Tags:
Node Thumbnail

บรรดาผู้นำโลกไอทีสหรัฐต่างออกมาคัดค้านนโยบายผู้อพยพของ Donald Trump ที่ดูเป็นเอกภาพ แต่กรณีของ Uber กลับแตกต่างออกไป

Travis Kalanick ซีอีโอของ Uber เคยเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับ Trump มาก่อน (คนอื่นที่เข้าร่วมคือ Elon Musk และซีอีโอของบริษัทใหญ่อื่นๆ เช่น Disney, IBM, Wal-Mart, GM, PepiCo รวม 19 คน) ทำให้เขาถูกวิจารณ์มาก่อนแล้วว่าเข้าไปช่วย Trump และในแถลงการณ์ของเขาเรื่องผู้อพยพ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจน (เท่ากับซีอีโอคนอื่นๆ) ในการคัดค้าน Trump

ความไม่พอใจแต่เดิม มาบวกกับเหตุการณ์ประท้วง Trump ที่สนามบิน JFK ในนิวยอร์ก โดยกลุ่มคนขับรถแท็กซี่นิวยอร์ก รวมตัวหยุดงาน 1 ชั่วโมงเพื่อประท้วง Trump ส่งผลให้ผู้โดยสารไม่มีรถแท็กซี่ให้เรียก เหตุการณ์นี้ทำให้ Uber New York ประกาศลดราคา surge pricing ที่สนามบิน JFK ชั่วคราว

การลดราคาของ Uber มองได้ทั้งสองแง่คือ ช่วยให้ผู้โดยสารไม่ต้องเสียค่ารถแพง ในช่วงที่แท็กซี่หายาก (แม้จะต้องรอรถกันนานขึ้น) แต่ในมุมของผู้คัดค้าน Trump มองว่า Uber มาฉวยจังหวะทำกำไรจากโอกาสนี้ และบวกกับประวัติเก่าของ Uber ที่ไม่ค่อยรักษาผลประโยชน์ของคนขับรถ (ข่าวเก่า) และการที่ซีอีโอเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ Trump เลยเกิดแคมเปญ #DeleteUber ขึ้นมา

คนที่ไม่พอใจ Uber จำนวนหนึ่ง ร่วมติดแท็ก #DeleteUber โดยปิดบัญชี Uber ของตัวเอง แล้วให้เหตุผลที่ปิดบัญชีว่า "ไม่ต้องการสนับสนุนผู้นำเผด็จการ"

No Description

หลังแคมเปญนี้แพร่หลายออกไป ฝั่งของ Uber ต้องออกมาแก้ข่าว โดยบอกว่าเหตุผลที่ยกเลิก surge pricing เป็นเพราะต้องการช่วยให้คนเดินทางไป-กลับสนามบิน JFK ในราคาปกติ

ส่วนซีอีโอ Travis Kalanick ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กอีกรอบ ยืนยันว่าบริษัทจะช่วยเหลือคนขับรถที่ถูกแบนเข้าประเทศ โดยส่งทีมกฎหมายไปช่วยเหลือ และชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปในช่วงที่ถูกแบน และ Kalanick ยังประกาศตั้งกองทุน 3 ล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือคนขับรถในปัญหาเรื่องการเข้าเมือง และการแปลภาษาอีกด้วย

ก่อนที่ Kalanick จะออกมาแถลง คู่แข่ง Lyft ออกมาแสดงท่าทีคัดค้าน Trump อย่างหนัก และประกาศบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้องค์กร ACLU (American Civil Liberties Union) ที่เป็นจุดศูนย์กลางในการประท้วง Trump รอบนี้ ส่งผลให้การออกมาตั้งกองทุน 3 ล้านดอลลาร์ของ Uber ถูกมองว่าเป็นการเกทับ Lyft อีกด้วย

ที่มา - Slate, The Verge, Lyft

Get latest news from Blognone

Comments

By: gotobanana
iPhoneAndroidBlackberrySymbian
on 30 January 2017 - 09:37 #967489
gotobanana's picture

ผมว่าคนที่ต่อต้าน Trump อีกไม่เกิน2 ปีเปลี่ยนความคิดแน่นอน

By: katmai
Android
on 30 January 2017 - 11:38 #967514 Reply to:967489

ส่วนผู้สนับสนุนใช้ 2 วันครับ

By: varshad on 30 January 2017 - 14:19 #967535 Reply to:967514
varshad's picture

ตอบได้คมคาย

By: mk-
Symbian
on 30 January 2017 - 10:15 #967494
mk-'s picture

เหมือนขบวนการแถวนี้เลย

By: darkfaty
AndroidWindows
on 30 January 2017 - 10:55 #967505 Reply to:967494
darkfaty's picture

น่าจะเหมือนแค่ฝั่งเดียว เพราะใช้แค่พลังประชาชน

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 30 January 2017 - 10:39 #967500

ล่าสุด Apple ลบแอพที่มาจาก 7 ประเทศ ที่โดนทรัมป์แบน แล้วนะครับ น่าจะมี #DeleteApple ตามมา

By: Go-Kung
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 30 January 2017 - 12:02 #967517

ทำไมผมรู้สึกเหมือนแคมเปญของประเทศแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศ

By: paween_a
Android
on 30 January 2017 - 12:15 #967518
paween_a's picture

Uber มีข้อเสียตรงถอดบัตรเครดิตออกไม่ได้ รู้สึกไม่ค่อยแฟร์เท่าไร พึ่งเห็นเจ้าแรกที่ใส่บัตรเครดิตเข้าไปแล้ว ลบทิ้งไม่ได้เจ้าแรกนี่แหละ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 30 January 2017 - 12:56 #967522 Reply to:967518
hisoft's picture

ก็ลบได้นี่ครับ
No Description

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 30 January 2017 - 13:01 #967523 Reply to:967518
tekkasit's picture

บนมือถือ Android:

กดเมนู (hamburger icon) > Payment > เลือกบัตรเครดิตที่จะลบ > กดเมนู (stacked dot) ที่มุมขวาบน > Delete

By: ่jeng28 on 1 March 2017 - 11:01 #972750 Reply to:967523

ลบไม่ได้ครับผม มีปุ่มให้ลบก็จริง แต่ถ้ายังไม่ Add บัตรเพิ่มเข้าไปก่อนจะลบไม่ได้ครับ ;) ลองกด Delete มันจะขึ้นว่า Fail to delete card. ครับ

PS. ข้อเสียอีกข้อคือ ระบบมันจ้องจับผิด user มากไป ผมเขียน blog เอารหัส uber ไปแจก มีคนเข้ามาเอาไปใช้หลาย 40-50 คน มั้ง อยู่ๆ uber ก็ bann user ผมไม่ให้ใช้ Promotion Code ได้อีกเลย งงมาก ไปอ่านดูคือ ถ้าเราได้รับ promotion มากเกินไป ระบบจะ bann เรา

จบ ใช้ Grab ต่อไปสบายใจ