Tags:
Node Thumbnail

จากข่าวลือเรื่องการบีบให้ค่ายเพลงยกเลิกสัญญากับคู่แข่ง ในขณะนี้ Eric T. Schneiderman อัยการรัฐนิวยอร์ก และ George Jepsen อัยการรัฐคอนเนตทิคัต กำลังตรวจสอบข้อตกลงการเจรจาทางการค้าระหว่างแอปเปิลกับค่ายเพลงว่าเข้าข่ายร่วมกันผูกขาดทางการค้าหรือไม่ ก่อนการเปิดให้ใช้บริการในสิ้นเดือนนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภค

การตรวจสอบอยู่บนข้อสังเกตทั้งในกรณีที่แอปเปิลบีบให้ค่ายเพลงออกจากบริการคู่แข่ง และค่ายเพลงเองจะถอนตัวออกจากบริการฟรีเมียม อย่าง Spotify มาให้บริการแบบบอกรับสมาชิก Apple Music ในอนาคต เนื่องจากบริการ Apple Music ไม่มีการให้บริการฟรี มีเพียงข้อเสนอให้ทดลองใช้ 3 เดือนแรก การใช้งานหลังจากนั้นต้องจ่ายเงิน ทางคณะกรรมาธิการยุโรปเองก็กำลังตรวจสอบในกรณีนี้เช่นกัน

Universal Music Group เป็นบริษัทแรกที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบแอปเปิลและค่ายเพลงอย่าง Sony Music Entertainment และ Warner Music Group ในกรณีที่อาจกีดกันการให้บริการฟรี หรือบริการฟรีที่มีการโฆษณาสนับสนุน เนื่องจากทางบริษัทมีจุดยืนสนับสนุนให้มีการแข่งขันในธุรกิจการสตรีมมิงเพลงเพื่อผลประโยชน์ร่วมของผู้บริโภค ศิลปิน และผู้ให้บริการควบคู่กันไป

อย่างไรก็ตามการบริการฟรีเมียมของ Spotify เคยมีประเด็นทั้งในเรื่องการไม่ทำเงินให้กับศิลปินและค่ายเพลงมากเท่าที่ควร และทำให้ผู้บริโภคไม่มีแรงจูงใจที่จะซื้อเพลง แต่ก็พอมีศิลปินและค่ายเพลงอิสระที่สนับสนุนบริการลักษณะฟรีเมียมอยู่ และหัวหน้าผู้บริหารของหนึ่งในค่ายเพลงในเครือ Warner Music Group เคยออกมาให้ความเห็นว่าควรเข้าใจถึงการบริการฟรีเมียมก่อนจะยุติการสนับสนุนบริการลักษณะนี้ ในปีล่าสุด Spotify มีสมาชิกกว่า 60 ล้านคน มี 15 ล้านคนที่ใช้บริการแบบจ่ายเงิน มีรายได้ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดย 91% ของรายได้มาจากบริการแบบบอกรับสมาชิก แต่ยังขาดทุนอยู่ 197 ล้านเหรียญสหรัฐ

หากยังจำกันได้ว่าแอปเปิลเคยถูกสั่งปรับในข้อหาโก่งราคา e-book นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่อัยการรัฐทั้งสองคนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบกรณีการผูกขาดทางการค้าที่แอปเปิลมีส่วนเกี่ยวข้อง และในตอนนี้ยังไม่มีความเห็นใดๆ จากแอปเปิล

ที่มา – The New York Times

Get latest news from Blognone

Comments

By: hydrojen
iPhoneRed HatWindows
on 10 June 2015 - 15:24 #818977
hydrojen's picture

เฮ่อ... ได้แต่ทอดถอนใจ

By: HuLii
iPhone
on 10 June 2015 - 15:41 #818981

ไม่น้า

By: pepporony
ContributorAndroid
on 10 June 2015 - 20:35 #819059

สู้ๆนะ Apple ถ้าไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร

Oh..wait...

By: gondolaz
AndroidUbuntuWindows
on 11 June 2015 - 07:48 #819117 Reply to:819059
gondolaz's picture

แต่ปกติ ทำจริงนี่สิ ^___^

By: nottoscale
Windows Phone
on 11 June 2015 - 07:51 #819118

ภาคการตรวจสอบเขาเข้มแข็งดีอยากให้เราเป็นแบบนี้บ้าง

By: skuma
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 11 June 2015 - 09:13 #819135
skuma's picture

เหอะๆ ทุนนิยมสามานนนนน

By: JPorsh
iPhoneWindowsIn Love
on 11 June 2015 - 09:25 #819139
JPorsh's picture

ลักษณะฟรีเมียม นี่คือยังไงอะครับ หรือว่าพิมพ์ผิดหรือเปล่า (พรีเมียม ?)

By: nrml
ContributorIn Love
on 11 June 2015 - 10:46 #819163 Reply to:819139
nrml's picture

ตามที่ผมเข้าใจเป็นการใช้บริการฟรีแบบมีเงื่อนไขครับ

By: non
Symbian
on 12 June 2015 - 02:57 #819466 Reply to:819139

Freemium เป็นแนวคิดให้ใช้ฟรี ค่อยไปเก็บทีหลัง ที่เห็นตัวอย่างกันก็ evernote ไม่ก็พวก cloud ตอนแรกใช้ฟรี พอใช้ๆ ไปเราเก็บข้อมูลไว้เยอะ เริ่มจำเป็นต่อชีวิตก็ต้องจ่ายตังเพื่อเพิ่มขนาดข้อมูล

By: latesleeper
Android
on 12 June 2015 - 07:24 #819480

อยากให้เวลาจะทับศัพท์คำใหม่ๆ จากภาษาอื่น ช่วยใส่คำต้นฉบับไว้ในวงเล็บ เอาไว้ใน “ครั้งแรก” ของการใช้ในหน้านั้นด้วยครับ การทำอย่างนั้นจะมีประโยชน์มากทั้งเรื่องคนอ่านไปหาความหมายต่อเองได้ และในเชิง seo เป็นการสอน google ให้รู้จักความเกี่ยวโยงของศัพท์ไปด้วยในตัว ที่ incquity.com ใช้วิธีนี้หากในบทความมีศัพท์ใหม่ๆ เสมอครับ เว็บ blognone เองก็มีมาตรฐานที่ดีในการแปลและทับศัพท์มาเป็นทุนอยู่แล้ว อย่างนี้ก็น่าจะยิ่งดีขึ้นอีกนะครับ