Tags:
Node Thumbnail

เว็บไซต์ AnandTech เผยว่าเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและอัพเดตเปิดใช้ฟีเจอร์ Speed Shift ของอินเทล ที่มากับชิปรหัส Skylake ซึ่งถูกใช้กับคอมพิวเตอร์หลายรุ่น อาทิ Surface Book กับ Surface Pro 4

AnandTech ให้ข้อมูลว่า เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาต่อยอดจาก Speed Step ในปัจจุบัน โดย Speed Shift จะประเมินความถี่ของสัญญาณนาฬิกาและแรงดันไฟฟ้า (voltage) ขณะประมวลผล เพื่อผลักให้ซีพียูทำงานเต็มที่เมื่อมีการใช้งานหนัก และลดลงเมื่อไม่มีการใช้งาน แทนที่ระบบปฏิบัติการจะเป็นผู้ประเมิน ซึ่งช่วยยืดเวลาการใช้งานเครื่อง (battery life) และเครื่องตอบสนองต่อการประมวลผลหนักในเวลาอันสั้น (short-burst) อาทิ เบราว์เซอร์โหลดหน้าเว็บ ได้เร็วขึ้นเพราะซีพียูสามารถเร่งการประมวลผลได้เร็วกว่าที่ระบบปฏิบัติการสั่งให้ซีพียูทำงาน

AnandTech ได้ทดสอบด้วย WebXPRT 2013 และ WebXPRT 2015 และพบว่าคะแนนดีขึ้นเมื่อเปิดใช้ Speed Shift ถึง 26% และ 20% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้ต้องได้รับการสนับสนุนจาก Windows 10 ด้วย ซึ่งในรุ่น RTM ยังไม่สนับสนุนฟีเจอร์นี้ แต่จะมีการปล่อยอัพเดตในเดือนพฤศจิกายนนี้เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ข้างต้น

ต่อมา เว็บไซต์ Windows Central ได้ทดสอบ Windows 10 รุ่นทดสอบ 10586 ตัวล่าสุด (ซึ่งมีข่าวลือว่าจะถูกปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไป 12 พ.ย. นี้) บน Surface Pro 4 รุ่นใช้ซีพียู Core i5-6300U กับ Core i7-6600U และพบว่า คะแนนจาก WebXPRT 2013 และ WebXPRT 2015 บนการทดสอบกับ Core i5-6300U สูงขึ้นกว่าเครื่องที่ใช้ Core i5-6300U และรัน Windows 10 RTM และกระทั่งสูงกว่าเครื่องที่ใช้ Core i7-6600U และรัน Windows 10 รุ่นทดสอบ 10586 ด้วยซ้ำ AnandTech เสริมว่า ที่ได้คะแนนจาก WebXPRT ทั้งสองเวอร์ชันสูงขึ้นเพราะ Microsoft Edge บน Windows 10 รุ่นทดสอบล่าสุด ซึ่งถูกใช้ในการทดสอบนั้นได้รับการปรับแต่งให้ทำงานมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

จนถึงเวลานี้ ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ยืนยันว่า Speed Shift ถูกเปิดใช้บน Windows 10 รุ่นทดสอบล่าสุด แต่อย่างไร

ที่มา: AnandTech, Windows Central

Get latest news from Blognone