Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

เมื่อวานนี้มีสติกเกอร์ชุดใหม่ได้รับเข้า LINE Store อยู่หลายชุด ของไทยที่ได้รับอนุมัติพร้อมๆ กันและน่าสนใจคงเป็น Mao Investor และเพจการเมืองอย่างควายแดง

แม้จะเป็นเพจการเมืองแต่ควายแดงก็มีแนวทางแปลกออกไป คือมีสัญลักษณ์เป็นควายรูปร่างน่ารัก ที่ทางผู้ดูแลเพจก็ทำออกมาเป็นสติกเกอร์

แต่หลังจากขายใน LINE Store ไปได้เพียง 19 ชั่วโมง ทาง LINE ก็ถอดสติกเกอร์ควายแดงออกจากระบบ โดยให้เหตุผลว่าสติกเกอร์ขัดต่อข้อกำหนดของ LINE สองข้อ ได้แก่ 3.9 อาจโจมตีบุคคล, เชื้อชาติ, และกลุ่มบุคคล และข้อ 3.12 อาจโจมตีศาสนา, วัฒนธรรม, กลุ่มบุคคล, และเชื้อชาติ ทาง LINE แจ้งว่าจะจ่ายค่าสติกเกอร์ที่มีคนซื้อไปแล้วให้กับผู้สร้างต่อไป

เพจควายแดงแจ้งว่าก่อนที่สติกเกอร์จะถูกถอด ยอดขายขึ้นไปถึงอันดับแปดของไทย

ที่มา - Facebook: ควายแดง

alt="upic.me"

Get latest news from Blognone

Comments

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 7 October 2014 - 15:54 #751136
Be1con's picture

แหม่...


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: nzangel
Windows PhoneAndroidUbuntu
on 7 October 2014 - 16:01 #751137

ถ้าปล่อยขายได้ เด๊่ยวก็มี ของอีกสี มาแน่ๆ

By: Meow-Meow
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 7 October 2014 - 16:01 #751138
Meow-Meow's picture

เอ่อ .... อะไรของมัน -_-"


Destination host unreachable!!!

By: holyporing1
ContributorAndroid
on 7 October 2014 - 16:05 #751140

ผมว่าถ้าดูจากท่าทางของสติ๊กเกอร์(ไม่นับคาแรกเตอร์) ก็ไม่เห็นจะมีส่วนไหนเกี่ยวข้องกับการเมืองเลยนะครับ =.,=

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 7 October 2014 - 16:10 #751142 Reply to:751140

ผมก็คิดเหมือนกันนะครับ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: จักรนันท์ on 7 October 2014 - 16:25 #751152 Reply to:751140

ขอบอกก่อน ผมไม่แน่ใจว่าคุณประชดเล่นหรือเปล่านะครับ ก่อนจะอ่านความเห็นผมต่อไป

ผมเห็นว่าหัวข้อข่าวก็กล่าวถึง "กลุ่มบุคคล" รวมทั้งข้อความจาก LINE เองก็กล่าวถึง "particular person" นะครับ ไม่มีคำว่า "political" สักคำในกฏที่เขายกขึ้นมา ดังนั้น การเลี่ยงว่า "ไม่นับ Character" จึงทำให้รูปประโยคที่คุณกล่าว "ไม่เป็นเท็จ" จริงอยู่ แต่มันดูไม่เห็นจะคัดค้าน/โต้แย้ง/เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก ให้แก่ Sticker ชุดนี้ได้เลย อ่านแล้วงงหนัก!!

ดังนั้น ผมไม่เข้าใจประเด็นของคุณครับ
ถ้าคุณไม่ได้ประชด ผมสนใจวิธีคิดของคุณนะครับ ว่าเหตุผลของคุณ เปลี่ยนผิดให้เป็นถูกได้อย่างไร คิดอย่างไรจึงถอด Character ออกแล้วจึงบอกเสมือนว่า "มันไม่น่าจะผิด" ออกมาได้ ในเมื่อ Character นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ผิด!

แต่ถ้าแค่ประชด ก็แล้วไปครับ ถ้างั้นก็ขออภัยที่ Jam ความเห็นคุณครับ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 16:29 #751159 Reply to:751152

ผมสงสัยว่ามันผิดหรือเป็นการโจมตีใครได้อย่างไร ในเมื่อการ์ตูนนี้ ผมเข้าใจว่า ขั้วการเมืองสีแดง ทำขึ้นเพื่อประชดตัวเอง ที่โดนอีกฝ่ายด่าโดยเปรียบเทียบกับสัตว์ประเภทอยู่บ่อยๆ เลยทำเป็นแนวการ์ตูนน่ารักๆประชดกลับเสียเลยมากกว่า ซึ่งผมก็เห็นคนฝ่ายแดง ใช้mascotชุดนี้เล่นประจำ

จะมีฝ่ายที่คิดว่าโดนโจมตี อาจเป็นฝ่ายที่ด่าด้วยคำนี้ก็ได้ แบบขัดใจที่คำด่ากลายเป็นการ์ตูนน่ารักๆ?

By: จักรนันท์ on 7 October 2014 - 16:41 #751162 Reply to:751159

ผมเห็นว่า หลายตัว ที่เห็น Character ก็รูัทันทีว่าหมายถึงใครครับ ซึ่งผิดกฏเขาแน่นอน เช่นที่ง่ายที่สุดโดยไม่ต้องคิด ก็ตัวที่หมายถึง คุณชัชชาติ เป็นต้น

ส่วนเรื่องสี เรื่องการเมือง ผมไม่สนใจ และ LINE เขาก็ไม่ได้กล่าวถึงครับ ผมจึงถามเจ้าของความเห็นไปว่า คิดอย่างไร จึง "ละเว้น Character" ออกไปจากกระบวนพิจารณาของเขา ในเมื่อนั่นคือประเด็นหลักตามที่ LINE เขายกขึ้นมาเชียว

ต้นฉบับข้อความ ไม่มีคำที่แปลได้ทำนองว่า "การเมือง" เลยนะครับ แต่ถ้าข้อความที่พอจะตีความหมายถึงกลุ่มสีต่างๆ ได้ล่ะ อันนั้นผมเข้าใจได้ครับ แต่ความหมายถึงความเป็นบุคคลนั้น เขาชัดเจนนะครับ

ถ้าควายถือถุงตัวนั้น เป็นคุณชัชชาติทำออกมาขายเอง ผมเชื่อว่าเขาจะไม่โดนแบนครับ (เหมือน Celeb ทั่วไปทำออกมา / เจ้าของ Character ทำออกมาเอง)

By: leeyiankun
Windows PhoneAndroidWindows
on 7 October 2014 - 16:40 #751164 Reply to:751159

นั่นสิ ผมก็เห็นแต่คนเสื้อแดงเอาไปใช้กันเอง เอาไปประชด ไม่ได้มีอารมณ์ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามอะไรเลย

กำลังมึนว่า โดนได้ยังไง

By: จักรนันท์ on 7 October 2014 - 16:46 #751166 Reply to:751164

ครับ เช่นอย่างเหตุผลที่ท่านนี้ชี้แจงมา

ถ้าเพื่อประชด ผมเข้าใจได้ทันที และยอมรับในเหตุผลนี้ครับ และผมก็เข้าใจด้วยว่า LINE เขาไม่เข้าใจได้ถึงเหตุผลนี้ เขาก็ยึดตามกฏเขาแบบตรงตัวไป

ขอย้ำว่า ผมถามเจ้าของความเห็นเหตุตรงที่ ผมสนใจวิธีพิจารณาของเขา ที่ "ละเว้น Charater" ออก เพื่อเปลี่ยนผลการพิจารณาให้เป็น "ไม่ผิดกฏ" ได้อย่างไร?

ผมกำลังสนใจ วิธีคิด ของปัจเจกบุคคลอยู่ครับ (เว้นแต่ว่า เขาก็ประชดตามสถานการณ์เช่นกัน งั้นผมก็โง่เองที่ไม่เข้าใจเขาตั้งแต่แรกครับ)

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 October 2014 - 17:18 #751178 Reply to:751166
PaPaSEK's picture

อันนี้ถือว่าผมเล่าความคิดของตัวเองละกัน

เนื่องว่ากลุ่มบุคคลนี้ เป็นกลุ่มบุคคลทางการเมือง จะว่าไม่เกี่ยวการเมืองคงไม่ได้ดังนั้นควรจะพิจารณาร่วมว่ามันมีปํญหาอย่างไรกับสติกเกอร์ชุดนี้

เพราะเหตุผลที่ทางไลน์ให้ บอกว่าสติกเกอร์ชุดนี้อาจโจมตีกลุ่มบุคคล ... ถ้าถามว่า "วิธีพิจารณาของเขา ที่ "ละเว้น Charater" ออก เพื่อเปลี่ยนผลการพิจารณาให้เป็น "ไม่ผิดกฏ" ได้อย่างไร?" ผมก็จะถามกลับว่า "แล้วมันผิดกฏอย่างไร" ในเมื่อสติกเกอร์ชุดนี้ก็ไม่ได้สร้างความเสียหาย หรือมีรูปภาพที่แสดงกิริยาิาการที่ไม่เหมาะไม่ควรเลยแม้แต่รูปเดียว

อย่างที่คุณจักรนันท์ให้ความเห็นไว้ว่า "ผมเห็นว่า หลายตัว ที่เห็น Character ก็รูัทันทีว่าหมายถึงใครครับ" แล้วทำไมสติกเกอร์เหล่านั้นไม่โดนแบน ทั้งๆ ที่มันชี้ชัดๆ ว่าหมายถึงใครบ้าง

By: จักรนันท์ on 7 October 2014 - 18:21 #751203 Reply to:751178

ยินดีที่ได้ถกกันครับ เอาล่ะ เมื่อเข้าใจผมว่าผมไม่ได้ถกในเชิง "เป็นการเมือง" ก็จะได้ไม่พากันออกทะเลไปไกลครับ

ผมจะเล่าความคิดเห็นตัวเองนะครับ

เมื่อดูกันที่ Character ที่ทำให้บางรูปสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าหมายถึงใคร มันทำให้เป็นเหตุผลให้ข่าย "โจมตีบุคคล" ได้ครับ ตัว Naver เองย่อมไม่สามารถเข้าใจ Character นั้นได้ทั้งหมดว่าหมายถึงใคร แต่มัน "เป็นชนวน" ให้เกิดการ Report เข้าไปจนดึงความสนใจของ Naver ให้พิจารณา Sticker ชุดนี้และพบว่าผิดกฏขึ้นมา โดยต้องไม่ลืมนะครับว่า พวกเขาไม่ได้มี "ความรู้สึกทางการเมืองใดๆ" ต่อบุคคลเหล่านั้นเช่นคนภายในประเทศเรา

ส่วนคำถามที่ว่า "หลายตัว....ฯลฯ... แล้วทำไมไม่โดนแบน" คือไม่มีคน Report เข้าไปมากพอจนเกิดความสนใจให้ตรวจสอบครับ หากเป็นรูป Celeb ที่คนส่วนใหญ่ในโลกรู้จักกันอยู่แล้วนำมาทำโดยไม่ใช่เจ้าตัวหรือผู้รับมอบอำนาจให้ทำ Sticker ทำออกมา กรณีนั้น Naver ย่อมรู้และ Ban ทันทีเป็นปกติ แต่นี่ต้องไม่ลืมว่า รูปเหล่านี้อยู่บนฐานความเป็นที่รู้จักที่แคบเฉพาะในประเทศไทย ทาง Naver ย่อมไม่รู้ทันทีตั้งแต่แรก จนกว่าจะมี Report เข้าไปครับ

ดังนั้น ผมยังคงสนใจว่า ถ้าเราใช้เหตุผลที่ "ถอด Character ของบุคคล" ออกจากเหตุผลแล้ว มันจะน่ายอมรับได้สำหรับ Naver ได้อย่างไร? อยู่ดีครับ

เมื่อพิจาณาโดยพื้นฐานวิธีคิดและความเป็นที่รู้จักความรู้ทั่วๆ ไปของคนทั่วโลกนะครับ

1) เมื่อมีผู้ชี้เบาะแสว่ารูปหมายถึงใคร เช่นรูปแทนคุณชัชชาติ ซึ่งผู้ชี้เบาะแสให้ทาง Naver ทราบ จะชี้นำง่ายมากๆ
2) รูปนั้นแทนที่ด้วยสัตว์สี่เท้าคือควาย (ไม่เกี่ยวกับสีนะครับ) ซึ่งมีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ถือว่าควายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นฐานพิจารณาที่เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่า เป็นการ "ดูหมิ่น" ซึ่งเป็น Subset ของ "การโจมตี"

ตามสองข้อนี้ พิจารณาแล้ว Naver ย่อม Ban แน่นอนครับ

ลองพิจารณาอุปมานี้ดูนะครับ

วันหนึ่งมีคนต่างชาติทำภาพ Art ออกมาชุดหนึ่ง ฝากไว้บน Web Server สำหรับฝากรูปงานศิลป์ที่เป็นของคุณ ปรากฏรูปหนึ่งซึ่งชัดเจนมากว่าเป็นรูปชายต่างชาติอีกคนหนึ่ง (เมื่อพิจารณาด้วย Charater ที่ชัดเจนในรูป) และชายคนนี้ก็เป็นคนที่มีต้นทุนทางสังคมสูงพอ คือเป็นที่รู้จักถึงระดับหนึ่ง แต่ยังอยู่ในระดับประเทศเท่านั้น และรูปนั้นสวมอยู่ในคราบของสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ที่คนบางชาติในโลกนี้ ถือเป็นสัตว์ชั้นต่ำและเป็นการดูหมิ่น จนเกิดคน Report มาที่คุณซึ่งเป็นเข้าของ Web site นี้ โดยที่คน Report แนบภาพหลักฐานให้คุณดูชัดๆ เปรียบเทียบ ว่าภาพนั้นหมายถึงชายคนนี้แน่นอน และชี้ชัดว่าสัตว์เลื้อนคลานในภาพสำหรับประเทศนั้นๆ คือการดูหมิ่น ประเทศนั้นใช้เป็นคำด่าหรือดูแคลน

ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของ Web site โดยไม่ได้มีความรู้สึกอะไรไปด้วยเลย กับทั้งตัวบุคคลและสัตว์ตัวนั้น แต่คุณให้เห็นหลักฐานที่เชื่อได้ชัดเจนว่า รูปนั้นหมายถึงบุคคลนั้นชัดเจน และสัตว์ตัวนั้นคือการหมิ่นชัดเจน ประกอบกับสัตว์ตัวนั้นถูกใช้ครอบ Character อื่นไปทั้งชุด อันทำให้คุณคะเนได้โดยไม่ต้องรู้จักคนในภาพเหล่านั้น ว่าอาจเข้าข่ายไปด้วยทั้งหมด

คุณ ซึ่งไม่ใช่คนในชาตินั้นๆ... จะแบน หรือจะปล่อยให้ภาพนั้นคงอยู่บน Server ของคุณต่อไป ยอมรับความเสี่ยงว่า Web site คุณไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการโจมตีของใครๆ ก็ไม่รู้ ชาติอะไรก็ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ?

สมมติยาวหน่อยนะครับ แต่ต้องทำให้ผู้อ่านพิจารณาเหมือนเป็นคนต่างชาติมองเข้ามาในชาติให้ได้ก่อน

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 October 2014 - 18:55 #751211 Reply to:751203
PaPaSEK's picture

อ่านแล้วเหมือนพวกเรามโนกันเองทั้งนั้นเลยนะครับ (เรา หมายถึงทั้งคุณและผม และคนอื่นๆ)

ส่วนตัวผมมีสมมติฐานใหม่แล้วจากความเห็นล่างๆ ครับ

ทีมงานไลน์คนไทยนี่แหละส่งเรื่องไปแบน เพราะไม่อยากให้เกิดภาพลักษณ์ และส่งผลกระทบต่อองค์กร ไม่งั้นอาจเกิดปัญหา "ไลน์เข้าข้างกลุ่มการเมือง" ขึ้นมา

By: จักรนันท์ on 7 October 2014 - 21:14 #751254 Reply to:751211

ผมขอรวบตอบทั้งคุณ PaPaSEK และคุณ zerocool นะครับ

คือ อย่าสนทนาให้เหมือนผมคุยการเมืองนะครับ ขอให้จับประเด็นที่ผมถามวิธีคิดของเจ้าของความเห็นให้ดีนะครับ

ผมอยากทราบวิธีคิดของเจ้าของความเห็น เพราะ Naver เขาชัดเจนเรื่อง "particular person" ตามที่เขายก "กฏของเขา" ขึ้นมาอ้าง ดังนั้นผมได้กล่าวไว้แล้วว่า ถ้ายกเรื่อง "Character" ออกไป ความเห็นเขาจะ "ไม่ผิดกฏ" ที่ Naver ยกมาแน่นอน แต่ "อะไร" ทำให้เขาจึงคิดว่า Naver ควรยกเรื่อง Character ออกไปจากการพิจารณา? (ตามความคิดเห็นของเขา)

ซึ่ง ที่ผมสนใจนั้น เพราะถ้าเขาอธิบายได้ จะเป็นความคิดนอกกรอบในมุมมองใหม่ ถ้ามันมีเหตุผลพอ มันจะสามารถใช้โต้แย้งกับ Naver ได้

ผมไม่สนใจความเห็นซ้ำๆ ซากๆ ในเชิงการเมืองแบบที่กำลังพากันไปอยู่เลย เพราะความเห็นในกรอบความคิดเดิมๆ แบบนั้นมันเกลื่อนกลาดและคนไทยก็ทะเลาะกันมายาวนานจนไม่ทันต้องพูดกันมากนักก็เข้าใจกันได้ว่าใครคิดไปทางไหน แต่ผมสนใจ "มุมมองใหม่ๆ" ของเขา...

ผมจึงลงท้ายว่า ถ้าเขาประชด.. ก็แล้วไป อย่างชัดเจน

พวกคุณล่ะ จะลากผมไปไหนครับ?

ถ้าจะช่วยผมตั้งสมมติฐานนะ ก็ช่วยตั้งหน่อยว่า เราจะตั้งเหตุผลโต้แย้งอย่างไร จึงจะทำให้ Naver ยอมปล่อยให้ Sticker ชุดนี้ผ่าน

นี่คือสิ่งที่ผมสนใจในความเห็นของท่านเจ้าของความเห็นนี้ครับ

ผมก็เห็นว่าคุณทุกคนก็เข้าใจ ว่า Naver เลี่ยงปัญหาด้วยสมมุติฐานอะไรได้บ้าง แล้วพวกคุณก็พูดความเห็นในกรอบที่ซ้ำซาก ซึ่งผมก็ไม่เคยเสวนาในกรอบนั้นด้วย เพราะไม่มีอะไรทำให้สะดุด/จุดประกายความคิดแปลกใหม่อะไร จนกระทั่งความเห็นนี้ ซึ่งถ้าเจ้าตัวไม่มาตอบ ผมก็ยังไม่แน่ใจ ว่าเขาประชด หรือมีวิธีคิดพิจารณาเช่นไร

ผมยังใคร่อยากรู้เหตุผล ว่าในวิธีพิจารณาของเขานั้น อะไรเป็นเหตุผลที่ควร "ถอด Charater ออก" ไปจากการพิจารณาครับ ถ้าเขาอธิบายได้อย่างมีเหตุมีผล มันอาจเป็นเหตุผลแรกที่ต่างชาติอย่าง Naver อาจต้องยอมรับครับ

ผมขอไม่เสวนาออกไปในทางการเมืองนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจประเด็นในคำถามของผมที่มีต้อเจ้าของความเห็น ก็สามารถถามให้ผม Declare ต่อได้ครับ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 22:32 #751290 Reply to:751254

ผมว่าคุณจักรนันท์กำลังหลงประเด็น ด้วยการไม่ยอมตอบประเด็นสำคัญโดยอ้างว่าเพราะเป็นการเมือง

ส่วนเหตุผลที่คุณพยายามนึกมา มันก็ไม่ได้แตกต่างจากที่คนอื่นพยายามนึกหรอกครับ และประเด็นเรื่องcharacter นั้น อย่าลืมว่า Naver พิจารณามาก่อนแล้ว ถึงปล่อยออกมา จะมาย้อนแย้งทีหลังว่า จู่ๆเพิ่งนึกออกว่า กระบือ นั้นไม่ใช่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์หรือ คนถึอถุงคือคุณชัชชาติ นั้นไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร

ประเด็นเรื่องตัวบุคคล ผมว่าต้อง"เจ้าตัว"เท่านั้นที่มีสิทธิ์ร้อง ไม่งั้นใครถือถุงก็มั่วว่าเป็นชัชชาติได้หมด?

หรือกระบือก็เช่นกัน มันก็จะย้อนกลับไปว่า ทำไมถึงปล่อยมาแต่แรก? นั่นแปลว่าตัวcharacter เองไม่ได้มีปัญหามาแต่แรกตะหาก

ตอนนี้สิ่งที่เคยเกิดขึ้น การถอนsticker หลังปล่อยออกมาแล้ว เท่าที่ทราบล้วนเกิดจากการร้องเรียน หรือreport นั่นแหละ ซึ่งเคสดังๆ ก็คือเคสsticer พระพุทธรูป มีองค์กรศาสนาและมูลนิธิระดับสากล ออกมาโวยวายผ่านสื่อหลัก เขาเลยต้องรีบถอน

แล้วเคสนี้ล่ะ? ใครจะreport ได้บ้าง? ผู้ที่เป็นกลางทางการเมืองมากๆแต่ไม่ได้ติดตามข่าวสารเลยสักนิด กลัวว่าคนไทยจะมีวุฒิภาวะต่ำ คิดว่า sticker กระบือสีแดง จะทำให้ผู้มีความคิดทางการเมืองฟากนึง ไม่สบายใจเกิดการแตกแยก เลยร้องเรียนให้ถอน?

หรือจะบอกว่าคุณชัชชาติไม่พอใจ เลยร้องเรียนให้ถอนดี?

ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่ว่า คนร้องเรียนด้วยเหตุผลอะไร Naver ถึงต้องถอน หรือแม้แต่ไม่ได้มีการร้องเรียน แต่มีการกดดันผ่านทางหน่วยธุรกิจหรือไม่? ถ้าไม่ทราบถึงประเด็นเหล่านี้ เราก็จะพายเรือในอ่าง เถียงกันว่า กระบือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ หรือรูปคนถือถุงเป็นคุณชัชชาติทุกรูปอยู่นั่นแหละ

By: จักรนันท์ on 7 October 2014 - 23:02 #751303 Reply to:751290

ผมเป็น "ผู้สร้างประเด็น" ตามที่ผมตั้งคำถามกับเจ้าของความเห็นครับ คุณและคนอื่นต่างหากครับที่หลงประเด็นผม
ผมอยากทราบคำตอบตามประเด็นที่ผมถามเขาครับ ผมไม่ได้ถามตามประเด็นทางการเมืองใดๆ ครับ ดังนั้นประเด็นที่คุณว่าสำคัญ จึงไม่มีความสำคัญอะไรเลยสำหรับผม (และสำหรับ Naver และคนต่างชาติส่วนใหญ่ในโลกด้วย)

อย่างที่คุณ PaPaSEK กล่าวไว้ ใครจะมโนยังไงผมไม่ทราบ แต่การโต้แย้งกรณีทำนองนี้ระหว่างบริษัทเอกชนข้ามชาติ ผมต้องหาข้อโต้แย้งที่ทำให้ออกนอกกรอบกติกาของเขาให้ได้ก่อนเสมอครับ ไม่เช่นนั้นคุณไม่มีทางชนะครับ

ขอเถอะครับ อันนี้ผมพูดเลย คิดให้ทันผม ตอนนี้ไม่ว่างพอจะพิมพ์อธิบายเล่ายาวๆ ว่าการต่อสู้ในลักษณะนี้กับบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ต้องสร้างข้อโต้แย้งที่ดึงออกนอกกรอบของเขาเสียก่อนครับ ผมพูดในฐานะเจ้าของกิจการข้ามชาติที่ต้องเจรจาเรื่องช้างๆ แบบนี้อยู่ทุกปี

พยายามแกะประสบการณ์ผมหน่อยเถอะครับ หนุ่มๆ ทั้งหลาย อย่าเอาแต่โต้แย้งตามวิถีทางของตนเองเลยน่า แก่ๆ ประสบการณ์แล้วค่อยมาถ่ายทอดเถอะครับ ไอ้ผมมันไม่ต้องเก็บเกี่ยวแล้วครับ

เช่นที่คุณ zerocool กล่าวว่า "เราใช้เกณฑ์ทางสังคมไหนเป็นตัวตัดสินว่าบุคคลหรือกลุ่มคนใดเข้าข่ายตัว..." ผมตอบสั้นๆ เลย "เกณฑ์ของ Naver" ครับ "สมเหตุสมผลของ Naver" ครับ น่าจะพอทำให้เข้าใจอะไรได้มากขึ้น พวกคุณพูดอะไรกันมา ก็ล้วนแต่ต่อสู้ทางตรงกับ "กฏเกณฑ์ของเขา" อยู่ทั้งนั้นครับ เวลาผมต่อสู้ลักษณะนี้ ผมต้องหามุมแย้งที่ทำให้ "ออกนอกกติกาของเขา" ขึ้นมาให้ได้ก่อน

ผมจึงสนใจแค่ "วิธีคิดของความเห็นท่านนี้" ครับ

ผมแค่อยากทราบวิธีคิดและเหตุผลของคนคนหนึ่ง พวกคุณยังใจร้อน อดไม่ได้ออกมาเกี่ยวมาลากให้คำถามของผมไปเข้าทางการเมืองกันเพียบเลย! ใจเย็นๆ กันหน่อยครับ หนุ่มๆ ทั้งหลาย หน้ามืดกันใหญ่เลย

ปล. เช่นที่นี่ ก็ใช้เกณฑ์ของ Blognone สมเหตุสมผลของ Founder ครับ ถ้าจะไปโต้แย้งอะไรตามกติกาที่ Founder ตั้งไว้ คุณก็ไม่ชนะ จนกว่าคุณจะมีอะไรสักอย่าง ชี้ให้ Founder เห็นได้ก่อนว่า มันอยู่นอกกติกาทุกข้อที่ Founder กำหนดไว้ เมื่อนั้น Founder ย่อมสนใจในข้อโต้แย้งของคุณ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 October 2014 - 00:20 #751351 Reply to:751303
PaPaSEK's picture

คือประเด็นว่ามันโดนแบนเพราะเกี่ยวกับการเมือง

และที่ความเห็นของท่านที่เริ่มนี่ก็เพราะเค้าเชื่อว่ามันเกี่ยวกับการเมือง

แต่คุณจักรนันท์บอกว่าไม่เกี่ยวการเมือง และไม่อยากพูดเรื่องการเมือง และตีตกไปทั้งหมด

กลายเป็นว่าพวกผมคือหนุ่มใจร้อนไปซะงั้น ส่วนคุณก็ยกตนเองเป็นผู้แก่มีประสบการณ์ไม่ต้องเกี่ยวเก็บ

โอวพระเจ้า โอวไม่ และนี่จะเหลือเหตุผลอะไรให้เรากล่าวถึงล่ะเนี่ย

By: จักรนันท์ on 8 October 2014 - 01:26 #751379 Reply to:751351

คือ ประเด็นมันโดนแบนเพราะเขาอ้างด้วยกฏของเขาว่าด้วยเรื่อง "particular person" ซึ่งผมไม่ทราบหรอกว่าพวกท่านเจอข้อความไหนที่ Naver ยกกฏมาโดยอ้างถึง "political"???

ถ้าพวกท่านมัวแต่ออกความเห็นเชิงวิพากย์วิจารณ์ในแบบที่ท่านทำกันอยู่ นอกจากจะเป็นแค่เสียงนกเสียงกาสำหรับ Naver แล้ว กลับยิ่งทำให้เป็นเหตุเป็นผลสนับสนุนให้เขาควร Ban เพราะพวกท่านลากการถกเถียงให้ยิ่งเข้าไปสู่การผิดกติกาของเขา (แถมยังพยายามลากผมเข้าไปด้วย)

ผมสนใจในวิธีคิดแห่งการโต้แย้งกับ Naver (ไม่ใช่กับพวกท่าน) ซึ่งเขาไม่ยกเอาประเด็นทางการเมืองขึ้นมาเป็นเหตุผลโดยตรงในการโต้แย้งแน่นอน (ผมจึงตัดทิ้งไปได้)

พวกท่านมีสิทธิที่จะถกเถียงวิพากย์วิจารณ์กันแบบนักวิชาการ ท่านก็ทำไปครับ ผมไม่เคยไปขัดแข้งขัดขาอะไรพวกท่าน แม้อยากจะบอกว่า การวิพากย์เช่นที่พวกท่านทำอยู่ ก็กลายเป็นหนึ่งหยดในมหาสมุทรคำวิพากย์ที่มันเหมือนๆ กันไปในทำนองเดียวกัน จนทำให้เป้าหมาย (ในที่นี้คือ Naver, ในเรื่องอื่นๆ ก็ว่ากันตามกรณี) ไม่ทำแม้แต่จะมาแง้มมองเหตุผลของพวกท่าน

ในขณะเดียวกัน ผมก็มีสิทธิที่จะสอบถามวิธีคิดของเพื่อนสมาชิกตามประเด็นและมุมมองจากวุฒิภาวะของผม โดยอิงจากความเป็นตัวตนของผม และผมสามารถสงวนสิทธิของผมที่จะไม่ไปพิจารณาตามประเด็นในกรอบของพวกท่านได้เช่นกัน

ผมไม่ได้แก้ตัว แต่ผมชัดเจนนะ ตั้งแต่เริ่มถามเจ้าของความเห็นเขาแล้วนะครับ หรือพวกท่านจะเถียง ว่าผม Declare คำถามตัวเองไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก? หือ?

ผมไม่เหลือเหตุผลอะไรให้พวกคุณทั้งนั้นครับ (ในประเด็นของพวกคุณ) ผมแค่คิดว่า ถ้าผมเป็นเจ้าของ Sticker แล้ว การเจรจากับ Naver เพื่อจะให้ยกเลิกการ Ban สินค้าของผมนั้น ในฐานะ เอกชน:เอกชน ผมจะเดินเกมการเจรจาเช่นไร? นี่คือโจทย์ในหัวของผม

ส่วนในเชิงการเมือง พวกคุณจะถกเถียงอะไรก็ถกกันไปเถอะครับ ผมเคยไปยุ่งกับพวกคุณในเรื่องการเมืองมาก่อนบ้างไหม?

ผมว่าพวกคุณใจร้อน เพราะพวกคุณไม่ทำความเข้าใจประเด็นคำถามผมเลย เอาแต่ยืนในที่ตัวเอง แล้วเรียกผมออกไปคุยในที่ตรงนั้น ไม่มีใครฉุกคิดกันสักนิด

ตัว Naver เอง ยังตีตกไปด้วยเรื่อง "particular person" เลยครับ เอกชนที่ไหนจะอ้างด้วยเรื่อง "political" กันตรงๆ บ้าง

ประโยคต่อไปนี้ ผมไม่ได้ดูถูกใครนะครับ "เถ้าแก่ข้ามชาติ เข้าใจประเด็นผมทันทีแน่นอน" อันนี้แหละที่ผมว่า พวกคุณควรเก็บเกี่ยวไป ถ้าพวกคุณยังเป็นน้ำเต็มแก้วกันแบบนี้ พวกคุณจะไม่มีวันเข้าใจ ว่าทำไมแม้แต่ Geek แท้ๆ ทาง Computer ที่มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์และตรงสายของเวป Blognone ยังไม่ใคร่จะมีใครลงมาเสวนาใน Blognone นี้ ยังมีทั้ง Geek ทางธุรกิจ Computer, Geek ทางการเงิน, Geek ในสาขาอาชีพต่างๆ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้กับสาย Blognone เขากับไม่มาเสียเวลาเสวนาในนี้ ที่เป็นสมาชิกอยู่ตอนนี้ก็ได้แต่อ่านกันหลวมๆ เงียบๆ

อย่าทำให้คุณภาพของชุมชนพวกคุณตกลงไป ด้วยการ "ประหาร" ความหลากหลายทางความคิดและประสบการณ์เลยครับ ผมหนีจาก opentle.org มาทีนี่ ด้วยเหตุนี้

ถ้าพวกคุณได้ฟังเวลาประชุมกับแค่ระดับเจ้าสัวในเมืองไทย คุณจะเข้าใจได้ว่า มุมคิดพิจารณาของพวกเขา ต่างกับพวกคุณมากนัก นี่ยังไม่ต้องพูดถึงระดับบริษัทต่างชาติเลยนะ สิ่งที่พวกคุณพูดกัน พวกเขาตีเป็นคำวิพากย์เชิงวิชาการเท่านั้น ซึ่งพวกนักวิชาการมักไม่หาข้อสรุป ไม่หา Solution แต่เอาแต่ทะเลาะ งัดอีโก้กันเอง พวกเขาจึงไม่ใส่ใจครับ

หรือเอาแค่ ใครในนี้ทำงานอยู่บริษัทข้ามชาติใหญ่ที่เป็นต่างชาติบ้างครับ? ลองมาเล่าเรื่องการวินิจฉัยสิ่งต่างๆ ของนายต่างชาติแบบหลวมๆ ให้เพื่อนสมาชิก Blognone อ่านหน่อยเป็นไง ว่าโลกแห่งความเป็นจริง เขาจะมาลงลึกในความละเอียดอ่อนเฉพาะของชนชาติหรือไม่?

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 8 October 2014 - 01:23 #751377 Reply to:751303
zerocool's picture

เอาจริง ๆ ผมบอกตรง ๆ ว่าผมไม่ค่อยเข้าใจความคิดเห็นของคุณจักรนันท์ที่ต้องการแยก character ออกจาก sticker เพราะว่าเอาเข้าจริง ๆ แล้วตัว character ควายสีแดงนั่นแหละที่เราคนไทยไปตีความว่ามันหมายถึงการดูถูกคนกลุ่มหนึ่ง

ถ้าเราถอด character ออกแล้วเรามีอะไรที่ต้องถกเถียงต่อด้วยหรือครับ ?

สมมติว่าเราเปลี่ยนตัวการ์ตูนควายแดงให้กลายเป็นกวางแดง โดยที่คงอิริยาบท กริยาท่าทาง คำพูดประกอบ ทุกอย่างให้เหมือนเดิม sticker ชุดนี้จะยังคงถูกปลดออกจาก LINE store หรือไม่ ? หากคำตอบที่ได้คือไม่ ผมว่าคำตอบมันก็อธิบายตัวเองได้ชัดเจนพอสมควรอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีประเด็นการโต้แย้งอะไร

ขอเรียนตามตรงจากการที่ผมได้อ่านความคิดเห็นของคุณมาหลายต่อหลายครั้ง ผมรู้สึกว่าครั้งนี้คุณค่อนข้างล้มเหลวในการถ่ายทอดความคิดเห็นผ่าน comment จริง ๆ ลักษณะการเขียนและการอธิบายโต้ตอบมันไม่มีประเด็นที่ชัดเจน คำถามที่ถาม (ตั้งแต่คำถามแรก) ผมว่าก็ค่อนข้างกำกวมตั้งแต่ความคิดเห็นแรกด้วยซ้ำ

ผมเองก็งงหนักเช่นกันครับ ! (โดยเฉพาะย่อหน้าแรก)

คือผมว่าถึงจุดนี้ทุกคนที่อ่านข่าวคงรู้อยู่แล้วว่าองค์ประกอบไหนที่ทำให้ sticker ชุดนี้ถูกปลดกลางอากาศ ซึ่งประเด็นที่เรากำลังถกเถียงกันอยู่คือ

องค์ประกอบนี้มันมีปัญหาจริง ๆ หรือว่ามันเป็นเพียงการตัดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าของ LINE โดยนำกฎที่ตัวเองมีอยู่บางข้อมาบังคับใช้ ผ่านการตีความตามสมมติฐานของ LINE เอง

อันที่จริง LINE จะเอา sticker ชุดไหนลงก็เป็นสิทธิ์ของทางเจ้าของ store ที่สามารถกระทำได้อยู่แล้วครับ และผู้สร้าง sticker คงไม่สามารถไปเอาชนะกฎที่ว่าของ LINE ได้ เว้นเสียแต่ว่ามีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่มากพอ


That is the way things are.

By: จักรนันท์ on 8 October 2014 - 03:29 #751389 Reply to:751377

"ไม่ค่อยเข้าใจความคิดเห็นของคุณจักรนันท์ที่ต้องการแยก character ออกจาก sticker"

เอ่อ.. ผมไม่ได้ต้องการแยก ฯลฯ อะไรนั่นเลยนะครับ เจ้าของความเห็นต่างหาก ที่เขาคิดแบบแยกเรื่อง Character ออกจากการพิจารณา ผมก็ไม่เข้าใจ! ผมจึงตั้งปุจฉาขอทราบวิธีคิดของเขา!

อย่าให้ผมต้องต่อว่า ว่าให้ย้อนกลับขึ้นไปอ่านใหม่เลยครับ คุณ zerocool

ความสนใจในวิธีคิดของคุณ holyporing1 นั่น มีตรงไหนหรือ ที่ผม ต้องการ แบบที่คุณกล่าวมาครับ (ก็ผมเรียนถามเขาอยู่เนี่ย ว่าเหตุผลใด เขาจึงคิดแยก!!)

คือ ผมเริ่มด้วยตั้งประเด็นขอถามคุณ holyporing1 เขานะครับ ผมไม่ได้เริ่มด้วยการออกความเห็นส่วนตัวใดๆ ของผม หรือพูดอีกอย่างว่า ผมเริ่มด้วยความใคร่อยากให้คุณ holyporing1 เขาอธิบายวิธีคิดพิจารณาของเขาเพิ่มเติม เนื่องด้วยมันมีแนวโน้มว่าจะน่าสนใจ (สำหรับผม) เนื่องจากเป็นการคิดที่แตกต่างจากกรอบของพวกคุณคนอื่นทั้งหมด (ถ้าไม่ใช่การประชด)

"...ซึ่งประเด็นที่เรากำลังถกเถียงกันอยู่คือ..."

เอ่อ... ผมเป็นคนตั้งประเด็น สร้างคำถามคุณ holyporing1 ครับ! ผมเป็นคนเริ่มครับ! คุณยกอะไรมาว่า "เรา" ครับ? ผมงง! ผมไปเริ่มถกเถียงอะไรกับใครเขาหรือครับ? พวกคุณ Jam ผมเข้ามากันเองนะ

ผมเอง ผมยังกล่าวขออภัยคุณ holyporing1 ไว้ล่วงหน้าที่ผม Jam ถามเขาในกรณีที่ผมเข้าใจเขาผิด แต่ตอนนี้พวกคุณเองกำลัง Jam ผมด้วยความเข้าใจผิดของพวกคุณเช่นกัน ผมจะรอดู Spirit ของพวกคุณแล้วล่ะครับ

คราวนี้ ผมยังล้มเหลวในการอธิบายให้พวกคุณเข้าใจอยู่ไหมครับเนี่ย ว่าผมถามอะไรคุณ holyporing1 เขา?

นี่ผมยังไม่ได้คำตอบจากคุณ holyporing1 เขาเลยนะครับเนี่ย หนุ่มๆ ทั้งหลายพากับเสียบผมพรุนเลย ตกลงผมจะได้ทราบไหมเนี่ยว่าทำไมคุณ holyporing1 จึงคิดแยก Character ออกมา? ในขณะที่ผมกลับโดนกล่าวหาอยู่เองว่าเป็นเจ้าของความคิดนี้!!! อันนี้ ทำผมเสื่อมศรัทธาในการอ่านของคุณ zerocool เลยนะครับ ขอบอกตามตรง ซึ่งผมย้ำตลอดทุก Reply ว่าผมสนใจวิธีคิดของปัจเจกบุคคลอยู่ (เถียงมาสิเอ้า ว่าผมไม่ได้ย้ำทุก Reply) ซึ่งก็คือคุณ holyporing1 มันมีแนวโน้มว่าจะใช้โต้แย้งแบบ เอกชน:เอกชน ได้จริงๆ (ถ้าไม่ได้ประชดและ/หรือเขามีเหตุผลที่ดีสนับสนุนการแยกพิจารณาด้วย Character ของ Sticker)

ถ้าคิดต่างในแบบที่พวกคุณส่วนใหญ่คิดไม่ถึงกัน แทนที่จะรออ่านให้ผมได้เสวนากับคุณ holyporing1 ให้เข้าใจก่อน ก็เล่นเสียบแบบนี้ เหมาผมเอาเองกันแบบนี้ ตั้งธงแล้วลากผมเข้าไปเองแบบนี้ ต่อไปผมไม่กล้าเสวนากับหนุ่มๆ แน่ครับ

==> มา edit เพิ่ม <==

เห็นคุณ Zatang กล่าวสนับสนุนคุณ holyporing1 ว่า "ผมก็คิดเหมือนกันนะครับ" เอ้า.. งั้นผมลากคุณเข้ามาอีกคนก็ได้ ถ้าคุณคิดเหมือนคุณ holyporing1 ล่ะ งั้นคุณช่วยอธิบายแทนคุณ holyporing1 พลางๆ ก่อนแล้วกันครับ ว่าที่คุณเห็นด้วย ในการพิจารณาด้วยวิธี "แยก Character ออก" จากการพิจารณานั้น เหตุผลที่ดีที่แยกออกคืออะไรครับ?

เร็วๆ ครับ หนุ่มๆ เลือดร้อนแถวนี้จะกระซวกผมจมกองเลืิอดตายอยู่ร่อมร่อแล้ว ราวกับความคิดเห็นนั้นเป็นของผม!!

ไม่รู้ไปติดพันอารมณ์ทางการเมืองที่ไหนกันมา เลยต้องมาหาแม่มดเผาสังเวยกัน บังเอิญดันมาซวยผมพอดี!!

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 October 2014 - 09:11 #751430 Reply to:751389
PaPaSEK's picture

ผมเสียบพรุนอะไรหว่า ... ผมแค่เล่าความเห็นของผมว่าทำไม NAVER ถึงแบนควายแดง แต่คุณจักรนันท์เห็นแย้งความคิดผม พอผมชี้แจงกลับก็กลายเป็นผมใจร้อน ไม่มองการไกล วิสัยทัศน์แคบ ล่าแม่มด ต้องไปคุยกับเจ้าสัว ฯลฯ

ผมว่ามันจะไปกันใหญ่แล้วครับ

แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะ ... ผมคิดว่า NAVER แบนควายแดงเพราะมันโจมตีกลุ่มบุคคล และไม่ใช่แค่กลุ่มบุคคลทั่วไป แต่เป็นกลุ่มบุคคลทางการเมืองที่จะส่งผลให้ NAVER ตกที่นั่งลำบากเพราะกลุ่มบุคคลทางการเมืองในไทยมันแยกเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน

ผมคิดง่ายๆ ด้วยวิธีคิดแบบบ้านๆ เพราะสินค้าของ NAVER ก็ให้กลุ่มบ้านๆ ใช้ ผมมองว่ามีแค่ 2 ตัวเลือกสำหรับ NAVER ครับ แบนหมดหรือปล่อยหมด แต่ดูแล้วว่าแบนหมดน่าจะก่อปัญหาน้อยกว่าก็แบน ... จบ

ผมต้องขอโทษด้วยครับที่ผมจะไม่แนะนำให้คุณจักรนันท์ต้องไปคุยกับเจ้าสัว ชาวบ้าน อบต. ป้าแจ๋วขายส้มตำ บิลเกตส์ ฯลฯ ไม่รู้จะโจมตีคู่สนทนาทำไม =_= โจมตีเค้าแล้วยังหาว่าเค้าใจร้อนด้วยนะ

By: จักรนันท์ on 8 October 2014 - 12:28 #751533 Reply to:751430

คุณ PaPaSEK ครับ ใจเย็นๆ ครับ ลองดู Reply #751203 ซึ่งผม Reply คุณคนเดียวโดยตรง

ถัดจากนั้นคุณ zerocool ก็ Jam เข้ามาด้วยอีกคน ผมจึงขอรวบพิมพ์ตอบใน Reply #751254

ถัดจากนั้นคุณ Fourpoint ก็ Jam ตามมาเพิ่มอีกคน ผมเริ่มเกิดอาการ "จับปูใส่กระด้ง" ในการตอบ

ถัดมาผมต้องเริ่มพยายามแยกตอบอีกครั้งใน Reply #751379 ซึ่งพยายามตอบรวบทั้งคุณ PaPaSEK และคุณ Fourpoint เข้าด้วยกัน แถมยังพ่วงคุณ zerocool เข้าไปบ้างเล็กน้อย

และแยกมาตอบคุณ zerocool อีกอันใน Reply #751389 เนื่องด้วยการเสียบเสวนาของเขาเริ่มมีทิศทางที่แตกต่างกับคุณ PaPaSEK และคุณ Fourpoint อย่างชัดเจน

ซึ่งในส่วนตัวผม กำลังเหมือนคุณครูที่กำลังบอกให้นักเรียนหยุดฟังครูก่อน คุณ PaPaSEK อาจเป็นนักเรียนที่ฟังดีถามดีที่สุดใน Class จริงครับ แต่เวลาผมปรามทั้ง Class ผมก็จำเป็นต้องใช้สรรพนามว่า "พวกเธอ/พวกคุณ"

พวกเธออย่าเพิ่งเล่น.... ไม่ได้หมายความว่าคุณ PaPaSEK เป็นนักเรียนคนที่เล่นอยู่ แต่ไม่มีครูคนไหนจะพูดด้วยความประมาณว่า.... "นาย A,B, E อย่าเอาแต่เล่นนะ นาย G, K, M อย่าเอาแต่คุยกัน นาย F ครูไม่ได้ว่าเธอนะ ฯลฯ" เวลากำลังจับปูใส่กระด้ง ก็จำเป็นต้องใช้สรรพนาม "เหมา" เอาก่อน เพื่อให้นักเรียนทั้ง Class หยุดดู/ฟังกันก่อน

ทีนี้ ไอ้ Sense ที่ว่า ส่วนไหนใครทำ/ไม่ได้ทำพฤติกรรม/พฤตินัยอะไร ผมว่ามันเป็น Sense ที่นักเรียนทุกคนควรจะทราบและรู้สึกได้เอง อะไรที่ผมกล่าวไปและไม่ใช่สิ่งที่คุณ PaPaSEK เจตนา นั่นย่อมไม่ใช่ว่าผมตำหนิคุณ PaPaSEK ครับ

หรือคุณ PaPaSEK ยังเด็กจนกระทั่งแยกแยะไม่ออก ว่าผมกำลังอยู่ในสถานการณ์นี้? และด้วยวัยของผม เวลาเจอหนุ่มๆ อย่างพวกคุณรุมแบบนี้ ย่อมมีมุมมองความรู้สึกแบบ "จับปูใส่กระด้ง" เป็นธรรมดา

เวลาผมรวบ ด้วยเหตุผลเพราะมาแยกตอบไม่ไหวนั้น ด้วยพวกคุณก็ไม่ใช่เด็กนักเรียนแล้ว ควรย่อยแยกใน Reply ได้เองบ้างสิครับ ว่าอะไรกล่าวถึงตัวคุณ เฉพาะส่วนที่ไม่แน่ใจก็ถามกันมาได้ ว่าหมายถึงคุณหรือเปล่า บางข้อความรวบรัดของก็อาจทำให้บางคนแยกไม่ออกว่าหมายรวมถึงตัวเองด้วยหรือไม่

เชื่อไหมครับ ตอนนี้ในใจผมยังเชื่อว่าคุณ PaPaSEK แค่แกล้งยียวนทำเป็นไม่เข้าใจสถานการณ์ผมนะครับ นี่คือผมให้เกียรติคุณนะครับ

แต่ถ้าคุณและ/หรือคนอื่น ไม่เข้าใจจริงๆ ผมต้องขออภัยจริงๆ และขอให้บอกผมด้วย ว่าใครบ้าง ที่ไม่มีความสามารถในการแยกย่อยข้อความสนทนาของผมได้ว่าส่วนไหนตอบใคร ต่อจากนี้ผมจะได้บันทึกไว้ ว่าสำหรับคนไหนบ้างที่ผมจำเป็นต้อง "แยกตอบ" ตลอดไปนะ

ผมเองกลับพยายามรวบจุดต่างๆ มา Filter เพื่อให้เหลือตอบ Reply รวม อะไรข้ามไปได้ ผมก็ข้ามไป ไม่ใส่ใจ ไม่หยุมหยิม แต่หนุ่มๆ เช่นคุณจะจับสิ่งหยุมหยิมไปทำไมกันครับ? (เช่นของคุณ Fourpoint ถูกผม Filter ข้ามการตอบไปมากที่สุด)

ขอให้เข้าใจผมบ้าง ผมเองยังเข้าใจพวกคุณทั้งหมด เพียงแต่กำลังไม่สนใจ วิธีคิด ตามประเด็นแบบที่พวกคุณคิดอยู่เลยเท่านั้นครับ

แต่ที่พยายามตอบให้ (ในขณะที่กำลังรอคำตอบของคุณ holyporing1 อยู่) นั้น เพราะพวกคุณแสดงออกอย่างชัดเจนว่าผมถามคุณ holyporing1 ไปทำไม ยิ่งโดยเฉพาะคุณ zerocool ที่พยายามอย่างมากที่จะเบี่ยงความผมเป็นเหมือนความเห็นของคุณ holyporing1 ที่ผมตั้งปุจฉาถามไปนั้น คือความเห็นของผม!! ผมจึงต้องหาทางอธิบายวิธีคิดของผมให้พวกคุณเข้าใจ ซึ่งมันยากเอาเรื่องครับ พวกคุณไฟกำลังแรง น้ำกำลังเต็มแก้วกันเป็นส่วนใหญ่ ยากที่จะรอฟังรอดูจนจบก่อน

ผมว่าคุณ holyporing1 เผลอๆ จะไม่กล้าตอบผมแล้วล่ะ ถ้าเขาจะกลัว ก็กลัวคุณ zerocool นี่แหละ เสียบตาย! แทนที่จะยอมรับให้เขาอธิบายวิธีคิดของเขาให้ผมได้ทราบได้เข้าใจก่อน ไม่รู้ล่ะ ใครคิดวิธีอื่นไม่ได้ ผิดหลักคิดในสังคมฉันคือผิดหมด! ต้องแย้ง ต้องค้านหัวชนฝา ว่างั้น!

เอาล่ะ ถึงตรงนี้ ผมเชื่อนะว่าคุณ PaPaSEK เข้าใจแล้ว ผมจะได้เล่าเหตุต่อ ว่าทำไมผมสนใจวิธีคิดของคุณ holyporing1 เขา และเพื่อได้ชี้แจงด้วยว่า ไอ้ที่ผมคุยกับใครนั่น ผมโต้ตอบกับคุณ zerocool ครับ เพื่อให้เขาหยุด "มโน" ฟุ้งเฟ้อ ในสิ่งที่ชีวิตไม่เคยมีโอกาสได้ทำจริงๆ (ขอยืม "มโน" ที่คุณกล่าวไว้มาหน่อยนะครับ)

ซึ่งคุณ zerocool เขายัง "มโน" ต่อไว้ใน Reply #751377 ย่อหน้าสุดท้าย ตรงที่ว่า "...กฎที่ว่าของ LINE ได้ เว้นเสียแต่ว่ามีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่มากพอ" ซึ่งสำหรับผมแล้ว "เพ้อเจ้อ" ครับ ตรงนี้เดี๋ยวอธิบายต่อย่อหน้าท้ายๆ นะครับ จะอธิบายคุณ PaPaSEK ก่อน

ผู้ทำ Sticker ชุดนี้ คือเอกชนรายย่อย ทำงานอยู่บน ecosystem ของ Naver เขาซึ่งคือเอกชนรายใหญ่ข้ามชาติ ถ้าจะเปรียบกับประสบการณ์ในงานอื่นๆ อาชีพอื่นๆ แนวอื่นๆ ก็เปรียบได้กับ การเช่าที่ขายของในห้างฯ, การเช่า SKU วางของขายใน 7-11, การรับงาน Turn-key จากบริษัทต่างประเทศข้ามชาติ, การรับ Wiring ของ Outsource ทั้งหลายที่รับงานจาก True, การรับผ้า Pattern มาเย็บประกอบของช่างเย็บผ้า... ฯลฯ

ตัวอย่างพอหรือยังครับ? ตรงนี้ ถ้าไม่เข้าใจ ให้ถามเพิ่มนะ

สถานการณ์แบบนี้ ไม่มี Bargain ในการไปงัดง้างด้วย "เหตุผลส่วนชนชาติ" กับเขาแน่นอน (ผมดัดแปลงจากคำว่าเหตุผลส่วนตัวนะครับ) เหตุผลทุกข้อของพวกคุณตกหมดแน่นอน นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องแสดงออกว่าเขาต้องแคร์ แม้ ในความเป็นจริง เขาก็แคร์เรื่องนั้นก็ตาม

นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างเหตุการณ์ ที่ "ข้อเท็จจริง" กับ "ความเป็นจริง" มันไม่ตรงกัน แบบที่ผมพยายามสอนให้ทุกคนเข้าใจเหตุที่เกิดในธรรมชาติเหตุนี้อยู่เนืองๆ

ปกติ พวกคุณมักชอบยก "ข้อเท็จจริง" มาหักล้างถกเถียงกับผม เวลาผมยก "ความเป็นจริง" มาเล่าออกบ่อยๆ

แต่คราวนี้มันกลับกันคือ Naver เขายก "ข้อเท็จจริง" ขึ้นมา พวกคุณกลับคุยฟุ้งกันแต่ "ความเป็นจริง" แล้วกลับเถียงผมฉอดๆ ด้วย "ความเป็นจริง"

ใครก็รู้ ใครก็ทราบครับ ว่า "ความเป็นจริง" แล้ว เขา Ban ด้วยเหตุทางการเมือง

แต่คุณหรือใครครับ ที่จะทำให้ "ข้อเท็จจริงในกฏข้อ 3.9 และ 3.12" เปลี่ยนไปเป็น "political" ได้กันล่ะ?

"ความเป็นจริง" จะด้วยเหตุอะไรเราทราบกันอยู่ แต่นี่ Naver เขาสู้ด้วย "กฏ" ด้วย "ข้อเท็จจริง" ของเขาที่เป็นทางการครับ

เราก็ต้องคิดต่อสู้แบบ "เป็นมวย" สิครับ ไม่ใช่เพ้อเจ้อเป็นการเมืองอยู่ในกรอบเดิมๆ นี่มันเป็นธุรกิจครับ!

พิจารณาข้อเท็จจริงที่เขาสร้างขึ้นและตราประกาศไว้ข้อ 3.9 และ 3.12 จะเห็นว่า สำหรับเรื่อง Sticker นี้ มีโอกาสเข้าข่ายผิดตาม 2 ข้อนี้ด้วย "slander" และ "particular person"

เรื่อง "slander" นั้น ผมเองตอนนี้ไม่เห็นช่องทางที่จะโต้แย้งได้เลย เพราะการสวมด้วยควายมันทำให้ Naver เขาอ้างได้ว่ามันเข้าข่ายอย่างที่ผู้ทำ Sticker จะแถยังไงก็แถไม่ไป

ก่อนหน้านี้ ผมก็ไม่คิดว่าจะมีช่องทางโต้แย้งอะไรได้ จนมาเห็นอะไรลางๆ เมื่อได้อ่านความเห็นคุณ holyporing1 เขานี่แหละครับ ซึ่งความเห็นเขามุ่งไปที่ "particular person" ซึ่งมันคือ "ตัวเชื่อม" ความเสียหายเพียงตัวเดียวที่ทำให้ Sticker นี้เข้าข่ายผิดตาม 3.9 และ 3.12 ได้ (ส่วนเรื่องสี ทำให้เหมาได้ว่า Sticker ทั้งชุด มีเจตนาไปในทางเดียวกัน จึง Ban ทั้งชุด ไม่ใช่เฉพาะบางตัว)

ผมเห็น "คอขวด" ของการพิจารณาความขึ้นมาครับ!

นั่นคือ ถ้าเรามีเหตุผลพอขึ้นมาที่จะโต้แย้งได้ว่า Character ใน Sticker ไม่ได้หมายความถึงบุคคลต่างๆ ก็แปลว่าเราทำลาย "ตัวเชื่อม" เงื่อนไขในกฏสองข้อนั้นของเขาได้ ทำให้ Sticker ชุดนี้หลุดออกนอก 2 ข้อนั้นไป ผมเริ่มเห็นโอกาสต่อสู้แบบเปิดผนึกกับ Naver ได้ ขึ้นอยู่กับคุณ holyporing1 แล้ว ว่าจะมีเหตุผลที่เข้าท่ามาสนับสนุนการแยก Character ออกจากการพิจารณาที่ดีพอหรือไม่

ผู้ทำ Sticker ต้องต่อสู้แค่กฏ 2 ข้อนะครับ ซึ่งไม่ได้อ้างเรื่อง "political" เลยด้วย ยิ่งใครเอา "political" เข้าไปอ้าง กลับยิ่งทำให้ยุ่งยากในการต่อสู้มากขึ้นต่างหากครับ

คำพูด คำสนทนาของพวกคุณต่างหาก ที่ Naver สามารถ Link ไปไว้เป็นหลักฐานได้ ว่ามันส่งผลกับความคิดทางการเมืองของคนไทย ให้เขาไว้คิดเป็นภายใน เหตุให้ "ยิ่งต้อง Ban" ใน "ความเป็นจริง" แต่ประกาศออกมาด้วย "ข้อเท็จจริง" อีกแบบที่ไม่พาดพิงถึง "political" ตามมารยาทระหว่างชนชาติ

ดังนั้นเหตุผลทางการเมืองที่พวกคุณใช้ถกเถียงกันอยู่ กลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ กลายเป็นลักฐานคาโลก Cyber ทำให้ผู้ผลิต Sticker เขายิ่งไม่มีทางสู้ ไม่มีทางแก้ต่างเข้าไปกันใหญ่

พวกคุณจะกล่าวว่าไม่เชื่อเหตุผล 3.9 และ 3.12 อะไรไปก็ตาม แล้วยิ่งยืนกระต่ายขาเดียวเชื่อว่า ต้องการเมือง ก็ยิ่งทำให้แย่ ไม่มีประโยชน์อันใดเลย และแน่นอน พวกคุณหาที่จบที่ลงไม่ได้ ได้แต่โชว์ภูมิว่าฉันรู้ ว่าเบื้องหลังแล้ว ความเป็นจริงของ Naver คือมีการเมืองเข้าไปเกียวในการพิจารณาด้วย

แล้วไงครับ? มันช่วยอะไรได้? ได้แต่ทำให้ตัวพวกคุณเองรู้สึกชอบธรรมที่จะตำหนิ ด่าทอ Naver ได้สมใจ แต่หามี Solution อะไรไม่? คนทำ Sticker ก็อ้าปากค้างไป (อะไรฟะเนี่ย ตูยิ่งพยายามแก้ต่างให้มันไม่เกี่ยวกับการเมืองอยู่แท้ๆ)

ตั้งแต่ย่อหน้าต่อไปนี้ พาดพิงคุณ zerocool ตรงๆ นะครับ

"...เว้นเสียแต่ว่ามีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่มากพอ"

ผู้ทำ Sticker อ้าปากค้างอีกแล้วครับ! (อะไรฟะเนี่ย ตูกินน้ำใต้ศอกเขา ทำของขายอยู่บน ecosystem ของเขา ให้ตูเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนฟะ มีแต่ต้องรอเขาจ่ายตังค์มา)

นี่ไม่ใช่การเอาสิ่งประดิษฐ์ไปคุยกับนักลงทุนข้ามชาตินะครับ จะได้มี Bargain ไปเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อย่างนั้น

ไม่ใช่บริษัท Startup ที่ได้รับเลือกจากนักลงทุนในโคงการ Startup นะครับ

ไม่ใช่การร่วมทุนอะไรระหว่างสองเอกชนที่มี Bargain พอจะต่อรองกันได้นะครับ

นี่แย่ยิ่งการ Deal ของ M$ กับ Nokia อีกนะครับ (ขนาดนั้น Nokia ยังเจ๊ง คิดเอาแล้วกัน)

คุณ zerocool จะเพ้อเจ้อไปไหนครับ เคยทำจริงๆ หรือเปล่าในเรื่องพวกนี้ หรือเอาแต่มโนอย่างที่คุณ PaPaSEK พูดครับ?

รู้จัก Funding ข้ามชาติไหนบ้างครับ เคยเจรจาอะไรมาบ้างครับ เขาคิดพิจารณากันอย่างไร เคยแม้แต่มีโอกาสได้มีใครเล่าให้ทราบไหมครับ?

ถ้าไม่เคย จงหยุด และ อ่านไป แล้วถามมาให้มันเข้ารูปเข้ารอย อย่าพาผมไปออกทะเลเดียวกับที่คุณพายเรือกันอยู่ครับ ประเด็นมันจะแตกแบบกู่ไม่กลับเอา

ในประเทศไทยนี้ ตอนนี้ มีแต่ผมคนเดียวเท่านั้น ที่ปากไม่มีหูรูด เที่ยวเอามาเล่าแจกจ่ายคนอื่นเขาอยู่ครับ นี่แน่ขนาดกล้าพูดแบบนี้ เผื่อจะงัดให้คนอื่นเขาหมั่นไส้ผมจนปรากฏตัวออกมาบ้าง อย่าปล่อยให้ผมโม้อยู่คนเดียว ให้ลูกน้องมานั่งพิมพ์ก็ได้ครับ เผื่อแผ่คนอื่นเขาบ้างเถอะ เด็กๆ เขาก็ฝันจะเติบโต คุณก็อมกุญแจแห่งความสำเร็จกันไว้ซะมิดปากเลย

คนสำเร็จส่วนใหญ่ในประเทศ เขาอยากให้พวกคุณคิดเป็นแต่ในเชิงวิชาการ เป็นแต่ไนมุมของลูกจ้าง เป็นแต่ในมุมของโชว์ห่วย (ในที่นี้หมายถึงกิจการขนาดเล็ก ที่เจ้าของไม่ต้องมีวิสัยทัศน์อะไรมาก) ไม่มีใครมาเล่าให้พวกคุณอ่าน เดี๋ยวคู่แข่งมันจะเกิดใหม่

ต่อไปนี้สำหรับคุณ Fourpoint นะครับ

"ถ้าไม่ทราบถึงประเด็นเหล่านี้ เราก็จะพายเรือในอ่าง"

เพ้อเจ้อครับ ต้องไปทราบประเด็นเหล่านั้นทำไมครับ? ประเด็นเหล่านั้นคุณมโนเอาเองครับ ถึงแม้จะเกิดขึ้นจริงใน "ความเป็นจริง" แต่มันเป็นเรื่องภายในของ Naver เขา ไม่ใช่ "ข้อเท็จจริง" ในการพิจาณาเชิงธุรกิจครับ... ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณเพ้อเจ้อ!

ประเด็นเขาแถลงออกมาชัดเจน คือ 3.9 และ 3.12 ครับ ก็โต้แย้ง แก้แค่นั้นครับ คุณจะไปก้าวล่วงถึงประเด็นเบื้องหลังภายในอะไรของเขาครับ?

ประเด็นทางการเมืองเอง กลับเป็น "ฝา" ของ Naver ที่เมื่อเขาถอยหลังไปชนแล้วยกขึ้นมา "อ้าง" ไม่ได้ เพราะไม่มีปรากฏไว้ใน "กฏ" ของเขาเลยสักข้อครับ!

ผมพอแค่นี้ก่อนนะครับทุกคน ขอรอดูก่อน ว่าพวกคุณยังจะดื้อดึงชวนผมออกทะเลอีกหรือเปล่า ผมรอคุณ holyporing1 เขาอธิบายวิธีคิดของเขาอยู่ครับ เผื่อจะไม่ได้เป็นการประชด เผื่อจะเป็นแนวทางการต่อสู้ที่เป็นไปได้จริงๆ ครับ

และ Reply นี้ คุณ PaPaSEK คงแยกย่อยออกแล้วนะครับ ในคำว่า "พวกคุณ" ส่วนไหน ไม่ใช่การกระทำของคุณ ก็คือไม่ได้เหมารวมคุณ ไม่ต้องเดือดร้อนใจ ถกกันต่อในคำพูดของคุณต่อไปได้เลย ผมเพิ่มภาระให้ตัวเองด้วยพิมพ์แยกละเอียดรายตัวไม่ไหวจริงๆ ครับ ต้องขอให้พวกคุณใช้ "ความเป็นผู้ใหญ่" ส่วนตัว แยกย่อยเอาด้วยครับ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 October 2014 - 12:49 #751550 Reply to:751533
PaPaSEK's picture

อ้อ ... ถ้างั้นขออภัยครับ เห็นใช้คำว่า "พวกคุณ" ผมก็นึกเอาตามปกติว่ารวมผมด้วย

ถ้าเป็นไปได้ ครั้งหน้าต้องขอรบกวนให้ช่วยพิมพ์ชื่อแทนครับ

และขอบคุณที่ตั้งใจพิมพ์ยาวๆ ให้อ่าน ขอบคุณครับ

ปล. นี่ผมไม่ได้ตั้งใจแกล้งงงนะครับ งงจริงๆ อย่าประเมินสติปัญญาผมสูงเกินครับ ฮ่า ฮ่า

By: sunback
Contributor
on 8 October 2014 - 20:58 #751742 Reply to:751533
sunback's picture

อู้ว กลับมาอ่านซ้ำนี่เริ่มมันส์แฮะ

ขออนุญาติช่วยสรุปสั้นๆ ให้นะ

  1. ข่าวนี้ มันเกี่ยวข้องกับการเมืองแน่นอน ไม่งั้นไม่ได้เป็นข่าวที่นี่หรอก ทุกคนควร make sense อยู่แล้วนะ หลายคนพยายามย้ำเรื่องการเมือง อันนี้เข้าใจว่ารู้ว่าเป็นการเมือง แต่ยังพายเรือในอ่าง ไม่หลุดกรอบการเมือง

  2. Naver ก็รู้ดีอย่างยิ่งว่าเป็นการเมือง แต่ในฐานะบริษัทเอกชน เขาไม่บอกหรอกว่า เอ้อ แบนเพราะเรื่องการเมืองนะวุ้ย เขาก็พยายามหาข้อบังคับของเขาเพื่อเอามาอ้างอิงเพื่อแบนสติ๊กเกอร์ให้ได้ก่อน และบังเอิญมันมีที่เข้าเงือนไข โดยเฉพาะลักษณะท่าทางตัวละครบางตัุวตรงนี้ คุณจักรนันท์และบางคนมองทะลุไปแล้ว

  3. มีคนหนึ่งแอบปิ๊งความเห็นแนวว่า ถ้าดึง character ที่มีปัญหาออกละ พอไหวมั้ย ซึ่งดูเหมือนคุณจักร์นันท์สนใจ เพราะวิธีคิดเริ่มหลุดกรอบการเมืองเป็นการหาวิธีโต้แย้งแบบ เอกชน vs เอกชนและตอบโต้กันด้วยกฏในกรอบที่ Naver กำหนด ไม่เอาเหตุผลทางการเมืองมาอ้าง

  4. ทีนี้ยาวเลย (แน่นอน ผมชอบ แซบดี)

  5. อย่างไรก็ดีผมก็แอบเห็นด้วยกับคุณ zerocool นะ ว่าคุณจักร์นันท์มีความเข้าใจสูง แต่ทักษะการถ่ายทอดยังไม่ดี เลยเป็นเหตุให้ความเห็นยืดยาว แถมอธิบายในลักษณะยกตนข่มท่าน ให้ความสำคัญกับตัวเองสูง (ผมว่าคนในนี้ไม่สนใจหรอกว่าท่านหนีมาจาก opentle ด้วยเหตุใด และจะอยู่หรือไม่อยู่ที่นี่หรือไม่ ประสบการณ์หรือความแก่มันไม่ส่งผลกับคน) เหตุนี้เลยทำให้เป็นอุปสรรคในการสื่อสารครั้งนี้

ุุ6. แต่ท่านอื่นๆ ก็หลงประเด็น (หลงกระเด็นด้วย) พอกู่ไม่กลับก็ประชดกันเล่นๆ ไปเลย

  1. แต่ก็นะ มันดี หลายๆ ท่านเป็นไอด้อนผมซะด้วยในเรื่องการดราม่า

อ้าว ยาวซะละ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 9 October 2014 - 09:20 #751898 Reply to:751742
PaPaSEK's picture

ข้อ 6 สระอุเกินมาเยอะเลยครับ .... (ไม่รู้จะพิมพ์อะไร)

คุยเรื่องคุณจักรนันท์ละกัน ผมว่ารอบนี้ไม่ค่อยเหมือนคุณจักรนันท์เท่าไร ปกติผมจะเห็นแกคุยตรงๆ และอธิบายความคิดความเห็นได้ดีทุกครั้ง

ครั้งนี้ดูเหมือนเล่นแง่เพราะประเมินคู่สนทนาอย่างผมสูงเกินไป ผมก็ยังงงๆ อยู่เลย

By: จักรนันท์ on 9 October 2014 - 13:03 #752041 Reply to:751898

ตอบคุณ PaPaSEK สั้นๆ ก่อน
ค่ำๆ ค่อยมาคุยกับคุณ sunback นะครับ

ครั้งนี้ยอมรับว่าเป็นอย่างที่คุณ yymnoy ว่าไว้ครับ คือหงุดหงิดจริงๆ ครับ ที่โดน Jam
ไม่ใช่ความโกรธ หรือโมโห ผมขอใช้คำว่า Annoy แล้วกันครับ เนื่องจากช่วง Reply ต้นๆ ที่จริงผมไม่มีเวลาพิมพ์มากนักจริงๆ เนื่องจากมีภาระเข้า/ออกโรงพยาบาลอยู่ครับ นี่ก็กำลังออกไปพบหมอตรวจตามนัดเช่นกัน

หลายๆ เหตุรวมกัน ผมก็ธาตุไฟร้าวได้เหมือนกันนะครับ

กลับจากโรงพยาบาล + ทานอาหาร แล้วค่ำๆ จะมาคุยกับคุณ sunback ในประเด็นที่เกี่ยวกับตัวผมโดยตรงนะครับ

อย่างอื่นที่คุณ sunback สรุปไว้นั้น ผม "ขอแสดงความนับถือ" คุณครับ คุณมีความสามารถในการสรุปความได้อย่างดีเยี่ยมแบบที่ผมไม่อาจเทียบคุณได้เลย

ปล. สระอุเกินของคุณ sunback ผมเดาว่า เปลี่ยนภาษาพิมพ์ไม่ทัน เพราะสระอุและเลข 6 อยู่ปุ่มเดียวกันครับ

By: จักรนันท์ on 12 October 2014 - 22:09 #752974 Reply to:751742

วันพฤหัสฯ กว่าจะกลับเข้าที่พักก็ล่วงเลยไปถึงสามทุ่มเศษ ผมเลยค้างไว้ก่อน วันศุกร์ก็ไม่มีเวลา เมื่อวานก็นั่งทบทวนว่าที่ตั้งใจจะเสวนากับคุณ sunback ต่อไปนี้ จะกลายเป็นการ Spoil สังคมและทำให้ผมสูญเสียระบบ Filtering ของผมเองไป ก็คิดทบทวนมา 1 วันจนตอนนี้ ตัดสินใจว่า "เอาวะ! Spoil ก็ Spoil" แต่การเว้นระยะเวลามา 3 วัน ก็คงทำให้คนที่ไม่ใช่ผู้ติดตามจริงๆ ละเลยไปได้แล้วเป็นส่วนใหญ่

Reply นี้ ขอเสวนาประเด็นที่เกี่ยวกับตัวผมโดยตรงนะครับ ออกนอกเรื่องตามข่าวไปก่อน และเป็นการรอคุณ holyporing1 มาคุยด้วย (ด้วยความหวังที่ริบหรี่ ถ้าเขาได้อ่านถึงตอนนี้แล้ว คง Paranoid อยู่น้อยๆ ว่าถ้าเขาเข้ามาตอบแล้วจะโดนจับมัดเสาราดน้ำมันเผาไฟหรือเปล่า)

ทนอ่านก่อนนะครับ ที่มาของความเป็นตัวผม ความมันย่อมไม่ "สั้น"

คุณ sunback สรุปได้ดีมากครับ เป็นความสามารถที่ผมทำได้ไม่ดีมาตั้งแต่วัยหนุ่มแล้ว สมัยผมส่งบทความหารายได้เสริม ผมก็เขียนได้แต่บทความชนิด Hardcore ในระดับ Hardware interface ด้วย Assembly, C และ Pascal เท่านั้น สมัยนั้นเคยรับ Job สอนใน British American ที่โชคชัย 4 ตั้งแต่เขายังมีสาขานั้นสาขาเดียว ผมสอน C และ Pascal ได้แค่รุ่นเดียว ก็ต้องเลิกสอน เพราะโดนผู้ปกครองที่ "อยากให้ลูกเขียนโปรแกรม" (โดยที่ไม่สนใจว่าลูกมีใจหรือไม่) Complain ว่าผมสอนไม่ดี สอนไม่รู้เรื่อง ในขณะที่ผมมีความเห็นว่า "ลูกเขาจะเป็นลุกตุ้มถ่วงความเจริญของเด็กคนอื่นทั้ง Class" ถ้าผมมัวแต่ประวิงรอลูกเขาอยู่คนเดียว

แน่นอนครับ วัยกำลังเลือดร้อน ปากก็ไว ก็ได้สอนแค่รุ่นเดียว ก็ต้องเลิกสอน หันมาเปิดคอร์สสอน Lotus dBase ให้กับพนักงานบริษัทเอกชนต่างๆ แทน ทีนี้เข้าทางผม ใครช้า ใครถ่วง ใครโง่เกินไป ผมก็สามารถรายงานกับบริษัทเขาตรงได้ เขาก็เปลี่ยนตัวมา เพราะบริษัทเขาจ่ายมาแล้ว เขาย่อมหวังผลสูงสุด เขาย่อมพยายามส่งแค่พนักงานคนที่สามารถกอบโกยเนื้อหาที่ผมสอนได้มาให้มากที่สุด ลูกค้าตอนนั้นเป็นสายการบินและบริษัทที่ทำ Logistic ซะเยอะ ผมป้วนเปี้ยนสอนอยู่แถวสาธร สีลม สุริยวงศ์ บรรทัดทอง บริษัทหลังจุฬาฯ ทั้งหลาย (ลูกศิษย์ลูกหาจะทราบดีว่าผมเป็นคนที่เริ่มสอนตรงเวลา แต่ 17:00 พักกินข้าวแล้ว ยังมีต่อจนถึง 18:00~21:00 ทุกวัน) กินข้าวมันไก่ตอนเที่ยงในจุฬาฯ ประจำ (อร่อยมาก) ตามด้วยกล้วยปิ้งจ้าวดัง (ที่ตอนนี้หายไปแล้ว)

นี่หนึ่งล่ะ ที่ทำให้ผมเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้น อ่านแล้วขอให้ปักหมุดไว้ในสมองนะครับ

ต่อไป อย่างกรณีที่คุณ sunback กล่าวว่า "ยกตนข่มท่าน" นั้น ถ้าคุณจะติว่า ผมมักจะยกความรู้และประสบการณ์ที่มากกว่าคนอื่น เพื่อข่มคนที่รู้น้อยกว่าและประสบการณ์น้อยกว่าให้หุบปากและรู้จักฟังเสียก่อน

นั่น "ใช่" ผมเลยครับ!!!

ยกตนข่มท่าน คืออะไรครับ?

ผู้น้อยพูดจายกว่าตนเองเหนือกว่าผู้ใหญ่

โบราณสร้างสำนวนนี้ขึ้นมาด้วยความหมายที่หมายถึง เด็ก&ผู้ใหญ่ ผู้รู้มาก&ผู้รู้น้อย เช่นกรณีที่ผมต่อว่าคุณ zerocool เพ้อเจ้อ นั่นก็ใช่อันเดียวกันคือ ผมมีประสบการณ์จริง กับคุณ zerocool ที่ได้แต่ทึกทักเอาเอง ราวกับว่าระดับผู้บริหารบริษัทเอกชนเขาจะคิดพิจารณาด้วย "กรอบทางการเมือง" อย่างที่เขาติดกรอบอยู่

ดังนั้นแล้ว ด้วยองค์ความรู้และประสบการณ์ในสถานการณ์การพูดคุยแล้ว เป็นผมหรือครับ ที่ "ยกตนข่มท่าน"?

เมื่อวัดด้วยความรู้และประสบการณ์ของประเด็นที่ผมกำลังเปิดกับคุณ holyporing1 แล้ว ผมหรือคุณ zerocool ครับคือคนที่เป็น "ท่าน" ในสำนวน? นี่ไม่ได้เอาเรื่องวัยวุฒิ หรือฐานะอะไรมาพูดนะครับ

เราเอาเหตุผลมาคุยกัน นั่นคือวิธีการ (Method) ของปัญญาชน แต่ "ข้อเท็จจริง" และ "ความเป็นจริง" มันคือ Content คือ Evidence ในการคุยครับ ไม่ใช่ยอมรับเอา "มโน" เป็น Content เป็น Evidence แต่พอผมจะยก "ความเป็นจริง" จากเพราะประสบการณ์อันมีมากกว่าขึ้นมาบ้าง กลับกลายเป็น "ยกตน" ไปซะนั่น

ถ้าคุณยอมให้เหลือแต่ Method นั่นคือการใช้เหตุผลในการพูดคุย ตัดเรื่องวัยวุฒิทิ้งเพื่อให้เราเป็นคนที่เท่าเทียมกันนั่นดีแล้ว แต่ถึงขนาดจะให้ตัดกระทั่งความรู้และประสบการณ์ทิ้งเพื่อให้เหมือนเราเท่าเทียมกัน...

"โอวพระเจ้า โอวไม่ และนี่จะเหลือเหตุผลอะไรให้เรากล่าวถึงล่ะเนี่ย" (ขอยืมประโยคของคุณ PaPaSEK มาใช้ครับ)

ผมแสดงออกถามคุณ lew และคุณ mk ตรงๆ ตั้งแต่แรกที่ผมเป็นสมาชิกที่นี่แล้ว และทั้งสองท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธให้ผมแสดงความเห็น ความรู้ และประสบการณ์ได้เท่าที่ไม่ละเมิดกฏครับ

ผมให้ความสำคัญกับความรู้และความสามารถของตัวเองสูงครับ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับ "จินตนาการอันเพ้อเจ้อทั้งของตนเองและของคนอื่น" ครับ

คุณ sunback อาจไม่สนใจว่าผมย้ายมาที่นี่ทำไม อันนั้นผมไม่สนใจความไม่สนใจของคุณเช่นกัน แต่ผมยืนยันได้ว่าประสบการณ์มันส่งผลกับคนแน่ๆ ครับ ขนาดเป็นลูกจ้างยังเงินเดือนไม่เท่ากันได้ด้วยประสบการณ์เลยครับ!!

นับตั้งแต่ย้ายมาโม้ที่นี่ มี 3 คนที่รู้จักผมจากที่นี่ และดิ้นรนจนติดต่อผมได้ มี 2 คนที่ผมช่วย Consult แนวทางให้ระยะหนึ่งจนกระทั่งจบ CPE ที่จุฬาฯ คนหนึ่งและเกษตรฯ คนหนึ่ง ตอนนี้ทำงานบริษัทเอกชนดีๆ ไปแล้ว

อีก 1 คน ตอนนี้อายุ 27 แล้ว พอจบ CPE ได้แล้ว แน่วแน่ว่าจะเดินทางสายเถ้าแก่ ตอนนี้เป็นเจ้าของ Website หนึ่ง ยังทำกำไรได้ไม่เป็นกอบเป็นกำเท่าไหร่ (คุณ lew กับคุณ mk เข้าใจธุรกิจนี้ดีแล้วแน่นอน) ก่อตั้ง Website ผมช่วยชำระค่าใช้จ่ายตอนเริ่มต้นไปให้บ้าง เขาให้ผมลงบัญชีบันทึกไว้ เป็นเงิน 80,820.76 บาท ผมบอกเขาไว้ว่า "เมื่อไหร่มีกำไรต่อเดือนเป็น 3 เท่าของยอดนี้แล้วค่อยใช้หนี้ผม"

นอกจาก 3 คนนี้แล้วคนอื่นๆ ที่ Consult หลวมๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกนั้นมาจากแหล่งอื่นๆ ประกอบด้วย ไม่ได้รู้จักผมจากที่นี่เพียวๆ เพียงแหล่งเดียว

ทีนี้... ยังจะแน่ใจในอนุมานของคุณอยู่หรือเปล่าครับ ว่าคนในนี้ไม่สนใจผม?

นี่คือสิ่งที่ผมครุ่นคิดเมื่อวานนี้ ว่าเรื่องนี้ ถ้าผมพูดออกไป มันจะทำลายระบบ Filtering ของผมครับ

เอาล่ะ คุณลองคิดว่า ถ้าชีวิตคุณ "เต็มแล้ว" "พอแล้ว" หรือ "อะไรแล้ว" ก็ได้ และจะเริ่มเป็น "ผู้ให้" กับสังคมบ้าง คุณมีวิธีการ "ให้" อย่างไรได้บ้าง

เอาแบบพระเอกหนุ่ม วิ่งช่วยคน แล้วลง FB? ขนาดนั้นก็ยังมีคนกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์เป็นตัวเงิน

หรือจะไปซุ่มพัฒนา Code ผลงานเงียบๆ เพื่อมนุษยชาติ รอบริจาคตามกำลังศรัทธา อย่างนั้นยังไม่วายมีคนก่นด่าได้เหมือนกัน

ส่วนใหญ่เขาไม่ออกมาให้ท่านได้รู้จักสัมผัสตัวตน สัมผัสวิธีคิดได้ตรงๆ แบบที่ผมทำกันหรอกครับ มัน "เปลืองตัว" ครับ

ยุคผมมีทั้ง อ.ประพัฒน์ (ที่มีคนเพิ่งกล่าวถึงไปในข่าว Lotus) อ.เจน อ.พงษ์ระพี อ.ยืน หมอ'ดิษฐ์ หมออานนท์ อ.โจ ฯลฯ (บางท่านคุณ lew น่าจะรู้จักดี) บางท่านก็มีวิธีคืนกลับแก่สังคมตามแบบของพวกท่าน (แถมยังทำรายได้ได้ด้วย) บางท่านก็คืนประสบการณ์สู่สังคมได้แค่วงแคบๆ เพราะทน "น้ำเต็มแก้ว" ไม่ค่อยไหว

แต่ส่วนใหญ่ เขา "ไม่เอาเลย" ครับ เลือกที่จะหลบไปดีกว่า (ผมชักชวนเหยงๆ เป็นประจำ)

ผมผ่านวัยฟังมาแล้ว ผมจึงบอกว่า ผมไม่จำเป็นต้อง "ตักตวง" แล้ว สมัยวัยฟัง ผมไม่เคยมีประวัติให้ใครติได้ว่า "เพ้อเจ้อ" นะครับ ผมชอบถาม (แบบที่คุณ PaPaSEK เป็น/ทำให้ผมนึกถึงตัวเอง)

ผมไม่เคยออกความเห็นอะไรสักตัวอักษรเดียวในเรื่องที่ไม่รู้จริงหรือทำไม่ได้จริง ทุกคนที่เคยอ่านข้อเขียนผมในระยะเวลาหนึ่ง รู้จักผมตรงนี้ดีแล้วแน่นอน

หลายเรื่องหลายข่าว แม้ผมจะรู้จริง แต่เมื่ออ่านๆ ความเห็นที่ปรากฏ เห็นว่าถ้าเสวนาไปแล้ว คนส่วนใหญ่คงเข้าใจได้ยากยิ่ง (พายเรือในอ่างกันอยู่) ผมก็จำใจต้องเลือกที่จะเงียบไป มากกว่าที่จะไป "ทะเลาะกับเด็ก" โดยที่ยังไม่ทันได้เผยแพร่ความรู้/ประสบการณ์ไปสักเท่าไหร่นัก

ผมให้ความสำคัญกับความรู้ความสามารถตัวเองครับ ในขณะที่สมาชิกส่วนใหญ่ใน Blognone นี้ เลือกที่จะให้ความสำคัญกับวัตถุ/เครื่องมือ ภาษาโปรแกรม IDE OS ต่างๆ ฯลฯ แทนที่จะให้ความสำคัญกับตัวเองสูงกว่า ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ยังเป็นบุคคลที่ "หาตัวเอง" ยังไม่เจอกัน และที่ไม่เจอกัน ส่วนใหญ่เหตุเพราะ "ทำตัวให้เต็ม" ก่อนเวลาอันควรทั้งนั้น

ผมไม่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจอันใดจากสิ่งที่ผมแจกจ่ายกับสังคมนี่อยู่เลย (ซึ่งทำมามากกว่า 10 ปีแล้ว) แต่ที่ทำอยู่คือผมสร้างรูปแบบการป้อนคืนสู่สังคมที่ "ตรงตัว" "ถูกฝาถูกคน" ด้วยระบบ Filtering ที่อาศัย Attitude ของผู้คนในสังคมเองครับ

คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ

หลายคนคงตีความผิดไปอีก ว่าหมายประมาณถึง คนรักมีน้อยนิด คนชังมีมากกว่า ซึ่งแท้จริงที่โบราณกล่าวไว้หมายถึง คนรักมีค่ากว่าคนชัง ผืนหนังมีราคากว่าผืนเสื่อ ไม่ได้หมายถึงผืนเสื่อมันจะใหญ่กว่าผืนหนัง

ทั้งหมดที่เล่าๆ มา รวมกับการตกผลึกจากเหตุในประสบการณ์อื่นอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ผมได้ "วิถีทาง" ของผมเอง ผมจึงเริ่มหา "ที่ทาง" ของผมเอง ซึ่งก็เริ่มจากที่ opentle ตั้งแต่เขาเริ่มก่อตั้ง แต่แล้วผมก็พบว่าระบบ Filtering ของผมใช้กับที่นั่นได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งรูปแบบการดำเนินการที่นั่นไม่เอื้ออำนวยให้ผม "ทำกุศล" ในแบบฉบับของผม (ที่คิดขึ้นเอง) ได้ ครั้นพอได้มาเห็นเจตนาของ 2 ผู้ก่อตั้งที่นี่ ก็เข้าตาผมครับ และเวลาที่ผานมาทุกอย่างก็พิสูจน์ออกมาว่า 2 ผู้ก่อตั้ง มีใจที่นิ่งและแน่วแน่พอที่จะธำรงค์แนวทางของตัวเองไว้ได้อย่างดี

ตามปกติแล้วชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ อยู่ในช่วงกอบโกยครับ ไม่ว่ากอบโกยความสนุก ความแซบจากการอ่าน (เช่นคุณ sunback เอง) มาหางานทำ มาหาความรู้ มาสนองศรัทธาตัวเองด้วยการ Drama ว่าสิ่งนี้ที่ตัวเองใช้อยู่ดีกว่าสิ่งนั้นที่คนอื่นใช้อยู่ (ทั้งที่ไม่ได้สร้างได้ทำเองซะหน่อย) ไม่ได้มีเจตนาจะหา "พื้นที่แจกจ่าย" โดยตั้งใจตั้งแต่แรกเช่นผม ผมก็ต้องหาพื้นที่ที่เหมาะสมกับผม ผู้ก่อตั้งที่นี่รักษากฏอย่างเคร่งครัด ซึ่งคือการ Filter ชั้นต้นออกไป แยกแยะคนกลุ่มหนึ่งออกไปได้ และกฏเหล่านี้ก็สร้างสังคมดีๆ ที่นี่ขึ้น ซึ่งทำให้ผู้คนที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่คือกลุ่มคนที่มี Method คือการใช้เหตุผลถกกันในแบบปัญญาชน อีกทั้งยังเปิดกว้างกว่าแค่เรื่อง Technic โดยตรง

เป็นอันว่า... ผมเจอที่ที่เหมาะกับภารกิจของผมมากกว่า opentle แล้วนั่นเอง

ที่นี้ อะไรคือ Filtering system ที่ผมออกแบบขึ้นสำหรับตัวผมเอง (ต่อไปคือการ Spoil ล่ะครับ)

คนที่เคยอ่านข้อเขียนผมมาพอสมควรแล้ว จะเห็นได้ว่า ผมมักเป็นคนที่ "ชอบวางกับดักทางความคิด" ไว้ในการสนทนา วิธีของผมจึงเป็นการใช้ Attitude ของผู้คนเองในการ Filter ตัวเองออกไปจากวิถีของผมนั่นเองครับ

ผมผ่านมาจนวัยนี้ มีความรู้ความสามารถสูงได้ขนาดนี้ ผมมาด้วยมืออันอ่อนน้อม หูที่เปิดฟัง ถาม (ไม่ใช่แย้ง) มาตลอดครับ และโดยไม่ได้ถ่อมตนนักด้วย (ในทางที่ตัวเองเป็นเลิศ) ดังนั้นเป็นความตั้งใจจนเป็นบุคคลิกที่โดดเด่นชัดเจนของผมอยู่แล้วที่จะทำให้คนที่มี "วิธีคิดในเชิงลบ" รู้สึกในทางลบกับผมเมื่อได้สัมผัสตัวตนของผมในเบื้องต้นแล้ว... พวกเขาจะอัปเปหิตัวเองออกไปจากชีวิตของผมเองครับ

ด้วยหมั่นไส้ รู้สึกถูกหยาม ถูกกด ฯลฯ อะไรก็ตามแต่ แต่นั่นคือเงาดำมืดในใจของพวกเขาเองที่พวกเขาไม่รู้ตัวและเห็นตัวเองครับ

กระบวนการนี้ ทำให้คน Attitude ดีแท้ๆ ที่คิดดี ตั้งใจดี มุมานะเท่านั้น ที่จะมาถึงผมโดยตรงได้

กระบวนการนี้ ทำให้ผมไม่ต้องเสียท่าให้กับแรงกดดัน ต้องช่วยทั้งที่ไม่ควรช่วย ต้องให้ทั้งที่ไม่ควรให้ อย่างเช่นเสี่ยชาเขียวที่โดนชูป้ายกดดันให้ต้องช่วย อันเป็นผลเสียจากการภาพลักษณ์การแจกจ่ายของตัวเอง (ซึ่งไม่มี Filtering system เพราะเป็นการตลาดแท้)

กระบวนการนี้ ทำให้ผม "อกหัก" กับผู้คน "น้อยที่สุด" แล้วครับ ทำให้ผมไม่ห้องอกหักอัปเปหิ หลีกลี้ออกจากสังคม ไปนั่งทำงานเพื่อสาธารณะเงียบๆ คนเดียวห่างไกลจากผู้คน เขียน Blog เล็กน้อย เป็นฤษีในป่าใหญ่

วันหนึ่ง เมื่อคุณ "เต็ม" แล้วในชีวิต และคิดจะเป็นผู้ให้บ้าง วันนั้นคุณจะเข้าใจผมมากขึ้น เฉกเช่นคนที่ไม่มีลูก ไม่มีวันเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความรู้สึกเสียสละเพื่อลูกจนกว่าจะได้มีขึ้นมาจริงๆ (ซึ่งความจริงแล้ว บางคนถึงมีลูกแล้ว ก็ยังเป็นมนุษย์แย่ๆ อยู่ก็มีถมไป)

คุณจะเจอ "น้ำเต็มแก้ว" เข้ามาเต็มชีวิตคุณครับ ถ้าคุณมีโอกาสถึงวันนั้น วันที่คุณมี "ท่อน้ำเสี้ยง" ของตนเองแล้ว และเริ่มที่จะ "แจกจ่าย" บ้าง... คุณลองทำให้ดีกว่าที่ผมทำอยู่นี่ให้ได้นะครับ อย่าท้อ อย่าหลบลี้หนีไปหรือเอาแต่อยู่บนหอคอยงาช้างซะล่ะครับ

เช่นเดียวกับการที่คุณ sunback เชื่อว่า "คนในนี้ไม่สนใจหรอกว่าท่าน..." นั่นมันสะท้อนออกมาว่า คนในนี้ไม่มีใครสนใจคุณ ไม่มีใครเคยตะเกียกตะกายอยากจะรู้จักเข้าถึงตัวคุณนั่นเอง คุณจึงคิดไม่ถึง/ไม่อาจเข้าใจได้ถึงครับ

และผมไม่ Allow ให้ทุกคนเหล่านั้นทั้งหมดยื่นมือเข้ามาสอดแทรกใดๆ ในการถกกับใครๆ ของผม โดยผมมีคำพูดที่ผมบอกทุกคนให้ฉุกคิดประโยคเดียวกันเสมอคือ "ถ้าพวกเธอออกตัวถือหางผม พวกเธอกำลังทำให้ผมเป็นหัวหน้าของหมาหมู่แทนการใช้เหตุผล ความรู้ และประสบการณ์ในการเสวนากันนะ"

ผมเอง พยายามเรียนรู้และจดจำทุกคนนะครับ ทำความเข้าใจในตัวแต่ละคน ว่าแต่ละคนมีลักษณะการพูดคุยเช่นใด และหลีกลี้หรือปรับตาม ดังนั้น ถ้าคุณ zerocool ยังไม่เคยคุยรู้จักกับผมมาเลย จะไม่รู้ลักษณะของผม อันนั้นเข้าใจได้ครับ แต่นี่ไม่ใช่ว่าเพิ่งเคยคุยกัน

ผมจะใช้คำว่า "โม้" เสมอ เมื่อผมจะหยิบยกประสบการณ์ขึ้นมาพูด นั่นคือ "ผมตั้งใจและเจตนา" ครับ

คนละครึ่งทางครับ ผมสื่อสารได้เท่านี้แหละ เรื่องการสื่อสารนี่ ยอมรับแย่กว่าที่ทุกคนคาดหวังครับ พยายามเข้าใจผมเท่าที่ผมจะสามารถถ่ายทอดบ้างก็แล้วกันครับ

ถ้าใครเชื่อว่า ทำได้ดีกว่าผม จงทำให้ดีกว่าให้ดูครับ แล้วเอามาเสวนาแลกเปลี่ยนกันครับ เหมือน Concept ที่นี่ว่าไว้คือ "อยากได้ต้องทำเอง" ครับ ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ "มโน" ขึ้นมาไม่ได้ครับ เงินก็ซื้อไม่ได้ หายากยิ่งกว่าความรู้ครับ คุณก็คงคิดได้ว่า คนเราที่ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดเพราะขาดอะไรครับ?

รู้จักผมมากขึ้นหรือยังครับ?

ต่อไปนี้ ผู้ที่ตามมาข้างหลังจากนี้ คงจะทำให้ผมเชื่อในความบริสุทธิ์ใจยากขึ้นแล้วนะครับ กุศโลบายของผมได้ถูกเปิดเผยแล้ว ที่ Reply นี้นี่เอง

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 13 October 2014 - 01:55 #752998 Reply to:752974
PaPaSEK's picture

"ยกตนข่มท่าน" คือการให้เครดิตตนเองเหนือกว่าคู่สนทนาครับ ไม่ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม

ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นว่ามันมีประโยชน์อะไรในการสนทนานะครับ มันเป็นการให้เครดิตที่คุณจักรนันท์ให้ตัวเอง ไม่มีใครฟังแล้วรู้สึกชื่นชมหรือคิดว่ามันเป็น fact อะไรเพื่อใช้ในการถกเถียงหรือการสนทนานะครับ

ยิ่งพูดให้เครดิตตัวเองเยอะๆ แต่การสนทนาไปในทางตรงกันข้ามหรือไม่สนับสนุนการให้เครดิตตัวเองอย่างที่พยายามทำ ผมว่ายิ่งดูแย่ครับ

ปล.ด้วยมืออันอ่อนน้อม แต่ ตั้งใจและเจตนาทำให้คนหมั่นไส้ ... แบบที่ผมพูดครับ ให้เครดิตตัวเองในทางนึง แต่สิ่งที่แสดงออกมันไปอีกทางนึง

ผมเวียนหัวเลย และไม่คิดว่าผมรู้จักคุณจักรนันท์อะไรมากกว่า "คุณจักรนันท์ชอบยกตัวเอง" ครับ

อ้อ แต่ผมเชื่อนะครับว่าคุณจักรนันท์มีความสามารถและทักษะในงานที่คุณจักรนันท์ทำ อันนั้นรู้มานานแล้วจากการตอบโพสต์ก่อนๆ ครับ อันนี้ยอมรับจากใจ

By: จักรนันท์ on 13 October 2014 - 03:47 #753002 Reply to:752998

ผมยืนยันว่าประโยชน์มันมีครับ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการ "หยุด" คู่สนทนาในทันทีเพื่อไม่ให้เลอะเทอะออกไปจากความไม่เข้าใจประเด็นของคู่สนทนาเอง หรือแม้จะการที่ผมยังถ่ายทอดได้ไม่ดีก็ตาม แต่ก็ยอมรับนะครับ ว่าที่ถูก Jam ครั้งนี้ทำผมหงุดหงิดได้จริงๆ ครับ (อันนี้ไม่ได้หมายความถึงคุณ PaPaSEK นะครับ) ประโยชน์ของมันยังมีอีกมากมายหลากหลายสถานการณ์ ถ้าเล่าแล้วยาวมากๆ แน่นอน แต่คุณจะเชื่อผมไหม ว่าถ้าผมเล่าแล้ว คุณก็จะต้องยอมรับว่ามันเป็นจริงๆ ในโลกจริง

ทุกบุคคลิกมันก่อโทษและประโยชน์ได้ในตัวของมันเอง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราเลือกจะนำขึ้นมาใช้ครับ และการเลือกใช้ย่อมมีหยิบมาพลาดบ้างได้เป็นธรรมดามนุษย์ (จากการกำลัง Annoy ของผมเอง)

นี่ถ้าผมใช้สำนวนว่า สี่เท้ายังรู้พลาดฯ... คน Attitude ไม่ดีก็จะหมั่นไส้หาว่าผมยกตัวเองเป็นปราชญ์ได้อยู่ดี

อย่ายึดติดสิครับ ว่าเท่าที่คุณรู้ ที่คุณเข้าใจในโลกใบนี้ คือที่สุดแห่งความผิดถูกแล้ว เก่งกล้า+แก่ประสบการณ์เช่นผม ยังไม่กล้ายึดมั่นถือมั่นขนาดนั้นเลย

"ด้วยมืออันอ่อนน้อม" ผมพูดถึงการวางตัวในวัยที่ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ก่อนจะมาเป็นวันนี้ แต่วันนี้เป็นวันที่ตั้งใจและเจตนาทำให้คนที่มีวิธีคิดเชิงลบหมั่นไส้ คุณ PaPaSEK กำลังนำสองสิ่งที่ต่างเวลาต่างวาระมาผูกกันครับ ผมยังบอกไว้ด้วยว่าผมในวัยนั้น ผมไม่ใช่คนที่ถ่อมตนเสียด้วยนะครับ (เลือดร้อนและกร่างกว่านี้เสียอีก) ต้องขออภัยที่อธิบายไม่ดีอีกแล้ว ทำให้คุณ PaPaSEK ไม่อาจเข้าใจที่สื่อไปได้อย่างถูกต้อง

การยกประสบการณ์มา ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการถูกครหาว่า "ยกตัวเอง" แน่นอนครับ มันขึ้นอยู่กับว่า ถ้าคู่สนทนามีประสบการณ์เดียวกันด้วย มันจะกลายเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างออกรสไปตามปกติครับ

แต่ในทางกลับกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่มีประสบการณ์ตรงในเรื่องนั้น แต่กลับใช้ "จินตนาการ" ว่าประเด็นที่กำลังสนทนาน่าจะเป็นเช่นนั้นๆ ด้วยความรู้สึกเอาแล้ว การยกประสบการณ์จริงขึ้นมาของผม ย่อมเป็นการ "ยกตัวเอง" อย่างแน่นอน ในขณะที่อีกฝ่ายถ้ายังยึดติด มักยอมรับไม่ได้กับความเสียหน้า ดูได้ง่ายๆ ครับ คำขออภัยจากสมาชิกในนี้ นับนิ้วได้เป็นรายตัวเลย ว่าใครบ้างที่ปากเบา

และที่ผ่านมา ผมไม่นิยมการ "มโน" ทึกทักเอาว่าเรื่องโน้นน่าจะเป็นเช่นโน้น เรื่องนี้น่าจะเป็นเช่นนี้ แล้วเอาแต่สมมติฐานที่มโนได้เหล่านั้นขึ้นมาถกเถียงให้เป็นได้แค่เพียงการบริหารการใช้ตรรกะเท่านั้น แต่หาเกิดประโยชน์ในโลกจริงนอกจินตนาการไม่ จึงไม่เคยเข้าไป Jam เสวนาที่ผู้คนถกเถียงกันในทำนองนั้นเลยแม้แต่เพียงไบต์เดียว

ผมชอบใช้ประสบการณ์จริง ใช้ความเป็นจริงยกขึ้นมาเสมอๆ แน่นอนว่าย่อมหนีไม่พ้น ที่จะโดนครหาว่า "ยกตัวเอง" หรือ "ข่มผู้อื่น"

ผมควรจะยี่หระ?

ผมเคยพูดไว้แล้วว่า แม้เพียงคนเดียวที่ได้ประโยชน์เกิดขึ้นจริงในชีวิตจากการ "โม้" ของผม อย่างน้อยผมก็บรรลุกุศลที่ผมตั้งใจทำ ส่วนคนอื่นๆ เขาไม่ได้เสียอะไร นอกจากไม่สบอารมณ์ที่เห็นเหมือนผมทำตัว "ลอยสูงกว่า"

แบบนี้สังคมกำลังได้... หรือเสียครับ? ผมคือขยะหรือคุณค่าของสังคมครับ? คนในสังคมนี้มีวุฒิภาวะอ่อนแอจนผมต้องทะนุถนอมจิตใจอันบอบบางเช่นนั้นเชียวหรือ?

คุณ PaPaSEK ตรองดูสิครับ คุณเวียนหัวเพราะอารมณ์หรือคุณสูญเสียอะไรเพราะผมหรือครับ? มันเสียไปจริงไหม? จับต้องได้ไหม? หรือแม้แต่คุณ zerocool เองก็ตาม เขาเสียอะไร? การยกตัวเองของผม ไม่เคยแม้แต่เป็นการหมิ่นประมาทด้วยซ้ำ

คุณติดอยู่ในอารมณ์ตัวเองกันหรืออยู่เปล่า? กำลังมโนว่าตัวเองสูญเสียอะไรไปอยู่หรือครับ?

ที่แน่ๆ เห็นๆ อยู่เลยคือ นอกจากคุณ PaPaSEK เอง ตัวผม และอีกไม่กี่คนอันน้อยนิดแล้ว มีสมาชิกอื่นอีกสักกี่คน ที่จะยอมรับและเห็นข้อเสียของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาครับ

ผมไม่ใช่เทวดา ถึงพยายามอย่างไร มีข้อดีแล้ว ย่อมต้องมีข้อเสีย โลกน่าอยู่สำหรับผมเสมอ เพราะผมตั้งใจจะมองให้เห็นแต่ข้อด้านดีของคนอื่นและมองข้ามด้านเสียไปครับ

ข้อเสียทุกข้อของผม ไม่มีอันไหนที่ผมไม่ยอมรับนะว่าผมไม่เป็น?

สำหรับ "ยกตนข่มท่าน" นั้น ขอให้ไปดูในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นี่นะครับ หา Link มาป้อนให้แล้วครับ

http://www.สุภาษิต.net/%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99/

พจนานุกรมมีตัวอย่างอธิบายการใช้งานสุภาษิตให้ชัดเจนด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องมโนกรณีใช้งานกันไปผิดๆ จะเห็นได้ว่า เป็นกรณี เด็ก&ผู้ใหญ่ ผู้น้อย&ผู้ใหญ่ ครับ

คำว่า "ท่าน" ในภาษาไทย สื่อความหมายชัดเจนนะครับ ว่าไม่ได้หมายถึง สองฝ่ายที่มีฐานที่เท่าเทียมกัน และสาระสำคัญที่ท่านพลาดความหมายของสุภาษิตกันหมดคือ ผมไม่เคยดูหมิ่นใครเลย ไม่เช่นนั้นคุณ lew และคุณ mk คงไม่ปล่อยผมไว้แน่ๆ

แต่ "ข่ม" เฉยๆ ล่ะ ยอมรับครับ ว่าทำจริงๆ

ผมจะข่มคุณ PaPaSEK ทิ้งท้ายบ้างว่า ประโยคแรกใน Reply ของคุณก็ "จินตนาการ" บนพื้นฐานของอารมณ์ตนเองขึ้นมาตัดสินคนอื่น ไม่ได้อิงจากประสบการณ์จริงด้วยซ้ำ (ไม่ได้เปิดพจนานุกรมดูก่อน / คือขาดแม้ประสบการณ์จริงในการหาความหมายของสุภาษิต) เพียงแค่มโนขึ้นมา Discredit คู่สนทนา

เฉพาะประเด็นนี้ ผมพูดตามตรงนะครับ ระหว่างคนที่ชอบยกตัวเองเช่นผม กับคนที่จ้องแต่หาเหตุผลจะ Discredit คนอื่น ใครสร้างสรรกว่าใครครับ? คนสองจำพวกนี้ ใครมีประโยชน์ต่อโลกใบนี้มากกว่ากันครับ?

ไม่เคยมีข้อความที่นี่หรือที่จารึกไว้ที่ไหนๆ ในโลกใบนี้ไม่ว่าในช่วงเวลาไหน วัยใด ที่ผมเริ่มด้วยการพยายาม Discredit คนอื่นครับ

ไม่ว่าจะระดับชาติหรือระดับโลก บุคคลที่พยายามยกตัวเองให้เหนือคนอื่น (ต้องลงมือทำ/พัฒนาตัวเองจริงด้วย) เท่านั้นครับ ที่มีคุณค่าต่อผู้อื่นในโลกใบนี้เสมออย่างไม่มากก็น้อย ไม่ใช่กลุ่มบุคคลส่วนใหญ่ในโลกที่ได้แต่พยายามหาข้อเสียเพื่อ Discredit คนอื่นให้ตนเองดูดีกว่าครับ

Albert Einstein ก็เป็น, Steve Jobs ก็เป็น, Bill Gates ก็เป็น, Mark Zuckerberg ก็เป็น ฯลฯ คนพวกนี้เขาเป็นหนักกว่าผมมากมายหลายเท่านัก คนที่ความมั่นใจในตัวเองสูงสุดโต่ง ใครไม่เป็นแบบที่ผมเป็นกันบ้างครับ? นี่มันธรรมชาติของคนแบบผมครับ

เหรียญมันมีสองด้านเสมอครับ คุณเก่งให้พอสิครับ เมื่อนั้น คุณก็จะเข้าใจเอง คุณมัวหงอ Spoil สังคมได้ไม่นานหรอกครับ ถ้าคุณไม่หลบสังคมหมู่มาก คุณก็ต้องโดนรุมยำแบบที่ผมโดนครับ

และที่สำคัญ คุณเชื่อไหม คนเก่งแล้ว เขาจะคุยกันได้ครับ เขาจะไม่มัว Discredit กันเลย... จริงๆ นะ เอาแต่เกทับกันด้วยของจริงไม่อิงมโน อย่าง Hardcore เลยล่ะครับ

=== ลองอ่านนิทานอุปมาต่อไปนี้เล่นๆ นะครับ ผมพยายามแต่งขึ้นมาสดๆ นะ ===

เด็ก 7 ขวบสามสี่คนถกเถียงกัน ว่าแม่ฉันผัดกระเพราอร่อย แม่เธออร่อยน้อยกว่า โดยที่ต่างฝ่ายยังไม่เคยจับตะหลิวผัดเองมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ต่างฝ่ายต่างก็อ้างต่างๆ นาๆ ว่าแม่ของตนเองผัดได้อร่อยกว่าเช่นว่า...

"ของแม่ฉันอร่อยเพราะใส่น้ำมนต์หลวงพ่อจากวัด"

"ของแม่ฉันสิอร่อยกว่า เพราะยืนผัดกลางแสงอาทิตย์ ช่วยให้หอมน่ากินยิ่งกว่า"

"ของแม่ฉันใส่ใบกระวานต่างหาก จึงอร่อยกว่า"

คิดสร้างสรรข้อถกเถียงกันไปตามประสาเด็ก จนกระทั่งเด็ก 12 ขวบคนหนึ่งเกิดได้ยินตรง "ใบกระวาน" เข้า ซึ่งเด็กคนนี้โตพอและเคยได้รับการสอนให้ผัดกระเพราจนผัดกระเพราเองได้แล้ว ถึงแม้จะยังผัดไม่เก่งกาจแบบผู้ใหญ่ก็ตามที แต่ก็รู้ว่าการผัดกระเพราจริงๆ มันเป็นเช่นไร และคิดได้ว่าการใส่ใบกระวานมันเป็นไปได้จริง ว่าแล้วเด็ก 12 ขวบจึงเดินเข้าไปถาม...

"น้องๆ ที่น้องว่า คุณแม่ใส่ใบกระวานน่ะจริงเหรอ? ใส่ยังไง ตอนไหน จังหวะไหน ใบสดหรือใบแห้ง ถ้าสดนี่ยอดอ่อนหรือใบแก่"

น้องคนอื่นๆ รู้สึกเสียหน้าในบัดดล แทรกสอดขึ้นมาทันที ว่าพี่อย่าไปฟังเขา ผัดกระเพราแม่หนูอร่อยกว่า และอร่อยได้เพราะน้ำมนต์จากวัด

น้องคนอื่นๆ ก็โยเย เพื่อให้เชื่อในแนวที่ตนเองกล่าวว่าผัดกระเพราของแม่ตัวเองอร่อยกว่าด้วยเหตุที่แต่ละคนอ้างกันไป

แล้วก็พากันงอแงพันแข้งพันขาเด็ก 12 นัวเนีย จะให้เด็ก 12 เชื่อให้ได้

ด้วยความรำคาญ เด็ก 12 จึงเอ็ดเด็กน้อยทั้งหลายไปว่า หยุดเถอะ อย่าเพ้อเจ้อเลยน่า น้องผัดกระเพรากันเป็นจริงหรือเปล่า? เคยจับตะหลิวกันบ้างหรือยัง? ขอพี่ถามน้องคนนี้เขาก่อน...

กระนั้นน้องๆ ก็ยังงอแงต่อ เริ่มหาว่าเด็ก 12 กำลังตะคอก ข่ม.......

=== จบนิทานไว้แค่นี้ก็คงได้นะครับ ===

By: yymnoy
Android
on 8 October 2014 - 15:15 #751627 Reply to:751389

ขอร่วมเป็นหนึ่งในคนที่ไม่เข้าใจความคิดของคุณจักรนันท์ด้วยคนนะครับ

ผมไม่ทราบว่าทำไมคุณจักรนันท์ถึงได้ตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่แฝงด้วยอารมณ์หงุดหงิดแบบนั้น ราวกับคนที่มาร่วมอภิปรายกำลังโจมตีไล่ล่าหาแม่มดมาเผาสังเวยกัน แต่ผมไม่ได้มองอย่างนั้น ผมขออธิบายความเข้าใจของผมดังนี้นะครับ

  1. ดูเหมือนคุณจักรนันท์จะสนใจความคิดของคุณ holyporing1 ว่ามีความคิดอย่างไรจึงจะโต้แย้งได้ว่าสติ๊กเกอร์ชุดนี้ไม่ผิดกฎของ line ซึ่งแน่นอนว่าคุณจักรนันท์จะฟันธงแล้วว่า ตัวคาแรกเตอร์ "ควายแดง" นี้ผิดกฎแน่นอน (อย่างน้อยที่สุดก็คือเป็นการวาดรูปล้อเลียนท่าทางของคุณชัชชาติด้วยรูปควาย)

  2. ผมเดาว่าสมาชิกท่านอื่นๆ มองว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมืองแน่นอน ไม่ว่าจะมีสมมติฐานว่ามีความกดดันจากกลุ่มใด หรือว่าเป็นการระแวดระวังของตัว line เอง ที่เป็นเรื่องการเมือง ก็เพราะตัวคาแรกเตอร์นี้มีที่มาจากการเมือง เป็นคำที่คนกลุ่มหนึ่งเหยียดหยามคนอีกกลุ่มหนึ่ง และคนกลุ่มที่ถูกเหยียดหยามจึงตอบโต้ด้วยการสร้างคาแรกเตอร์นี้มาทำให้คำเหยียดหยามนั้นเป็นเรื่องตลกเรื่องน่ารักน่าเอ็นดูได้ (ควายแดงก็น่ารัก) อย่างไรก็ตาม ผมไม่เห็นมีใครว่ากล่าวโจมตีคุณจักรนันท์แต่อย่างใด

  3. ผมเดาเอาว่าคุณ holyporing ก็น่าจะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องทางการเมืองเช่นกัน เพราะเขียนในทำนองว่าท่าทางของสติ๊กเกอร์นั่นไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องการเมือง แต่ตัวคาแรกเตอร์ (ที่คุณ holyporing1 ขอไม่นับ) มันเป็นการเมืองด้วยตัวของมันที่เป็นควายแดง เหมือนที่คุณ zerocool เขียนไว้ว่าถ้าเปลี่ยนจากรูปควายเป็นกวางต่อให้เป็นสีแดงเหมือนกัน สติ๊กเกอร์นี้ก็คงไม่ถูกแบน ทั้งนี้ เนื่องจากควายแดงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง

  4. ผมคิดว่ามีความสับสนของคำว่า "ประชด" ที่เกิดขึ้นในการสนทนานี้ โดยคำว่า "ประชด" ที่คุณจักรนันท์เขียนถึงน่าจะสื่อความว่า คุณ holyporing1 เขียนความคิดเห็นในเชิงประชดหรือเปล่า แต่คำว่า "ประชด" ที่คุณ Fourpoint เขียนถึงหมายถึงว่า คาแรกเตอร์ควายแดงเกิดขึ้นมาเพื่อประชดคำเหยียดหยามกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้น ยังไม่มีใครตอบได้ว่าคุณ holyporing1 เขียนด้วยอารมณ์ประชดหรือไม่

  5. ผมคิดว่าการอ้างว่าสติ๊กเกอร์นี้ถูกแบนเพราะตัวควายแดงมีรูปเลียนแบบภาพคุณชัชชาตินั้นเป็นเหตุผลที่อ่อนมาก เพราะถ้ารูปนั้นเป็นปัญหารูปเดียวก็ไม่จำเป็นต้องแบนทั้งชุด นอกจากนี้ การที่วาดรูปคาแรกเตอร์สัตว์เลียนแบบท่าทางมันเป็นเชิงล้อเลียนมากกว่าการโจมตีบุคคล หากเป็นการตัดต่อเอาอวัยวะของสัตว์มาสวมแทนที่ส่วนใดส่วนหนึงของร่างกาย ก็คงเป็นการโจมตีบุคคลจริง ถ้าผมวาดรูปสนู้ปปี้เลียนแบบท่าทางของคุณชัชชาติก็คงไม่ได้หมายความว่าผมจะหมิ่นคุณชัชชาติว่าเป็นดังรูปที่ผมวาด

  6. ผมคิดว่าถ้าจะให้เหตุผลว่าทำไมคาแรกเตอร์นี้ไม่ควรถูกแบน เหตุผลที่ผมให้ได้ก็คือมันเป็นวุฒิภาวะทางสังคม ซึ่งมันเป็นประเด็นที่น่าสนใจและน่ายอมรับด้วยซ้ำกับความตั้งใจที่จะเบี่ยงเบนคำดูหมิ่นเหยียดหยามให้เป็นเรื่องตลกเรื่องน่ารักน่าเอ็นดูแทนที่จะใช้ความโกรธเกลียดชังตอบโต้กลับไป จุดนี้เป็นจุดที่ทุกคนในสังคมควรเรียนรู้และนำมาใช้เพื่อตอบโต้กับความเกลียดชัง ดังนั้น คาแรกเตอร์ "ควายแดง" นี้เป็นคาแรกเตอร์ที่ควรสนับสนุน เพราะมันมีความเป็นอารยะและเสริมสร้างวุฒิภาวะให้กับสังคมได้

By: จักรนันท์ on 8 October 2014 - 16:54 #751657 Reply to:751627

ผมหงุดหงิดจริงๆ ครับ เพราะคุณ holyporing1 ยังไม่ทันตอบอะไรผมเลยสักคำ ซึ่งผมไม่สนใจจะสนทนาในเชิงถก/โต้แย้งกับใครๆ ตามประเด็นที่ผมกำลังถามเขา ผมเห็นว่าบางท่านควรรอดูบทสนทนาระหว่างผมกับคุณ holyporing1 เสียก่อนจะมาโต้แย้ง/คาดคั้นอะไรจากผม ให้เห็นทิศทางอะไรๆ เสียก่อน

1) ที่คุณกล่าวเป็นความจริงกับที่ผมคิดทุกประการครับ

2) อ่าน Reply ของคุณ zerocool ครับ ที่กล่าวว่า "ผมไม่ค่อยเข้าใจความคิดเห็นของคุณจักรนันท์ที่ต้องการแยก character ออกจาก sticker" มันไม่ใช่ความคิดผมครับ คือถ้าใครไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ ก็ไม่ควรมาคาดคั้นอะไรจากผม ควรรอคุณ holyporing1 มาตอบเช่นเดียวกับที่ผมรอ การกระทำเช่นนี้เขาไม่ได้โจมตีผมครับ แต่กำลัง Annoy อย่างมากมาย จะเจตนาหรือไม่ ก็ Annoy ไม่น้อยจริงๆ ถ้าที่นี่มีกฏว่าผมไม่มีสิทธิถามวิธีคิดของคุณ holyporing1 (หรือสมาชิกอื่นๆ) ล่ะก็ ผมจะยอมรับและไม่ Annoy อย่างที่เป็นเลย ครั้นพอผมอธิบายวิธีคิดของผมบ้าง ว่าทำไมผมจึงถามเขา คุณควรฟัง จบแล้วก็รอไปกับผมก่อน ยังไม่สมควรมาโต้แย้ง "วิธีของผม" เพราะผมยังไม่ได้อะไรจากคุณ holyporing1 เขาเลยครับ นี่เรียกว่า "มารยาท" ครับ เมื่อได้ความจากคุณ holyporing1 แล้ว ค่อยเอามาเสวนาถกกัน มันจะได้เรื่องได้ราวกว่า นี่มันยังไม่มีน้ำมีเนื้ออะไรเลย

3) ไม่ขอออกความเห็นนะครับ ผมกำลังอยากทราบวิธีคิดของคุณ holyporing1 การเดาไปก่อนอาจทำให้เขา Defense ตัวเองจากความรู้สึกถูกรุกรานจนไม่มาตอบผมได้ ผมจะเสียโอกาสอันดีที่อาจได้รับแนวทางดีๆ ครับ

4) คำว่า "ประชด" ที่คุณ Fourpoint กล่าว ผมไม่ทราบความหมายใดๆ นะครับ และผมข้ามไป ไม่หยิบขึ้นมาโต้แย้งอะไรด้วย ส่วนคำว่า "ประชด" ของผม คุณเข้าใจถูกแล้วครับ

5) ไม่ขอออกความเห็นนะครับ ไม่ได้เป็นข้อความที่โต้แย้งกับ 3.9 และ 3.12 ของ Naver rules ได้

6) ครับ รับทราบเหตุผลของคุณครับ

By: zerocool
ContributoriPhoneAndroid
on 7 October 2014 - 19:06 #751215 Reply to:751203
zerocool's picture

ผมอ่านความคิดเห็นของคุณจักรนันท์ในข่าวนี้ตั้งแต่ comment แรกจนถึงอันที่ผม reply

ผมไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ่งว่า sticker ชุดนี้เข้าข่าย "โจมตีบุคคล" อย่างไร

ขอแยกวลี "โจมตีบุคลล" ออกไป 2 คำย่อย ได้แก่ "โจมตี" และ "บุคคล" จะเห็นได้ว่าการที่จะครบองค์ประกอบของวลีดังกล่าวได้นั้น คำย่อยทั้ง 2 คำนั้นต้องถูกนำไปใช้และสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าโจมตีอย่างไร และบุคคลที่ว่าน้นหมายถึงใคร

มาดูกันที่คำแรก "โจมตี" ผมอยากถามว่าในความคิดของคุณ อะไรใน sticker ชุดนี้ที่เข้าข่ายคำว่าโจมตี ไม่ว่าจะเป็นตัว character สีสัน กริยาท่าทาง คำพูดประกอบรูปภาพ และการโจมตีดังกล่าวนั้นเป็นไปในลักษณะใด เช่น สร้างความเสื่อมเสียแก่ชื่อเสียง ละเมิดลิขสิทธิ์ ดูหมิ่นเหยียดหยาม

คำถัดมา "บุคคล" บุคคลที่ว่านี้หมายถึงใคร เป็นบุคคลเดี่ยวหรือบุคคลกลุ่ม เราใช้เกณฑ์ทางสังคมไหนเป็นตัวตัดสินว่าบุคคลหรือกลุ่มคนใดเข้าข่ายตัวการ์ตูนใน sticker ชุดนี้ เช่น เรามักเปรียบเปรยด้วยสำนวนไทยว่าโง่เหมือนควาย ทีนี้ก็ต้องถามว่าหมายถึงใครในสังคมที่โง่ ? หรือจะบอกว่าสีแดงเป็นสีแทนกลุ่มคนเสื้อแดง แล้วพวกแข่งกีฬาสีตามโรงเรียนก็มีสีแดง การแข่งฟุตบอลระหว่างโรงเรียนก็มีสีแดง คณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยต่างก็มีสีประจำคณะของตัวเองซึ่งสีแดงก็น่าจะมี กระทั่งบนธงไตรรงค์สีแดงก็ยังหมายถึงชาติโดยรวม เป็นต้น ดังนั้นการที่เราเอาความคิดส่วนบุคคลไปผูกขาดสีหนึ่งเข้ากับกลุ่มบุคคลหนึ่งอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้นั้น มันเป็นการกระทำที่อิงกับหลักการอันสมเหตุสมผลหรือไม่ ?


That is the way things are.

By: yymnoy
Android
on 7 October 2014 - 19:43 #751222 Reply to:751203

ผมคิดว่าการวาดตัวการ์ตูนเป็นรูปสัตว์แบบใดๆ มาเลียนแบบท่าทางของบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นการล้อเลียนแน่นอน แต่ไม่ใช่การโจมตีบุคคลว่าบุคคลที่ถูกล้อเลียนนั้นเป็นสัตว์ ซึ่งต่างจากการตัดต่อเอารูปส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์มาต่อกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของบุคคลนั้น ถ้าเป็นกรณีหลังย่อมก้าวล่วงเกินการล้อเลียนเป็นการโจมตีไปแล้วครับ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 17:45 #751192 Reply to:751166

ประเด็นเรื่องประชดแล้วNaver ไม่เข้าใจผมว่าไม่เกี่ยว เพราะstickerจำนวนมากก็เป็นเชิงประชดหรือล้อเลียน ตราบใดที่ไม่ใช่ในเชิงก้าวร้าว หรือดูถูกดูหมิ่นก็ไม่น่าจะผิดอะไร แถมรูปการ์ตูนพวกนี้ก็อยู่ในเพจการเมืองในFB แต่แรกด้วยซ้ำ การที่ Naverให้ผ่านแต่แรก แสดงว่าผู้ดูแลนั้นไม่คิดว่าเป็นการผิดกฎใดๆ แต่ที่เอาออกเพราะมีคนแจ้งreport มาภายหลังมากกว่า

คำถามก็ย้อนกลับมาว่า ทำไมถึงมีคนคิดว่ามันเป็นเชิงดูหมิ่น? ในเมื่อขั้วการเมืองเดียวกับผู้สร้าง ก็ไม่น่าจะมีใครคิดว่าเป็นการดูหมิ่น แถมใช้กันเต็มไปหมด

จะจินตนาการว่ามีคนนอก(แบบกลางๆทางการเมือง)เห็นแล้วกลัวฝั่งสีเสื้อแดงจะรู้สึกว่าโดนดูหมิ่นเลยกดreport ก็ดูจะเป็นไปได้ยากเกินไป

ผมขอสงสัยขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม กลัวที่จะมีการเผยแพร่mascotชุดนี้อย่างแพร่หลายจนเป็นการลดความรุนแรงของ คำด่าที่ตัวเองใช้ด่าอีกฝ่ายอย่างเคยชิน กลายเป็นเรื่องตลกเสียมากกว่า เลยรุมกดreport? อันนี้ถือว่าผมกล่าวหาหรือคิดเอาเองก็ได้ แต่ผมมองเหตุผลอื่นไม่ออกจริงๆ มันคล้ายๆกับ ผู้นำเผด็จการห้ามสื่อตัดต่อรูปล้อเลียน เพราะจะเป็นการลดทอน"ความศักดิ์สิทธิ์"ที่อาจส่งผลถึง"อำนาจ"และ"บารมี"นั่นแหละ(แต่ในเคสstickerจะเป็นผลย้อนกลับ คือทำให้คำด่ากลายเป็นเรื่องตลก ไม่มีใครคิดว่าเป็นคำด่า คนที่ตั้งใจจะด่าก็เลยเสียเซลฟ์?)

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 October 2014 - 18:35 #751205 Reply to:751192
put4558350's picture

คนที่ถอดสติกเกอร์นี้ออก อาจไม่ไช่คนไทยก็ใด้ครับ

naver ไม่ไช่ บ. ไทย การที่จะมีคนทำงานหลายสัญชาติก็ไม่แปลก การเมืองญี่ปุ่นเองก็แรงกว่าไทยในหลายจุด ถ้าเค้าจะระวังมากกว่าเราก็ไม่แปลกอะไร


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 22:39 #751297 Reply to:751205

ถ้าญี่ปุ่นแทรกแซง ก็ไม่น่าปล่อยให้ผ่านแต่แรกแล้วสิ?

มาถอนทีหลัง คือโดนคนreport หรือร้องเรียนกดดันมานั่นแหละ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 October 2014 - 23:48 #751331 Reply to:751297
put4558350's picture

แนวคิดไปทางเดียวกันใด้ครับ ... ที่ผมคิดคือ บ. สาขาไทย (ถ้ามี) มีหัวหน้าเป็นคนญี่ปุ่น ลูกน้อง (อาจจะ) เป็นคนไทย

เวลาเอาสติกเกอร์เข้า store ลูกน้องเป็นคน approve พอโดน report (อาจมีกลไกลเรียงลำดับ เช่น ปริมาณ report / ชั้วโมง) หัวหน้าเป็นคนเอาออกจาก store

หัวหน้าเอาซื้อสติกเกอร์ไป google ดูรูป เลื่อนลงมา 2 หน้า เห็นเรื่องการเมืองก็เอาออก ... จบ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 8 October 2014 - 19:32 #751713 Reply to:751331

นอกประเด็นนิดนึง ช่วงshutdown ได้เจอ ceo ชาวญี่ปุ่นท่านนึงพูดเรื่องการเมืองไทยตรงๆ ก็อึ้งเหมือนกัน

และก็ได้ยินคล้ายๆกันจากเพื่อนในบ.อื่นๆ ว่าหัวหน้าญี่ปุ่นเขาคิดคล้ายๆกับที่ผมเจอมา

ถ้าจะมีระดับหัวหน้าแทรกแซงจริง ก็น่าจะผู้บริหารคนไทยมากกว่านั่นแหละ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 9 October 2014 - 09:21 #751902 Reply to:751713
PaPaSEK's picture

เอ้า พูดถึงขนาดนี้แล้วก็เล่าซะหน่อยสิครับ ว่าเค้ามีความเห็นว่าอย่างไร ไม่ต้องระบุตัวคนตัวบริษัทก็ได้

เบื่อจริงพวกหลอกให้เสียวแล้วเลี้ยวกลับ

By: errin on 7 October 2014 - 16:08 #751141

เห็นด้วยแฮะ
แต่ถ้าอันนี้เกิดผ่านต่อไปคงมีขนมหวานหลากสีออกมาแน่เลย

By: lew
FounderJusci&#039;s WriterMEconomicsAndroid
on 7 October 2014 - 16:12 #751144 Reply to:751141
lew's picture

อันนี้ผมไม่แน่ใจแฮะ คือถ้าไม่ได้โจมตีฝั่งตรงข้าม จะมีกี่สีแสดงความเชื่อของตัวเอง เหมือนมีสติกเกอร์ศาสนาอะไรแบบนั้น ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรถ้ามันจะมีสารพัดสีนะ อย่างในกติกาที่ LINE ยกมาก็เป็นเรื่องการโจมตีกลุ่มอื่นๆ ในกรณีนี้ผมสงสัยว่าตีความว่าใครโจมตีใคร


lewcpe.com, @wasonliw

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 7 October 2014 - 16:27 #751156 Reply to:751144

ผมมองว่าตัว สติ๊กเจอ มองแค่ตัวมัน อาจจะไม่มีอะไรนะครับ...แต่มันอาจจะเอามาต่อๆกันเป็นข้อความต่อด้วย สติ๊กเกอร์ แล้ว สร้างปัญหาได้

อย่างเช่นข้อความ.... "กู ละ เบื่อ พวก (สติีกเกอร์) ชิ หั่ย "

เป็นอีกมุมมองครับ...

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 October 2014 - 17:19 #751180 Reply to:751156
PaPaSEK's picture

งั้นสติกเกอร์ทุกอันที่มีข้อความก็ควรโดนลบออกทั้งหมดรึเปล่าครับ เพราะทำข้อความเช่นที่ว่าได้เหมือนกัน?

By: errin on 7 October 2014 - 18:46 #751210 Reply to:751180

ควรลบคีย์บอร์ดออกไปด้วยครับ เพราะทำให้พิมพ์เรียงเป็นคำได้

By: yymnoy
Android
on 7 October 2014 - 19:45 #751225 Reply to:751156

ผมเห็นว่าเพื่อนของผมมีสติ๊กเกอร์เป็นรูปควายอยู่ เพียงแต่ตัวควายนั้นเป็นสีดำ แน่นอนสติ๊กเกอร์นี้ก็สามารถนำมาใช้ในทำนอง "กู ละ เบื่อ พวก (สติีกเกอร์) ชิ หั่ย "

ถ้าอย่างนั้นสติ๊กเกอร์ชุดนั้นก็ควรโดนแบนด้วยสิครับ

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 7 October 2014 - 20:47 #751247 Reply to:751225

เพียงว่ามันอาจจะเข้าข่ายหน่ะครับ

เพียงแต่ ว่า ถ้า ควาย + สีแดง มันให้ผลทางอารมณ์รุนแรงกว่า พร้อมจะดราม่าได้มากกว่า หน่ะครับ
ถ้าเป็นสีอื่น คาแรกเตอร์อื่นๆ เช่น Tidlom เป็นควายเหมือนกัน แต่ ดู แล้ว ไม่สื่อไปในทางนั้น

พอมันเริ่มจะดราม่า งานคงเข้า Line

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 22:35 #751292 Reply to:751247

ผมว่าคนที่จะดราม่า คือคนที่อยู่อีกขั้วการเมืองตะหาก

เพราะยกมาแล้ว ว่ารูปควายแดง คิดค้นโดยฝั่งเสื้อแดง เพื่อเปลี่ยนคำด่าประชดประชันให้เป็นเรื่องตลก

ซึ่งฝ่ายที่จะยอมรับไม่ได้ น่าจะเป็นฝ่ายที่ต้องการด่ามากกว่า ซึ่งคงไม่ใช่เสื้อแดง :P

By: errin on 7 October 2014 - 18:40 #751208 Reply to:751144

ที่เห็นด้วยคือผมมองว่าเป็นประโยชน์ต่อ Naver เองครับ จะได้ไม่ต้องคอยตอบคำถามต่างๆที่ตามมา

By: phenocalypse
ContributorAndroidWindows
on 7 October 2014 - 16:10 #751143

ถ้าไม่แบน LINE คงถูกเรียกไป "ปรับทัศนคติ"

By: pingkunga
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 7 October 2014 - 16:26 #751153 Reply to:751143

ผมว่าคงเป็นอย่างนี้แน่ๆ 555

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 16:26 #751154

ผมสงสัยว่าคนแจ้งให้ถอด อาจจะคนละขั้วการเมืองก็ได้นะ(?) เพราะการ์ตูนอันนี้มันคือการประชดตัวเอง ไม่ใช่การโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม แต่น่าสนใจตรงยอดขายพุ่งไปอันดับแปด นี่แปลว่ากระแสแรงน่าดู อาจขัดใจใครได้

By: lastone
Android
on 7 October 2014 - 16:28 #751158

Mao ไม่ใช่ของพันทิปหรอครับ

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 7 October 2014 - 16:39 #751163 Reply to:751158

ไม่ใช่ครับ เค้าเขียนการ์ตูนเม่ามาก่อนแล้ว พันทิปน่าจะซื้อไปนะ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 October 2014 - 16:38 #751161
mr_tawan's picture

กระทิงแดงล่ะ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: Ramesh
Android
on 7 October 2014 - 16:56 #751169
Ramesh's picture

ซื้อมาแล้ว

By: jeepthai
Windows
on 7 October 2014 - 17:05 #751175
jeepthai's picture

เข้าใจยากอยู่นะ... สติกเกอร์นี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อโจมตี หรือดูหมิ่นอีกฝ่าย แต่เป็นเหมือนมาสคอสของกลุ่มความเชื่อ ที่โดนล้อแบบนี้มากๆจนเอามาสร้างเป็นการประชด

คนแบนเขาคงคิดว่ามันเอาไว้ใช้โจมตีอีกฝ่ายละมั้ง...

By: F16
iPhoneWindows PhoneAndroidIn Love
on 7 October 2014 - 17:18 #751179

อะไรที่เป็นฉนวนก่อให้เกิดความแตกแยก ป้องกันไว้ก่อนก็ดีครับ

By: nzangel
Windows PhoneAndroidUbuntu
on 7 October 2014 - 17:23 #751183

ให้มองแง่ร้ายนะ อีกฝั่ง ต้องการแบน เพราะ ยอดโหลดมมันพุ่งไม่หยุดด้วยนี่แหละ ถ้าติด 1 ใน 5 ขึ้นมา จะทำให้ความเชื่อกลุ่มนั้นสั่งคลอน หรือเปล่า

By: waroonh
Windows
on 7 October 2014 - 17:32 #751187

ตราบใด ที่ยังคิดกันแบบ Zero Sum Game
ไม่มีที่ยืนให้อีกฝั่งหนึ่ง ต้องไล่ล่า ทำลายล้างให้หมดไป
มันจะไม่มีวันจบ นะครับ

By: kplusz
iPhoneAndroid
on 7 October 2014 - 17:36 #751190
kplusz's picture

ควรเอาออกครับ ไม่เหมาะกับประเทศเรา

By: myungz
In Love
on 7 October 2014 - 17:48 #751194
myungz's picture

โดนเพราะ "รูปเสื้อกล้ามถือถุง" รึป่าวครับ

By: lew
FounderJusci&#039;s WriterMEconomicsAndroid
on 7 October 2014 - 18:00 #751197 Reply to:751194
lew's picture

ตามอีเมลคือโดน "ทุกรูป" ครับ

ถ้าโดนแค่บางรูปจะสามารถเข้าไปแก้ไขเพื่อขายต่อได้


lewcpe.com, @wasonliw

By: Negator
AndroidWindows
on 7 October 2014 - 18:19 #751202

ปล่อยๆไปกับแบนนี่ impact อย่างหลังผมว่าเยอะกว่านะ อิอิออิบาย

By: Zerothman
WriteriPhoneIn Love
on 7 October 2014 - 18:29 #751204

จริงๆ ผมว่าจะองค์กรธุรกิจไหน เรื่องแบบนี้ก็เข้าใจได้นะครับว่าจะ play safe ไว้ก่อน ผมว่าทางไลน์เองคงไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ

By: sunback
Contributor
on 7 October 2014 - 22:16 #751284 Reply to:751204
sunback's picture

+1
Navor เป็นเอกชน หากินกับทุกกลุ่ม เมื่อมีคนทักท้วงมากพอก็ play safe ดีกว่า มีแค่นี้ ธุรกิจล้วนๆ ไม่ต้องตีความมาก และมันไม่เสมอไป ไม่ใช่มาตรฐานที่สูงส่งหรือต้องยึดเป็นแม่แบบ งวดหน้ามีลายใหม่มา แต่ไม่มีใครท้วง ก็คงขายเอาเงินต่อ ไม่ได้แปรผลว่าเป็นสีใด

ทุกวันนี้ดราม่าทางเน็ตไม่เป็นผลดีกับธุรกิจ เลยชิงกันไว้เลยดีกว่า

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 October 2014 - 00:22 #751352 Reply to:751284
PaPaSEK's picture

ที่ผมกลับความเห็นด้านบนก็เพราะความเห็นของคุณ ZerothMan นี่แหละครับ

By: Ferrited
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 7 October 2014 - 18:42 #751209

ชื่อสติ๊กเกอร์ก็สื่อขนาดนั้น LINE คงเอาปลอดภัยไว้ก่อน

By: Bigkung
iPhoneWindows Phone
on 7 October 2014 - 19:13 #751216
Bigkung's picture

น่ารักนะผมว่า

By: SleeperMoNKeY
iPhoneAndroid
on 7 October 2014 - 19:18 #751218

เอาจริงๆถ้าโดนแบนคงไม่ใช่ที่ท่าทางของสติ๊กเกอร์ แต่เป็นชื่อและลักษณะของมันมากกว่า
คือมันไปพ้องกับคำด่าของไทยและเป็นคำด่าที่คนบางกลุ่มใช้อย่างแพร่หลายด้วย

By: TheOrbital
iPhoneWindows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 19:40 #751220
TheOrbital's picture

จะแบนด้วยเหตุอะไรนั้นก็เป็นสิ่งที่ถกเถียงกันไป

แต่อย่าลืมว่า ตามกฏกติกาของการขายสติ๊กเกอร์ใน LINE การจะถอดสติ๊กเกอร์ชุดใดออกนั้นก็ยังเป็นสิทธิของทางบริษัท NAVER อยู่ หากเขาเห็นว่าไม่เหมาะสมอย่างที่มีใครคนใดร้องเรียนไปในปริมาณที่มากพอ เขาก็มีสิทธิในการถอดมันออกได้

ที่เขาถอด ยังไงมันก็เป็นแค่เพียงส่วนของสติ๊กเกอร์ ซึ่งเป็นส่วนที่ทางบริษัทเขาขอสงวนสิทธิในการเผยแพร่หรือไม่เผยแพร่เอาไว้ เพื่อจะได้ไม่เกิดเป็นปัญหาว่าทางบริษัทเขาสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

อิสระในการแสดงความคิดเห็นต่อกันจะเป็นฝั่งไหนฝ่ายใด เราก็ยังทำได้อยู่ ไม่ได้มีการปิดกั้น

ก็ให้สิทธิทาง NAVER เขาได้ยืนอยู่ตรงกลางและเป็นเพียงสื่อกลางให้เราแสดงความคิดระหว่างกันเท่านั้นก็พอ เขาก็คงไม่อยากให้ตัวเองเข้ามาเป็นส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นของแต่ละฝั่งมากจนเกินไป

ก่อนจะมาประเด็นนี้ ผมก็เห็นประเด็นดราม่าสติ๊กเกอร์ สก กับ ทศ ไปรอบหนึ่งแล้ว

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 19:44 #751223

คือถ้า Naver คิดว่ามันไม่ควรผ่านแต่แรก ก็ไม่ปล่อยให้หลุดขายไปได้แต่แรกแล้วล่ะครับ

การพิจารณาถอดภายหลัง ย่อมเกิดจากการreport หรือกดดันโดยองค์กรขนาดใหญ่ เช่นกรณีsticker คล้ายพระพุทธรูป ที่โดนถอดหลังโดนองค์กรศาสนาในไทยออกมาต่อต้านผ่านสื่อครับ

ยังงงที่อ้างว่าโจมตีบุคคลโดยยกตัวอย่างคุณชัชชาติ ผมว่าคนที่มีสิทธิ์บอกว่าเป็นการโจมตีบุคคล คือเจ้าตัว ไม่ใช่คนอื่น

อย่างไรก็ตาม Naver เป็นองค์กรธุรกิจ คงไม่อยากให้มีภาพว่าเกิดการเอียงข้างทางการเมือง แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผิดกฎจริงๆก็ตาม ผู้บริหารในไทย ก็อาจมีส่วนโดยตรงในการตัดสินใจถอดเช่นกัน

By: Zentana
iPhoneWindowsIn Love
on 7 October 2014 - 21:23 #751259

ก่อนหน้านี้ผมเห็นมีแฟนเพจ ของสติ๊กเกอร์ตัวนี้ด้วย เหมือน เอามาล้อเลียนเกี่ยวกับการเมือง
ว่าละสุดท้ายก็โดนแบนจนได้ ที่จริงไม่ควรจะทำเลย น่าเสียดาย

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 7 October 2014 - 22:38 #751295 Reply to:751259

เขียนไปเยอะแล้ว แฟนเพจนั้นคือของคนเสื้อแดง ทำเอง ประชดตัวเอง ไม่น่ามีฝั่งเสื้อแดงคิดว่าเป็นการด่าหรอกครับ ล้อเลียนตัวเองก่อนนั่นแหละ

แต่ตอบแล้วก็เข้าใจเลยว่า คนหลายคนตอบโดยไม่อ่านคคห.ก่อนหน้าจริงๆ อธิบายหลายรอบแล้ว เหอๆ

By: lancaster
Contributor
on 8 October 2014 - 00:54 #751371 Reply to:751295

การ comment ไม่จำเป็นต้องอ่าน comment ก่อนหน้านั้นหรอกครับ

ตราบใดที่ไม่ได้ไป reply ต่อจากคนอื่น

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 8 October 2014 - 19:35 #751714 Reply to:751371

ใช่ครับ แต่มันก็ทำให้mislead ไปได้เยอะ ที่ยังมีคนเข้าใจว่า รูปการ์ตูนควายแดง คือรูปเพื่อการด่าเสื้อแดง ถ้าคนอ่านข่าวผ่านๆ ไม่ได้ติดตามเพจการเมืองมาก่อน ก็อาจจะเข้าใจไปเช่นนั้นเหมือนกัน

By: vtwifuvjt
AndroidUbuntuWindows
on 8 October 2014 - 00:59 #751373
vtwifuvjt's picture

ต่อไปนี้ถ้าผมยังอยู่ในประเทศไทย ห้ามทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับ"ควาย""สีแดง""สีเหลือง"แบบสาธารณะ?

By: folkeza
iPhoneWindows PhoneBlackberrySymbian
on 8 October 2014 - 08:18 #751418 Reply to:751373
folkeza's picture

คุณจะทำก็ทำได้ครับ เพียงแต่ก็ต้องยอมรับกับผลที่อาจตามมาด้วย จริงๆมันก็ทุกเรื่องแหล่ะที่มีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจใคร หลายๆคนที่เกิดปัญหาก็เพราะไม่ยอมรับก็ผลเสียที่ตามมานั่นแหล่ะ จะเอาแต่ผลดีอย่างเดียว ซึ่งเป็นไปไม่ได้

By: chaiwathuy on 8 October 2014 - 10:31 #751471

กรรมเป็นผลของการกระทำ

By: iPattt
iPhone
on 8 October 2014 - 10:41 #751478
iPattt's picture

น่ารักมาก เสียดายมากฮะ > <

By: 0FFiiz
Windows PhoneAndroidWindows
on 8 October 2014 - 11:26 #751497
0FFiiz's picture

ควายแดง . . .

อืม .. ผมว่าเอาออกก็ดีแล้วแหละ ไม่งั้นก็คงมีขึ้นมาไม่จบไม่สิ้น

เรื่องการแยกแยะ คนประเทศเรายิ่งเก่งๆ กันอยู่ด้วย

By: i2ans
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 8 October 2014 - 14:41 #751617

แบบนี้เหมือนยอมรับกลายๆเลยแฮะ