Tags:
Node Thumbnail

ขณะที่ประเทศไทยเริ่มออกกฎให้ธนาคารต้องออกบัตรชิปตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมนี้ และมีบางท่านตั้งข้อสงสัยว่าจะป้องกันการโกง (fraud) ได้หรือไม่ ล่าสุด Visa บริษัทด้านการรับชำระเงินรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ออกมาให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ USA Today ว่า การใช้บัตรชิปที่มีเทคโนโลยี EMV สามารถลดรายการที่เกิดจากการโกง (fraud transaction) ได้มากถึงร้อยละ 18.3

Visa ระบุว่าตัวเลขจาก 25 ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มักพบการทำรายการที่เกิดจากการโกงในปี 2014 นั้น เมื่อเปลี่ยนมารับบัตรชิปที่มีเทคโนโลยี EMV ทำให้ยอดของรายการที่เกิดจากการโกงดังกล่าวลดลงไปถึงร้อยละ 18.3 ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการซึ่งยังไม่รับบัตรชิปที่มี EMV กลับต้องเจอการทำรายการที่มีการโกงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.4 ในช่วงเวลาเดียวกัน

Stephanie Ericksen รองประธานฝ่ายความเสี่ยงของ Visa ระบุว่าการใช้เทคโนโลยีอย่าง EMV มีส่วนทำให้การโกงลดน้อยลงไปมาก และผู้ให้บริการหรือขายสินค้าที่ตัดสินใจรับบัตรชิปเหล่านี้ ก็ได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น

ที่มา - USA Today

alt="Chip-enabled Citi Thank You Preferred Visa Signature Credit Card"

ภาพบัตร VISA พร้อมชิปโดย Aranami (CC-BY 2.0)

Get latest news from Blognone

Comments

By: Eddz on 21 April 2016 - 10:29 #905160
Eddz's picture

สำหรับประเทศไทยบัตรเครดิตใหม่เกือบทุกธนาคารใช้เทคโนโลยี EMV มาหลายปีแล้ว
แต่สำหรับบัตร ATM กลับมีอยู่ธนาคารเดียวที่ใช้เทคโนโลยี EMV และต้องกดเงินที่ตู้ธนาคารเจ้าของบัตรเท่านั้น ทั้งๆ ที่ปลอดภัยกว่า และลดการถูกสกิมเมอร์ ธนาคารกลับไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญ ปล่อยให้ผู้ใช้รับความเสี่ยงเอาเอง ถึงจะได้เงินคืน แต่ก็เสียเงิน เสียเวลา ในการตามคืน กว่าจะได้คืนก็ 2-3 เดือน

By: Iamz
AndroidWindows
on 21 April 2016 - 10:43 #905170 Reply to:905160

เห็นด้วยครับว่าธนาคารไทยปัดความรับผิดชอบมาก ๆ เมื่อก่อนสมัยพ่อผมยังทำงานธนาคาร (เจ้าเดียวที่มีบัตร ATM แบบ EMV นี่แหละ) มีข่าวว่ามีแก๊งค์ขโมยข้อมูลบัตรโดยไปดักฟังสายโทรศัพท์ที่ออกจากตู้ ATM เลยเพราะว่าไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่ออกจากตู้ ATM พ่อผมยังบอกเลยว่าถ้าโดนกดเงินออกจากบัญชีธนาคารจะไม่รับผิดชอบ ตอนนั้นผมก็เถียงหัวชนฝาเลยว่ามันเป็นความผิดธนาคารที่ไม่ยอมเข้ารหัสข้อมูลที่ออกจากตู้ เจ้าของบัตรธรรมดาไม่มีทางรู้เรื่องพวกนี้เจ้าของบัตรจะต้องรับผิดชอบได้ไง

By: toandthen
WriterMEconomics
on 21 April 2016 - 11:58 #905201 Reply to:905160
toandthen's picture

เหมืแนบัตรเครดิตโดนต้นสังกัดบังคับ (Visa/MasterCard) แต่พอเป็นเอทีเอ็มนี่ เพิ่งมาโดนบังคับจริงจังถึงทำเช่นกัน


@TonsTweetings

By: Lennon
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 21 April 2016 - 11:29 #905190

อย่าไปว่าแต่ธนาคารเลยครับ ประชาชนเองเห็นหลายคนก็ยุเพื่อนให้ทำบัตรที่ไม่มีชิ๊พที่ว่านี่ด้วยเหตุผลที่ว่าสะดวกดี แถมบางคนยังต่อว่าธนาคารรายเดียวที่ใช้ชิ้พอีกแน่ะว่ายุ่งยาก ดีมานด์มีซัพพลายจึงเกิดครับ

By: osmiumwo1f
ContributorWindows PhoneWindows
on 21 April 2016 - 12:40 #905211 Reply to:905190
osmiumwo1f's picture

เรื่องความปลอดภัยนี่หลายๆ คนไม่สนใจ จนกว่าจะโดนเองครับ

By: wichate
Android
on 21 April 2016 - 12:43 #905212 Reply to:905190

ลูกค้าต้องการสะดวก+ปลอดภัยครับ (demand) ซึ่งยังไม่มีธนาคารไหนทำได้ดังนั้นจะสรุปว่ายังไม่มี demand คงจะไม่ถูก

By: nrml
ContributorIn Love
on 21 April 2016 - 13:18 #905230 Reply to:905190
nrml's picture

ในมุมมองของ User ก็ถูกต้องแล้วครับ ธนาคารควรจะพัฒนาทั้งความสะดวกในการให้บริการควบคู่กับเรื่องการรักษาความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน ถ้าตู้ที่ใช้บัตรแบบใหม่มันมีหลายตู้หรือสามารถใช้งานได้เลยกับตู้ที่มีอยู่มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ลองถ้าได้ออกไปต่างจังหวัดที่ตู้เอทีเอ็มมีน้อยและมีจำกัดเฉพาะบางธนาคารคุณน่าจะเข้าใจ ว่าการมีบัตรที่มี security สุดยอด แต่ไม่สามารถกดเงินออกมาได้มันเป็นประสบการณ์ที่แย่ขนาดไหน

By: PriteHome
ContributorAndroidWindows
on 21 April 2016 - 23:18 #905373 Reply to:905190
PriteHome's picture

ถ้ารอให้ดีมานด์มีซัพพลายจึงเกิด ก็คงเหมือน Windows Mobile น่ะล่ะ ไม่เกิดสักที
เพราะตู้ธนาคารส่วนใหญ่ไม่ยอมใช้ชิป คนเลยไม่อยากเสี่ยงทำบัตรแล้วกดเงินไม่ได้ ยิ่งอยู่ต่างจังหวัดนี่หาตู้กับสาขาไม่ง่ายเลย

By: docterdoom
iPhoneWindows
on 21 April 2016 - 12:27 #905209
docterdoom's picture

บัตรที่มีชิปจะมีแถบแม่เหล็กด้วยถูกมั้ยครับ.. (อ้างอิงจากบัตรเครดิตตัวเอง)
แล้วเวลาที่จะใช้งานนี่แล้วแต่คนรูดว่าเค้าจะเสียบด้านชิป หรือรูดแถบแม่เหล็กก็ได้ใช้มั้ยครับ

By: Polwath
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 21 April 2016 - 12:44 #905213 Reply to:905209
Polwath's picture

บัตร Be1st ก็มีทั้งชิปและแถบแม่เหล็กนะ


Get ready to work from now on.

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 21 April 2016 - 13:21 #905237 Reply to:905209
hisoft's picture

บัตรเครดิตที่มีทั้งสองอย่าง กับเครื่องที่รองรับ (ซึ่งปัจจุบันแทบทุกเครื่องรองรับหมด) จะบังคับว่าต้องใช้ชิปครับ ใช้แถบแม่เหล็กไม่ได้ ถ้าโดน skim แถบแม่เหล็กไปก็เอาไปหาที่รูดได้ยาก

By: pongkantaphon
ContributoriPhoneUbuntu
on 21 April 2016 - 17:22 #905303 Reply to:905209
pongkantaphon's picture

มีแทบแม่เหล็กไว้เผื่อทำ fallback ในกรณีที่ emv มีปัญหาครับ

ถ้าธนาคารเจ้าของบัตรเค้ายอมน่ะนะ


COBOL !!

By: tk719
iPhoneBlackberrySymbianIn Love
on 21 April 2016 - 20:58 #905347 Reply to:905209

อย่าว่าแต่แค่ EMV chip กับแถบแม่เหล็กเลยครับ ตัวนูนสำหรับ zipzap ก็ยังอยู่ บางร้านยังใช้อยู่เลย

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 21 April 2016 - 13:39 #905243
iStyle's picture

ผมว่าที่มันลดเพราะมันขโมยข้อมูลยากขึ้นรึเปล่า(ไม่ใช่ทำไม่ได้) คือพอมันยาก คนก็ไปขโมยข้อมูลอันที่มันง่ายๆ แต่พอทุกคนใช้ระบบนี้ สุดท้ายก็จะกลับมาเท่าเดิมเพราะโจรก็ปรับตัวขโมยข้อมูลจากระบบใหม่ได้หมดแล้ว


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 21 April 2016 - 13:42 #905245 Reply to:905243
hisoft's picture

ณ ตอนนี้ขั้นตอนมันยากกว่ากันพอสมควรครับ แบบแถบแม่เหล็กบัตรผ่านมือวูบเดียวแค่แอบรูดเครื่องเล็กๆ ซ่อนไว้กับมือก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่กับ EMV มันไม่ใช่แบบนั้นครับ

By: osmiumwo1f
ContributorWindows PhoneWindows
on 21 April 2016 - 13:52 #905252 Reply to:905243
osmiumwo1f's picture

เท่าที่รู้มาต้องเอาชิพตัวจริงไปครอบด้วยชิพ bypass หรือถ้าก็อปปี้ก็จะเสี่ยงกับชิพตัวจริงถูกทำลายแต่ไม่ได้ข้อมูลพอที่จะสร้างชิพตัวโคลนได้ครับ

By: lancaster
Contributor
on 22 April 2016 - 01:44 #905393 Reply to:905243

แถบแม่เหล็กนี่รูดปืดเดียว copy ไปใช้ได้เลยครับ เจ้าของบัตรไม่มีทางรู้ตัว บัตรยังอยู่ที่เดิม

ส่วนชิปปัจจุบันยังไม่สามารถ copy ได้ครับ มันเป็น smart card นี่แหละ ที่เคยมีข่าวรั่วคือขโมยตัวบัตรไปแล้ว สามารถเอาไปใช้งานโดยข้ามขั้นตอนการตรวจสอบ PIN ได้ แต่ปัจจุบันเมืองไทยยังไม่ใช้ PIN ครับ ดังนั้นถ้าโดนขโมยไปก็เอาไปใช้ได้ทันทีครับไม่ต้องห่วง :)