Tags:
Node Thumbnail

หนังสือพิมพ์ The Washington Post เผยแพร่รายงานพิเศษเกี่ยวกับเทคนิคของ Uber ในการงัดข้อกับภาครัฐของสหรัฐอเมริกา ทั้งในระดับมลรัฐและในระดับรัฐบาลกลาง โดยชี้ให้เห็นยุทธศาสตร์ว่าทาง Uber เลือกใช้ทั้ง "กระแสสังคม" และ "การวิ่งเต้น" กับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อกดดันหรือให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (ใครสนใจในรายละเอียดสามารถไปอ่านได้ยาวๆ จากที่มา)

The Washington Post ยกตัวอย่างในกรณีของมลรัฐ Virginia ที่พยายามจะหาทางเอาผิดกับ Uber หลังจากที่จะเปิดบริการในรัฐ ผลปรากฏว่า Uber ใช้วิธีการส่งอีเมลหาลูกค้าในมลรัฐ ร้องขอให้ส่งอีเมลไปหาผู้แทนของรัฐจำนวนมาก เพื่อเรียกร้องให้มีบริการนี้ต่อไป นอกจากนั้นแล้วยังใช้บริการของนักวิ่งเต้น (lobbyist) กดดันจนทำให้รัฐมนตรีด้านการขนส่งของมลรัฐ ออกคำสั่งให้ กรมการขนส่งทางบกประจำมลรัฐ เลิกยุ่งกับ Uber ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดใช้ระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น

รายงานพิเศษดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า Uber ได้ว่าจ้างนักวิ่งเต้นจำนวนมากในหลายรัฐ นอกเหนือจากทีมงานด้านนโยบายซึ่งมีขนาดใหญ่อยู่แล้วและกำลังขยายตัวเรื่อยๆ ทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่ากฎหมายที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจของ Uber ประสบความยากลำบากนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งรวมถึงการจ้าง David Plouffe อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการรณรงค์การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2008 อีกด้วย

ที่มา - The Washington Post

Get latest news from Blognone

Comments

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 15 December 2014 - 13:45 #772936
devilblaze's picture

ฮึ อุทานออกมาได้คำเดียวจริงๆ

เหตุผลนานับประการทั้งเรื่องประโยช์นทั้งเรื่องกฏหมายทั้งเรื่องจริยธรรมมันจุกอยู่ที่คอ ว่าจะฉะ uber แต่ไตร่ตรองดูแล้วมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่ผิดแปลก ฉนั้นจึงทำได้แค่อุทานออกมาก

By: sukoom2001
ContributorAndroidUbuntu
on 15 December 2014 - 14:27 #772948
sukoom2001's picture

รู้สึกช่วงนี้ Uber มีข่าว ด้านไม่ดี ออกมาถี่เหลือเกิน

By: Yone on 15 December 2014 - 15:08 #772961

ไม่แปลกใจ

By: tfctaf
Windows PhoneUbuntuWindows
on 15 December 2014 - 15:34 #772967

ไม่แปลกใจเหมือนกัน :) บริษัทนี้ผู้บริหารเหมือนจิตอ่อนๆ และเห็นแก่ตัวเหลือเกิน วัฒนธรรมองค์กรก็โสมม
ผมดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่ามันเล่นพยายามใช้มวลชนในการกดดันเพื่อเล่นฝ่ายรัฐฯ

ถ้า uber บริสุทธิ์ใจจริงๆ มันไม่ได้ยากเลยครับ ก็แค่เลิกอ้างว่าเป็น ride share แล้วจดทะเบียนรถอะไรต่างๆ ให้ถูกกฎหมาย จ่ายภาษีให้ถูกต้อง ให้คนขับมีใบขับขี่ที่ถูกต้องถูกประเภท รถจดถูกประเภท ถ้ากฎหมายไม่มีก็ผลักดันให้เกิดขี้นมารองรับอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ได้อย่างเดียวครับ ไม่งั้นอนาคตคนอื่นคงเอาบ้านตัวเองมาเปิดโรงงานผลิตของแล้วไม่จ่ายภาษี บอกทำเองแบ่งเพื่อนบ้าน แถถถถถถ

By: trufa
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 15 December 2014 - 16:33 #772986 Reply to:772967
trufa's picture

+1


Happiness only real when shared.

By: nightmareBN
iPhoneWindowsIn Love
on 16 December 2014 - 14:51 #773291 Reply to:772967
nightmareBN's picture

+1

By: toandthen
WriterMEconomics
on 15 December 2014 - 17:26 #772996
toandthen's picture

ส่วนตัวผมเห็นว่าการอีเมลขอให้ลูกค้าช่วยร้องเรียนถึงปัญหาไม่ได้ผิดอะไรนะครับ ดีซะอีกด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่อง Lobby นี่ก็คงเป็นเรื่องปรกติของบริษัทแสวงหากำไรขนาดใหญ่ที่ที่ไหนก็ทำกัน หากมันแปรงร่างไปเป็นการติดสินบนก็คงต้องรอกฎหมายจัดการ


@TonsTweetings

By: pepporony
ContributorAndroid
on 15 December 2014 - 17:59 #773007 Reply to:772996

สงสัยครับ

ผมมักจะได้ยินเรื่องล็อบบี้ยิสต์จากข่าวที่เกี่ยวข้องกับมะกัน

และลองหาๆดูเหมือนจะมีข้อบังคับเยอะแยะในการล็อบบี้

แต่ถ้าการล็อบบี้ที่ไม่มีผลตอบแทน ทำไมเราถึงจะต้องทำตามอะครับ? หมายถึงถ้าไม่ติดสินบน ทำไมผมต้องทำตามที่คุณขอ?

ในความคิดผม การล็อบบี้คือการบอกว่า เฮ้ย คุณผ่านกฏหมายนี้สิ แล้วเราจะมีสิ่งนี้ตอบแทน

การล็อบบี้ที่ไม่ใช่การติดสินบน มันทำยังไงครับ?

By: toandthen
WriterMEconomics
on 15 December 2014 - 18:10 #773009 Reply to:773007
toandthen's picture

การล็อบบี้มีการตอบแทนแน่นอนครับ แต่หลายอย่างไม่นับเป็นสินบน เช่น pledging of support for future election campaign

และล็อบบี้หลายครั้ง (มุมมองโลกสวย) คือการพยายามพูดคุยและโน้มน้าวถึงเหตุผล แนวอบรมว่าทำอย่างนี้สังคมได้ประโยชน์อะไร กรณีสองฝ่ายเป็น "คนดีแท้จริง" ... ประมาณว่าทำแบบนี้สิ เพราะสังคมต้องการแบบนี้ แล้วเดี๋ยวสังคมจะเห็นคุณเหนือคู่แข่งเลือตั้งคนอื่น

ลองดูเคสอังกฤษครับ http://www.housing.org.uk/publications/browse/the-lobbying-act/


@TonsTweetings

By: pepporony
ContributorAndroid
on 15 December 2014 - 18:11 #773012 Reply to:773009

โอ๊ะ ขอบคุณครับ

คือเพราะติดภาพโลกไม่สวยนี่สิ ถึงมองไม่ออก 555

By: toandthen
WriterMEconomics
on 15 December 2014 - 18:13 #773015 Reply to:773012
toandthen's picture

แต่เอาจริงๆมันเป็นย่างก้าวที่เสี่ยงนะ และโลกความจริงไม่สวยน่ะสิ


@TonsTweetings

By: leonoinoi
AndroidUbuntuWindows
on 16 December 2014 - 11:16 #773205 Reply to:772996

ผมเห็นด้วยนะ และก็คิดว่ามันเป็นปกติ ในประเทศที่เลือกได้ แต่ประเทศที่เลือกไม่ได้ ก็สั่งการเลย ไม่ต้องมีล๊อบบี้ใด ๆ ทุกคนก็ยิ้มรับอย่างมีความสุข (ไม่มีเรื่องไม่ถูกต้อง และสกปรกเกิดขึ้นเลย จริง ๆ)

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 15 December 2014 - 17:30 #772998
PaPaSEK's picture

"ทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่ากฎหมายที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจของ Uber ประสบความยากลำบากนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก"

ไม่รู้ว่าส่วนนี้จะมีผลกับสวัสดิการต่างๆ ของผู้ใช้บริการด้วยหรือเปล่า เพราะถ้ามีผล (ในแง่ลบ) ผมว่าก็น่าเศร้ามากๆ ที่ผู้ใช้บริการไม่รู้ตัว แถมไปสนับสนุนให้ Uber เอาเปรียบตัวเองอีก

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 16 December 2014 - 10:20 #773179

ก็ไม่ต่างจากเอาลูกค้าเป็นตัวประกันนั่นแหละ คือทำให้ลูกค้าติดใจ แล้วก็ขอร้องแกมขู่ว่า ถ้าไม่ช่วยร้องเรียนหรือกดดัน ก็จะไม่ได้บริการแบบนี้อีก โดยไม่พูดถึงเลยว่าบริการนี้มีเบื้องหลังที่เอาเปรียบผู้โดยสารและรัฐอย่างไรบ้าง(เรื่องภาษี/ประกันภัยสาธารณะ ฯลฯ)

By: natawutnk
iPhoneAndroid
on 16 December 2014 - 10:43 #773190

ก้ถือว่าเป็นวิธีที่พอรับได้นะครับ ถือว่าเป็นการตลาดที่ประสบความสำเร็จ เพราะยังไงถึงโดนแบนไม่ให้วิ่งจริงๆ กลับมารอบหน้า ในพื้นที่ที่โดนห้ามวิ่ง ก็กลับมาได้รับความนิยมอยู่ดี