By: mk 
on 15 November 2014 - 17:20
Tags:
Facebook ออกมาประกาศนโยบายใหม่ของการแสดงเนื้อหาใน News Feed โดย "โพสต์เนื้อหาเชิงโฆษณา" (promotion post หมายถึงเนื้อหาแนวโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ได้ซื้อโฆษณา) จะถูกแสดงผลน้อยลง
เหตุผลเกิดจาก Facebook สำรวจสถิติความพอใจของผู้ใช้ News Feed แล้วพบว่าผู้ใช้ไม่ชอบเนื้อหาเชิงโฆษณาเหล่านี้ ตามปกติแล้ว Facebook มีระบบการจำกัดจำนวนโฆษณา (ads) บน News Feed เพื่อรักษาประสบการณ์การใช้งาน แต่กลับกลายเป็นช่องว่างให้โพสต์แบบปกติ (organic) ที่มีเนื้อหาเชิงโฆษณาแทน
Facebook ระบุว่าโพสต์เชิงโฆษณาที่พบบ่อยคือ โพสต์ขายของแบบตรงๆ หรือชวนให้ติดตั้งแอพ, โพสต์ชวนผู้ใช้ร่วมสนุกหรือชิงรางวัล และโพสต์ที่นำเนื้อหาแบบเดียวกับโฆษณามาใช้งาน (ตัวอย่างตามภาพ)
แนวทางของ Facebook คือนำระบบควบคุมโพสต์โฆษณามาใช้กับโพสต์เชิงโฆษณาแบบนี้ด้วย ซึ่งจะจำกัดจำนวนโพสต์โฆษณาให้ผู้ใช้เห็นน้อยลง (แต่บริษัทไม่ได้บอกว่าแยก "โพสต์เชิงโฆษณา" อย่างไรนะครับ) อัลกอริทึมการแสดงผลแบบใหม่จะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม 2015
Facebook ยังเตือนเพจที่โพสต์เนื้อหาเชิงโฆษณาแบบนี้ว่าจำนวนยอดผู้ชม (organic distribution) จะลดลงอย่างชัดเจน (การซื้อโฆษณาไม่ได้ช่วยมากนัก เพราะจำนวนโฆษณาที่ผู้ใช้มีโอกาสเห็นจะยังเท่าเดิม) แต่บริษัทก็ยืนยันว่าเพจที่โพสต์เนื้อหาลักษณะนี้มีสัดส่วนไม่เยอะนัก เพจทั่วไปจะไม่ได้รับผลกระทบจากอัลกอริทึมนี้
ที่มา - Facebook
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เหมือน facebook จะพยายามทำเป็นคนดี โดยการลดแสดงผลโฆษณาให้น้อยลง
แต่จริงๆมันเป็นการบีบให้คนไปซื้อโฆษณามากกว่า
เพราะถ้าเป็นเหตุผลที่เฟสบุ๊คว่าไว้ วิธีแก้ง่ายนิดเดียว ก็ unlike เพจออก ก็จบ
สงสัยอีกหน่อยคงต้องมี เสียเงินเพื่อลดการโชว์โฆษณาแทน - -"
ผมก็คิดแบบคุณนะครับ หลังๆfacebookคิดอะไรก็เพื่อให้คนจ่ายเงินให้ตัวเอง ต่อไปคงมีให้คนใช้ได้จ่ายเงินบ้างละ
facebook เป็น บ. จะทำอะไรต้องมีกำไร
ตอนนี้ทำระบบ ad ออกมาหาเงิน ก็มีคนมาเกาะดูดเลือดไช้เทคนิกไม่ยอมจ่าย เป็นใครก็ต้องปรับตัวตาม
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เลิกเล่นเฟสบุ๊ค อาจจะจบกว่าครับ ไม่เสี่ยงต่อการเสียเงินในอนาคต แถมไม่เสียเวลาในวันนี้ด้วย!
อันนี้ผมเข้าข้าง Facebook นะครับ เมื่อเราต้องการจะโฆษณา(ซึ่งเป็นการกระทำในเชิงธุรกิจ) เราก็ควรจ่ายค่าโฆษณาด้วย ไม่ใช่เล่นฟรี ทำนู่นทำนี่ฟรี แล้ว Facebook ไม่ได้อะไรกลับคืนเลย (ตัวอย่างก็พวกแม่ค้าขายเครื่องสำอาง/ยาต่างๆบน FB บ้านเรา บางคนรายได้เดือนละแสน-หลายแสน)
ประเด็นที่ผมไม่เห็นด้วยกับ Facebook คือค่าโฆษณาที่แพงไปมาก(โดยเฉพาะกับค่าครองชีพประเทศไทย) ซึ่งถ้า Facebook ทำ local price(หรือทำอยู่แล้ว?) และลดราคาสำหรับ non-Enterprise ลง น่าจะดีกว่านี้เยอะ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมเห็นว่ามันเป็นคนละประเด็นกันครับ
การโฆษณาจากเพจที่เราไปกดไลค์ แสดงว่าเราต้องมีความสนใจในตัวเนื้อหาหรือสินค้านั้นๆอยู่แล้ว
คือรู้อยู่แล้วว่าเค้าต้องการขายของ เรารอดูว่ามีอะไรที่เราอยากได้ก็จะได้ซื้อ ไม่อยากได้ก็ผ่านไป
เช่นผมกดไลค์เพจ blognone เพราะอยากตามข่าว ข่าวไหนผมไม่สนใจก็ผ่านไป ข่าวไหนสนใจก็เข้ามาอ่าน
หรือถ้าพักหลังข่าวไม่น่าสนใจเลยก็ unlike หลังจากนั้นข้อความจากเพจ blognone ก็จะไม่แสดงหน้าเฟสผม
ต่างกับเพจที่เสียเงินค่าโฆษณา
ที่จริงๆผมไม่ได้รู้จักในตัวสินค้าหรือเพจนั้นๆเลย แต่เค้าเสียเงินเพื่อให้มันแสดงในหน้าเฟสผม (แม้ผมจะไม่ต้องการ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้)
เพจ 2 แบบนี้มีการลงทุนคนละแบบนะครับ
1. ลงทุนด้วยการสร้างเนื้อหา หรือบริการเอง จนทำให้คนสนใจและมากดไลค์ และได้มีโอกาสแสดงโพส หรือขายสินค้า (ไม่ได้บังคับให้กด สามารถยกเลิกได้)
2. ลงทุนด้วยเม็ดเงิน คือแม้ว่าจะเปิดเพจมาวันแรก ไม่ต้องไปโพสฝากเพจตามเว็บไหน จ่ายเงินจบ (แทรกไปในเฟสของคนอื่น โดยไม่สามารถเลี่ยงได้)
จะเห็นว่า คนที่มีแฟนเพจเยอะๆโดยไม่ได้จ่ายค่าโฆษณา เค้าไม่ได้เล่นฟรีครับ เค้าลงแรงไปเยอะ และใช้ความสามารถมากกว่าอีก
ส่วนถ้ามองในมุมเฟสบุ๊ค การจะหาเงิน ก็เก็บได้จากค่าโฆษณานี่แหละครับ แต่ไม่ใช่เก็บกับทุกคนที่อยากเปิดเพจ (และอยากมีแฟนเพจมาก แต่ทุนน้ยอ)
ไม่อย่างนั้นก็เก็บค่าเปิดเพจไปเลยยังจะดีกว่า รายเดือน รายปี ว่ากันไป แต่ที่ทำอยู่มันไม่ใช่เลย ค่อยๆบีบให้เพจที่เค้าสร้างมา
ด้วยอาจทุนน้อย แต่มีความสามารถ จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อรักษาลูกเพจไว้ ไม่อย่างงั้นจะน้อยลงๆเรื่อยๆ
จะเห็นว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเพจที่มีสาระอยู่ในเฟสบุ๊คแล้วครับ และคงจะน้อยลงเรื่อยๆ
เพราะเค้ามีไอเดียดี หรือทำด้วยใจรัก อยากเผยแพร่ข้อมูล แต่ทำแล้วดันเข้าไม่ถึงคน นานๆไปก็ท้อ เลิกทำกันหมด
อีกหน่อยคงเหลือแต่ร้านขายของ กลายเป็นตลาดออนไลน์นั่นแหละครับ
คุณตีความคำว่าฟรีที่ผมบอกไปครับ ฟรีที่ผมพูดคือ 'ใช้พื้นที่ของ FB ฟรี, FB เสีย resource ให้คุณ, โดยที่ FB ไม่ได้อะไรกลับคืนเลย'
ถ้าเนื้อหา'โฆษณา'น่าติดตาม'จริง' ผมเชื่อครับว่าผู้ใช้จะเข้าไปดูที่เพจเอง หรือ add เป็น Interest ไม่ใช่แค่กด like แล้วรอมันมาแสดงที่ News Feed
ผมว่าปัญหาหลักของการทำ Page แล้วเข้าไม่ถึงคนคือการที่ใครๆก็มี Page ได้ จนมันเกลื่อนมากกว่านะครับ
คุณต้องเข้าใจนะครับ ไม่ว่าจะทำอะไร มันจะเกิดการแข่งขัน อย่างทำการเว็บไซต์เอง ก็ไม่ใช่ว่าทุกเว็บไซต์จะอยู่รอด
ลองมองมุมกลับกันดูครับ เกิดคุณเป็นผู้ใช้ แล้วกด like Page ซัก 50 Page หากไม่มีการลดทอนโฆษณาหรือข่าวลง จะเกิดอะไรขึ้น?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมก็เข้าข้างเฟสบุกเหมือนกันครับ อันนี้เขาก็บอกอยู่แล้วว่าเฉพาะโพสต์ที่เป็นการโฆษณาขายของ ไม่ใช่เนิ้อหาประเภทข่าวแบบ Blognone ที่คุณอ้าง หรือ เนิ้อหาที่เป็นงานฝีมือ อย่างภาพถ่าย รูปวาด หรือ อะไรก็แล้วแต่ ที่ไม่ใช่โพสต์ที่จะขายอะไรสักอย่าง หรือ ชวนให้ชื้ออะไรสักอย่าง ในโพสต์นั้นๆ เพราะเหมือนกับการที่คุณใช้พื้นที่ฟรีในการหาเงินเข้ากระเป๋าโดยตรง โดยไม่มีเนื้อหาสาระประโยชนเลย เหมือนขายยาปะหลาด ๆ นั่นละครับ ส่วนโพสต์ที่ผมกล่าวมาข้างต้นเช่น ข่าว ผมว่าจะไม่เกี่ยวกับกรณีนี้นะ
ສະບາຍດີ :)
ครับ ผมพูดผิดประเด็นไปจริงๆ
เพราะก่อนหน้านี้ facebook ปรับลดการแสดงผลของทุกเพจ ทั้งขายของและไม่ขายของ ให้ลดลง
พอมารวมกับเข้านี้ เลยงงๆน่ะครับ แหะๆ พอดีตอนพิมพ์ คิดถึงเพจดีๆในสมัยก่อน ที่คนดูน้อยลงเรื่อยๆจนเลิกทำไปน่ะครับ
ปกติคนทำเว็บ ต้องจ่ายค่าอะไรบ้างล่ะครับ!?
มาก ยิ่งเวปใหญ่ๆนี้ไม่ค้องพูดถึง
นั่นแหละครับ จะบอกว่า นั่นคือต้นทุนที่ต้องจ่าย จ่ายตลอด จ่ายประจำ เพื่อให้เว็บคงอยู่ และเติบโตได้ ซึ่งก็ไม่แน่เสมอไป แต่ที่แน่ๆ คือต้องจ่าย
พอมาใช้เฟสบุ๊ค ซึ่งเป็นอีกช่องทาง ก็หวังว่าจะไม่มีใครใช้จ่าย (ใครไปบอกไว้ตอนไหน)
พอมาตอนนี้ จ่ายเพื่อผล จ่ายเป็นครั้งๆ ตามใจอยากจะจ่าย ก็ไม่เอา
ทำเว็บ ต้นทุนไม่ใช่แค่การผลิต Content นะครับ
Auto unlike?
เข้า FB ในคอมขึ้นให้ทำ survey เลยครับ เหมือนซักครู่นี้เอง ลืม capture รูปมา ใน survey จะยกตัวอย่าง post ในเพจ หรือเพื่อนเราขึ้นมา แล้วถามว่าดูเป็นโฆษณาหรือไม่ มีระดับให้เลือก 5 ระดับ คงใช้ข้อมูลจากตรงนี้ครับ
สงสัยจะขายของต้องทำเนื้อหาเชิงวิชาการประกอบเข้าไปด้วย
แล้วที่ผม(spam) report พวก tag เพื่อนบนรูปโฆษณา(ชวนทำมะเขืออะไรของมันนักหนาก็ไม่รู้/ขายเครื่องสำอางลวงโลกทั้งหลาย)ที่ผม report อยู่แทบทุกวัน เค้าเอาไปทำไรกับมันมั่งไม๊ -_- น่ารำคาญกว่าพวก page ที่เรา like แต่มีแสดงการโฆษณาเยอะเลย ......
+1 report ด้วย เพื่อนผมบ้างคนก็ชอบให้คนมา add เยอะ ๆ แล้วก็เจอคนมา tag แบบนี้เราเองล่ะที่รำคาญ มึนเลย ขึ้น feed เราทุกวัน >___<
ผม block อย่างเดียว ถึง report ไป เฟสก็ปฎิเสธกลับอีก คิดในใจ "เฟสมันไม่มีคนไทยทำงานรับ report เลยหรือไง"
รอฟังคนไทยในเฟซบุ๊คมาตอบนะครับ :)
รีพอร์ทรัวๆ จนกลัวว่า FB มันจะหาว่าเรา spam เสียเอง
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
แผนดีนะ (ก็บ้านตัวเองนิ จะทำอะไรก็ได้) ใครไม่แบ่งผลกำไรให้เรา เราก็ไม่ให้ที่ยืน ประมาณนั้น
เหมือนห้างสรรพสินค้าที่ร้านค้าหรือบริษัทไหนจะทำโฆษณาอะไรต้องทำผ่านห้าง
เปิดให้มีความสามารถ แล้วลดความสามารถ หากอยากได้ความสามารถ ซื้อ เหมือนคุณได้software free แต่จำกัดความสามารถแหละ
ผมอยากให้ facebook ทำระบบความต้องการให้แสดงสิ่งที่ page นั่นโพส ใช่ ชอบมากให้ เลือกระดับ 10 แล้วก็ลดลงไปเป็น 9 8 7 จนถึง 1 คือไม่ต้องแสดงบ่อย พูดง่ายๆคือระดับความชอบของเพจนั้นๆ ชอบมากก็แสดงทุกอันไปเลย