เหตุผลที่กูเกิลซื้อ Nest Labs ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยวันนี้ Nest เปิดตัว Nest Developer Program เปิด API ของสินค้าตัวเอง (ปัจจุบันมี 2 ชนิดคือเทอร์โมสตัต และเครื่องตรวจจับควัน) ให้นักพัฒนารายอื่นๆ เข้าถึงได้แล้ว

Nest ประกาศชัดเจนว่าโครงการนี้มีจุดประสงค์ให้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านสื่อสารกันได้อัตโนมัติ และต้องการไปให้ไกลกว่าการเป็นแค่รีโมทควบคุมการเปิดปิดจากระยะไกล เหมือนระบบ smart home ในท้องตลาดปัจจุบัน

เบื้องต้น Nest API รองรับ 3 แพลตฟอร์มคือ iOS, Android, เว็บ สามารถใช้งานกับภาษาโปรแกรมได้ 3 ภาษาคือ Java, Objective-C, JavaScript รายละเอียดสามารถดูได้จาก Nest Developer

นอกจากนี้ Nest ยังประกาศโครงการตราสัญลักษณ์ Work with Nest โดยมีพาร์ทเนอร์ร่วมเปิดตัวเป็นบริษัทใหญ่หลายราย ดังนี้

• LIFX ผู้ผลิตหลอดไฟอัจฉริยะ เชื่อม API กับเครื่องตรวจจับควันของ Nest ถ้าเกิดเหตุผิดปกติขึ้นภายในบ้าน หลอดไฟของ LIFX จะแสดงไฟเตือนให้เราเห็นง่ายๆ, เชื่อมหลอดไฟกับเทอร์โมสตัต ถ้าเราไม่อยู่บ้านและตั้งสถานะเป็น away หลอดไฟจะเปิดปิดอัตโนมัติให้รู้สึกเหมือนว่ามีคนอยู่ในบ้าน
• Mercedes-Benz เชื่อม API กับเทอร์โมสตัต เมื่อเราขับรถเบนซ์กลับบ้าน เทอร์โมสตัตจะทราบว่าเรากำลังกลับบ้านและปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมรอไว้ให้
• Whirlpool ถ้าเราเข้าโครงการประหยัดพลังงานในช่วงที่คนใช้ไฟเยอะๆ (Rush Hour Rewards) เครื่องล้างจานหรือเครื่องซักผ้าของ Whirlpool จะเริ่มทำงานช้าลง (ให้พ้นช่วง rush hour) ไปก่อนได้
• Jawbone สายรัดข้อมือ UP24 จะแจ้งเทอร์โมสตัตว่าเราตื่นนอนเมื่อไร และปรับอุณหภูมิในบ้านให้เหมาะสม
• Chamberlain ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับโรงจอดรถ จะทราบว่าเราอยู่บ้านหรือไม่ และบอกให้เทอร์โมสตัตปรับอุณหภูมิของบ้านให้เหมาะสม
• IFTTT รองรับ Nest API แล้ว เขียนกฎสั่งงานได้เลย เช่น ถ้าเครื่องตรวจควันจับสัญญาณผิดปกติได้ ให้ส่งข้อความบอกเพื่อนบ้านเรา

ที่มา - Nest Blog