อาจเรียกได้ว่าเรากำลัังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจากการเสียบหูฟังผ่านพอร์ต 3.5 มม. ไปเป็น USB-C แทน ทั้งจากข่าวลือที่ว่าแอปเปิลจะนำพอร์ตหูฟังนี้ออกใน iPhone รุ่นใหม่ รวมถึงไปโมโตโรลาที่นำร่องในการนำพอร์ต 3.5 มม. ออกไปจาก Moto Z แล้ว
ขณะที่ Intel ก็ดูพยายามจะโปรโมทการเปลี่ยนผ่านนี้ภายในงาน Intel Develper Forum ที่จัดขึ้น ณ นครซานฟรานซิสโก โดยให้ Rahman Ismail และ Brad Saunders สถาปนิกของ Intel ขึ้นพูดถึงข้อดีของ USB-C สำหรับการเชื่อมต่อหูฟัง โดยหลักๆ มีดังต่อไปนี้
-
เครื่องบางกว่าและให้เสียงดีกว่า สถาปนิกของ Intel ทั้งสองคนอธิบายว่า เมื่อไม่ต้องติดตั้งวงจรและพอร์ตจะทำให้สมาร์ทโฟนมีขนาดบางลง ขณะเดียวกันมาตรฐาน USB-C ก็มีสัญญาณเสียงแบบดิจิทัล ทำให้หูฟังที่มีราคาไม่แพง มีโอกาสได้ฟีเจอร์ของหูฟังแพงๆ อย่างการเพิ่มเสียงเบสและ Noise Cancelling มากยิ่งขึ้น
-
ประหยัดไฟกว่าที่คิด คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าการฟังเพลงผ่านพอร์ต USB-C น่าจะกินไฟกว่าพอร์ต 3.5 มม. แต่สเปคของ USB-C แบบใหม่จะสามารถตรวจจับได้ว่าผู้ใช้ไม่ได้ใช้งานไมโครโฟนและปิดฟังก์ชันการใช้งานนั้น ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปได้
- รองรับการส่งทั้งภาพและเสียง พอร์ต USB-C รองรับการส่งทั้งภาพและเสียงในลักษณะเดียวกับพอร์ต HDMI ถึงแม้คุณภาพจะไม่เทียบเท่า แต่ก็สามารถเชื่อมต่อเข้ากับโปรเจ็คเตอร์ สำหรับดูหนัง ฟังเพลงหรือพรีเซนต์งานได้ และที่สำคัญคือรองรับการเชื่อมต่อมากกว่า 1 ช่องทางในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้สถาปนิกของ Intel เปิดเผยด้วยว่า USB-C กำลังจะมีฟีเจอร์พิสูจน์ตัวตนของอุปกรณ์ (device authentication) ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้ด้วย
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
จัดมาเลย
เทพหูทองคงจะรับไม่ได้ครับ ยังมีกลุ่มคนที่เชื่อในอนาล็อกอยู่
อีกกลุ่มที่อาจจะรับไม่ได้ คือคนที่มีหูฟังเทพๆอยู่แล้ว แต่โดนบีบให้ซื้อใหม่
กับผู้ผลิตหูฟังที่ไม่อยากเสียค่าส่วย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เค้าก็น่าจะมีหัวแปลงที่เป็น DAC แยกนะผมว่า
แรกๆอาจจะแถมมา หลังๆต้องซื้อแยก ... -*-
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมหมายถึงคนที่มีหูฟังเทพ ๆ น่ะครับ (ที่หลัก 30000+) เค้าคงต้องซื้อตัวแปลงแยกมาด้วย (เข้าใจว่าต้องเป็น DAC ในตัวด้วย)
คนที่ซีเรียสเรื่องเสียง (และมีเงิน) ส่วนใหญ่ผมเห็นเค้าใช้ DAC หูฟังอยู่แล้วนะ แต่อาจจะต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่
ตัวแพง ๆ คงไม่มีแถมครับ ถ้าจะแถมน่าจะเป็นพวกไม่กี่ร้อยนะ
หมายถึงซื้อน่ะครับ ผมไม่ได้บอกว่าแถมครับ ของดี ๆ คงต้องลงทุนครับ อิอิ พวกหูฟังเทพ ๆ เค้าไม่น่าจะใช้ของแถมครับ
รสนิยมหูทอง ไม่ชอบการต่ออุปกรณ์พ่วงครับ ยิ่งพ่วงเยอะมีความเชื่อว่าความบริสุทธิ์ของสัญญาณยิ่งลดลงครับ การใช้อะไรมาต่อพ่วงเป็นอะแดปเตอร์นี่เลิกคิดเลย แต่ถ้าเป็น DAC USB TypeC ก็คงได้อยู่ครับ
จริงครับ แต่ วงจรก็แปลงจาก digital เป็น analog ออก 3.5 อยู่แล้ว แปลงจาก usb-c มาเป็า analog คงไม่ต่างกัน แต่มันต้องมีอุปกรณ์มาพวงนั่นแหละครับ
ผมว่าเขารับกันได้นะ อาจจะกำลังรอรุ่นใหม่ออกด้วยซ้ำ และเรื่องเงินไม่น่าจะมีปัญหากับกลุ่มนี้
ส่วนของเก่าก็เก็บไว้เป็นของสะสมซะ
พวกกลุ่มคนที่ใช้หูฟังเทพๆ นี่เรื่องความลำบากในการซื้อหัวแปลงหรือการพ่วงต่ออุปกรณ์นี่ เท่าที่เคยเห็นมาดูเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับคนเหล่านั้นนะครับ ตัวอย่างเช่นจากเครื่องเล่นเพลงขนาดพกพาอันเล็กๆ ก็กลายเป็นมัด Gadget ฟังเพลงพกพาขนาดอ้วนๆ กันเป็นปกติ
บางทีความจำเป็นมันบังคับครับ หูฟัง 300,600 Ohm จะหาเครื่องเล่นแบบพกพาที่ขับมันไหวโดยไม่ต้องพ่วงแอมป์ ทั้งโลกมีให้เลือกไม่กี่รุ่นเองครับ
ว่าแต่โครงการ lightning port แบบ fiber optic ที่โม้ไว้ซะดิบดีตอนนี้หายไปไหนแล้วครับ? ไหงมาสนับสนุน USB ซะอย่างงั้น?
Thunderbolt หรือเปล่าครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
fiber optic ใช้กับสายหูฟังไม่รอดหรอกครับ มันต้องมีตัวสร้างพลังงานไฟฟ้าแล้วแปลงเป็นเสียงมาเข้าหูเราอีกทีอยู่ดี นั้นก็ทำให้หูฟังแบบมีสายต้องมี battery อีก มีสายแล้วมี battery จะทำมาเพื่ออะไรจริงมั้ยครับ ยกเว้นมีอุปกรณ์แปลงแสงเป็นเสียงได้ตรงๆโดยไม่ต้องเป็นไฟฟ้าก่อน นั่นหล่ะ
ส่วน lightning port มันน่าจะอยู่กับอุปกรณ์ของ Apple นะครับ ที่เขาจะเอา port หูฟังออกไง
อาจได้เห็น USB-C Dongle เล็กๆ ออกมาขาย สำหรับเสียบหูฟังและชาร์จมือถือในคราวเดียว หรือจะได้เห็นมือถือมี USB-C 2 port ในเครื่องเดียวกัน
Get ready to work from now on.
ถ้าจะชาตไปด้วยก็ต้องใช้ adapter เว้นแต่ว่าจะมี 2 port
และที่สำคัญ(สำหรับผม)มันไม่ใช่portกลม มันหมุนไม่ได้
เห็นด้วยว่าควรมีให้ 2 พอร์ตที่ทำงานได้เหมือนกันทุกประการ ส่วนเรื่องพวกแจ็คกลมๆ ปกติเขาไม่แนะนำให้หมุน แต่เข้าใจอยู่ว่าบางครั้งเสียบไปแล้วองศามันไม่ได้เลยต้องหมุนเล็กน้อยครับ
+1
แต่ในรูปนี้มัน P9 plus นี่
สงสัยต้องหา DAP มาใช้เป็นเรื่องเป็นราวแล้วล่ะ
แล้วกลุุ่มผู้ใช้หูฟังแพง หลักหมื่น จะทำยังไงละ ถ้าไม่มี Adapter มาให้
หูฟังใช่อันละบาทสองบาทที่นึกจะให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนได้เลย
ช่วงแรกผมว่าน่าจะมี adapter มาให้อยู่แล้วล่ะครับ ดูอย่างพวกใช้ port usb-c ก็มี adapter usb มาให้กันทั้งนั้น
มันไม่ใช่ Adapter นะสิครับ
มีนต้องเป็น Dac
Dac เสียงดีๆนี่แพงเอาเรื่องเลย
มือถือก็ยังคงมี DAC ตามปรกติครับ เพียงแต่ว่าเปลี่ยนหัวต่อเป็น USB-C ตัวพอร์ตจะ detect ได้เองว่าเสียบอุปกรณ์แบบไหนมา ถ้าเป็นอนาล็อกก็จะไปเปิดวงจร DAC ให้เท่านั้นเอง
ยังไงมือถือก็ต้องมี DAC อยู่แล้ว ไม่งั้นจะขับลำโพงยังไง (แถมให้ว่าต้องมี ADC ด้วยอีกตัวสำหรับไมค์)
Leeco รุ่นไม่มีช่อง 3.5 mm ตัวแปลงที่เขาแถมมาให้ มันคือ DAC ใช่ไหมครับ
แล้วหูฟังที่ซื้อไปแล้ว ต้องมาซื้อตัวแปลงสายอีกรอบ นี่เราต้องย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนอีกแล้วเหรอ กับการที่ต้องใช้หัวแปลงเพื่อฟังเพลง
มีสองแบบให้เป็นทางเลือกมันไม่ดีกว่าหรือไง ถ้ามันดีจริง คนก็เปลี่ยนไปใช้เองแหละ
มันก้ต้องเป็นไปแบบนี้แหละ
แล้วก้ อะไรที่ดี คนมันก้ก้จะมาเอง อะไรที่ไม่ดี เด่วก้ตายไปเอง มันก้มีแค่นี้เอง
ส่วนเรื่องมีสองแบบไว้เป็นทางเลือกนี่ คงสิ้นเปลืองด้านต้นทุนการผลิตนะผมว่า
ปัญหาคือ ผู้ผลิตมักบังคับตลาดให้ลองผิด-ลองถูกอยู่พักนึง (แบบไร้ทางเลือก) ถ้ามันไม่เวิร์ดก็เอาของเก่าก็กลับมา แต่ปัญหาคือระหว่างนั้นคนที่ต้องได้รับผลกระทบจากการลองผิดลองถูกของคนพวกนี้จะให้เค้าอยู่กับสิ่งที่ผิดพลาดแบบนั้นเหรอ ดูมันไร้ความรับผิดชอบไปหน่อย
ถ้าผลิตทั้งสองแบบมาประชันกันเลยว่าเค้าใช้อะไรมากกว่ากัน ถ้ามันมีต้นทุนมากก็อย่างที่บอกข้างบน เราอยากเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากการลองผิดลองถูกไหม ถ้ามันไม่ได้รับการยอมรับ สิ่งที่เราต้องเสียไปเพื่ออยู่กับสิ่งที่ผิดพลาด มันเงินของเราเนี่ยดิ
ผมว่าก็คงจะยังมีผู้ผลิตบางเจ้า ที่ผลิตรูแบบเก่าออกมาให้เลือกซื้ออยู่นั่นแหล่ะครับ
usb-c หัวเดียวไปทำสารพัดอย่างมันก็ ok แต่ถ้าในอุปกรณ์นั้นมันมีแค่หัวเดียวเช่นโทรศัพท์นี่มันจะน่ารำคาญมากเลยนะครับ แปลงไปแปลงมา มันก็น่ารำคาญใช่ย่อยนะครับ
เหมือนคอมที่มี usb รูเดียว
もういい
ผมติดแค่สองปัญหาคือ หาหัวแปลงยาก กับชาร์จไปฟังไปไม่ได้
ถ้าใช้หูฟัง 3.5 กับชาจ USB-C น่าจะได้น่ะครับ ผ่านตัวแปลงสองหัวเคยเห็นแวบๆ
สายเสียบฟังเพลงในรถยังเป็น AUX in อยู่ มันคือสาย 3.5 มม. 2 ฝั่ง อยากเปลี่ยนไร อยากทำไรเชิญครับ รถผมต่อ usb ไม่ได้ด้วยนี่นา ถ้าจะทำให้ต่อได้ต้องยกเครื่อง din หน้ารถใหม่ ระบบบลูธูทก็ไม่รองรับอีก เราขอ 3.5 mm. ต่อละกันนะ แต่ถ้า usb-C มันเทพกว่า 3.5mm. มากมายมหาศาลจริงๆ ไม่ใช่ปัญหาหรอกที่เราจะเปลี่ยนเพื่อมัน ขอให้คุณพิสูจน์มาละกัน ของดีๆ เราไม่ปฏิเสธแน่นอน มือถือบางลงอีกก็ดี เหลือสัก 2 mm. คงเพอเฟกนะ
ส่วนตัวใช้หูฟัง Bluetooth เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา
หูไม่เทพด้วย สบายเลย (จริง ๆ ไม่มีเงิน)
กลิ่น btx rdram มาแต่ไกล
ดีกว่าใช่ว่าคนจะยอมรับเสมอไป
/>o</
หุหุ ไอ้เรามันพวกหูเทพไร้สาย ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
orz..
ในรูปก็มี ทั้ง2รู Note7 ก็มี2รู
ไม่เข้าใจความหมายที่จะสื่อ
ชอบแบบเก่ามากกว่า เสียบง่ายกว่า แค่คลำหรือจิ้มมั่วๆ ก็เข้า หมุนหามุมไม่เกะกะได้อีก แต่ถ้าจะเปลี่ยนกันหมดก็ขอสองพอร์ตละกัน
อยากจะบอกว่าหูฟังหลักหมื่นที่พูดถึงกันเนี่ย หลายๆตัว จริงๆแล้วส่วนใหญ่ ต่อช่อง 3.5 นี่ไม่ได้ทำให้เสียงมันออกมาดีได้อย่างที่มันควรจะเป็นเลยนะครับ
ยกเว้น b--t- อันนั้นจะราคาเท่าไหร หรือเสียบยังไงก็ไม่ได้เป็นหูฟังที่มีเสียงน่าฟังสำหรับผมเลย
ช่อง Youtube ของผมครับ รีวิวและชวนคุยนู่นนี่
เอาจริงๆ มันควรเป็น Optional ไม่ควรจะตัดทิ้งแบบหักดิบ อยากใช้แบบไหนก็แล้วแต่ผู้ใช้
ผมเองก็มองไม่เห็นว่าการตัดพอร์ต 3.5mm ออกแล้วจะช่วยเรื่องพื้นที่ได้มากแค่ไหน ในเมื่อรอบมือถือมีพื้นที่เยอะแยะ จะงอกกี่พอร์ตก็ได้ การตัดให้ทุกพอร์ตเหลือพอร์ตเดียว มันจะสร้างความยุ่งยากในการใช้งาน ผู้ใช้อยากได้มีถือที่มีประโยชน์ ไม่ใช่มาแข่งกันบางไร้สาระ ทีนี้ถ้าผู้ใช้จะชาร์ตไปด้วยฟังเพลงไปด้วยก็ต้องหาตัวแปลงมาต่อเพิ่มเติม ทำให้ชีวิตยุ่งยากกว่าเดิม ทำไปทำไม
แบบเดียวกับ Notebook สมัยนี้ที่พยายามลดพอร์ต USB นั่นหล่ะ มีประโยชน์ตรงไหน..
ชาร์ตไร้สายไงครับ ค่อยๆพัฒนากันไป
ถ้ามันบางลงได้อีกก็ใส่ อะไรลงไปอีกได้
ถ้าจะมาแนวทางนี้ ก็ควรใส่ USB Type-C 2 ช่องนะ หัวท้ายไปเลย จะได้ชาร์ตแบตตอนฟังเพลงได้ด้วย และจะเสียบหูฟังบนหรือล่างก็ได้
ไอเดียแจ่มคับ!
อยากให้มี usb-c สองช่องครับ จริงๆมาแทน 3.5 ก็ดีครับ เพราะเจอปัีญหารูไม่ดี เสียบได้ไม่ลึก เสียบไม่แน่น หรือเสียบแล้วมีเสียงแปลกๆ ค่อนข้างรำคาญ โดยเฉพาะเคส PC รูหน้า ที่บ้านผมเสียบหูฟังราคาแพงแล้วดึงแทบไม่ออก แทบจะหักคารูเลย
รูไม่ดี , เสียบไม่ลึก , เสียบไม่แน่น , เสียบแล้วมีเสียงแปลกๆ ครบเลย อิอิ
แทนที่จะสนับสนุน USB-C ให้พลังสูงได้ตั้งหลายทาง แก้ปัญหาที่ยังไม่เคยทำ เช่นมาตรฐานต่อจอ 4K ผ่านมือถือ, ทำงานกับ storage ได้, แปลงโดยทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆได้ มีอะไรอีกหลายอย่างให้ทำ ... แต่กลับได้ USB-C มาโยนหูฟังเดิมทิ้ง น่าตลกดีนะครับ
ขอ 2 รู อยากฟังเพลงพร้อมกันสองคน หรือแยกกันฟะงคนละเพลง
มือถือที่ทำแบบนั้นได้ 3.5 ก็ดันไม่ขายในไทย
The Last Wizard Of Century.
ไม่มีแอพไหนใช้ไมค์ก็ปิดไปสิครับ
ทุกวันนี้ยังหาสายชาจต์ USB-C ยากเลยครับ
เดินไปถามร้านขายโทรศัพท์ตามห้าง บอกสาย USB-C ก็ทำท่างงกันเป็นแถว แล้วก็มองหน้าว่ามรึงจะบ้าหรือป่าว
ถ้าไม่ไปตาม MBK, Fortune นี่ไม่มีใครรู้จักครับ
น่าจะมาหูฟัง สงสัยจะยิ่งงงๆกันไปใหญ่ช่วงแรกๆ
จัดมาเหอะ ขอให้เปิดฟังแล้วมีเสียงละกัน ข่าวนี้ออกมาเพราะกลัวอุปกรณ์ที่มีแต่ type c จะปิ๋วขายไม่ออกเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ อย่าร้องๆ ถึงเวลาถ้าคนไม่ใช้พวกที่ผลักดันมันก็เน่าตายไปเองอยู่ดี ของดีหนะไม่ต้องแพล่มหรอก คนชื้อใช้อยู่แล้ว เชื่อเหอะ
สงสัยว่า Bluetooth aptx คุณภาพเสียงมันได้มั้ย คือถ้าเน้นบาง ผมว่าตัดรูเสียบออกให้หมดไปเลยก็ดีนะ ชาร์จก็ไร้สาย ฟังเพลงก็ BT เอา