนุนแนวคิดภาษีหุ่นยนต์ ท่ามกลางความกลัวของประชาชน ที่กลัวว่าสักวันจะตกงานเพราะหุ่นยนต์มาทำงานแทน

No Description
ภาพจาก Janekim.org

ที่มา - Fast Company

Get latest news from Blognone

Comments

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 11 April 2017 - 16:58 #979360
panurat2000's picture

Kim มีความสงสัยและต้องการพิสูจยฃน์ว่า

พิสูจยฃน์ => พิสูจน์

ภาษีหุ่นยนตจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่

หุ่นยนต => หุ่นยนต์

ที่กลัวว่าสักวันจะตกงานเพราะหุ่นยน์มาทำงานแทน

หุ่นยน์ => หุ่นยนต์

By: jane
AndroidUbuntu
on 11 April 2017 - 22:25 #979386
jane's picture

เวลา AI ทำงานแทนคน(งานใช้สมอง) AI ต้องเสียภาษีไหม?

https://www.blognone.com/node/82076#cid-918435

By: je901
iPhoneAndroidWindows
on 12 April 2017 - 11:41 #979437

ต้องถามว่านิยามของ 'หุ่นยนต์' คืออะไร

ต้องมี AI
ต้องมี Body
หรือแค่ทำงานแทนก็นับแล้ว (Automate Test ก็ใช่รึเปล่า)

By: chain_choonoi on 14 April 2017 - 22:16 #979726

ผมว่าเก็บภาษีที่เกาะเคแมนให้ได้ก่อนน่าจะดีกว่าน่ะ
ยิ่งคนทำงานน้อยลง วิถีชีวิตน่าจะสบายขึ้น
เพราะทุกวันนี้งานส่วนเกือบทั้งหมด
ก็ทำเพื่อให้serveคนอีกคนนึงอยู่แล้ว
ถ้าคนทำงานน้อยลงแล้วชีวิตลำบากขึ้นแสดงว่าระบบเศรษฐกิจมันมีจุดรั่วที่ไหนซักแห่ง