ถึงแม้ว่างานเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป สามารถเรียกความสนใจจากผู้ที่สนใจสินค้าของบริษัทได้ แต่ในอีกมิติหนึ่ง กลับมีความไม่พอใจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักวิชาการและนักสิทธิสตรี เมื่อหนึ่งในการสาธิต (demonstration) ของ Adobe ช่วงการสาธิตความสามารถของ iPad Pro มีการตัดต่อภาพของผู้หญิงอยู่
การสาธิตดังกล่าว เกิดจากผู้สาธิตที่เป็นผู้บริหารของ Adobe (Eric Snowden) ตัดต่อภาพถ่ายโดยใช้แอพ Photoshop Fix ทำให้ผู้หญิงในภาพมีรอยยิ้ม ซึ่งนั่นทำให้นักวิชาการอย่าง Joshua Benton นักวิชาการประจำห้องปฏิบัติการ Nieman Lab ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ออกมาทวิตในเชิงเสียดสีว่าแอปเปิลได้ทำให้การแซวกันแบบเหยียดเพศไปอยู่บนโลกดิจิทัลแล้ว รวมถึงผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่นๆ ก็มองไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่าเป็นการบังคับให้ผู้หญิงต้องยิ้ม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองว่าผู้สาธิตนั้นเป็นผู้ชายด้วย เลยทำให้ยิ่งถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศ (sexist) ไปด้วย
ประเด็นที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนถึงเสียงจากสังคม ที่ต้องการให้ภาคอุตสาหกรรมไอทีโดยรวมใส่ใจกับความเสมอภาคในการปฏิบัติต่อเพศและเพศสภาพอื่นๆ ด้วย
ที่มา - The Telegraph, The Independent, Daily Mail (อาจเข้าจากประเทศไทยไม่ได้)
Apple just *had* to make their demo a digital version of “Hey, baby, you’d be so pretty if you smiled!” street talk.
— Joshua Benton (@jbenton) September 9, 2015
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
แค่ตัดต่อให้ยิ้มเนี่ยนะ นึกไม่ถึงจนเขาออกมาพูดนี่แหละ แต่อ่านกี่รอบก็ยังมึนอยู่ดีว่ามันเหยียดยังไง
อธิบายเพิ่มเติมในทางวิชาการแบบคร่าวๆ นะครับ (เรียนย้ำว่าคร่าวมากๆ ใครสนใจเพิ่มแบบจริงๆ ควรไปหาอ่านเอง)
มันมีแนวคิดที่เรียกว่า Male gaze หรือถ้าแปลไทยคือ การจ้องมองของผู้ชาย โดยเป็นแนวคิดของ Laura Mulvey ที่มองว่าผู้หญิงตกเป็นวัตถุ (object) หรือเป้าสายตาจากผู้ชาย และใช้การตัดสินคุณค่าแบบผู้ชายเข้ามาตัดสิน ซึ่งทำให้ในเชิงอำนาจ (power) ผู้หญิงกลายเป็นเพียงวัตถุสำหรับผู้ชายที่จะกระทำ (manipulate) และลดทอนคุณค่าของผู้หญิงครับ
เพิ่มเติม ใครที่สนใจอ่านเพิ่ม ลองอ่านเพิ่มเติมจากที่นี่ครับ (เป็นบทหนึ่งในหนังสือ The SAGE Handbook of Organizational Communication บทนี้เป็นตัวอย่างที่เผยแพร่ฟรี)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ออ ขอบคุณครับ พอจะเข้าใจละ อารมณ์ประมาณเวลาสาวๆ เดินผ่านพวกผู้ชายแล้วเจอวิจารณ์รูปร่างหน้าตาสินะครับ
อย่างนั้นแหละครับ อันนี้คือแบบอย่างหยาบๆ ที่สุดเท่าที่ผมพอจะนึกภาพออกในเวลานี้นะครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
น่าจะส่ง fb ทอมหล่อถอดเสื้อถ่ายรูปบน big bike ไปให้เค้าดูนะครับ.. จะได้รู้บ้างว่าผู้หญิงน่ากลัวแค่ไหน
"จะ.. ตั้งแต่ลูกบิดประตูบ้านเลย"
เป็นประเด็นที่เกี่ยวพันกันในเชิงทฤษฏี?
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ไม่นานมานี้ Nintendo เปิดตัวเกมส์ Mario maker ไช้มือผู้หญิงผิวขาวแทน pointer (เปลี่ยนไม่ใด้) ยังโดนหาว่าเหยียดสีผิวจนต้องเปลี่ยนไปเป็นถุงมือสีขาวประจำตัวของ Mario เลย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ซับซ้อนเกินกว่าผมจะเข้าใจ
+1 เพราะบริบททางสังคมของเรากับเขามันต่างกันเกินไปครับ
ผมเองก็พยายามนึกถึงความรู้สึกของเหล่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยนะ แต่มันเลือนลางจนเหมือนวิตกจริตคิดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเกินไป คาดว่าที่บ้านเขาคงไม่ได้มีระบอบการปกครองแบบสมบูรณภริยาธิปไตยจึงไม่ทราบว่าเพศหญิงก็มีวิธีกุมอำนาจได้ จึงคิดเอาเองว่าเพศหญิงจะต้องตกเป็นผู้เสียเปรียบเสมอ
"สมบูรณภริยาธิปไตย"
การปกครองแบบประชาธิปไตยในบ้าน แต่จุดศูนย์รวมอำนาจอยู่ที่ภรรยาโดยสมบูรณ์
T_T
ทำไมผมลั่น 555
แต่เจอกับตัวคงจะลั่นไม่ออก T_T
นี่ถ้ามาดู Freelance ไม่อกแตกตายเลยเรอะ รีทัชให้นมใหญ่
#แต่น้องเค้าเล็บหักนะ
เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ มันมีเหตุผลหลากหลายมากที่เราจะต้องรีทัชรูปใดๆ ผมว่าขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ให้ได้ว่าในตอนนั้นคนที่รีทัชมีเจตนาแบบไหน
+1
ผมคิดว่าคนเราน่าจะเดินทางสายกลางมากกว่านี้ ทำไมต้องคิดว่าการแต่งภาพให้คนในรูปยิ้มมันเป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศ บริบทที่เป็นไปได้มันมีมากมายหลายอย่าง ตั้งแต่เจ้าของงานไม่ชอบงาน อยากให้ภาพของตัวเองดูสดชื่นจึงขอให้แต่งภาพให้ยิ้มให้ หรือเป็นการแต่งเพื่อการโฆษณาให้เหมาะสมกับการใช้งานเนื่องจากงานต้นฉบับไม่ดีพอ เจ้าของโปรแกรมต้องการแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมสามารถนำไปใช้งานจริงอย่างไรได้บ้าง
ในความเห็นของผมแล้วผมคิดว่า Feminism พวกนี้สุดโต่งเกินไป เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะโยงเข้าการเหยียดเพศการเลือกปฏิบัติทางเพศ ความไม่เป็นธรรมทางเพศ
นี่เพียงแค่แต่งภาพให้ยิ้มเท่านั้น ถ้าแต่งให้แหวกเสื้อโชว์นมถกกระโปรงโชว์ขาอ่อนนี่ผมเห็นด้วยว่าเป็นการกระทำที่ชี้ให้เห็นว่ามองผู้หญิงไปในทางวัตถุสนองความใคร่ ไม่เหมาะสมในการนำมาใช้แสดงความสามารถโปรแกรมเท่าไร แต่สุดท้ายก็ต้องดูบริบทของมันอยู่ดี
แนวคิดสตรีนิยม นี่มันล้าหลังและโดนโจมตีจนจริงๆมันแตกสนิทไปแล้วในระดับปรัชญาอย่างน้อยก็ 50 ปี
ทีนี้พวก สตรีนิยม"เพิ่งเกิด"มันก็มองทุกอย่าง เพื่อหาที่แห่งหนในการ"แสดงออก" ได้หมดแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้ราคาไหม
คนที่ให้ก็เอามาเขียนข่าว (ผมหมายถึงต้นฉบับโน่นแหนะ) ไม่ได้หมายถึงคนแปลนะครับ
จริงๆ ผมเรียก Left-over feminism movment นี่มันออกจะเข้ากับพวก LGBTQi มากกว่า เพิ่มตัว F ไปเลย ดีไหมเนี่ย
หลบยกทรงแปร๊บบบบบ
เยอะ
คราวต่อๆ ไปไม่รู้ต้องใช้รูปผู้หญิงเลย ใช้รูปผู้ชายตลอดไปละกัน จบ ถ้าจะเรื่องเยอะขนาดนี้
ใช้หมาแมวก็จะโดนเรื่องรังแกสัตว์สินะครับ
มนุษย์ผู้ชายนี่แหละถูกกระทำได้โดยชอบธรรมที่สุดแล้ว
#พ่อบ้านใจกล้า
วันนี้คุณซักผ้า ถูบ้านหรือยัง ถถถ
ไม่ได้ครับ
ถ้าใช้แต่รูปผู้ชายจะถูกหาว่าโดนกีดกันทางเพศ ต้องเสมอภาค
-"- คนก็มีปัญหา สัตว์ก็มีปัญหา งั้นเปลี่ยนเป็นสิ่งไม่มีชีวิตแทนละกัน ก้อนหิน ท้องฟ้า ป่าไม้ เม็ดทราย อะไรก็ว่าไป
ไปตัดต่อของในธรรมชาติจนไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ให้เกียรติธรรมชาติ สักวันต้องโดนธรรมชาติลงโทษ
งั้นเดี๋ยวให้เพื่อนผมมาเป็นแบบให้ละกันครับ บ้านมันอยู่แถวเมฆออร์ต โทรตามแป๊บ //กุมหัว
ประเด็นคล้ายกับพริตตี้ครับ คือเอาผู้หญิงมาดึงดูดสินค้าครับ
เอารูปตัวเองมาตัดต่อให้ยิ้มก็หมดเรื่องละ
ไม่รู้สิ กรณีนี้ผมมองว่าเยอะ ไปนะ...
คือถ้าผู้ชายรีทัชภาพผู้ชายในบริบทเดียวกันนี้
จะต้องมีองค์กรสิทธิมนุษยชนออกมาปกป้องไหม
แล้วถ้าผู้หญิงรีทัชภาพผู้ชายจะเป็นประเด็นไหม
นี่คือความเท่าเทียมที่แท้จริงหรือเปล่า
คนที่อยู่ในภาพ เป็นคนอยากให้รีทิชให้ยิ้มเอง #จบข่าว
#รบกวนตัดต่อภาพนี้ให้หน่อยสิ
ถามคนดู
ผมว่าส่วนใหญ่อยากเห็นผู้หญิงยิ้มมากว่าภาพผู้ชายยิ้ม
พี่ครับๆ ผู้ชายโต๊ะโน้นเค้าส่งยิ้มให้ผมด้วยแหละ >_<a
พวกตากล้องนิตยสารทำไมไม่โดน?
หรือตอนรีทัชเค้าเรียกสาวๆมาดู และ สาวๆตกลง และ โอเคกับการรีทัชนั่น ก็เลยไม่เป็นเรื่อง???
นั่นคืออีกประเด็นหนึ่งที่ผมนึกถึงครับเรื่องนั้นน่าจะเคลียร์ง่าย ที่นึกออกอีกเคสหนึ่งคือถ้าผมซื้อรูปมาจากสต็อคเอามารีทัชใช้งานแล้วแบบนี้มันจะเข้าข่ายไหนอีก
เพราะว่ามันวิจารณ์แล้วมันไม่ได้ impact เหมือนกับอัด Apple น่าจะรวมถึงประเด็นทีว่า Tim เป็นรักร่วมเพศด้วย ก็จะอัดได้แรงเป็น 2 เท่า
ระวังเจอตอบโต้แบบนี้นะครับ (ภาพจาก Dragon's Crown ตอนที่โดนติงว่าในเกมมีแต่ภาพผู้หญิงเกือบโป๊)
ถ้าคิดแบบเยอะๆ แล้วรูปปลากัดนั่นจะโดนด้วยหรือเปล่าครับเนี้ย
มันเป็นความรู้สึกของคนที่มีปมด้อยครับ เหมือนคนที่เราไม่ชอบหน้ามองเรา เราก็ว่ามันมองแบบหาเรื่อง ทั้งๆที่ก็มองเฉยๆ ตามปกติ
สำหรับการรีทัชรูปไม่ค่อยเท่าไหน่ครับ แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่เค้าใช้ว่า
I'm not quite happy with the model's smile..
ผมว่ามันเป็นคำพื้นฐานมาก มากเกินกว่าจะเก็บไปคิดอะไรขนาดนั้น ไม่รู้ว่าในวงการอื่นเค้าคุยกันแบบนี้หรือเปล่านะ แต่วงการออกแบบเวลาพรีเซนต์งาน เค้าก็ใช้คำว่า Happy มาแสดงความพึงพอใจกันเป็นปกติ
ข่าวว่าเจ็บปวดแล้ว เจอประโยคสุดท้าย "Daily Mail (อาจเข้าจากประเทศไทยไม่ได้)" นี่เจ็บปวดกว่า T_T