WordPress.com เปลี่ยนระบบหลังบ้านของตัวเองใหม่หมด จากของเดิม (wp-admin) ที่เขียนด้วย PHP มาเป็นระบบใหม่ชื่อ "Calypso" ที่เขียนด้วย JavaScript ทั้งหมด 100% แทน (ใช้ Node.js และ React)
Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงว่าโค้ดของ WordPress เขียนมานานแล้ว และจุดเด่นของ WordPress ที่รักษาความเข้ากันได้ย้อนหลัง (backward compatibility) มาโดยตลอด กลับกลายเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้ตัวมันเองพัฒนาแบบก้าวกระโดดได้
เขากับทีมงานบริษัท Automattic จึงตัดสินใจออกแบบระบบหลังบ้านของ WordPress ขึ้นมาใหม่ โดยใช้เทคโนโลยียุคปัจจุบัน ผลคือ Calypso ทำงานเร็วมาก แทบไม่เสียเวลาโหลดเพจใดๆ อีกทั้งเป็นอินเทอร์เฟซแบบ responsive เต็มรูปแบบ ทำงานได้บนทุกหน้าจอ ตัว editor และตัวจัดการภาพแบบใหม่ใช้ง่ายขึ้นมาก
editor ตัวใหม่ของ WordPress.com
นอกจากการทำงานในเบราว์เซอร์แล้ว Calypso ยังแปลงไปเป็นแอพแบบเนทีฟบนเดสก์ท็อป (ประมวลผล JavaScript ในเครื่องผู้ใช้งาน) ได้ด้วย ตอนนี้แอพ WordPress.com เวอร์ชันแมคออกแล้ว และจะออกเวอร์ชันวินโดวส์-ลินุกซ์ตามมา
แอพ WordPress.com บนแมค หน้าตาเหมือนกันทุกประการ แต่รัน local
วันนี้ ผู้ใช้ WordPress.com ที่ล็อกอินจะเห็นอินเทอร์เฟซ Calypso แบบใหม่แล้ว ตัวอินเทอร์เฟซนี้สามารถใช้บริหารเว็บไซต์ WordPress ของเราเองที่ไม่อยู่บน WordPress.com ได้ด้วย (self-hosted) โดยเราจำเป็นต้องติดตั้งปลั๊กอิน JetPack ลงใน WordPress ก่อนเพื่อควบคุมเว็บได้จากระยะไกล
Calypso เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub แต่ยังไม่ประกาศแผนว่าจะถูกผนวกรวมเข้ากับ WordPress เวอร์ชัน .org หรือไม่ในอนาคต
ที่มา - WordPress.com, Ma.tt
Comments
สาธุ ...เหอะ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ความสามารถที่โดดเด่นหายไป ? เรื่องรูป ตอนใช้ทำไมนึกถึง Twitter ไม่รู้
ชอบๆ สวยงาม ตรงประเด็น และเป็นระเบียบมากขึ้น
ข่าวใหญ่ของ WordPress เลยทีเดียว
เคยคิดว่า WordPress จะเจอทางตันในไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะมันสร้างด้วย php ซึ่งเป็นภาษาที่เก่ามากแล้ว และทำให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ยากขึ้น ไม่เหมือน JavaScript ที่กลายเป็นมาตรฐานของการทำเว็บยุคใหม่
แต่ WordPress หาทางออกได้ฉลาดมาก ผมมองว่าเค้ากำลังแยกชิ้นส่วนของระบบตัวเอง เป็น
ตอนนี้ สิ่งที่เค้าทำคือการเปลี่ยนข้อ 2. ให้กลายเป็น Node.js และ App แล้วเชื่อมข้อ 1 ด้วย REST API
แล้วก็เพิ่ม CDN ใน Jetpack ให้ข้อ 1 สามารถกระจายโหลดได้ฉลาดขึ้น
ซึ่งสุดท้าย ผมขอทำนายว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะเกิดข้อ 3. คือวิธีเขียนธีมในแบบใหม่ -ที่อาจจะเป็น Node.js ก็ได้- เพื่อดึงเนื้อหาในข้อ 1 มาแสดงผลได้ดีกว่าเดิม โดยที่สำหรับเว็บขนาดกลางและเล็ก ก็ยังใช้ระบบธีมแบบเดิมได้อยู่ดี ซึ่งจะทำให้ WordPress ยืดหยุ่นขึ้นอีกมากทีเดียว
และถ้าเป็นจริงก็ฆ่า CMS ที่ทำบน Node.js ตายเกลี้ยงเลย >_< (กำลังซุ่มทำอยู่นะเนี่ย T T)
กราบคารวะศาสดาแม็ต!
ฆ่า CMS โลก php ด้วย
JS เครื่องไม่แรงจะกระตุกป่าวครับ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ถ้าเป็น js แนวดึงข้อมูล ไม่ใช่เน้นลูกเล่น/การเคลื่อนไหว ก็ไม่กระตุกครับ เว็บ facebook / medium ก็ js นะครับ
ชอบๆๆ
ชาบูๆ
WE ARE THE 99%
รอให้มาใน wordpress.org
แต่ถ้ามาจริงๆ ตอนอัพเกรดคงมีปวดหัว
ความคิดส่วนตัวนะครับ
-เหตุที่ไปใช้ React js เพราะมันไม่โหลด Server มาก
ตัว Server ทำหน้าที่รับ-ส่ง ข้อมูลกับให้บริการ Session ก็พอ
ใช้เทคนิค AJAX มาช่วย ลูกเล่นต่างๆ ไปอยู่ที่ Client หมด
-กลายเป็นว่า Server ต้องรองรับทั้ง PHP และ NodeJS แทนที่
จะมีแค่ตัวใดตัวนึง (ทดลอง NodeJS)
-React JS ออกแบบมาสำหรับ Blog โดยเฉพาะ แต่ผมว่า
jQuery for Blog ก็มีนะ อีกอย่าง jQuery ก็ใช้กันแพร่หลายมากด้วย
-Node JS เขียนแบบ non-blocking ต่างกับ PHP
PHP ที่ต้องรอให้เสร็จงานก่อน ถึงแม้ NodeJS จะเร็วจริง แต่อย่าลืมว่า
Knowhow ของ PHP มันก็มีเยอะมากนะครับ Framework มีเป็นสิบ
เช่น Laravel , Phalcon, CakePHP ส่วนใหญ่พวกนี้ความเร็วก็เพียงพอนะครับ
บางตัวทำงานเป็น middle-ware คอยเป็นบัฟเฟอร์รับส่งข้อมูลให้้อีกด้วย
ที่ตัวเองมาจาก PHP แท้ๆ อีกอย่างใช้ Javascript + AJAX ก็พอเพียงแล้ว
งงอะ
ยุคสมัยแห่งการพัฒนาเว็บสมัยใหม่กำลังมาครับ ภาษาเดียว เปรี้ยวทุกงาน
ในนี้มีอธิบายไว้อยู่ครับ อ้างอิง
อีกอัน
ผมเชื่อว่า นี่เป็นการ "หาเสียงว่า มาใช้ Node.js กันมั้ย" นะครับ
เคยตอบพี่โดมไว้ ขอดึงมาลงตรงนี้ครับ
ผมมองว่าการออกตัว client ก่อน ทำให้ทุกคนสามารถใช้ได้ทันที มันคือการ Convince / เชื้อเชิญ / ชี้นำ ว่า WordPress กำลังจะมี Solution ใหม่แล้วนะ ถ้าเห็นว่ามันดี อยากได้ของใหม่ยกชุด ก็ต้องยอมที่จะเรียนรู้ใหม่ กับ platform ใหม่ (node.js) ในอนาคต
เพราะ WordPress มีฐานผู้ใช้/นักพัฒนาที่ใหญ่มาก เปลี่ยนทีนึงเกิดคนไม่เอาด้วย คราวนี้ทิศทางจะเป๋ง่ายมาก เดี๋ยว Fork กันกระจาย ลองนึกภาพว่า ถ้า WordPress 5.0 คือ Ghost 2.0 (ที่ใช้ Node.js) - ต่อให้ดีแค่ไหน คนที่เคยชินกับของเดิมก็จะไม่ยอมเปลี่ยนง่ายๆ และจะไปใช้ตัวอื่นที่เป็น php แทน
สำหรับระบบจัดการนี้
user ของ WordPress.com ก็คงไม่สนใจด้านเทคนิคนัก แค่พบว่ามันใช้เร็วขึ้นได้ก็กรี๊ดละ ในขณะที่ User ของ WordPress.org ก็จะพบว่ามันช่วยจัดการข้อมูลพื้นที่ฐานได้ดีมาก แต่ข้อมูลเชิงลึกที่ทำเพิ่ม (พวก Custom Post Type / Plugin ต่างๆ) ยังต้องไปใช้บนเว็บอยู่ดี คราวนี้ก็จะมีคนทำปลั๊กอินที่เตรียมทำเวอร์ชั่น node.js รอ (ถ้า WP ประกาศว่าจะเปลี่ยน) และหากเปลี่ยนระบบทั้งหมดเป็น node.js จริง นักพัฒนาที่เห็นข้อดีของมันแล้ว ก็จะรู้สึกว่า เอาวะ ยอมเรียนรู้ก็ได้
ซึ่ง WP4.4 มี REST API แปลว่า เราจะเขียนธีมด้วย Node.js แล้วก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าเดี๋ยวอีกไม่นานทีม WordPress จะทำธีมใหม่ที่เขียนด้วย Node.js ให้โหลดไปศึกษา แน่นอนว่าจะมีพวก Geek (Early Adopter) เอาแนวคิดไปทำธีมมาแจกมาขาย ถ้ามันดีจริง คนส่วนใหญ่ก็จะยอมย้ายไปมากขึ้น
แล้ว step สุดท้าย (ที่ผมเดา) ถึงจะเป็นการเปลี่ยนหลังบ้านทั้งหมดเป็น Node.js โดย compatible กับ php ไประยะนึง (คือ มี WordPress ทั้ง 2 แบบให้ลง ไปจนกว่าคนจะไม่ค่อยใช้ php แล้ว) เพราะอันนี้กระทบคนและธุรกิจเยอะมาก ทั้งคนทำเว็บ/network/hosting/plugin ฯลฯ จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีฐานผู้ใช้เยอะแล้วจริงๆ
ทำไมไม่ใช้ php framework ตัวอื่น? ผมคิดว่าในเมื่อจะเปลี่ยนอยู่แล้ว ก็เปลี่ยนเป็น solution ที่ดีที่สุดเลยดีกว่า และถ้ามันแยกชิ้นกันได้จริงๆ (ตามที่ผมเขียนไว้ในคอมเม้นท์ด้านบน ว่ามี 3 ชิ้น) เค้าจะแยกทำได้ง่าย ให้นักพัฒนากระจายไปทำส่วนอื่นๆ ได้ง่าย วันหนึ่ง hosting อาจจะแยก host ก็ได้ ตัวนึง host เฉพาะ database ที่มี content + API + CDN แล้วตัวอื่นค่อยมาทำเป็น ตัวแสดงผล Theme (ซึ่งจะใช้คนละเทคโนโลยีก็ได้ด้วย)
เคยถกกันเรื่องนี้ ที่ผมบ่นไว้ไม่ผิดจริงๆ
Python vs PHP vs Node.js vs Golang
กลับสู่ยุค Thick Client อีกครั้ง